ตอนที่ 2922 เสาโมโนลิธ

Reincarnation Of The Strongest Sword God

ตอนที่ 2922 เสาโมโนลิธ

ท่ามกลางมวลหมู่เมฆและคริสตัลรูปทรงดอกกะหล่ำจำนวนมาก สุดยอดปรมาจารย์ทางจิตกำลังยืนกอดอกครุ่นคิด สายตาคู่นั้นจับจ้องมองดวงตะวัน ดุจจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่กำลังมองโลกกว้างไพศาลด้วยความเงียบสงบ เสาโมโนลิธขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางตึกระฟ้าทั้งหกสิบตึก และดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆตามความเร็วของเรือเหาะ จนกระทั่งแสงตะวันถูกบดบังในที่สุด
แสงสุริยันที่หายลับไปกลับมาพร้อมอากาศที่หนาวเย็น ชวนให้คิดถึงความทรงจำเก่าๆ ที่แสนจะมืดมน เปล่าเปลี่ยว ไร้ความสุข พื้นผิวอันราบเรียบของเสาโมโนลิธไม่อาจบ่งบอกกาลเวลาได้ แต่สัมผัสของมันกลับให้ความรู้สึกถึงความเก่าแก่ โบราณ จนไม่อาจระบุถึงอายุของมัน หากจะกล่าวเรียกว่าโบราณวัตถุก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะมันให้ความรู้สึกถึงความไร้กาลเวลา ความเป็นนิรันดร์ ราวกับมันไม่ได้ถูกสร้างขึ้น หากแต่ปรากฏขึ้นมาเอง แล้วคงอยู่อย่างนั้นท่ามกลางแม่น้ำแห่งกาลเวลา

เมื่อไร้แสงสว่างส่องผ่าน …. คริสตัลที่อยู่บนเพดานก็ค่อยๆเปล่งแสงออกมาราวกับมีชีวิตเพื่อขับไล่เงามืดออกไป และมันก็เผยให้เห็นซือเฟิงที่กำลังยืนอยู่กลางห้องโถง ในขณะที่มันมีเรือเหาะคริสตัลกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางมวลเมฆ ซือเฟิงและพรรคพวกกำลังมุ่งหน้าไปยังเสาโมโนลิธ (ลองไปเสริ์ชเอา มันเป็นเสาหินขนาดยักษ์) ในขณะที่ระบบ Mind Space ทำให้เขาใช้สกิลไม่ได้ เขาจึงไม่อาจใช้สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำของเขาเพื่อค้นหาความลับของเรือเหาะนี้ได้
เรือเหาะลำนี้มีขนาดเล็กกะทัดรัด ว่องไว และมีความคล่องตัวสูง สามารถตัดผ่านก้อนเมฆราวกับเขวี้ยงหินให้วิ่งไปบนผิวน้ำ ซึ่งจากการคาดเดาของเขา ระดับของมันก็น่าจะอยู่ในระดับเหล็กลึกลับไปจนถึงไฟน์โกลแน่นอน

เมื่อพิจารณาถึงเรือเหาะระดับเหล็กลึกลับ มันนับเป็นเรือเหาะระดับสูงสุดแล้วที่เขาเคยเห็นในช่วงสิบปีที่เขาเล่น God domain ในชีวิตแรก แต่ตอนนี้มันกับถูกใช้เป็นเพียงเรือเหาะขนส่งในระบบ Mind Space เท่านั้น และแม้มันจะดูไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่มันก็บ่งบอกถึงความร่ำรวยได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ใน God Domain หากพบเห็นมันจะต้องใฝ่ฝันถึงการได้มันมาไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน แต่ซือเฟิงกลับเหลือบมองผ่านๆเท่านั้น เขาจับจ้องมองเสาโมโนลิธก่อนจะครุ่นคิดเกี่ยวกับมันจนหลงลืมเวลา เขาไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากความแปลกประหลาดของมัน

มันมีโครงสร้างอย่างไรนะ?

แล้วมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกันล่ะ?

บริษัทกรีนก๊อดพบมันที่ไหน?

พวกเขาพบเจอของแบบนี้ในโลกหลักของGod Domain แล้วเคลื่อนย้ายเข้ามาในระบบ Mind Space งั้นหรอ ?

แล้วพวกเขาเคลื่อนย้ายมันเข้ามาได้ยังไง ?

ซือเฟิงได้ถามคำถามเหล่านี้กับผู้จัดการทั่วไปที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป แต่พวกเขาล้วนตอบมาว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ซึ่งก็ไม่อาจบอกได้ว่าไม่รู้จริงๆหรือแค่ไม่อยากบอกกันแน่

เซี่ยชิงหยางกับเซี่ยอู๋หยวนผู้เป็นปู่ ต่างก็ยืนอยู่ข้างหลังซือเฟิง และพวกเขาทั้งสองก็ล้วนโอนอ่อนยอมตามซือเฟิงทั้งหมด …. โดยในตอนนี้พวกเขาทั้งรู้สึกเคารพ และเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อซือเฟิงมากๆ เพื่อที่จะพัฒนาพลังของตนเอง พวกเขาได้ทำการค้นหามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดทั่วทั้ง God Domain และจัดการไปเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ราชันมังกร, เทพตกสวรรค์ , ราชันปีศาจชั้นสูง หรืออื่นๆอีกมากมาย

แต่กระนั้นในช่วงเวลาที่ซือเฟิงแสดงพลังที่แท้จริงในฐานะสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตออกมามันกับทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย และนี่มันก็นับเป็นครั้งแรกจริงๆที่พวกเขาได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ เพราะแม้แต่ตอนที่ไล่จัดการมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น พวกเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกขนาดนี้เลย

พวกเขาเคยแต่ได้ยินแต่ตำนานจิตสังหารของสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตที่เป็นแรงกดดันทางจิต โดยเป็นเรื่องราวของผู้ก่อตั้งบริษัทกรีนก๊อด แต่ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่ามันน่าประทับใจมากมายเพียงใด แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลเก่าแก่ก็ยังไม่กล้าชี้นิ้วสั่ง เพราะพวกเขาแทบจะตัวแข็งทื่อจากการรับแรงกดดันทางจิตนั่นเอง

สำหรับซือเฟิง เขาขี้เกียจที่จะใส่ใจกับความคิดของคนเหล่านี้ ลำพังตัวเขาเองก็มีปริศนาให้ต้องแก้อยู่ ทุกคนต่างก็มีระบบ Mind Space ซึ่งสามารถสร้างพื้นที่เสมือนเป็นของตนเองได้ โดยเริ่มต้นที่ระดับทองแดง ระดับของระบบ Mind Space สามารถเพิ่มได้ด้วยการแลกเปลี่ยนคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ หากใช้คริสตัลสามพันชิ้น ก็จะอัพเกรดจากระดับทองแดงไปเป็นระดับเหล็กลึกลับ และถัดไปก็เป็นระดับลึกลับขั้นเงิน และระดับที่เหนือขึ้นไป
นอกจากระดับของระบบ Mind Spaceแล้ว การขยายพื้นที่ก็สามารถทำได้โดยแลกเปลี่ยนด้วยคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ซึ่งทุกๆหนึ่งลูกบาศก์เมตรจะต้องแลกกับคริสตัลหนึ่งชิ้น ในระบบ Mind Space ระดับลึกลับขั้นเงิน ยังใช้คริสตัลเจ็ดลูมินารี่แลกเปลี่ยนกับวัสดุที่ใช้สำหรับก่อสร้างได้อีกด้วย และยิ่งระบบ Mind Space มีระดับสูงขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งแลกเปลี่ยนได้มากขึ้นเท่านั้น โดยสามารถแลกเป็นสิ่งของสำเร็จรูปได้ ไม่ว่าจะเป็น อาคารบ้านเรือน ผืนแผ่นดิน ป่าแมกไม้ ท้องทะเล ท้องนภา กระทั่งดวงอาทิตย์ขนาดเล็กดวงหนึ่งก็ยังแลกได้

ด้วยความรู้จากชีวิตก่อนหน้าของซือเฟิง ทำให้เขารู้ดีกว่าใครๆว่าระบบ Mind Space ของบริษัทกรีนก๊อดนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากความเรียบง่าย พื้นที่ที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นมีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล และเพียงแค่จะเดินทางไปยังเสาโมโนลิธจากตึกระฟ้าที่อยู่รอบๆ มันก็ยังต้องเดินทางด้วยเรือเหาะเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว ซึ่งเท่าที่ซือเฟิงคำณวนนั้น …. เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งโครงสร้างที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ จะต้องใช้คริสตัลเจ็ดลูมินารีเป็นล้านล้านชิ้นเลยทีเดียว และนี่ก็ยังไม่นับรวมตึกระฟ้าอื่นๆ ดวงอาทิตย์ ท้องนภา มวลหมู่เมฆและอะไรก็ตามที่อยู่เบื้องล่าง
นอกเหนือจากเรื่องของขนาด สภาพแวดล้อม และโครงสร้างของระบบ Mind Space แล้ว ระดับของระบบเองก็ยังเหนือกว่าที่ซือเฟิงเคยประสบพบเจอมาก่อน และจากมานาที่อยู่ในระบบ Mind Space ของบริษัทกรีนก๊อดที่เขาสัมผัสได้ บ่งบอกให้รู้ว่ามันต้องอยู่เหนือกว่าระดับไฟน์โกลอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ยากจะเข้าใจก็คือ ระบบMind Spaceของบริษัทกรีนก๊อดสามารถลดระดับของทุกคนให้เหลือแค่ขั้น 3 อีกทั้งไม่สามารถใช้สกิลได้อีกด้วย แม้แต่ซือเฟิงที่อยู่ขั้น 6 และมีร่างเทพขั้นสูง ก็ยังถูกลดขั้นลงมาเป็นขั้น 3 และมีแค่ร่างมานาระดับดาร์คโกลเท่านั้น ซึ่งสำหรับตัวซือเฟิงที่ใช้ชีวิตใน God Domain มานานนับสิบปี ก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

โดยปกติเมื่อผู้เล่นเข้าไปในระบบ Mind Space แบบทั่วไป ตัวละครของพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เว้นแต่สมบัติของผู้เล่นที่จะยังคงอยู่ในGod Domain ระบบ Mind Space ของบริษัทกรีนก๊อดเองก็ไม่สามารถนำสมบัติจาก God domain เข้ามาได้ด้วยเช่นเดียวกัน และสิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงก็คือร่างมานาที่ด้อยลงของซือเฟิง ทำให้เขารับรู้และควบคุมมานาได้ยากขึ้นมาก ถึงเขาจะรับรู้ได้จำกัด แต่ด้วยความเข้าใจที่มีต่อหลักการทำงานของมานาอย่างถ่องแท้ ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าทุกอย่างที่อยู่ในระบบ Mind Space ล้วนมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่
การซื้อวัสดุ สิ่งก่อสร้างหรือผืนแผ่นดินด้วยคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ดูเหมือนจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่ง่ายแสนง่าย แต่สำหรับคนอย่างซือเฟิงที่สร้างร่างเทพขั้นสูงจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่แล้ว เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสร้างวัสดุที่ผ่านการแลกเปลี่ยนมาขึ้นมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ โดยระบบ Mind Space ได้แยกมานาที่อยู่ภายในคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ออกมา และเข้าสู่กระบวนการตามกฎแห่งการสร้าง ซึ่งตรงข้ามกับกฎแห่งการทำลายล้างที่ซือเฟิงเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง ตึกระฟ้าทั้งหลายและพื้นดินที่อยู่เบื้องล่าง ห้องประชุมที่ตกแต่งแล้ว หมู่เมฆในท้องนภา ดวงอาทิตย์ กระทั่งเรือเหาะล้วนสร้างมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ แต่กับเสาโมโนลิธนั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มันดูเป็นเอกลักษณ์ ดั้งเดิม การจะเรียกมันว่าสิ่งก่อสร้างก็ดูจะไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมาก็ตามที และแม้ว่ามันจะดูเรียบง่ายแต่ก็ซับซ้อน จนเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างขึ้นมา นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มันอาจจะถูกสร้างขึ้นมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่อีก
“เหอะ ! …” ซือเฟิงที่กำลังจดจ่ออยู่กับความคิดของตนเอง ถึงกับแค่นเสียงเย้ยหยันให้กับความคิดอันไร้สาระของเขา เสาโมโนลิธทำให้เขาครุ่นคิดไม่รู้จบ ช่างขัดกับท่าทางอันเงียบสงบที่เขากำลังแสดงออกอยู่ เท่าที่เขาคิด และคำณวนมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างเสาโมโนลิธจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ เขาจึงคิดเรื่องความเป็นไปได้ในการเคลื่อนย้ายมันเข้าสู่ระบบMind Space ใครๆก็กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของทางกายภาพเข้าสู่โลกดิจิตอล แต่หลังจากที่เขาทำความเข้าใจข้อมูลที่อยู่ภายในคริสตัลมรดกของเทพโบราณ และการสร้างร่างเทพขั้นสูงจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ซือเฟิงก็เข้าใจความลับอีกหนึ่งอย่างของระบบ Mind Space ทันที

ระบบ Mind Space ไม่ใช่ระบบที่แยกออกจากกัน แต่มันเป็นโลกที่แยกออกจากกัน มันคือพื้นที่สี่มิติที่อยู่ในระนาบหนึ่งของพื้นที่สามมิติ ใครก็ตามที่นึกถึงชื่อระบบ Mind Space ต่างก็รู้ว่ามันคือ พื้นที่ที่อยู่ในจิตใจ แต่เมื่อซือเฟิงหลอมรวมคริสตัลวิญญาณเทพโบราณของชายหนุ่มนักวิชาการ ประกอบกับการที่เขามีความรู้ความเข้าใจในคริสตัลมรดกของเทพโบราณ ทำให้เขาเข้าใจเรื่องมานาอย่างทะลุปรุโปร่ง เขาจึงเจาะเข้าถึงความจริงที่ลึกที่สุดของระบบ Mind Space โดยทั้งสองอย่างนี้ล้วนสร้างจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ดังนั้นในทางทฤษฎีแล้ว พวกเขาสามารถเชื่อมต่อและหลอมรวมเข้าด้วยกันได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงเรียกระบบ Mind Space ว่า ขอบเขตแห่งพระเจ้า(Realm of God)
เมื่อหลอมรวมและเชื่อมต่อกันแล้ว เขาน่าจะสามารถดูดซับไอเท็มจาก God Domain เข้าสู่ระบบ Mind Space ของเขาได้ และก็สามารถนำไอเท็มออกจากระบบ Mind Space กลับไปยัง God Domain ได้ด้วย รวมถึงการนำคริสตัลเจ็ดลูมินารี่จาก God Domain เข้าสู่ระบบ Mind Space แล้วเปลี่ยนพวกมันเป็นวัสดุหรือสิ่งก่อสร้าง จากนั้นก็นำกลับไปยัง God Domain
นี่นับเป็นความรู้ที่ไม่มีการบันทึกอยู่ที่ใด และมันก็ล้วนมาจากความรู้ความเข้าใจโดยใช้พลังของสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตของเขาเอง ซือเฟิงเริ่มมั่นใจในความคิดนี้ แต่มันก็ยังคงเป็นแค่สมมติฐานจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามันคือเรื่องจริง แต่กระนั้นตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถทำการทดสอบใดๆได้ เพราะ Mind Space ของเขายังเป็นระดับทองแดงเท่านั้น

ซือเฟิงแหงนมองขึ้นไป จนกระทั่งเริ่มมองไม่เห็นยอดเสาโมโนลิธที่กำลังใกล้เข้ามาทุกที

“สรุปว่าเรื่องนี้มันคืออะไรกันแน่เนี่ย ?” ซือเฟิงบ่นพึมพำ แม้ว่าเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก แต่มันก็ยังมีหลายสิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจของเขา หรือบางสิ่งที่จะดูดซับสิ่งก่อสร้างอันใหญ่โตมโหฬารเข้ามาในระบบ Mind Space เสาโมโนลิธนี้ให้ความรู้สึกว่ามันตั้งอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว ไม่สามารเคลื่อนย้ายได้

แล้วพวกเขาทำได้อย่างไรกันนะ?

ไม่กี่นาทีต่อมา ซือเฟิงก็มาถึงตรงหน้าโค้งขนาดใหญ่ และภายในมีประตูวงกลมล็อคอยู่ ประตูนั้นมีขนาดใหญ่โตแต่กลับถูกบดบังด้วยเสาโมโนลิธ ผิวของมันไม่มีสัญลักษณ์ ไม่มีของประดับตกแต่ง ไม่มีรอยสลัก ไม่มีอักษรรูน มีเพียงความเรียบลื่นเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เก่าแก่และอลังการใน God Domain จะต้องแผ่ออร่า Divine Might ออกมา แต่เสาโมโนลิธกลับให้ความรู้สึกเป็นกลาง ว่างเปล่า และสงบนิ่ง
ประตูไม่ได้เปิดออก แต่เรือเหาะก็ยังคงมุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วตามปกติ หากยังคงมุ่งหน้าต่อไปพวกเขาจะต้องชนแน่ๆ ราวกับโยนก้อนหิมะใส่ภูเขา ซือเฟิงมองไปยังเซี่ยชิงหยางกับเซี่ยอู๋หยวนที่กำลังยืนอยู่ข้างหลัง พวกเขากำลังพยายามหลอมรวมอะไรบางอย่างเข้าไปในแก่นพลังงานของเรือเหาะ ชั่วขณะนั้นเอง แก่นพลังงานก็สว่างวาบ เผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหี่ยวย่นของเซี่ยอู๋หยวน ดูเหมือนว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้ว แสงของแก่นพลังงานแผ่กระจายไปทั่วทั้งตัวเรือเหาะ ทำให้รอบข้างนั้นสว่างไสว ทุกตารางนิ้วล้วนเปล่งประกายเจิดจ้า จนยากที่จะลืมตามอง และถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่ก็ได้ยินเสียงคริสตัลที่อยู่รอบๆตัวเรือกำลังปริแตก มานาเริ่มรั่วไหลราวกับเรือเหาะกำลังถูกไฟไหม้

พวกเขากำลังทำอะไรน่ะ? พยายามจะระเบิดมันหรือไง ?
จากนั้นเรือเหาะก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่มานาและแสงสว่างอันเจิดจ้าจะสลายหายไป

เมื่อซือเฟิงลืมตาขึ้นมา สีหน้าอันเงียบสงบของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดในทันที ตอนนี้ทุกอย่างที่ซือเฟิงเห็นเมื่อครู่มันได้หายไปทั้งหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่เรือเหาะ และตอนนี้เขาก็ได้มายืนอยู่ที่ห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งภายในนี้มีมานาที่หนาแน่นมากๆจนมันทำให้เกิดออร่ามานาเจ็ดสี และทุกตารางนิ้วนั้นก็ล้วนมีคริสตัลเจ็ดลูมินารี่งอกขึ้นมา โดยพวกมันทั้งหมดก็ล้วนส่องสว่างด้วยแสงสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน

การกระโดดข้ามมิติ ….

ซือเฟิงเพิ่งเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที พวกเขาข้ามประตูนั้นมาด้วยการใช้การกระโดดข้ามมิติ สร้างรอยแยกมิติแล้วข้ามไปอีกฟากหนึ่ง โดยกระบวนการนี้มันก็ทำให้ต้องเสียเรือเหาะไป แต่กระนั้นมันก็นับเป็นราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการข้ามประตู

เมื่อได้เห็นความยิ่งใหญ่ของห้องโถงและภาพเหตุการณ์ก่อนหน้า ซือเฟิงก็ยิ่งมั่นใจว่าพวกเขาเข้าใกล้แกนกลางของเสาโมโนลิธแล้ว แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ซือเฟิงเคร่งเครียด บันไดหลายขั้นทอดลงสู่ห้องโถงที่ปกคลุมไปด้วยคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ฉากเดจาวูฉายวาบเข้ามาในใจเขา ซือเฟิงกำลังจ้องมองคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ที่มีจำนวนมากมายเท่าภูเขาขนาดใหญ่ และแต่ละยอดของภูเขาจะมีโมโนลิธขนาดเท่าคนสร้างจากคริสตัลสีฟ้าอ่อน ที่ฐานโปร่งแสงของโมโนลิธถูกจารึกด้วยอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์สีทองจำนวนนับไม่ถ้วน เขาเคยเห็นภูเขาแบบนี้มาก่อนแล้วใน God Domain

ย้อนกลับไปตอนที่ซือเฟิงกับไฟเออร์แดนซ์และอควาโรสกำลังสำรวจ แมนชั่นสุริยันม่วง (Purple Sun Mansion อยู่ในตอน 271) ในเมืองไวท์ริเวอร์ พวกเขาก็บังเอิญได้รับเควสปาฎิหาริย์เปิดผนึก ซึ่งเควสนั้นพาพวกเขาไปยังภูเขาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ในขณะที่การค้นพบนี้ทำให้เขางุนงงเล็กน้อย แต่เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ซือเฟิงเคร่งเครียดนั้นก็เพราะว่ามีสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตคนหนึ่งยืนอยู่บนบันไดขั้นที่หนึ่งของชั้นล่าง ซึ่งกำลังส่งยิ้มอันจอมปลอมมาให้

เมื่อซือเฟิงเห็นคนผู้นี้ในสถานที่แห่งนี้ ทำให้เขานึกถึงตอนที่ถูกกลั่นแกล้ง คนคนนี้เคยส่งเขาไปทำเควสที่เป็นไปไม่ได้ โยนเขาเข้าสู่สถานการณ์ที่อันตรายซึ่งหวิดจะทำให้ตาย และยังปล้นเงินไปจากเขาเป็นประจำทุกครั้งที่พบกัน โดยในการพบกันครั้งแรกนั้น คนๆนี้เป็นเพียงพวกระดับสูงเลเวลแปดเท่านั้น แต่กระนั้นหลังจากนั้นไม่นานคนๆนี้ก็เปลี่ยนจากพวกระดับสูง เลเวล 8 ไปเป็น Divine Official เลเวล 20 ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาก็กลายเป็นพวกขั้น 3 เลเวล 180 จากนั้นก็กลายเป็น Red Official ขั้น 5 เลเวล 200 ภายในเวลาอันรวดเร็ว คนคนนี้เข้ามาก้าวก่ายเควสของเขามาแล้วหลายครั้ง
เสียงหวานใสลอยไปตามอากาศ “นายนี่ช่างสมเป็นบุคคลที่ได้รับพรจากสวรรค์อย่างแท้จริง!” พร้อมกับหัวเราะคิกคัก
ซือเฟิงพบว่าคนที่อยู่บนยอดภูเขาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ซึ่งล้อมรอบด้วยเสาโมโนลิธสีฟ้าอ่อนกลับกลายเป็นคนที่เขาคุ้นเคยมากๆ

“….ชาร์ลีน”