เหลยจ้านยิ้มเก้กัง “โส่วจ่าง พวกเราแค่พูดไปแบบนั้นเอง คุณอย่าเอาจริง พวกเราไม่ไปก็ได้!”
จางเจิ้นก็หัวเราะหึหึ “ใช่ พวกเราไม่ไปแล้ว ไม่ไปแล้ว”
เจียงเหอซานถลึงตามใส่พวกเขาเรียงแถว หันหน้าไปมอง สีหน้าเคร่งขรึมพูด “เฉินโม่ นายก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป ในเมื่อหนานกงหยู่ยอมที่จะรอสามวัน แสดงว่าเขายังไม่เสียสติ ครอบครัวของนายปลอดภัยชั่วคราว”
“ตอนนี้หลังจากที่พวกเรากลับยานจิง ผู้บังคับบัญชาจะบอกสถานการณ์ล่าสุดกับนาย นายสามารถกลับไปได้ในเวลาที่หนานกงหยู่กำหนด”
เฉินโม่จ้องไปที่เมฆสีขาวด้านนอกผ่านกระจกห้องโดยสาร พูดเสียงเข้ม “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่อย่างนั้น…”
คำพูดด้านหลังเฉินโม่ไม่ได้พูด เพียงแต่ในดวงตาจู่ๆ ปรากฏกองซากศพและทะเลเลือดขึ้น ฉากนรกบนดิน
เจียงเหอซานที่อยู่ข้างๆ สั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย ราวกับตกลงในอุโมงค์เก็บน้ำแข็ง
ตระกูลเฉิน หนานกงหยู่มาอีกครั้ง
“วันนี้เป็นวันที่สองแล้ว เฉินโม่กลับมาแล้วยัง?” หนานกงหยู่ลอยตัวอยู่กลางอากาศภายในลานบ้านตระกูลเฉิน เสียงดังก้องไปทั่วลานบ้านตระกูลเฉินไม่หยุด
“แม่เจ้า คนคนนั้นมาอีกแล้ว!” คนรับใช้เหล่านั้นของตระกูลเฉินหนีกระเจิดกระเจิง คนธรรมดาเหล่านี้จะรับกับเรื่องราวมหัศจรรย์เช่นนี้ได้ที่ไหนกัน ตกใจสุดขีดตั้งนานแล้ว
เฉินกั๋วเหลียงได้ยินเสียง พาคนมาที่ลานบ้านทันที
“นายท่าน ฉันได้ติดต่อกับเบื้องบนแล้ว ประมาณการล่วงหน้าว่าวันพรุ่งนี้เฉินโม่ก็จะกลับมาแล้ว ขอให้นายท่านอดทนรอคอยอย่าได้หุนหันพลันแล่น!”
คำพูดเหล่านี้เป็นเบื้องบนที่สอนเฉินกั๋วเหลียง เป้าหมายก็เพื่อเกลี้ยกล่อมหนานกงหยู่ไว้ก่อน ทุกอย่างรอเฉินโม่กลับมาค่อยว่ากัน
หนานกงหยู่ก้มตามองเฉินกั๋วเหลียง “พรุ่งนี้? งั้นก็ให้เขาไปหาพวกนายที่สุสานบรรพบุรุษตระกูลหนานกงเถอะ!”
“ตอนนี้ ฉันสั่งให้ตระกูลเฉินทุกคน รีบไปก้มหัวเคารพที่สุสานบรรพบุรุษตระกูลหนานกงทันที!”
อะไรนะ!
คนตระกูลเฉินตกตะลึงอย่างมากในทันที เดิมคิดว่าผู้นำตระกูลโทรคุยกับเบื้องบน หนานกงหยู่ก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสาน คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเร็วกว่ากำหนด
“ต้องโทษเฉินโม่! เขาทำเลวไม่หวั่นเกรงสิ่งใด หาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง ตอนนี้เขาหนีไปแล้ว กลับให้พวกเรารับกรรม!” คนรุ่นหลังบางคนของตระกูลเฉินเริ่มโทษเฉินโม่ พวกเขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ไม่นานพวกเขายังคงประจบประแจงเฉินโม่อยู่เลย
เฉินกั๋วเหลียงมองหนานกงหยู่ที่ลอยอยู่กลางอากาศ แล้วพูดเสียงเข้ม “นายท่าน ภายในสามวันผมจะพาเฉินโม่กลับมาแน่นอน หวังว่านายท่านจะยืดเวลาไปหนึ่งวัน”
อันที่จริงตอนนี้เฉินกั๋วเหลียงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะระงับความโมโห หากมิใช่ผู้บังคับบัญชาบอกกับเขาไว้ เขาจะต่ำต้อยต่อหน้าหนานกงหยู่เยี่ยงนี้ได้เช่นไรกัน?
เฉินกั๋วเหลียงไม่กลัวตาย ไม่เคยกลัวมาก่อน
หนานกงหยู่พูดตวาด “ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว ฉันจะให้พวกนายไปที่ก้มหัวคำนับหน้าสุสานบรรพบุรุษตระกูลหนานกงตอนนี้ รอจนเฉินโม่กลับมา ฉันค่อยใช้หัวของเขาประกอบพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณลูกชายและหลานชายของฉันที่อยู่บนสวรรค์!”
“ตอนนี้ พวกนายไปที่สุสานบรรพบุรุษตระกูลหนานกงตอนนี้ มิเช่นนั้น ฉันจะฆ่าทั้งตระกูลเฉินของพวกนาย!
เมื่อพูดจบ หนานกงหยู่ผายฝ่ามือกระแทกประตูของตระกูลเฉิน
ปัง!
ประตูสีแดงเข้มที่แข็งแกร่งของตระกูลเฉิน ระเบิดสนั่น
คนตระกูลเฉินที่ใจฝ่อ ตกใจจนสั่นเทา มีบางคนสาปแช่งเฉินโม่ไม่หยุด บอกว่าเขานำภัยพิบัติมาให้ตระกูลเฉิน
เฉินควางตาแดงก่ำ มองไปทางหนานกงหยู่ที่ดุร้ายมาก ในใจกลับดีใจถึงที่สุด “ดี มาได้ดีมาก เฉินโม่ ในที่สุดก็มีคนมาจัดการนายแล้ว!”
เฉินจิงเย่ขมวดคิ้ว อยากจะออกไปถกเถียงกับหนานกงหยู่สักยก แต่กลับถูกหลี่ซู่เฟินจับเอาไว้แน่น
“คุณออกไปหาเขาตอนนี้ไม่มีประโยชน์สักนิด คุณคิดว่าเขาจะฟังคุณเหรอ?”
เฉินจิงเย่ตะคอกเสียงเบาอย่างเดือดดาล “หรือว่าจะดูเขาดูถูกตระกูลเฉินอยู่เช่นนี้?”