ภาคที่ 35 มหาเคารพหิมะเหิน ตอนที่ 6 ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตงป๋อเสวี่ยอิงแย้มยิ้มน้อยๆ “รัฐโบราณคิมหันตวายุต้องการถือสิทธิ์ครอบครองตำราเล่มนี้แต่เพียงผู้เดียว ห้ามมิให้ข้าเผยแพร่สู่ภายนอกออกไปอย่างนั้นหรือ การถือสิทธิ์ครอบครองนั้น ข้าเอ่ยปากก็ย่อมแตกต่างกันแล้ว”

“เจ้าว่ามาสิ” จักรพรรดิเซี่ยก็มองลงไปยังเบื้องล่างแล้วเอ่ยอย่างสงบ

จักรพรรดิเซี่ย จักรพรรดิชาง และบรรพชนฝาน พวกเขาสามคนต่างก็เตรียมตัวถูกสังหารเอาไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ถึงแม้จะจ่ายในราคาสูงก็ยังคุ้มค่าอยู่ดี! อย่างน้อยตำราเล่มนี้ จากนี้เป็นต้นไปก็จะเป็นของรัฐโบราณคิมหันตวายุแล้ว!

“ก่อนอื่นเลย เม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่ง!” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองบุคคลผู้ไร้เทียมทานทั้งสามแล้วเอ่ยขึ้น

“หนึ่งแสนชั่งหรือ”

ถึงแม้ว่าพวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนจะเตรียมตัวเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ก็ยังสีหน้าเหยเก ในใจขมวดแน่น

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเม็ดทรายอลวนนั้นหายากเพียงใด จำเป็นจะต้องสะสมแก่นแท้อลวน จึงจะได้มาสักเล็กน้อยโดยบังเอิญจากในห้วงมิติระดับที่สูงกว่า” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เม็ดทรายอลวนทุกเม็ดล้วนได้มายากยิ่ง เจ้าต้องการถึงหนึ่งแสนชั่งเต็มๆ เชียวหรือ เม็ดทรายอลวนทั่วทั้งดินแดนจิตโลการวมกันขึ้นมาจะมีมากมายสักเท่าไหร่กันเชียว น้อยลงสักหน่อยเถิด”

ด้วยสถานะผู้แกร่งกล้าอันดับหนึ่งแห่งดินแดนจิตโลกา จักรพรรดิเซี่ยก็ยังต้องต่อรอง เพราะสิ่งที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยปากนั้นชวนให้คนตกใจเกินไปแล้วจริงๆ

เพราะ ‘ปริมาณเม็ดทรายอลวน’ ทั่วทั้งรัฐโบราณคิมหันตวายุก็ยังห่างไกลจากหนึ่งแสนชั่งมากมายนัก!

“ถ้าหากอยากถือเอกสิทธิ์ครอบครองตำรา เม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่งก็เป็นสิ่งจำเป็น” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยปาก “ลดลงไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว! มิฉะนั้นข้าก็จำเป็นต้องขายตำราให้กับรัฐโบราณอื่นๆ เพื่อเก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน”

จักรพรรดิเซี่ยได้ฟังแล้วก็เอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “เหตุใดเจ้าจึงอยากได้เม็ดทรายอลวน มีประโยชน์ต่อพลังคละวิถีหรือไร”

“ต้องขอบคุณปุจฉวิถีคละถิ่นของจักรพรรดิเซี่ย” ตงป๋อเสวี่ยอิงเจตนาพูดขึ้น เขาไม่อยากจะเปิดเผยเจ็ดกระบวนคละถิ่นของตนออกสู่สาธารณะ

“จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชาง เชื่อว่าทั้งสามท่านก็ทราบดี ถ้าหากข้าแบ่งตำราโลกเทียมเล่มนี้แยกขายให้กับรัฐโบราณแห่งต่างๆ การรวบรวมเม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่งก็คงจะมิใช่เรื่องยากแต่อย่างใดเลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดพลางยิ้มน้อยๆ “นี่คือสิ่งที่ข้าจะต้องได้มาให้จงได้ มิฉะนั้นก็สู้มิขายตำราเสียดีกว่า”

พวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนลังเลเสียแล้ว

“ทำอย่างไรดีเล่า เม็ดทรายอลวนของรัฐโบราณคิมหันตวายุเราทั้งหมดก็มีอยู่เพียงแค่ห้าหมื่นกว่าชั่งเท่านั้นเอง นี่ยังเป็นเพราะเดิมทีข้าเป็นยอดฝีมือวิถีอากาศ สะสมแก่นแท้อลวนอยู่เป็นประจำ สั่งสมมาเป็นเวลายาวนานไร้ที่สิ้นสุดจนกระทั่งบัดนี้ เม็ดทรายอลวนของรัฐโบราณคิมหันตวาเรานี้จึงได้มีอยู่มากพอดู” จักรพรรดิเซี่ยถ่ายเสียงพูด “จะรวบรวมให้ได้หนึ่งแสนชั่ง เกรงว่าสะสมอย่างช้าๆ คงจะมิทันการ จะต้องซื้อหาจากรัฐโบราณอื่นๆ เสียแล้วล่ะ”

“ซื้อเถิด”

“ผู้พเนจรกับข้ามีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีระหว่างกัน” บรรพชนฝานถ่ายเสียงพูด “เขาก็เป็นยอดฝีมือวิถีอากาศขั้นสุดยอดเช่นกัน เม็ดทรายอลวนที่สะสมเอาไว้ก็คงจะมีอยู่ไม่น้อย ไปหาเขาแล้วซื้อมาให้มากหน่อย รัฐโบราณสหโลกา และรัฐโบราณหิมะน้ำแข็งก็ต้องพยายามซื้อหามาให้มากหน่อย! ตาเฒ่าสามคนที่รัฐโบราณหิมะน้ำแข็งนั้นร่างกายแข็งแกร่ง ต่างก็ไปรวบรวมแก่นแท้อลวนมาครั้งแล้วครั้งเล่า เม็ดทรายอลวนที่สะสมเอาไว้ก็ต้องมีอยู่ไม่น้อย”

“อืม ก็ตกลงเช่นนี้แล้วกัน” พวกจักรพรรดิเซี่ยก็ตกลงแล้ว

เม็ดทรายอลวน

ประโยชน์ของมันต่อทั้งดินแดนจิตโลกานั้นอ่อนแออย่างยิ่ง เพียงเพราะว่าหาได้ยากเหลือเกินจึงมีราคาค่อนข้างสูง! ถ้าหากตงป๋อเสวี่ยอิงเรียกหาสักพันสองพันชั่ง พวกจักรพรรดิเซี่ยก็คงจะเอาให้ไปแล้ว แต่มากถึงหนึ่งแสนชั่งเต็มๆ น่ะหรือ เกรงว่าคงจะต้องสูบเอาส่วนใหญ่ของเม็ดทรายอลวนที่สำรองเอาไว้ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกาเสียแล้ว!

……

“การรวบรวมเม็ดทรายอลวนต้องใช้เวลา” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยปาก “แต่ข้าจะต้องช่วยเจ้ารวบรวมให้ได้ภายในหนึ่งร้อยล้านปีอย่างแน่นอน”

“ดีเลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงเผยสีหน้ายินดี

นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ

เพราะว่าวัสดุเกือบทั้งหมดของอาวุธที่จำเพาะเหมาะสมกับเจ็ดกระบวนคละถิ่นล้วนต้องการเม็ดทรายอลวนทั้งสิ้น สำหรับวัสดุส่วนเสริมต่างๆ นั้นกลับได้มาอย่างง่ายดายยิ่ง เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะอ้างอิงจากเคล็ดวิชาหลอมอาวุธที่เสริมอยู่ในเจ็ดกระบวนคละถิ่น อาวุธที่อาศัยเม็ดทรายอลวนหลอมออกมา… การควบคุมพลังคละวิถีก็จะผ่อนคลายกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า ตนเองจึงสามารถสำแดงเคล็ดวิชาระดับที่สูงส่งลึกล้ำยิ่งขึ้นได้

อาวุธก็คือสื่อกลาง สื่อกลางที่ทำให้ควบคุมพลังคละวิถีผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

“ยังต้องการอะไรอีกหรือ” จักรพรรดิเซี่ยพูด พวกเขาไม่คิดว่าตงป๋อเสวี่ยอิงจะเรียกหาเพียงแค่นี้

“อาวุธชิ้นหนึ่ง” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดพลางยิ้มน้อยๆ

อาวุธเทพอลวน ต่อให้รวบรวมวัสดุ ก็ยังจำเป็นต้องค่อยๆ ฝึกฝนด้วยตนเองอย่างช้าๆ อยู่ดี จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน

นอกจากนี้ ในภายหน้าเมื่อมีอาวุธเทพอลวนอยู่ในมือ พลังยุทธ์แข็งแกร่งเหลือเกิน ก็อาจจะเหนี่ยวนำให้บรรดาบุคคลผู้ไร้เทียมทานเกิดความสงสัย เกรงว่าจะทำให้เกิดระลอกคลื่นขึ้นได้ ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถประเมินบรรทัดฐานของเหล่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานสูงเกินไปได้ เรื่องที่เหล่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานร่วมมือกันล้อมสังหารก็เป็นสิ่งที่ทำกันได้ ดังนั้นตนเองจึงต้องการอาวุธที่กล้าแกร่งอีกชิ้นหนึ่ง หนึ่งก็เพื่อให้พลังยุทธ์ของตนแกร่งยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย สองก็เพื่อทำให้เหล่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานยิ่งสามารถ ‘เข้าใจได้’ ว่าเหตุใดตนจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

“จักรพรรดิเซี่ย ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ ชิ้นนั้นที่ท่านหลอมขึ้นอย่างไรเล่า” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดพลางยิ้มน้อยๆ

“ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศหรือ” จักรพรรดิเซี่ยขมวดคิ้ว “ความต้องการช่างสูงเสียจริง”

“ช่วยไม่ได้ ข้าไม่มีอาวุธอีกแล้วนี่ ต้องการสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าที่ร้ายกาจสักชิ้นหนึ่ง” ตงป๋อเสวี่ยอิงอมยิ้ม

ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ!

เป็นสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าทางด้านวิถีอากาศที่ตงป๋อเสวี่ยอิงคิดว่าเหมาะสมกับตนเองที่สุดในทั้งดินแดนจิตโลกาแล้ว! บอกไว้ก่อนว่าสุดยอดสมบัติลับล้ำค่านั้นก็มีความแตกต่างกัน เช่นทางด้านการรักษาชีวิตนั้นก็ย่อมล้ำค่าเป็นที่สุด เช่นดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ… ชิ้นหนึ่งก็มีค่าพอๆ กันกับ ‘ดาบทวิภพ’ สองสามชิ้น พอมีสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าสักชิ้นหนึ่งอยู่กับตัวแล้วผสานรวมทั้งเก้าร่างแยกอีกครั้ง พลังยุทธ์ของตนก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“รับปากเจ้าก็ได้” จักรพรรดิเซี่ยพูด “แต่นี่ก็ใช้ได้แล้ว”

“นี่ยังไม่พอหรอกนะ” ตงป๋อเสวี่ยอิงส่ายศีรษะ “ถ้าหากข้าขายให้กับรัฐโบราณหลายแห่ง ผลประโยชน์ที่จะได้รับก็คงมิใช่เท่านี้หรอก”

จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชางต่างก็พากันเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่งเสียแล้ว

เม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่ง พวกเขาจำเป็นจะต้องแลกเปลี่ยนสมบัติล้ำค่ากับรัฐโบราณอื่นๆ มูลค่าก็สูงเป็นที่สุดแล้ว อีกทั้งยังมี ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ สมบัติลับล้ำค่าวิถีอากาศทางด้านโลกาอีกชิ้นหนึ่งด้วย

“ยังต้องการบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตเป็นระยะเวลาล้านล้านปีด้วย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

บรรพชนฝานถอนหายใจ

ไม่ต้องดูว่าราคาสูงลิบลิ่ว การบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตร้อยล้านปี ต้องใช้หนึ่งหมื่นมหาคุณูปการอะไรเลย ในความเป็นจริงแล้วการบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตไม่ได้ทำให้ต้นไม้เทพสูญเสียอะไรเลย ล้านล้านปีก็แค่เสียเวลาไประยะหนึ่งเท่านั้นเอง มิได้เป็นความสูญเสียใหญ่หลวงอันใดกับรัฐโบราณคิมหันตวายุเลย

“ยังมีความต้องการสุดท้ายอยู่อีกข้อหนึ่ง” ตงป๋อเสวี่ยอิงอมยิ้ม “ห้าแสนมหาคุณูปการ! ข้าสูญเสียที่วังเทพจิตโลกาไปมากมายเหลือเกิน ดังนั้นจึงต้องการมหาคุณูปการสักเล็กน้อย ไม่มีแล้วล่ะ แค่นี้แหละ จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน จักรพรรดิชาง หากรับปากตามความต้องการเหล่านี้ของข้าแล้ว จากนี้ไปตำราโลกเทียมเล่มนี้ก็เป็นของรัฐโบราณคิมหันตวายุแล้วล่ะ! รัฐโบราณคิมหันตวายุอยากจะถ่ายทอดให้กับผู้ใดก็สามารถถ่ายทอดให้กับผู้นั้นได้ อย่างเช่นขายให้กับประมุขรัฐเสียดฟ้า ก็ทำได้ทั้งสิ้น!”

ถึงแม้ว่าจักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชางจะปวดใจอย่างที่สุด

แต่ก็รู้กระจ่างดีว่า…

ถ้าหากอิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้ขายให้กับรัฐโบราณอื่นๆ ก็สามารถได้รับผลประโยชน์กองใหญ่จากทุกๆ รัฐโบราณได้ เมื่อรวมกันขึ้นมาแล้วเกรงว่าคงยังจะมากกว่านี้ได้อีกพอสมควรเลยทีเดียว!

“เอาล่ะ” พวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนประสานสายตากันคราหนึ่งแล้วจักรพรรดิเซี่ยก็เอ่ยปากว่า “ก็ตกลงเช่นนี้แล้วกัน”

ตงป๋อเสวี่ยอิงแย้มยิ้มน้อยๆ “ขอบคุณจักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝานและจักรพรรดิชาง บนเส้นทางการบำเพ็ญนั้นหากสู้ได้ก็ต้องสู้อยู่แล้ว”

บรรพชนฝานก็อมยิ้มเช่นกัน “สิ่งที่เจ้าต้องการช่างโหดร้ายนัก แต่ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องปกติ”

ถ้าหากพวกเขารัฐโบราณคิมหันตวายุต้องการ…

ลำพังแค่ขายให้กับประมุขรัฐเสียดฟ้าก็คงจะได้รับกลับมาเกือบครึ่งแล้ว!

ราคาที่รัฐโบราณสหโลกาเสนอให้กับบรรพชนฝานในตอนนั้นยังเกินจริงกว่าตงป๋อเสวี่ยอิงผู้นี้เสียอีก! ถึงแม้ว่าความต้องการของตงป๋อเสวี่ยอิงในคราวนี้จะสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่า ‘เม็ดทรายอลวน’จะหายาก แต่ก็นำไปใช้ประโยชน์ได้ยาก รัฐโบราณคิมหันตวายุก็ยังมีวิธีที่จะได้มาไว้ในมือด้วยราคาที่ค่อนข้างต่ำ

……

การเจรจาต่อรอง

พวกจักรพรรดิเซี่ยต่างก็เผยรอยยิ้มออกมา ตงป๋อเสวี่ยอิงก็อารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง ใครก็มองไม่ออกว่าในมุมมืด พวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนต่างก็เคยคิดที่จะจับเป็นร่างแยกที่มีอยู่ทั้งหมดของตงป๋อเสวี่ยอิงมาก่อนแล้ว! ถึงอย่างไรขอเพียงแค่สามารถจับเป็นทั้งหมดมาได้ นอกเสียจากว่าตงป๋อเสวี่ยอิงจะยอมตายดีกว่ามอบออกมา มิฉะนั้นก็ได้แต่ก้มหัวยอมจำนนแล้ว

“เรื่องนี้ ห้ามมิให้รั่วไหลออกไปเด็ดขาด” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยปาก “ข้าจำเป็นต้องใช้เวลาในการเก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน ก่อนที่จะรวบรวมได้สำเร็จ เรื่องของตำราโลกเทียมก็ห้ามมิให้ผู้อื่นที่มิได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ล่วงรู้โดยเด็ดขาด เมื่อใดที่แพร่สู่ภายนอก… รวบรวมตำราโลกเทียม แล้วข้าเก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน เกรงว่าความยากในการรวบรวมคงจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นอันมากเลยทีเดียว”

อันที่จริงตอนนี้การรวบรวมก็ยากเย็นเป็นอย่างมากอยู่แล้ว มิฉะนั้นพวกจักรพรรดิเซี่ยก็คงไม่ต้องปวดใจเช่นนี้

แต่เมื่อใดที่เรื่องของข้อตกลงตำราโลกเทียมแพร่ออกไป!

รัฐโบราณสหโลกาและรัฐโบราณเสียดฟ้าอาจถึงขั้นไม่ยอมขายเม็ดทรายอลวนให้! ทุกคนล้วนมิใช่คนโง่งม ตงป๋อเสวี่ยอิงทำข้อตกลงเรื่องตำราโลกเทียมกับรัฐโบราณคิมหันตวายุ แล้วรัฐโบราณคิมหันตวายุก็เก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน แล้วผู้ใดจะไม่สามารถคาดเดาได้เล่า

“ขอรับ” มหาเคารพซือเทียนที่อยู่ด้านล่างพูด

“ขอรับ ข้าจะไม่เผยแพร่สู่ภายนอกเป็นอันขาด ก่อนที่จักรพรรดิเซี่ยจะรวบรวมได้สำเร็จ ข้าจะไม่สำแดงเคล็ดเขตลวงโลกเทียมข้างนอกเด็ดขาด” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เอ่ยให้คำมั่น เขาก็ไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอยู่แล้ว อาวุธเทพอลวนชิ้นนี้ก็มีความสำคัญต่อเขาเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน แม้ว่าต่อให้ไปถึงขั้นสุดยอด อาวุธชิ้นนี้ก็ยังมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งอยู่ดี

ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ กับมหาเคารพซือเทียนที่อยู่ข้างๆ “มหาเคารพซือเทียน ข่าวที่ข้าได้รับดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ ตอนนี้ก็ยังไม่อยากให้แพร่สู่ภายนอกเช่นกัน”

“โอ้” มหาเคารพซือเทียนดวงตาเป็นประกายแล้วคาดเดาว่า “น้องเฟยเสวี่ยวางแผนจะแก้แค้นแล้วอย่างนั้นหรือ”

“แน่นอน!”

ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้าเบาๆ

จวินอ๋องดำ…

ตัวบรรพชนราตรีนิรันดร์เองไม่สามารถจัดการได้! ตั้งแต่ไหนแต่ไรตนก็ไม่เคยคิดจะปล่อยจวินอ๋องดำเอาไว้เลย ตอนนั้นอยู่ที่วังเทพจิตโลกา บุคคลภายนอกที่ล่วงรู้ว่าตนได้รับแหล่งกำเนิดห้วงสมุทรมาก็มีอยู่เพียงสองคนเท่านั้น คนหนึ่งก็คือจอมเคารพกระบี่ปีศาจ ส่วนอีกคนก็คือจวินอ๋องดำ! จอมเคารพกระบี่ปีศาจก็คือผู้แกร่งกล้าแห่งรัฐโบราณคิมหันตวายุ เป็นปฏิปักษ์กับรัฐโบราณบรรพชนโดยกำเนิดอยู่แล้ว

บวกกับที่ตอนนั้นจวินอ๋องดำเจตนาพูดมากความเช่นนั้นก็เพราะจงใจจะถ่วงเวลา

หลังจากที่บรรพชนราตรีนิรันดร์มาแล้ว จวินอ๋องดำก็ไม่มีสีหน้าตื่นตกใจเลยสักนิด! ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่า… ต้องเป็นจวินอ๋องดำ ที่ส่งข่าวให้บรรพชนราตรีนิรันดร์ล่วงรู้ ทำให้บรรพชนราตรีนิรันดร์มาสังหารตน เคราะห์ดีที่ตนมีเคล็ดร่างแยก มิฉะนั้นชีวิตตนก็คงจบเห่เสียแล้ว!

แต่ดีร้ายอย่างไรจวินอ๋องดำก็เป็นยอดฝีมือระดับจอมเคารพ ย่อมมิอาจจัดการได้โดยง่ายอยู่แล้ว แม้กระทั่งระดับขั้นในตอนนี้ของตน อยากจะจัดการเขาก็ยังยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อมี ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ ก็ไม่เหมือนกันแล้ว

“จวินอ๋องดำก็เป็นยอดฝีมือระดับจอมเคารพ ทั้งยังมีเคล็ดร่างแปรเงามืด ยากนักที่จะจัดการได้” มหาเคารพซือเทียนพูดยิ้มๆ

“ต้องลองดู” ตงป๋อเสวี่ยอิงแย้มยิ้ม

มหาเคารพซือเทียนพยักหน้าน้อยๆ เขารู้ว่าอิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้เคยเห็นการต่อสู้ของจวินอ๋องดำด้วยตาตนเองมาแล้ว รู้ถึงพื้นฐานของจวินอ๋องดำ! ในเมื่อกล้าทำเช่นนี้ อย่างน้อยก็คงมีความมั่นใจมาพอสมควรแล้ว คิดถึงตรงนี้ มหาเคารพซือเทียนก็อดที่จะตกใจอยู่บ้างมิได้ พลังยุทธ์ของอิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้เหนือกว่าจินตนาการเสียแล้ว!

…………………………………………..