ภาคที่ 35 มหาเคารพหิมะเหิน ตอนที่ 7 พลังยุทธ์เพิ่มพูน

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ยังพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าหากขายให้กับรัฐโบราณอื่นๆ ก็จะได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการเช่นกัน แต่ข้อหนึ่ง ตนมีความแค้นกับ ‘บรรพชนราตรีนิรันดร์’ แห่งรัฐโบราณบรรพชน ตนย่อมไม่มีทางก้มหัวต่อรองกับเขาอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ การขายให้กับหลายฝ่าย เกรงว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับก็คงมิได้สูงไปกว่าขายให้รัฐโบราณคิมหันตวายุเพียงแห่งเดียวมากมายสักเท่าใดนัก! ข้อสอง มองดูทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา สุดยอดสมบัติลับล้ำค่าที่เหมาะสมสำหรับซ่อนเร้น ‘เจ็ดกระบวนคละถิ่น’ มากที่สุด และพลังคุกคามก็เพียงพอที่จะทำให้ตนเองพึงพอใจก็คือ ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’

ช่วยไม่ได้ ‘เจ็ดกระบวนคละถิ่น’ นั้นร่างแยกทุกร่างต่างก็แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง! ต้องรู้ไว้ว่าภายใต้สถานการณ์ปกติ ผู้แกร่งกล้าระดับจอมเคารพ มีเพียงแค่ร่างกายที่มีสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าอยู่เท่านั้นที่จะมีพลังยุทธ์แข็งแกร่งเป็นที่สุด ส่วนร่างแยกอื่นๆ ก็จะอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง (เงื่อนไขคือสามารถสำแดงร่างแยกออกมาได้)!

ส่วนดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ เป็นสมบัติลับล้ำค่าวิถีอากาศทางด้านโลกา ล้วนมีพลังช่วยเหลือร่างแยกทั้งหมดที่มีอยู่!

……

สองฝ่ายให้สัตย์สาบาน

มาถึงระดับอย่างพวกเขานี้ คำสาบานก็เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อจิตแห่งวิถีเท่านั้น! ไม่ได้มีผลคุกคามชีวิตเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกจักรพรรดิเซี่ย บุคคลผู้ไร้เทียมทานทั้งสามคน หรือว่าตงป๋อเสวี่ยอิง ต่างก็มีความมุ่งมาดปรารถนาอันแรงกล้าต่อเส้นทางการบำเพ็ญกันทั้งสิ้น! ย่อมไม่สามารถละทิ้งเส้นทางการบำเพ็ญของตนเพื่อผลประโยชน์จากการผิดคำสาบานเล็กๆ น้อยๆ นั้นได้

“บรรพชนฝาน เชิญดู” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็มอบตำราโลกเทียมเล่มหนึ่งออกมา ตำราสีทองเล่มหนึ่งลอยตรงออกมาในทันใด บนตำรามีโลกจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น นั่นก็คือโลกมายา

ในเมื่อเป็นตำราที่คิดค้นขึ้นเอง นึกอยากจะบันทึกมากน้อยเท่าใดก็บันทึกเท่านั้น

แต่เพราะผูกพันธะด้วยคำสาบาน… ที่บริเวณโดยรอบดินแดนจิตโลกา ก็มีเพียงแค่รัฐโบราณคิมหันตวายุเท่านั้นที่มีสิทธิ์ถ่ายทอดได้

“ให้ข้าดูหน่อยสิ” บรรพชนฝานรับมาแล้วพลิกเปิดดูในทันที การดูครั้งหนึ่งนี้ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว จักรพรรดิเซี่ยและคนอื่นๆ ในที่นั้นก็มีความอดทนเป็นอย่างยิ่ง ตงป๋อเสวี่ยอิงก็นั่งลงพร้อมกับพวกมหาเคารพซือเทียนพลางดื่มสุราด้วยกัน

บรรพชนฝานเก็บตำราขึ้น สองตาเปล่งประกาย สายตาที่มองไปทางตงป๋อเสวี่ยอิงล้วนเต็มไปด้วยความยินดีพลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “แตกต่างกันจริงๆ เสียด้วย ข้าบำเพ็ญโลกเทียม ให้ความสนใจกับจิตใจคนมากกว่า  ดึงดูดความปรารถนาของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นรับใช้ข้าเป็นเจ้านายราวกับเป็นหุ่นเชิด ทำให้ผู้อื่นจ่อมจมอยู่ในโลกลวง แต่เจ้ากลับดูเหมือนจะคิดว่าโลกลวงก็เป็นความจริงอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน ภาพลวง ปรารถนา ล้างสังหารและวิญญาณ ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งความจริทั้งสิ้นอย่างนั้นหรือ”

“ใช่แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า

“ร้ายกาจ ร้ายกาจ” บรรพชนฝานพยักหน้า สิ่งที่เขาอยากเห็นก็คือเส้นทางความสำเร็จและประสบการณ์แห่งความสำเร็จของผู้อื่น!

การพินิจดูในครั้งนี้ทำให้บรรพชนฝานมีแรงบันดาลใจเป็นอย่างยิ่ง!

แน่นอนว่ามาถึงระดับขั้นเช่นเขานี้ เขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงวิถีของตนเองง่ายๆ อย่างแน่นอน แต่กลับสามารถสังเคราะห์เชาวน์ปัญญาของผู้อื่นแล้วซึมซับผสานรวมเข้ากับตนเองได้

“มีหวังที่สี่สายจะผสานรวมกันได้” บรรพชนฝานปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง คุ้มค่า ซื้อมาได้คุ้มค่าจริงๆ

เม็ดทรายอลวนอันใดกัน…

สุดยอดสมบัติลับล้ำค่าอันใดกัน…

สำหรับเขา บรรพชนฝาน จะสำคัญสู้เส้นทางการบำเพ็ญของเขาเองได้อย่างไรกัน!

“ฮ่าฮ่า น้องฝานพอใจก็ใช้ได้แล้ว” จักรพรรดิชางและจักรพรรดิเซี่ยต่างก็พากันหัวเราะ บรรพชนฝานพึงพอใจก็หมายความว่าข้อตกลงนี้คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง

“อิงซานเสวี่ยอิง นี่คือดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ ซึ่งเป็นสมบัติลับล้ำค่าวิถีอากาศทางด้านโลกาที่ข้าอาศัย ‘แหล่งพลังเขตเพลิง’ เป็นพื้นฐานในการหลอมขึ้นมา แหล่งพลังเขตเพลิงมีราคาต่างกับแหล่งกำเนิดห้วงสมุทรที่เจ้าได้มาในตอนนั้นแค่ไม่เท่าไหร่เอง” จักรพรรดิเซี่ยพูดแล้วในมือก็มีดอกบัวสีแดงเพลิงดอกหนึ่งปรากฏขึ้น เขาโยนอย่างส่งๆ คราหนึ่ง ดอกบัวสีแดงเพลิงดอกนี้ก็ลอยมาทางตงป๋อเสวี่ยอิง

เพราะว่าวัสดุที่ใช้หลอมนั้นมีราคาสูงลิบ ราคาของสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าชิ้นนี้จึงสูงเป็นอย่างยิ่ง

“ขอบคุณจักรพรรดิเซี่ยขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงโบกมือ ดอกบัวสีแดงเพลิงก็ร่อนมาอยู่ในอุ้งมือเขา เขาตื่นเต้นเป็นที่สุด

สมบัติลับล้ำค่าชิ้นนี้ หนึ่งคือสามารถซ่อนเร้นเจ็ดกระบวนคละถิ่น สองคือยังสามารถทำให้พลังยุทธ์ของเขาทวีความแข็งแกร่งขึ้นได้เป็นอย่างมากอีกด้วย

มิฉะนั้นร่างแยกใดๆ สักร่างหนึ่งต่างก็สามารถระเบิดพลังรบระดับเทพจักรวาลขั้นสุดยอดออกมาได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้ใดต่างก็สามารถสงสัยได้ทั้งสิ้น! มี ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ คนอื่นก็ได้แต่ ‘นึกฝันไปเอง’ ทั้งสิ้น

“ใช้ให้ดีๆ ล่ะ สมบัติลับล้ำค่าทางด้านโลการะดับนี้ ยากนักที่จะได้มา” จักรพรรดิเซี่ยค่อนข้างเสียดายอยู่บ้าง

“ขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

สมบัติลับล้ำค่าก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยเช่นกัน

สมบัติลับล้ำค่าที่เหมือนกันอยู่ในมือของยอดฝีมือระดับเทพจักรวาลชั้นที่สองที่ต่างกัน พลังคุกคามที่แสดงออกมาก็มีความแข็งแกร่งและอ่อนแอที่แตกต่างกัน

“เจ้าบำเพ็ญเคล็ดลับวิญญาณบางอย่างอยู่ใช่หรือไม่” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยปากในทันใด “ถึงแม้ว่าปุจฉวิถีคละถิ่นของข้าจะมีส่วนช่วยในการที่วิญญาณซ่อนเร้นเหตุปัจจัยและซ่อนเร้นร่องรอยอยู่บ้าง แต่ก็ยังไปไม่ถึงระดับเดียวกับเจ้านี้เลย”

บรรพชนฝานและจักรพรรดิชางก็มองตงป๋อเสวี่ยอิงเช่นกัน

“วิญญาณซ่อนเร้นเหตุปัจจัยและร่องรอยอย่างนั้นหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงตะลึงเล็กน้อย

“จักรพรรดิเซี่ยหาไม่พบอย่างนั้นหรือ”

จักรพรรดิเซี่ยพยักหน้า เขาทำเหมือนกับอิงซานเสวี่ยอิงเป็นคนของสำนักตนแล้ว อีกทั้งเรื่องนี้เวลาเนิ่นนานไปแล้วก็จะสามารถค้นพบได้ “ใช่ หาไม่พบ ข้า บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชาง ต่างก็หาไม่พบกันทั้งสิ้น! เคล็ดซ่อนเร้นพรรค์นี้ เกรงว่าคงจะไปถึงระดับสุดยอดพอๆ กันกับทางสายฝึกกายแล้ว”

ตงป๋อเสวี่ยอิงสะดุ้งน้อยๆ คราหนึ่ง

นึกถึงหลังจากที่บุกไปถึงขั้นสุดท้ายที่เจดีย์คละถิ่นแห่งวังเทพจิตโลกาแล้ว ของเหลวสีเขียวอ่อนที่แผ่กลิ่นอายโลหิตหยดนั้นแทรกซึมเข้าสู่ดวงวิญญาณของตน ตอนนั้นความแข็งแกร่งของพลังคุกคามของของเหลวสีเขียวอ่อนหยดนั้นเหนือชั้นกว่าพวกจักรพรรดิเซี่ยมากมายนัก! ถึงขนาดที่ทำให้ร่างแยกของตนสูญสิ้นสติรับรู้ และหลังจากที่ผสานรวมได้สำเร็จแล้ว เพราะการรับสัมผัสวิญญาณระหว่างร่างแยก เหนี่ยวนำให้ร่างแยกอื่นๆ เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นทั้งสิ้น ร่างแยกทุกร่างต่างก็ทวีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาล ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ไม่สงสัยเลยว่าไปถึงขั้นสุดยอด วิญญาณของตนก็คงจะมิอาจวิวัฒน์ได้อย่างชัดเจนเช่นนี้

“มิใช่เคล็ดลับหรอก คงจะเป็นการผจญภัยครั้งหนึ่งของข้ากระมัง” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

“การผจญภัยหรือ” จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชางตาสว่างทันใด

บนดินแดนจิตโลกานั้นมีการผจญภัยอยู่จริงๆ อย่างเช่นวังเทพจิตโลกาและหุบเขาเขี้ยวหัก ต่างก็มีโอกาสที่เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขาอยู่พอสมควร

……

ตงป๋อเสวี่ยอิงจากไปในทันที มหาเคารพซือเทียนมาส่งด้วยตนเอง มหาเคารพซือเทียนให้ความสำคัญกับตงป๋อเสวี่ยอิงเพราะพลังยุทธ์ เขารู้ว่าอีกไม่นานสักเท่าใด ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกาก็จะล่วงรู้ว่า ‘จ้าวหิมะเหิน’ แห่งรัฐเมฆทักษิณาแข็งแกร่งเพียงใด! เกรงว่าชื่อเสียงคงจะไม่ด้อยไปกว่าประมุขรัฐเมฆทักษิณาเลย

“น้องเฟยเสวี่ย”

“จ้าวหิมะเหิน”

บนคีรีมารสกุลฝานมีเทพจักรวาลสองคนเหินทะยานเคียงไหล่กันมา มองเห็นตงป๋อเสวี่ยอิงและมหาเคารพซือเทียน พวกเขาคุ้นเคยกับมหาเคารพซือเทียน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นตระกูลเดียวกัน จึงได้ผ่อนคลายกว่ามาก พวกเขาสองคนต่างก็ทักทายตงป๋อเสวี่ยอิงด้วยรอยยิ้ม

“ท่านมหาเคารพ พี่หลันเสวี่ย” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็พูดพลางยิ้มน้อยๆ ผู้ที่อยู่ตรงหน้าก็คือ ‘มหาเคารพเฟ่ยโห่ว’ และจ้าวหลันเสวี่ย

มหาเคารพเฟ่ยโห่ว…

คงจะนับได้ว่ารุ่งเรืองขึ้นมาในยุคเดียวกันกับจักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชาง ตอนนี้ในสกุลฝานมีมหาเคารพที่บุคคลผู้ไร้เทียมทานก็ยังฆ่าไม่ตายอยู่สองคน คนหนึ่งคือมหาเคารพเฟ่ยโห่วที่โบร่ำโบราณอย่างที่สุด ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือมหาเคารพซือเทียนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ มหาเคารพเฟ่ยโห่วโบร่ำโบราณเกินไป ทำให้เขาในตอนนี้มีความถ่อมตัวเป็นอย่างยิ่ง มุ่งมั่นบำเพ็ญอยู่ตลอด ไม่ยุ่งเรื่องทางโลก

สนทนากันอย่างง่ายๆ ไม่กี่ประโยค สองฝ่ายก็เบิกบานใจแล้ว

“มหาเคารพซือเทียน นับว่าปฏิบัติต่ออิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้อย่างเกรงใจทีเดียว” จ้าวหลันเสวี่ยมองดูคนทั้งสองที่จากไปอยู่ห่างๆ พลางเอ่ยอย่างทอดถอนใจประโยคหนึ่ง “ข้ายังคิดว่าด้วยอุปนิสัยเย็นชาของมหาเคารพซือเทียน ก็คงจะมิได้ใส่ใจอิงซานเสวี่ยอิงสักเท่าใดนักหรอก

“ก็น่าประหลาดอยู่บ้าง” มหาเคารพเฟ่ยโห่วอมยิ้มดูอยู่ห่างๆ “แต่อิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้ก็น่าสงสารอยู่บ้าง เพิ่งจะเคราะห์ดีได้ก้าวหน้าก็เผชิญกับการล้างสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดเสียแล้ว”

“ช่างน่าสงสาร น่าเวทนายิ่งนัก ช่วยไม่ได้ บรรพชนราตรีนิรันดร์ลงมือแล้วเขาจะทำอย่างไรได้เล่า” จ้าวหลันเสวี่ยก็ยังเห็นใจตงป๋อเสวี่ยอิง

******

ตงป๋อเสวี่ยอิงมิได้รีบร้อนเดินทางมุ่งหน้าไปยังรัฐโบราณบรรพชน หากแต่กลับไปยังเมืองหิมะเหินเพื่อศึกษาสุดยอดสมบัติลับล้ำค่า ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ ก่อน และในขณะเดียวกันก็ส่งร่างแยกร่างแยกร่างหนึ่งมุ่งหน้าไปยังคีรีมารสกุลฝานเพื่อบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตอีกครั้ง! ถึงอย่างไรก็ผ่านการบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตเมื่อคราวก่อนมาสามแสนล้านปีแล้ว

“ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศหรือ”

ภายในห้องเงียบอันหม่นสลัว ตงป๋อเสวี่ยอิงในอาภรณ์สีขาวตลอดร่างนั่งขัดสมาธิอยู่ เบื้องหน้ามีดอกบัวสีแดงเพลิงดอกหนึ่งลอยอยู่ เขาหลอมแปรและรับสัมผัสความเร้นลับต่างๆ นานาอย่างต่อเนื่องด้วยความง่ายดาย

“ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิเซี่ยยังจัดเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาบุคคลผู้ไร้เทียมทานแห่งดินแดนจิตโลกาด้วย ผู้แกร่งกล้าล้ำเลิศที่สามารถคิดค้นปุจฉวิถีคละถิ่นออกมาได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงตื่นตะลึงเพราะสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าชิ้นนี้ เพียงไม่นานเขาก็กระตุ้นสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าดอกนี้ พรึ่บ… ดอกบัวสีแดงเพลิงขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาก็บินตรงไปถึงบนดอกบัวอย่างรวดเร็วแล้วนั่งขัดสมาธิลงบนดอกบัว

ชิ้งๆๆๆๆๆ…

ร่างแยกร่างแล้วร่างเล่าปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดอกบัวสีแดงเพลิงขนาดมหึมากินพื้นที่บริเวณห้องเงียบไปเกือบครึ่ง ที่บนดอกบัว ตงป๋อเสวี่ยอิงเก้าคนนั่งขัดสมาธิลงทั้งหมด บนกลีบดอกไม้แต่ละดอกล้วนมีโลกอลหม่านอยู่ พลังของโลกทั้งหมดนี้ต่างก็ถูกตงป๋อเสวี่ยอิงยักย้าย เสริมกับบนร่างแยกทุกร่าง ความแข็งแกร่งของกลิ่นอายที่ร่างแยกทุกร่างแผ่ออกมพุ่งทะยานไปถึงระดับเทพจักรวาลขั้นสุดยอดในทันที

……………………………