ตอนที่ 1131

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ยานบินดาราแล่นอย่างไร้เสียงอยู่ในอวกาศ

สถานการณ์ในตอนนี้ทั้งเงียบและสงบสุข

‘ฉัวะ’ แต่ทันใดนั้นเองประกายแสงคลื่นดาบก็พุ่งเข้ามา มันเป็นคลื่นดาบที่สว่างจ้าและอัดแน่นไปด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง แสงของคลื่นดาบนั้นสว่างจนแม้แต่ดาวโดยรอบและและดวงอาทิตย์ก็ยังไม่อาจเทียบเคียง

‘ตูม!’ ยานบินดาราถูกบดขยี้จนกลายเป็นเศษซาก

ยานบินดาราลำเรือเป็นยานบินขนาดเล็ก มันสามารถป้องกันได้แค่การโจมตีของจอมยุทธระดับสุริยันจันทราสูงสุดเป็นอย่างมากในขณะที่คลื่นดาบเมื่อครู่เป็นการโจมตีของจอมยุทธระดับดารา

ร่างของมนุษย์ปรากฏขึ้นกลางอวกาศ รอบกายเขาปกคลุมไปด้วยปราณที่ปั่นป่วนทำให้ไม่ทราบว่าเป็นบุรุษอสตรีหรือเป็นคนร่างผอมสูง

‘คนคนนั้น’ ยืนอยู่กลางอวกาศและทำการตรวจสอบซากยานอย่างรอบคอบ เขาตรวจสอบเศษซากทุกชิ้นของยานเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอด เมื่อตรวจสอบเสร็จเขาก็สะบัดมือนำยานบินดาราออกมาและบินจากไป

ท่ามกลางอวกาศระลอกคลื่นที่เกิดจากคลื่นดาบเมื่อครู่ก็ค่อยหายไปและบรรยากาศก็กลับสู่ความสงบ

ผ่านไปอีกวันหนึ่ง ยานบินดาราลำนั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งและบินวนรอบเพื่อตรวจสอบก่อนจะจากไป

“ขี้กังวลเสียจริง!” หลิงฮันสบถอย่างมาสบอารมณ์ด้านในหอคอยทมิฬ

เมื่อตอนที่ยานบินดาราถูกโจมตี เขาบังเอิญอยู่ในหอคอยทมิฬพอดี  และเมื่อเขาเห็นว่าผู้บุกรุกมีนิสัยขี้กังวลเขาจึงไม่รีบออกมาแต่เลือกที่จะรอไปเรื่อยๆแทน ซึ่งผู้บุกรุกก็ย้อนกลับมาอย่างไม่คาดฝัน

“เจ้าหนู ดูเหมือนเจ้าจะล่วงเกินคนเอาไว้ไม่น้อยนะ” เซียนหวู่เซียงกล่าว หลิงฮันมาบอกเขาแล้วเรื่องที่ยานดาราถูกลอบโจมตี

“ไม่ได้ดูเหมือนจะไม่น้อย แต่ข้าล่วงเกินไปเยอะจริงๆเลยล่ะ” หลิงฮันยิ้มมุมปาก “แต่รอก่อนเถอะ หลังจากนี้อีกไม่นานข้าจะทำให้ทุกคนที่รังแกข้าได้รับผลจากการกระทำของพวกเขา!”

แม้เขาพูดของหลิงฮันจะดูโอ้อวด แต่เซียนหวู่เซียงก็หาคำพูดมายอกย้อนหลิงฮันไม่ได้

…ด้วยสมบัติล้ำค่าอย่างต้นสังสารวัฏ หลิงฮันมีสิทธิ์ที่จะโอ้อวดเช่นนั้นจริงๆ ต่อให้เป็นเขาก็ยังรู้สึกปรารถนาที่จะได้ฝึกฝนภายใต้ต้นสังสารวัฏต้นนี้

หลิงฮันลองคาดเดาตัวตนของผู้บุกรุกซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งสมาคมราตรีนิรันดร์และคนอื่นๆ

เพียงแต่ว่าจอมยุทธระดับดาราบนดาวเหอหนิงนั้นมีไม่มาก เมื่อใดที่เขามีพลังมากพอเขาจะสามารถสืบหาผู้บุกรุกคนนั้นได้จากกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์

จอมยุทธระสูงแต่ละคนจะมีกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองและเป็นเรื่องที่ยากมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลียนแบบกลิ่นอายของผู้อื่น

“แล้วทีนี้จะไปนิกายสวรรค์เยือกแข็งอย่างไรดี?”

หลิงฮันรู้สึกกระอักกระอ่วน

การที่หลงทางอยู่ที่อวกาศก็ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปในเขาวงกตขนาดใหญ่

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเวลา

บางทีเมื่อตอนที่เขาไปถึงนิกายสวรรค์เยือกแข็งเวลาอาจจะผ่านไปแล้วหลายสิบปีหรืออาจจะร้อยปีเลยก็ได้

“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องลองพึ่งดวงดู ยานบินดาราของข้าเดินทางมากว่าสองเดือนแล้ว ซึ่งในตอนนี้ข้าอยู่ไม่ไกลจากดาวเฟยหยุนเท่าไหร่นัก เพราะงั้นยังพอมีโอกาสอยู่…” หลิงฮันนำปกรณ์บินแหวกเมฆาออกมาและพยายามสำรวจเล่นทางอย่างสุดความสามารถและออกเดินทาง

ครั้งนี้เขาออกเดินทางโดยที่ไม่รู้เส้นทางเลยแม้แต่น้อย

หลิงฮันถอนหายใจซ้ำไปซ้ำมา เขาไม่ได้พักผ่อนเลยในช่วงระยะนี้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำความเข้าใจกฎแห่งเต๋าภายใต้ต้นสังสารวัฏเพื่อสร้างภูผาวารีสายที่ห้า ตอนนี้ความเข้าใจของเขานั้นลึกซึ้งเป็นอย่างมาก แต่ในด้านการค้นหาดาวเฟยหยุนนั้น เขามืดแปดด้านไม่รู้จะทำอย่างไรดี

ผ่านไปอีกครึ่งเดือนเขาก็ทำความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้เนื่องจากได้รับการชี้แนะจากเซียนหวู่เซียงและการสนับสนุนจากแก่นพลังจ้าวสูร

เขา… กำลังจะทะลวงผ่าน!

ไม่ได้ระดับสุริยันต์จันทราแต่เป็นขั้นสมบูรณ์ของระดับภูผาวารี

เขาก้าวหน้าไปเร็วเกินไปรึเปล่า?

ไม่เลยแม้แต่น้อย!

ต้องรู้ว่าหลิงฮันนั้นครอบครองต้นสังสารวัฏและตั้งแต่ที่เขาออกจากดาวสุสานมา เขาก็ทำความเข้าใจใต้ต้นสังสารวัฏไปเป็นเวลากว่าร้อยปีแล้ว

หลิงฮันเก็บอุปกรณ์บินแหวกเมฆาและยืนอย่างสง่าอยู่กลางอวกาศ

‘ครืน ครืน ครืน’ บททดสอบสายฟ้าสวรรค์ปรากฏขึ้นตามคาด สิ่งนี้คืออำนาจที่เหนือสรรพสิ่ง ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงจากบททดสอบสายฟ้าสวรรค์ไปได้

หลิงฮัยถอนหายใจ เวลาผ่านไปเพียงราวๆหนึ่งปีเขาก็ต้องสัมผัสกับความทรมานเช่นนี้อีกแล้ว

ปลดการป้องกันของกายหยาบ!

เขาทำเช่นนี้เพื่อขัดเกลากายหยาบโดยใช้บททดสอบสายฟ้าสวรรค์เป็นตัวช่วย

กายหยาบศักดิ์ศิทธิ์ระดับสี่กับห้าฟังดูแล้วเหมือนจะต่างกันแค่ขั้นเดียว แต่ขนาดจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดที่มีพลังต่อสู้เก้าดาวก็ยังไม่สามารถต่อต้านจอมยุทธระดับสุริยันจันทราที่เพิ่งทะลวงผ่านได้ ความต่างเช่นนี้ก็เหมือนกับความต่างของกายหยาบศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่กับห้า

ก่อนหน้านี้กายหยาบของหลิงฮันสามารถเทียบได้กับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ถึงห้า มีเพียงหลังจากขัดเกลากายหยาบจากบททดสอบสายฟ้าสวรรค์อีกครั้งกายหยาบของเขาถึงจะบรรลุขั้นที่ห้าอย่างสมบูรณ์

เขาพยักหน้าในใจ ถ้าเขาไม่บ่มเพาะพลังจนถึงขีดจำกัดของระดับพลังใหญ่ กายหยาบของเขาก็ไม่จะไม่สามารถทรงพลังที่สุดเช่นกัน

เพียงแค่คิดก็น่ากลัวแล้ว ต่อให้เขาอ่อนแอแค่ไหน แต่ถ้ามีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งต่อให้เขาอ่อนแอ ต่อให้เป็นเทพเซียนก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้

เพียงแต่ว่าคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์นั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดค้นขึ้นเอง หากเขาเป็นคนที่สองที่บ่มเพาะทักษะนี้แล้วคนแรกล่ะ?

ปรมาจารย์คนนั้นจะต้องตกตายไปแล้ว หอคอยทมิฬจึงต้องหาเจ้านายคนใหม่

ผู้สร้างจะต้องบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์จนบรรลุจุดสูงสุดแล้วเป็นแน่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังตกตาย… นั่นหมายถึงจุดสูงสุดของคัมภีร์สวรรค์นิรีนดร์ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของการบ่มเพาะพลังและสามารถถูกทำลายโดยพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งกว่า

หลิงฮันรวบรวมความคิด เขาในตอนนี้ยังห่างไกลจากจุสูงสุดที่ว่า ดังนั้นเขาจึงยังไม่ต้องคิดเรื่องนั้นในตอนนี้

กระดูกในร่างของเขาแตกหักเป็นชิ้นเล็กๆจากการขัดเกลาของบททดสอบสายฟ้าสวรรค์

‘ครืน ครืน ครืน’ สายฟ้าส่งเสียงก้องกังวานไปทั่ว กฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพีในอวกาศนั้นเบาบางมากทำให้แม้แต่จอมยุทธระดับภูผาวารีก็สามารถบินได้ ยิ่งกว่านั้นชั้นมิติก็ยังสามารถูกทำลายได้ง่ายๆ ความเสียหายจากคลื่นสายฟ้าที่กินพื้นที่กว่าสามหมื่นเมตรทำให้บริเวณนี้ราวกับกลายเป็นมหาสมุทรสายฟ้า

ขนาดหลิงฮันยังรู้สึกเลยว่าบดทดสอบครั้งนี้รุนแรงกว่าปกติ มันทรงพลังมากเมื่อเทียบกับบททดสอบก่อนๆ

ภูผาวารีสายที่ห้า จุดสูงสุดที่แท้จริงของระดับภูผาวารีคือสิ่งที่สวรรค์ไม่ยินยอมให้เกิดขึ้นง่ายๆ!

เวลาผ่านไปครึ่งวัน

บททดสอบสายฟ้าสวรรค์สลายไป ความเงียบสงัดที่หวนกลับมาพร้อมกับหลิงฮันที่ยืนแน่นอน

การทะลวงผ่านครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ พลังของเขาไม่ได้ทะยานสูงขึ้น… แต่ประตูบานใหม่ได้เปิดออกสำหรับเขา ประตูที่เปิดออกบานนี้จะพาเขาไปสู่พลังต่อสู้เจ็ดดาว แปดดาว เก้าดาว หรืออาจจะสิบดาว

แต่พลังต่อสู้เขาจะเพิ่มขึ้นไปยังกี่ดาวขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และความสามารถในการทำความเข้าใจของเขา

ในระยะที่ห่างไกล แสงสลัวๆไปได้ปรากฏขึ้นและเขามองเห็นยานบินดารากำลังพุ่งมายังทิศทางที่เขาอยู่

ในตอนแรกหลิงฮันตั้งใจจะเข้าไปซ่อนตัวในหอคอยทมิฬ แต่เขาตระหนักได้ก่อนว่ายานบินดาราลำนี้ไม่ใช่คนที่ลอบโจมตีเขาแต่อาจจะเป็นผู้ช่วยชีวิต!

เป็นไปได้ว่าบททดสอบสายฟ้าสวรรค์ก่อนหน้านี้กินพื้นที่กว้างเกินไปทำให้ดึงดูดความสนใจของยานบินดาราลำนี้และบินมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ยอดเยี่ยม ทีนี้เขาก็จะได้ไม่ต้องเดินทางอย่างไร้จุดหมายในอวกาศแล้ว

หลิงฮันยิ้ม เรื่องดีๆเกิดขึ้นตามกันมาไม่ขาดสาย

เขานำเม็ดยาเปลี่ยนรูปลักษณ์ออกมาและกลืนลงไป