จวินอู๋เสียหันกลับมาและยกมือขวาขึ้น แหวนวิญญาณที่เก็บไปแล้วก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนฝ่ามือของนาง ดวงตาของนางเย็นชาไร้ความรู้สึกใดๆ
เฉียวฉู่จับมือนางแน่น ไม่ยอมขยับไปไหน เขายืดตัวตรงและร้องออกมาว่า “ถ้าอยากฆ่าก็ฆ่าเลย! ข้าไม่ปล่อย!”
การกระทำของจวินอู๋เสียทำให้ซูจิ่งเหยียนและคนอื่นๆที่อยู่ด้านข้างกลัวจนวิญญาณหลุดลอย ซูจิ่งเหยียนรู้จักจวินอู๋เสียมาก่อน เขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าหลังจากผ่านมาห้าปีจวินอู๋เสียนั้นแตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง หัวใจของเขาหนาวเหน็บจนแข็งเหมือนน้ำแข็งไปแล้ว
เจตนาสังหารทอประกายขึ้นในดวงตาของจวินอู๋เสีย นางฟาดฝ่ามือลงมาอย่างรวดเร็ว!
ทุกคนต่างใจหายวาบ! แต่สีหน้าของเฉียวฉู่ไม่เปลี่ยนสักนิด
มือของจวินอู๋เสียหยุดนิ่งห่างจากหัวของเฉียวฉู่เพียงครึ่งนิ้ว
เฉียวฉู่มองจวินอู๋เสียด้วยสายตาแน่วแน่
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วมองเฉียวฉู่ผู้ดื้อรั้นซึ่งมีพรสวรรค์ในการทำให้คนอื่นโกรธเคืองอยู่เสมอ แล้วนางก็ลดมือลง
“ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการ กลับไปกับพวกเจ้าไม่ได้” นี่เป็นประโยคเดียวที่นางพูดหลังจากได้พบกับเพื่อนๆ
แม้ว่าคำพูดนางจะเลี่ยงปัญหาสำคัญและฟังดูเย็นชา แต่มันก็ทำให้รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของเฉียวฉู่
“เจ้าต้องจัดการเรื่องอะไร พวกเราจะไปกับเจ้าด้วย!”
ชัดเจนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด
จวินอู๋เสียหรี่ตา แต่ไม่ได้พูดอะไร
“เสี่ยวเสีย เจ้าเกลียดพวกเราหรือ? เจ้ายังโทษพวกเราที่ไปไม่ทันใช่ไหม?” เฉียวฉู่ถามอย่างน่าสงสาร
จวินอู๋เสียนิ่งเงียบ
เกลียดหรือ?
นางจะเกลียดพวกเขาทำไม?
สิ่งที่นางเกลียดคืออาณาจักรบนที่ใช้กำลังบังคับแย่งชิง และ…….ตัวนางเองที่อ่อนแอไร้ความสามารถ
เมื่อเฉียวฉู่เห็นว่าตนเองพยายามเกลี้ยกล่อมนางทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้นางหวั่นไหวได้เลย เขาก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ เขาอยู่กับนางมาหลายปีจะไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของนางได้อย่างไร? หัวใจที่ใช้เวลานานกว่าจะอบอุ่นขึ้น บัดนี้กลายเป็นเย็นชาอย่างสมบูรณ์แล้ว
เขาหันไปมองฮัวเหยาที่ยืนอยู่ตรงประตูเมืองอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ฮัวเหยาส่งสัญญาณบอกทันที ดวงตาของเฉียวฉู่เป็นประกาย เขาเรียกหมีหยินหยางออกมา
หมีหยินหยางตัวใหญ่เหมือนกำแพงสูงปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าจวินอู๋เสีย ก่อนที่นางจะทันได้ตั้งตัว หมีหยินหยางก็อ้าแขนและกอดนางไว้ด้วยอุ้งเท้าปุกปุยของมัน มันปลอบโยนนางขณะที่แนบตัวเข้ามาใกล้พร้อมพุงนุ่มๆขนปุกปุยของมัน
อ้อมกอดอันอบอุ่น กลิ่นที่คุ้นเคย เหมือนเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทลายกำแพงป้องกันของนางลง จวินอู๋เสียฝืนเข้มแข็งมาห้าปี ใจที่แข็งขึ้นละลายลงในชั่วพริบตา นางรู้สึกเหมือนได้กลับไปเมื่อห้าปีก่อน กลับไปในช่วงเวลาที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีและฝันร้ายยังไม่เกิด
“เสี่ยวเสีย โรลลี่คิดถึงเจ้ามากนะ เจ้า……เจ้าจะกลับไปกับพวกเราใช่ไหม? ถ้าเจ้าไม่กลับไปกับเรา……พวกเรา……พวกเราก็จะไม่ไปเหมือนกัน! เจ้าไปที่ไหน พวกเราก็จะไปที่นั่น พอดีเลย พวกเรายังไม่เคยไปที่อาณาจักรแห่งความมืด ทำไมเจ้าไม่พาพวกเราไปที่นั่นด้วยล่ะ?” เมื่อเฉียวฉู่เห็นโรลลี่กอดจวินอู๋เสียไว้และนางไม่ได้ต่อต้าน เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหานาง พยายามใช้คำพูดดีๆเกลี้ยกล่อมนาง
จวินอู๋เสียไม่พูดอะไร นางยืนนิ่งปล่อยให้หมีหยินหยางกอดอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไร แต่บรรยากาศเย็นยะเยือกรอบตัวนางได้สลายไปเล็กน้อยแล้ว