ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 608 คุยโวโอ้อวดเช่นนี้ หากกล้าก็ลงมา

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

พวกจางเชาที่กำลังหนี ทางหนึ่งถอย ทางหนึ่งพากันลงมือขัดขวางการโจมตีของเยี่ยนตี๋

แต่พวกเขาเหมือนมองข้ามตราประทับตะวันที่น่ากลัวนั้น

ในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่พวกเขาลงมาพลันปรากฏปราณสีดำสายหนึ่ง ปราณสีดำแผ่พุ่งออกมาอย่างไร้สิ้นสุด ครอบคลุมท้องฟ้า บดบังดวงอาทิตย์ในชั่วพริบตา

ฟากฟ้ามืดสลัวลงในชั่วอึดใจ ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ของจริงบนท้องฟ้า หรือว่าแสงสว่างของตราประทับตะวันด้านหลัง ล้วนราวกับถูกกลืนกิน

ไม่ใช่กลางวันและกลางคืนสับเปลี่ยน แสงสว่างกลายเป็นความมืด แต่เป็นแสงอาทิตย์ของดวงอาทิตย์ถูกกัดกร่อน

ดวงอาทิตย์ยังคงอยู่ แต่กลับไม่อาจส่องประกายแสงใดๆ

เยี่ยนจ้าวเกอม่านตาค่อยๆ หดลง ‘พลังการกัดกร่อน?’

เมื่อมองดูอย่างละเอียด บนฟากฟ้าเหมือนกับมีอัคคีทมิฬสีน้ำเงินลุกไหม้ขึ้น ทำให้เขตแดนระหว่างฟ้าดินรางเลือน กินแสงอาทิตย์เป็นอาหาร ลุกไหม้อย่างไร้สุ้มไร้เสียง

แสงและความมืดตัดสลับ พร้อมกับแลกเปลี่ยนกันและกัน ทว่าความมืดเบื้องหน้านี้กลับเป็นศัตรูของแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว ทั้งตะกละทั้งแข็งกร้าว ทั้งไร้เหตุผลและให้ความรู้สึกชั่วร้าย

แสงสว่างไม่ใช่ความยุติธรรม ความมืดเองก็ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย มันอาจจะเป็นความสงบนิ่งก็ได้ สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนต่างเกิดและเติบโตในความมืด

แต่ว่าเพลิงมารสีดำที่เปล่งประกายสีน้ำเงินและกลืนกินแสงอาทิตย์ตรงหน้านี้ เพียงแสดงให้เห็นถึงความน่าพรั่นพรึงและมหาภัยพิบัติไร้สิ้นสุดเท่านั้น

‘กัดกร่อนและกดข่ม เทียนโก่วกลืนอาทิตย์[1] เป็นดาวตรงข้ามของดวงอาทิตย์ ราหูหรือ?’ เยี่ยนจ้าวเกอพลันเข้าใจ ‘มิน่าเล่าถึงได้กล้าลงมาสร้างปัญหา’

พวกเติ้งเซินถูกฆ่าหมัดสิ้น สำนักแสงสว่างบนโลกซ้อนโลกคาดไม่ถึงว่าบนโลกแปดพิภพจะมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้

ตามข่าวที่ได้จากเมิ่งหวานและถังหย่งฮ่าว โลกแปดพิภพไม่สมควรยอดฝีมือเช่นนี้ถึงจะถูก

สำหรับสำนักแสงสว่าง ถึงแม้จะไม่ทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงใช้พลังอันแข็งแกร่งของตราประทับตะวันได้อย่างไร แต่ว่าตราประทับตะวันทำให้พวกเขานึกถึงสาเหตุที่ทำให้ยอดฝีมืออย่างพวกเติ้งเซินเสียชีวิต

นี่ทำให้พวกเขาต้องการตราประทับตะวันมากกว่าเดิม และเกลียดเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงกว่าเดิม

เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด สำนักแสงสว่างจึงลงมายังโลกแปดพิภพอีกครั้ง นอกจากยอดฝีมือที่มีจำนวนมากกว่าแล้ว ยังเตรียมของอย่างอื่นเพื่อตราประทับตะวันเป็นการเฉพาะด้วย

ซึ่งก็คือควันมารแสงทมิฬ พลังแห่งการกลืนอาทิตย์ของพระราหู ดาวขั้วตรงข้ามของพระอาทิตย์

เพลิงมารกระจัดกระจาย กลืนฟ้ากินตะวัน

พลังอันแข็งแกร่งนั้นถึงกับทำให้แสงสว่างของตราประทับตะวันริบหรี่ลง

ในตอนนั้นเอง พวกจางเชารับดาบอันแข็งกร้าวของเยี่ยนตี๋ ถอยร่นอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าจะต้านทานอานุภาพของตราประทับตะวันได้ดั่งหวัง แต่ว่าจิตใจของคนในสำนักแสงสว่างไม่ได้ดีขึ้นแม้แต่น้อย

ตอนแรกคิดจะใช้พลังแห่งราหูป้องกันการระเบิดของตราประทับตะวันชั่วคราว จากนั้นยอดฝีมือทั้งหกเช่นพวกเขาจะทำลายคนของเขากว่างเฉิงด้วยสภาวะรุนแรงเหมือนสายฟ้านับหมื่น ก่อนจะค่อยๆ เก็บตราประทับตะวัน

พวกเขาเชื่อมั่นว่า ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะใช้ตราประทับตะวันได้ แต่ก็ไม่อาจคงสภาพได้นาน

ตอนนี้ดูเหมือนว่า แผนในตอนแรกใช่ว่าจะไม่มีโอกาสสำเร็จ แต่เยี่ยนตี๋เลื่อนเป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสองอย่างเหนือความคาดหมาย มีพลังพอกวาดล้างสี่ทิศ พวกเขาใช้หกรุมหนึ่งยังทำอะไรไม่ได้

พลังที่ก่อนหน้านี้เตรียมจะใช้รับมือกับตราประทับตะวัน ปัจจุบันได้แต่ปกป้องให้พวกเขาถอยหนีอย่างปลอดภัย

ความแตกต่างระหว่างอุดมคติและความเป็นจริงทำให้พวกจางเชาคับข้องใจ มาด้วยความฮึกเหิม แต่กลับไปด้วยความพ่ายแพ้

อีกด้านหนึ่งของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์บนท้องฟ้ามีเสียงดังมา “เยี่ยนตี๋แห่งเขากว่างเฉิง ข้าจำชื่อนี้ไว้แล้ว เจ้าแข็งแกร่งนัก แกร่งเหนือความคาดหมาย”

“ในบรรดาคนจากโลกอื่นนอกจากโลกซ้อนโลกที่ข้ารู้จัก เจ้าคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่น่าเสียดาย เจ้าคือศัตรูของสำนักเรา ถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะต้องตาย”

เยี่ยนตี๋หนังตาไม่กระตุกแม้แต่น้อย “คุยโวถึงเพียงนี้ ลงมาเสียเลยสิ

“ข้าสัมผัสได้ว่าพลังฝึกปรือของเจ้าไม่ได้สูงกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม”

เสียงนั้นพูดอย่างราบเรียบ “ไม่ต้องรีบร้อน พวกเราจะได้เจอกันในเร็ววัน”

เยี่ยนจ้าวเกอถาม “ใต้เท้ามีชื่อว่าอะไร?”

สายตาสายหนึ่งเหมือนกับข้ามผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ข้ามผ่านมิติหนาหนัก ตกลงบนร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ

“สำนักแสงสว่าง หนงอวี่ซวน”

“เจ้าคือเยี่ยนจ้าวเกอกระมัง? ข้าไม่รู้ว่าเจ้าใช้ตราประทับตะวันได้อย่างไร แต่ถ้าหากอาศัยปัจจัยภายนอก วันตายของเจ้าก็อยู่ไม่ไกลแล้ว”

“ข้าบอกแล้วว่าพวกเราจะเจอกันในเร็ววัน ก่อนหน้านั้น จะฝากศีรษะของเจ้าไว้บนคอของเจ้าก่อน”

เหมือนกับยืนยันคำพูดของอีกฝ่าย เพลิงมารสีดำที่เปล่งประกายสีน้ำเงินสะท้อนฟ้าดินให้มืดสลัว

ตราประทับตะวันสีทองถึงแม้ว่าจะมีประกายแสงดุจเดิม แต่กลับถูกเพลิงมารสีดำขัดขวาง

ในขณะที่กลืนกินแสงอาทิตย์ เพลิงมารสีดำประกายน้ำเงินก็ถูกทำลายและลดทอนกำลังอย่างต่อเนื่องเพราะการโจมตีอันน่ากลัวของตราประทับตะวัน

เพียงแต่ว่า ก่อนที่ตราประทับตะวันจะทำลายเพลิงมารราหูนี้ พวกจางเชาก็หนีไปเสียแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้อย่างสงบนิ่ง มองบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่เหมือนกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดบนฟากฟ้า พลันยิ้มขึ้นมา “ท่านใช่เข้าใจอะไรผิดหรือไม่?

“ราหูเป็นดาวตรงข้ามของดวงอาทิตย์ ไม่ใช่ดาวข่มเสียหน่อย”

“ยิ่งไปกว่านั้น คิดว่าข้ามองไม่ออกหรือ? ควันมารแสงทมิฬมาจากของล้ำค่าที่บรรจุพลังของดาวราหูไว้ แต่ว่าท่านไม่เคยใช้ของล้ำค่าชิ้นนี้มาก่อน เพียงแต่กักเก็บพลังกลิ่นอายของของวิเศษไว้หลายส่วนเท่านั้น”

“ข้าไม่อาจใช้พลังทั้งหมดของตราประทับตะวันได้ ส่วนท่านก็ไม่เคยใช้ของวิเศษราหูนั่นมาก่อนเช่นกัน”

เยี่ยนจ้าวเกอไม่สะทกสะท้าน “เขียนเสือให้วัวกลัว ท่านคิดจะหลอกใคร?”

ขณะที่พูด เยี่ยนจ้าวเกอลอยตัวขึ้น สองมือกดใส่ตราประทับตะวัน

คัมภีร์เทพดวงอาทิตย์ถูกกระตุ้น ปราณมังกรจำนวนมหาศาลที่สั่งสมอยู่ในร่างของเยี่ยนจ้าวเกอพรั่งพรูเข้าไปในอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่แข็งแกร่งและเจิดจ้าทั้งหมด

ตอนนี้เขากระตุ้นตราประทับตะวัน ใช้การโจมตีได้เพียงครั้งเดียวอย่างแท้จริง ทว่าการโจมตีนี้ เขาสามารถเพิ่มพลังได้อีกขั้น!

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังการกลืนอาทิตย์ของราหูที่กดกร่อนกดข่ม ทั้งยังล่วงเกินตน ตราประทับตะวันที่หงุดหงิดอยู่แล้วเหมือนได้รับการยั่วยุ

ตอนนี้เมื่อถูกพลังของเยี่ยนจ้าวเกอกระตุ้น มันก็พลันบ้าคลั่งกว่าเดิม

แสงอาทิตย์แยงตาส่องแสงกลางฟ้าดินของโลกแปดพิภพอีกครั้ง ก่อนจะขยายออกไม่หยุด

ควันมารแสงทมิฬที่กลืนกินแสงอาทิตย์ถูกสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้ว่าแสงอาทิตย์จะถูกเพลิงสีดำประกายน้ำเงินทำลายอย่างไม่หยุดยั้ง แต่แสงเทพดวงอาทิตย์ก็มีมากกว่าและแข็งแกร่งกว่าควันมารแสงทมิฬ

สิ่งหนึ่งหายไป อีกสิ่งเกิดขึ้นแทน ฟ้าดินสว่างขึ้นอีกครั้ง ปรากฏการณ์สุริยคราสหายไปในชั่วพริบตา

เสียงของหนงอวี่ซวนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ไม่เพียงแต่ใช้ตราประทับตะวันได้ พลังยังมาถึงระดับนี้ด้วย?”

เยี่ยนจ้าวเกอแค่นเสียงอย่างเย็นชา ตราประทับตะวันอันน่ากลัวพลันทำลายเพลิงมารสีน้ำเงินซึ่งเป็นอุปสรรค กระแทกใส่คนในสำนักแสงสว่างที่กำลังถอยหนี!

พวกจางเชาสามคนลอยขึ้นไปแล้ว ทำลายพลังแห่งเขตแดนที่เป็นสิ่งกีดขวางสำเร็จ หายไปจากแปดพิภพ

แต่ว่ายอดฝีมือจากสำนักแสงสว่างที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามอีกสามคน ถูกศิษย์ในสำนักบนโลกซ้อนโลกรับไป การถอยไปยังบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ถูกขาดทันที!

ภายใต้การโจมตีของตราประทับตะวัน คนทั้งสามต้านทานด้วยพลังทั้งหมด แต่กลับรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวเหมือนภูเขากดทับศีรษะ

ลำแสงนับไม่ถ้วนระเบิดกลางอากาศ!

อีกด้านหนึ่ง สภาวะดาบของเยี่ยนตี๋ไม่หยุดลง ประกายดาบที่แข็งกร้าวทำลายฟ้าดิน ฟันมาอีกครั้ง!

เสียงโหยหวนสามเสียงดังขึ้นพร้อมกัน ตราประทับตะวันกดทับลงอย่างสะเทือนเลือนลั่น ฟ้าดินสั่นไหวอย่างรุนแรง!

……………………………………….

[1] เทียนโก่วกลืนอาทิตย์ หมายถึง สุริยคราส