บทที่ 1788 ความยากลําบากของฝ่ายธรรมะ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1788 ความยากลําบากของฝ่ายธรรมะ

 

ตระกูล

 

ในห้องที่มีแสงสลัว

 

วูหยงนั่งนิ่งราวกับรูปปั้นด้วยการแสดงออกที่มืดครึ้ม

 

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลยังอยู่ในมือของเขา

 

ก่อนหน้านี้บรรยากาศในห้องประชุมของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ร้อนแรงราวกับตลาดสด ผู้อม ตะตระกูลเซียและตระกูลปากรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและหมดหนทาง

 

คนส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด พวกเขาต้องการระบายความตกใจและความหวา ดกลัวของตนเอง

 

“นี่เป็นไปได้อย่างไร!?”

 

“ฟางหยวนซุ่มโจมตีพวกเราและได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ เขาจับตัวผู้อมตะทั้งหมด!”

 

“ตอนนี้เราควรทําอย่างไร? สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของภาคใต้”

 

“หากข่าวหลุดออกไป ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ของเราจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งห้าภูมิภาค!”

 

“ชื่อเสียงไม่สําคัญอีกต่อไป สิ่งสําคัญคือคนของเราอยู่ในมือเขา!”

 

“ก่อนหน้านี้ฟางหยวนทิ้งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้เบื้องหลัง ไม่ใช่ว่าเขากําลังรอ คําตอบจากพวกเรางั้นหรือ?”

 

“ถูกต้อง แต่เขาไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย เราทําได้เพียงรองั้นหรือ?”

 

บทสนทนาของคนเหล่านั้นยังดังอยู่ในใจของวูหยง

 

“ฮีม พวกไร้ประโยชน์ พึ่งจะมาพูดคุยกันตอนนี้!”

 

รูหยงกันเสียงเย็นด้วยความไม่พอใจ

 

“นี่ค่อนข้างลําบาก”

 

“ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป”

 

“แม้ข้าจะปฏิเสธการขู่กรรโชกของเขา แต่ตระกูลเซียและตระกูลปาไม่ยอมเพราะผู้อาวุโสสู งสุดลําดับที่หนึ่งของพวกเขาคือคนที่ถูกจับ”

 

“แผนการของวังสวรรค์ไร้ประโยชน์เช่นกัน ฮีม การติดต่อจื่อเว่ยเป็นความพยายามที่สูญเปล่า อย่างแท้จริง!”

 

“แต่นี่ไม่ใช่เพราะวังสวรรค์อ่อนแอ มันเป็นเพราะฟางหยวนแข็งแกร่งเกินไป”

 

“เผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่น่าสะพรึงกลัว มีเพียงจื่อชิวหยูที่สามารถรักษาความสงบ”

 

วูหยงจําได้อย่างชัดเจน จ่อชิวหยูสงบมาก เขาเป็นคนแรกที่เสนอแผนการไล่ล่าฟางห ยวน นั้นเป็นทัศนคติที่ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายธรรมะ

 

แต่วหยงไม่รู้ว่าจ่อชิวหยูกําลังบังคับให้ตนเองสงบ ในความเป็นจริงเขาตกใจและกังวลเช่นกัน

 

เขาแสร้งเสนอการไล่ล่าฟางหยวนเพื่อปกปิดความรู้สึกของตนเอง

 

“ฟางหยวนชนะงั้นหรือ?”

 

“ไม่เพียงเขาจะได้รับชัยชนะ แต่เขายังจับผู้อมตะระดับแปดสองคนและผู้อมตะระดับเจ็ดอี กมากมาย!”

 

นี่คือความคิดที่แท้จริงของจือชิวหยู

 

ก่อนการต่อสู้ครั้งนี้หากบางคนบอกเรื่องนี้กับจือชิวหยู เขาคงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก

 

แต่ตอนนี้จือชิวหยูกลับไม่สามารถหัวเราะ

 

จ่อชิวหยุไม่กล้าเชื่อแต่หลักฐานที่ลั่วเว่ยหยินแสดงให้พวกเขาเห็นเป็นสิ่งที่ไม่สา มารถปฏิเสธ เขาต้องยอมรับมันเท่านั้น

 

ฟางหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ในการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่เพียงฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะตกสู่ ความโกลาหล กระทั้งจือชิวหยูยังรู้สึกเหมือนตนเองถูกฟางหยวนจับเช่นกัน

 

ฟางหยวนชนะโดยใช้อาณาจักรแห่งความฝัน

 

และอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้ถูกมอบให้เขาโดยจ่อซิวหยู!

 

อาจกล่าวได้ว่าจือชิวหยูเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวน เขากลายเป็นคนทรยศ ของภาคใต้

 

ก่อนหน้านี้จือชิวหยูไม่เคยคิดว่าฟางหยวนจะใช้อาณาจักรแห่งความฝันเพื่อจัดการผู้อมตะภาคใต้

 

เขาไม่สามารถจินตนาการถึงเรื่องนี้

 

ประการแรก การทําธุรกรรมกับฟางหยวนทําให้ตระกูลจื่อได้รับประโยชน์มากเกินไป ความ โลภทําให้ลื่อชิวหยูตาบอด

 

ประการที่สอง การต่อสู้ก่อนหน้านี้ฟางหยวนต้องหลบหนีจากการระเบิดของกายาแห่ง ความฝัน จ่อชิวหยูรู้สึกว่ามีโอกาสไม่มากที่ฟางหยวนจะใช้วิธีนี้

 

“แต่ผู้ใดจะคิดว่าฟางหยวนจะมีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยอดเยี่ยม!”

 

“หากไม่ใช่เพราะค่ายกลนี้หยุดการเคลื่อนไหวของผู้อมตะ เขาจะประสบความสําเร็จในการใช้ อาณาจักรแห่งความฝันได้อย่างไร

 

“ในความเป็นจริงค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือ ความสามารถในการปกปิดของมัน ฟางหยวนไม่เคยใช้งานค่ายกลนี้มาก่อน มันไม่เคยถูกค้นพบ”

 

จ่อชิวหยูรู้สึกปวดหัวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

 

เขาเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาย่อมเข้าใจเรื่องนี้โดยธรรมชาติ

 

ค่ายกลในแต่ละเส้นทางมีจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกมันเอง ค่ายกลบนเส้นทางแห่งกาลเวลา จะส่งผลกระทบด้านเวลา ฟางหยวนใช้สิ่งนี้เพื่อต่อสู้กับศัตรูทั้งกลางวันและกลางคืนแต่เวลาของ โลกภายนอกผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง

 

อย่างไรก็ตามค่ายกลบนเส้นทางแห่งกาลเวลามักไม่มีความสามารถในการปกปิด มันไม่เหมือน ค่ายกลบนเส้นทางแห่งความมืด เส้นทางแห่งภูตผี หรือเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

 

เมื่อค่ายกลบนเส้นทางแห่งกาลเวลาถูกจัดตั้งขึ้นในที่โล่ง มันจะถูกค้นพบอย่างง่ายดาย

 

แต่ฟางหยวนซ่อนสิ่งนี้ไว้ได้อย่างไร

 

จ่อชิวหยูไม่เข้าใจเรื่องนี้ ในเวลาเดียวกันเทพธิดาจื่อเว่ยที่อยู่ในวังสวรรค์สามารถหาคําตอบ

 

นางพึ่งสิ้นสุดการอนุมาน

 

“มันควรเป็นการจัดเตรียมของนิกายเงา”

 

“นิกายเงากระจัดกระจายอยู่ทั้งห้าภูมิภาค พวกเขาซ่อนตัวอยู่ภายใต้กองกําลังพันธมิตร ผีดิบ พวกเขาพยายามค้นหาสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาและใช้ร่องรอยของพลังงานแห่ งเต่ในสภาพแวดล้อมเพื่อจัดตั้งค่ายกล”

 

“ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ฟางหยวนใช้ครั้งนี้มีความสามารถในการปกปิดขณะที่เขาใช้มันได้อ ย่างสมบูรณ์

 

“เขาเพิ่มเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไปและใช้อาณาจักรแห่งความฝันจับผู้อมตะทั้งหมดในครั้ง เดียว!”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงออกด้วยใบหน้ามืดครื้ม

 

ตอนนี้นางรู้สึกเสียใจ

 

หากนางรู้เรื่องนี้ นางจะบอกผู้อมตะภาคใต้เกี่ยวกับการตายของเฉินอี้และจักรพรรดินีอลู รสายฟ้า

 

ตราบเท่าที่ผู้อมตะภาคใต้รู้ถึงการตายของเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า พวกเขาจะระวัง ฟางหยวนมากขึ้น

 

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเทพธิดาจื่อเว่ยทําผิดเพราะนางต้องพิจารณาภาพรวมอย่างถี่ถ้วน

 

แรกเริ่มเทพธิดาจอเว่ยยังหวังว่าเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าอาจยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้น นางจึงไม่เปิดเผยเรื่องนี้

 

เมื่อเวลาผ่านไปเทพธิดาอเว่ยตระหนักว่าเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าตายไปแล้วจริงๆ

 

นางเลือกที่จะปกปิดข้อมูลนี้เพราะนางไม่ต้องการเพิ่มชื่อเสียงให้กับฟางหยวน นางเกรงว่าผู้ อมตะอีกสี่ภูมิภาคจะประนีประนอมกับฟางหยวน

 

ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด อิทธิพลของเขาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ

 

อีกสี่ภูมิภาคไม่เหมือนภาคกลาง พวกเขาไม่สามารถรวมเป็นหนึ่ง มันง่ายที่พวกเขาจะถูก บังคับให้สร้างข้อตกลงหรือทําธุรกรรมลับๆกับฟางหยวน

 

เทพธิดาจ่อเว่ยคิดไม่ผิด ตระกูลถังของทะเลทรายตะวันตกและตระกูลจื่อของภาคใต้กําลังทํา สิ่งนี้

 

เทพธิดาจอเว่ยปกปิดข้อเท็จจริงนี้เพื่อให้แน่ใจว่าอีกสี่ภูมิภาคจะต่อต้านฟางหยวนโดยไม่ คํานึงถึงผลลัพธ์ เมื่อทั้งสองฝ่ายพบความสูญเสีย วังสวรรค์จะกลายเป็นฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์

 

ในเวลาเดียวกันวังสวรรค์จะสามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวนและดําเนินการกําจัดปีศาจตนนี้

 

เทพธิดาจื่อเว่ยวางแผนได้ดี นางมองการณ์ไกลและเตรียมตัวสําหรับสงครามห้าภูมิภาค

 

แต่สถานการณ์กลับไม่เป็นไปตามความคาดหวังของนาง

 

ฟางหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ เขาจับผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมด!

 

“แม้ฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาสามารถใช้รากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา และครั้งนี้เขายังใช้การจัดเตรียมของนิกายเงา”

 

“ผลลัพธ์คือชัยชนะที่ท่วมท้นของเขา การเตรียมการของเราไม่แม้แต่จะมีเวลาใช้งาน”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกัดฟันแน่น

 

ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป

 

การจัดการเขายากลําบากมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกหมดหนทาง

 

ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่นางกลับไม่สามารถทําสิ่งใดกับเขา

 

เหตุผลหนึ่งคือเขาฝึกฝนหลายเส้นทางเกินไป

 

กล่าวถึงเส้นทางแห่งปัญญา

 

ฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา

 

แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะอนุมานอย่างเต็มที่แต่นางก็ไม่สามารถสรุปตําแหน่งของฟางหยวน

 

โดยปกติผู้อมตะที่ไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาจะถูกค้นพบอย่างง่ายดายผ่านการอนุมาน

 

เส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้อมตะจะสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ ไม่ใช่ทุกคนที่ทําได้

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด ผู้อมตะจําเป็นต้องมีความสําเร็จบนเส้น ทางแห่งการหลอมรวมอย่างน้อยระดับปรมาจารย์

 

เส้นทางแห่งความฝัน

 

ฟางหยวนเดินทางมาจากอนาคต เขามีวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันมากมาย

 

ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เขาใช้วิธีเหล่านี้เพื่อหลบหนีจากอันตรายและเอาชีวิตรอด

 

เส้นทางแห่งค่ายกล

 

การซุ่มโจมตีครั้งนี้ ฟางหยวนแสดงให้เห็นถึงความสําเร็จที่น่าทึ่งบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

เพื่อเพิ่มเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะ เขาต้องมีความสําเร็จบนเส้ นทางแห่งค่ายกลอย่างน้อยระดับปรมาจารย์เอก

 

“แน่นอนว่านี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของการจัดเตรียมของนิกายเงา แต่เหตุใดฟางหยวนจึง ไม่ใช่มันก่อนหน้านี้”

 

“มีความเป็นไปได้อีกประการ หลังจากฟางหยวนกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา หนึ่งในผู้อม ตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่เขารับเข้าไปมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลระดับปรมาจารย์เอก”

 

“ข้าไม่มีเบาะแสที่เพียงพอ…”

 

สายตาของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นเย็นเยียบ

 

นางลุกขึ้นและเดินทางไปพบเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ค้นวิญญาณ!

 

ไม่นานหลังจากนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยก็พยักหน้าพึงพอใจ

 

นางค้นพบความลับมากมายเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณอมตะของนิกายเงาจากความทรงจําของ เทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

“มันเป็นค่ายกลที่มีความสามารถในการปกปิดที่แข็งแกร่ง แต่มันไม่มีพลังในการอัญเชิญอ สูรปี ฟางหยวนเพิ่มความสามารถนี้เข้าไปในภายหลัง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยคิด

 

แต่นางไม่รู้ตัวว่าแสงสีดําที่เคยเป็นจุดแสงเล็กๆในดวงตาของนางขยายขอบเขตขึ้นในเวลานี้