ตอนที่ 1134

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“แม่นาง ทุกคนแค่กำลังประลองฝีมือกันเท่านั้นเอง เหตุใดต้องเกรี้ยวกราดเช่นนั้น?” ฉางตงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาพลักฝ่ามือออกไปด้านหน้าทำให้ร่างของหญิงสาวชุดฟ้าสั่นสะท้านราวกับถูกรั้งเอาไว้ด้วยแรงกดดันที่หนักหน่วงจนเกือบไม่สามารถควบคุมร่างตนเองได้

ฉางตงเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดในขณะที่หญิงสาวชุดฟ้าเป็นเพียงระดับภูผาวารีขั้นต้น ความแตกต่างของทั้งสองนั้นมากมายมหาศาล

“ศิษย์น้อง!” ชายร่างใหญ่คำรามด้วยความกังวล เพียงแต่เพราะถูกลิ่วล้อทั้งสี่คนรุมล้อมเอาไว้ทำให้ไม่สามารถไปช่วยหญิงสาวชุดฟ้าได้

“ที่นี่คือนิกายสวรรค์เยือกแข็งจริงๆรึ?” ใครบางคนพึมพำด้วยเสียงเบา “ทำไมเหล่าศิษย์ของนิกายถึงได้ไร้กฎเกณฑ์เพียงนี้?”

“นั่นก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้พวกเราไม่ใช่ศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็งล่ะ? ต่อให้นิกายสวรรค์เยือกแข็งลงมือจัดการ พวกเขาก็จะสะสางปัญหาเฉพาะเรื่องภายในนิกายเท่านั้น”

“เห้อ ข้าทนดูต่อไม่ไหวแล้ว!”

“คนที่น่ารังเกียจที่สุดก็คือเจ้าหนูนั่น เป็นเขาแท้ๆที่สร้างเรื่องขึ้นแต่กับยืนดูเฉยๆราวกับไม่ใช่เรื่องของตนเอง”

“ถูกแล้ว เจ้านั่นช่างนารักเกียจ!”

หลายคนมุ่งความเกลียดชังไปยังหลิงฮัน ชายหญิงสองคนนั้นเห็นได้ชั้นว่าออกหน้าเพื่อช่วยหลิงฮัน แต่เขากลับมีท่าทีเช่นนี้น่ะรึ? เขาเดินหลบไปด้านข้างอย่างไม่แยแสราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเขาเลย

แน่นอนว่าหลิงฮันได้ยินคำกล่าวตำหนิของทุกคน แต่เขาเลือกที่จำเมินเฉยทำเป็นไม่ได้ยิน

เขาอยากประเมินศักยภาพของชายร่างใหญ่และอยากรู้ว่าจะผลิดสถานการณ์จากลิ่วล้อทั้งสี่คนนั้นอย่างไร ถ้าเขาแก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนโง่เขลา

“ศิษย์น้อง!” ชายร่างใหญ่คำรามแสดงออกถึงความกังวลอย่างชัดเจน

“ศิษย์พี่ไม่น้องเป็นห่วงข้า!” หญิงสาวชุดฟ้ากล่าวด้วยความยากลำบาก นางอยู่ภายใต้แรงกดดันที่หนักหน่วง แค่กล่าวคำพูดนี้ออกมาก็ทำให้นางหายใจไม่สะดวกแล้ว

ชายร่างใหญ่เกรี้ยวกราด ผมดำเข้มของเขาตั้งตรง รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์อีกสิบอาคมปรากฏขึ้นบนหมัดของเขา

พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

‘ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!’

ลิ่วล้อทั้งสี่คนร้องโอดครวญในขณะที่ถูกซัดลอบกระเด็น

หลิงฮันเผยรอยยิ้ม ในความคิดของหลิงฮันการปะทะไม่สามารถขนะด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียว เพียงแต่ว่าชายร่างใหญ่ได้พิสูจน์แล้วว่าความคิดนั้นผิด เขาปลดปล่อยพละกำลังออกมาจนถึงขีดสุด ถ้ารูปแบบอาคมที่มีอยู่ไม่แข็งแกร่งพอ ก็แค่เพิ่มพวกมันขึ้นมาสิบเท่าก็พอแล้ว!

การฝืนใช้รูปแบบอาคมเช่นนี้ย่อมสร้างภาระอันหนักหน่วงให้ชายร่างใหญ่แน่นอน เพียงแต่ว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นเรียกได้ว่าแทบจะไร้เทียมทาน

“ปล่อยศิษย์น้องของข้า!” ชายร่างใหญ่คำรามและพุ่งเข้าใส่ฉางตง

“ฮึ่ม ช่างโง่งม!” ฉางตงยกมือขึ้นและทำท่ากระแทกฝ่ามือใส่ชายร่างใหญ่

ครืนน!

ปราณก่อเกิดของเขาเปลี่ยนรูปร่างเป็นโซ่ยาวนับไม่ถ้วนและทอกันเป็นตะข่ายห่อหุ้มร่างของชายร่างใหญ่เอาไว้

ความต่างของระดับพลังของทั้งสองนั้นห่างกันเกินไป ความจริงต่อให้เป็นหลิงฮันก็ไม่สามารถต่อสู้ทัดเทียมกับระภูผาวารีขั้นสูงสุดได้ถ้าหากเขามีพังระดับภูผาวารีขั้นต้น มีเพียงอัจฉริยะสิบดาวเท่านั้นถึงจะสู้ข้ามระดับที่ห่างขนาดนี้ได้

“ศิษย์พี่! ศิษย์พี่!” หญิงสาวชุดฟ้าร้องด้วยความกังวล

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำให้เขาบาดเจ็บมากเกินไปหรอก” ฉางตงหัวเราะเยาะเย้ยและกล่าว “แม่นาง ทีนี้เจ้าจะช่วยบอกชื่อให้ข้าได้รึยัง?”

หญิงสาวชุดฟ้าจ้องเขม็งไปยังฉางตง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม

ฉางตงไม่ได้โมโหกับท่าทีของนาง เขาหันไปหาลิ่วล้อทั้งที่เพิ่งจะลุกคลานขึ้นมาและกล่าว “ทุบตีหมอนั่นซะ”

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทั้งสี่ พวกเขารีบกล่าวตอบ “ขอรับนายน้อยตง”

“อย่า!” หญิงสาวชุดฟ้าสีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน

‘ทำไมคนคนนี้ถึงได้น่ารังเกียจเพียงนี้?’

ฉางตงหัวเราะลั่น “แม่นาง ชื่อของเจ้าล่ะ?”

หญิงชุดฟ้าพยายามถลึงตาเพื่อหยุดน้ำตาที่กำลังจะไหล “ขะ ข้าชื่อ…”

“เห้อ!” ในที่สุดหลิงฮันก็เดินขึ้นหน้าและกล่าว “ชื่อของสาวงามจะเปิดเผยต่อเดรัจฉานได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่านั่นจะเป็นการหมิ่นชื่อของแม่นางรึไง?” เขาหยุดอยู่ข้างหญิงสาวชุดฟ้า

สีหน้าของฉางตงเปลี่ยนเป็นมืดมน เขาควบคุมสถานการณ์ในอยู่หมัดแล้วแท้ๆแต่กลับถูกขัดขังหวะโดยเจ้าหนูนี่ เขาเค้นเสียงเย็นชาและกล่าว “พวกเจ้าทั้งสี่มัวรออะไรอยู่ รีบๆสังหารมันซะ!”

เขาหรี่ตาพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมาจากร่าง

คนเหล่านี้คิดจริงๆรึว่าเขาไม่กล้าสังหารพวกเขา?

คิดง่ายไปแล้ว! นิกายสวรรค์เยือกแข็งไม่ใช่นิกายที่ทำเพื่อประชาชน แถมคนเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่ศิษย์ของนิกายด้วย ดังนั้นการตายของพวกเขานิกายย่อมไม่เห็นค่า!

ลิ่วล้อทั้งสี่เพิ่งจะเสียหน้าจากการที่ถูกชายร่างใหญ่ซัดกระเด็น ตอนนี้พวกเขารู้สึกอับอายและอัปยศ แต่เมื่อหลิงฮันยื่นมือเข้ามาแทรกก็กลายเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขากู้หน้ากลับมา พวกเขาไม่คิดเลยแม้แต่น้อยว่าหลิงฮันแข็งแกร่ง ทั้งสี่คนค่อยๆเดินเข้าไปล้อมหลิงฮัน

“ในที่สุดเจ้าหนูนั่นก็แสดงความกล้าออกมาบ้าง”

“แต่ก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี ต่อให้เขาโค่นทั้งสี่คนได้แล้วยังไง? ฉางตงเป็นจอมยุทธระกับภูผาวารีขั้นสูงสุด จะมีรุ่นเยาว์กี่คนเชียวที่สามารถโค่นเขาได้?”

“ก็จริง เหล่าต้นอ่อนที่มีพรสวรรค์ต่างก็ถูกรับเป็นศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็งแล้ว ยิ่งกว่านั้นก่อนหน้านี้ฉางตงก็ยังเคยเป็นถึงศิษย์หลัก หากเป็นการต่อสู้ในระดับพลังเดียวกันมีเพียงศิษย์เมล็ดพันธุ์เท่านั้นที่สามารถโค่นเขาได้”

ทุกคนส่ายหัวด้วยความผิดหวัง ผลลัพธ์ของการต่อสู้ถูกตัดสินออกมาแล้ว ใครใช้ให้เจ้าหนูนั่นตาบอดไปล่วงเกินฉางตงกันล่ะ?

ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากเจ้าแค่เขยิบหลบฉางตง

ลิ่วล้อทั้งสี่โจมตีพร้อมกันจากสี่ทิศทาง พวกเขาแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมโหดเห็นได้ชัดว่าต้องการจะเห็นฉากนองเลือดเกิดขึ้นตรงหน้า

หลิงฮันส่ายหัว เขามือและดีดนิ้ว

พรึบ พรึบ พรึบ พรึบ!

ปราณดาบทั้งสี่ปรากฏออกมา ถึงแม้เขาจะนิ้วมือควบแน่นพวกมันขึ้นมาอย่างง่ายๆ แต่ปราณดาบทั้งสี่ก็อัดแน่นไปด้วยอำนาจอันทรงพลังที่ราวกับสวรรค์และปฐพีจะพังทลาย

หลิงฮันใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์!

ในตอนที่อยู่ดาวสุสาน เขาเรียนรู้เจตจำนงแห่งดาบและขัดเกลาพวกเขาภายใต้ต้นสังสารวัฏ เมื่อเวลาผ่านไปนานพอสมควรเป็นธรรมดาที่เขาจะเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม ตอนนี้ต่อให้เขาแค่ทำการดีดนิ้วมือ การโมตีของเขาก็จะถูกอัดแน่นไปด้วยเจตจำนงแห่งดาบและแฝงไว้ด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

เสียงคมดาบเฉือนดังขึ้นสี่ครั้ง จากนั้นหัวของลิ่วล้อทั้งสี่ก็ระเบิดกระจุยแทบจะพร้อมๆกัน

บรรยากาศโดยรอบกลายเป็นเงียบสงัดทันที

รุ่นเยาว์คนนี้ดูไร้พิษภัยแต่การโจมตีของเขากลับเหี้ยมโหดไร้ความปรานี เขาไม่แม้แต่จะมอบโอกาสให้ลิ่วล้อทั้งสี่ร้องขอชีวิต

แม้ลิ่วล้อทั้งสี่จะถูกสังหารอย่างง่ายดาย แต่ฉางตงคือใครกัน?

เขาเป็นผู้ติดตามของหยางฮ่าวและอดีตเคยเป็นศิษย์หลัก!

เขาสามารถอยู่เคียงข้างหยางฮ่าวได้ดังนั้นเขาจึงได้รับโอกาสรับฟังการชี้แนะจากปรมาจารย์สามวิถี เช่นนี้แล้วพลังต่อสู้ของเขาจะไม่น่าสะพรึงได้อย่างไร? แม้เขาจะยังไม่บรรลุระดับสุริยันจันทรา แต่เขาต้องเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ระดับภูผาวารีแน่นอน

เห้อ!

ทุกคนส่ายหัวด้วยความเวทนา

รุ่นเยาว์ผู้นี้เลือดร้อนเกินไปและไม่คำนึงถุงผลที่จะตามมา ที่จริงถ้าเขาไม่ดึงดันเกินไปฉางตงคงไม่ถึงกับเก็บเขามาใส่ใจด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ล่ะ?

ถ้าฉางตงไม่สังหารหลิงฮัน เขาจะมีศักดิ์ศรีเหลืออยู่งั้นรึ?

“ฮึ่ม! ข้าประเมินเจ้าต่ำไปหน่อย!” ฉางตงกล่าวอย่างเย็นชา ในแววตาของเขาแฝงไว้วด้วยความดุดัน

ในตอนที่หลิงฮันโจมตีเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ธรรมดาเหมือนที่เห็นภายนอก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่หวาดกลัว

เขาเคยถูกรับเข้าสำนักในฐานะศิษย์หลัก ในตอนนั้นเขามีพลังต่อสู้อย่างน้อยห้าดาวเกือบหกดาว ตอนนี้เมื่อกลายเป็นผู้ติดตามของหยางฮ่าวและได้ฟังคำชี้แนะของปรมาจารย์สามวิถี พลังต่อสู้ของเขาย่อมแข็งแกร่งกว่าเดิม

ตอนนี้เขามีพลังต่อสู้ถึงเจ็ดดาว! ใครจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้?