ตอนที่ 495 ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น (2)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 495 ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น (2)
“ดีมาก หวังว่าทุกอย่างที่แกพูดมานั้นจะเป็ นเรื่องจริง!”
สายตาราวงูพิษของคิตะมิยะ ฮิเดโอะมองจ้องตะขิ่น บะ เตง ติน
ตาเขม็ง เมื่อเห็นาเขาตัวสั่นเทิ้ม เหมือนนึกถึงภาพที่เห็นงูเลื้อย
เพ่นพ่านไปมา จึงทําให้เหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วหยดลงมาจาก
หน้าผากอย่างต่อเนื่อง
“หัวหน้าครับ ข้างหน้ามีเขตถํ้าอยู่ หน่อยลอบสังหารไร ้เงาเข้า
ไปแล้วครับ!”
พอสิ้นเสียงคิตะมิยะ ฮิเดโอะ ข้างหน้าก็ส่งข่าวมาเพื่อเบี่ยงเบน
ความสนใจของเขา แต่ว่าอาการของตะขิ่น บะ เตง ตินได้ทรุดตัว
ลงไปกองที่พื้นแล้ว เมื่อครู่คิตะมิยะ ฮิเดโอะได้สร ้างแรงกดดันให้
เขามากเกินไป
คิตะมิยะ ฮิเดโอะไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “อย่าให้หน่อย
ลอบสังหารไร ้เงาเข้าไปโดยพลการ ถอยออกมาจากถํ้าทั้งหมด
พวกข้างหลังก็เร่งตามข้างหน้าให้ทัน!”
หน่ วยลอบสังหารไร ้เงาคือองค์กรที่รับผิดชอบในการลอบ
สังหารโดยเฉพาะของตระกูลคิตะมิยะ รอบรู ้วิชานินจาของญี่ปุ่ น
เชี่ยวชาญในการอําพรางตัว จํานวนของพวกเขายังมีน้อยกว่า
ทหารกล้าที่เสียชีวิตเสียอีก ทั้งหมดมีเพียงแค่สิบสองคน คิตะมิยะ
ฮิเดโอะไม่สามารถสูญเสียได้แม้แต่คนเดียว

ภายใต้คําสั่งของคิตะมิยะ ฮิเดโอะ ความเร็วของกองทัพทหาร
ก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ไม่รู ้ว่าด้วยเหตุผลอะไร ตอนที่ระยะห่างจาก
ถํ้าประมาณสามร ้อยกว่าเมตร ต้นไม้ก็น้อยลงขึ้นมาอย่าง
กระทันหัน
พุ่มไม้บนพื้นดินก็มีน้อยลงเช่นกัน บางที่ก็เต็มไปด้วยพื้น
โคลนสีดํา เมื่อเดินหน้าต่อไปอีกร ้อยกว่าเมตร เดิมทีทุกคนที่
เดินทางกันต่างเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลมากมาย ทันใดนั้นก็
รู ้สึกเย็นขึ้นมาก ความร ้อนของร่างกายกลับเย็นขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้แต่ดวงอาทิตย ์ลอยอยู่เหนือศีรษะ ดูเหมือนว่ามันจะไม่รู ้สึกร ้อน
มากอีกแล้ว
แต่ว่าสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะทําให้บางคนเกิด
สงสัยขึ้นมา แต่พวกเขาทั้งหมดคิดว่ามันเกิดจากสภาพภูมิอากาศ
ที่เป็ นเอกลักษณ์ในภูเขา จึงไม่ได้สนใจอะไรมาก ทุกคนต่างค่อยๆ
เปิดแขนเสื้อของออก เพื่อสัมผัสถึงรู ้สึกเย็นและสดชื่น
“ปีศาจ ต้องเป็ นคําสาปของปีศาจแน่ๆ!”
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าตอนนี้ตะขิ่น บะ เตง ตินที่หน้าขาวซีด
มากขณะที่เดินตามกองทัพทหาร ปากก็พึมพํากับตัวเองด้วยภาษา
ท้องถิ่น ถ้าหากไม่มีคนรับผิดชอบคอยประคองเขา เกรงว่าตะขิ่น
บะ เตง ตินก็คงจะไม่มีแรงที่จะเดินต่อไปแล้ว
แม้ว่าครั้งแรกที่เขามาสถานที่แห่งนี้จะผ่านไปกว่าสี่สิบปี แล้ว
แต่ว่าตะขิ่น บะ เตง ตินก็ยังจําได้อย่างแม่นยํา ก่อนที่เขาจะบุกเข้า
ไปในถํ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ตลอดทางที่เต็มไปด้วยพืช เปี่ ยมล้นไป
ด้วยความมีชีวิตชีวา

แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เดิมทีพืชเหล่านี้ปกคลุกอยู่บน
พื้นดิน แต่เหมือนหายวับไปกลางอากาศ เมื่อเดินต่อไปอีกร ้อยกว่า
เมตร ตะขิ่น บะ เตง ตินก็มองไม่เห็นมดหรือแมลงอาศัยอยู่สักตัว
ราวกับความเงียบสงบระหว่างสวรรค์และโลก
ลักษณะภูมิประเทศของภูเขาปีศาจนั้นแปลกมาก ทางเข้าถํ้าที่
อยู่กลางภูเขาเหล่านี้ เหมือนกับหุบเขาที่กว้างใหญ่ เมื่อเข้ามาตอน
แรก บนศีรษะยังสามารถมองเห็นแววตา แต่เมื่อเข้าไปลึกขึ้นก็จะ
พบว่าตัวเองเขามาอยู่ในถํ้าแล้ว
และหลังจากที่คุณเดินในถํ้าสักพัก ก็อาจจะยังแสงอยู่เหนือ
ศีรษะ จึงไม่จําเป็ นต้องใช ้ไฟฉายหรือจุดไฟ ก็สามารถมองเห็น
ลักษณะภายในถํ้าได้อย่างชัดเจน จึงเป็ นเหตุให้คนเดินลึกเข้าไป
ในถํ้าโดยไม่รู ้ตัว
อีกทั้งยังไม่รู ้ว่าการก่อตัวเป็ นรูปของสภาพบนพื้นดินนี้เป็ นมา
อย่างไร สถานที่ส่วนใหญ่รูปร่างและลักษณะจะเหมือนกัน ซับซ ้อน
เหมือนเขาวงกต ตอนที่แสงอาทิตย ์เหนือศีรษะบางลงในที่สุดก็ คิตะ
มิยะ ฮิเดโอะจึงสั่งให้กองทัพทหารหยุด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงควา
มืดครึ้มและหนาวเย็น
ที่นี่ไม่มีแม้แต่ลม แต่ทุกคนก็รู ้สึกถึงความหนาวเย็นที่เจาะทะลุ
หัวใจของพวกเขา แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากความรู ้สึกเย็นสบาย
เมื่อครู่ บางคนที่มีร่างกายค่อนบอบบาง เริ่มเกิดอาการหนาวสั่น
ขึ้นมาเพราะทนไม่ไหว

ใบหน้าของคิติมิยะ ฮิเดโอะเผยที่นิ่งขรึม ตกใจและสงสัย
สลับกันไปมา สิ่งที่เป็ นชนวนให้เกิดกลิ่นอายของความมืดครึ้มและ
หนาวเย็นแบบนี้ มันอยู่กับเขามาเกือบครึ่งศตวรรษ
แต่ทว่าตอนนี้ เวลาห้าทุ่มถึงตีหนึ่งของทุกวันเส้นเลือดของคิ
ตะมิยะ ฮิเดโอะจะต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานกับเข็มทิ่มแทงหัวใจนับ
หมื่น คนที่จิตใจวิปริตแบบเขา แท้จริงแล้วก็เป็ นวิธีระบายความ
เจ็บปวดทางหนึ่ง ไม่อย่างนั้น เกรงว่าคิตะมิยะ ฮิเดโอะคงทนไม่ได้
ตั้งนานแล้ว
สัมผัสถึงกลิ่นอายของพลังชี่พิฆาตที่เย็นชาและทะมึนภายใน
ของร่างกาย ทําให้ความคิดของคิตะมิยะ ฮิเดโอะย้อนกลับไปเมื่อ
สิบปีก่อนโดยไม่รู ้ตัว
ตะมิยะ ฮิเดโอะในตอนนั้น เป็ นเพียงแค่ลูกคนหนึ่งที่ไม่มีชื่ออยู่
ในคัมภีร ์ของลูกหลานสายสัมพันธ์โดยตรงของตระกูล ผู ้เป็ นพ่อ
ของเขาในฐานะหัวหน้าครอบครัว เป็ นเหมือนกับม้าที่ออกลูกชาย
ติดต่อกันสิบกว่าคน
แต่คิตะมิยะ ฮิเดโอะไม่ได้มีความโดดเด่นมาก เพื่อที่จะมี
โอกาสได้รับความดึงดูดความสนใจของพ่อ เขาจึงเข้าร่วมกองทัพ
ทหารล่าขุมทรัพย ์ในพม่า แต่ตอนที่พวกเขาพบสถานที่ซ่อนสมบัติ
ของบรรพบุรุษที่เสียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วจึงพบว่า
สมบัติถูกขโมยคนอื่นไปก่อน
ทําให้หัวหน้าที่นํากองทัพมาเกิดโมโห หลังจากส่งคนที่เก่งใน
การสะกดรอยออกไปลาดตระเวน จึงพบว่ามีกลุ่มคนจีนเคยมา
เพ่นพ่านที่นี่แล้ว และเพิ่งเมื่อไม่นานมานี้

ผู ้อาวุโสคนนั้นจึงตัดสินใจ ณ ตอนนั้น ส่งกองกําลังไปติดตาม
และจ่ายเงินเป็ นจํานวนมากเพื่อหาไกด์ท้องถิ่น เมื่อคนจีนเหล่านั้น
กําลังจะเข้าสู่ประเทศจีน ในสถานที่ที่อันตรายของภูมิประเทศจึงจับ
พวกเขาเอาไว้ได้
ที่ผ่านมาคิตะมิยะ ฮิเดโอะไม่เคยลืม ยามพลบคํ่าพระอาทิตย ์
ยามสายัณห์แดงฉานราวกับเลือด เขาและคนในตระกูลที่มีฝี มือ
ยอดเยี่ยมกว่าร ้อยคนซ่อนตัวอยู่ที่หุบเขาทั้งสองด้าน และที่นี่เป็ น
ทางที่ชาวจีนที่ต้องการกลับประเทศจีนต้องเดินผ่าน
แต่สิ่งที่ทําให้คิติมิยะ ฮิเดโอะคิดไม่ถึงก็คือ กองทัพทหารที่มี
เพียงยี่สิบคนเท่านั้นระวังตัวเป็ นพิเศษ โดยเฉพาะผู ้นํากองทัพคน
นั้นเหมือนมีสัมผัสที่หกก็ไม่ปาน ตอนที่กองทัพเพิ่งเดินเข้าไปใน
หุบเขา เขาจึงรีบหันหน้ากลับแล้วพุ่งออกไป
เพียงแต่ตรงข้างหลัง ก็ยังมีทหารดักซุ่มโจมตีของตระกูลคิตะมิ
ยะอยู่ และเพื่อทําความเข้าใจอย่างชัดเจนถึงที่อยู่ของสมบัติ ตอน
นั้นผู ้อาวุโสคนนั้นจึงไม่ได้ออกคําสั่งให้ยิง แต่ก็นํากองทัพทหารสิบ
กว่าคนล้อมลอบชาวจีนเหล่านั้นเอาไว้
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ ทําให้ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง เพราะ
ชาวจีนที่เป็ นฝ่ ายเสียเปรียบ ได้ออกมือก่อน โดยหัวหน้าชาวชัก
กระบี่ชิงเฟิ งยาวสามฟุตที่อยู่ในมือ เมื่อเผชิญหน้ากันก็ฆ่าผู ้อาวุโส
คนนั้นตายคาที่
และชาวจีนที่เขาพาติดตามมาด้วย ทุกคนเหมือนกับเสือที่ลง
จากภูเขามีมาดที่น่าเกรงขามไม่ธรรมดา กองกําลังทหารกว่าสี่สิบ

กว่าคนของตระกูลคิตะมิยะ เมื่อเจอเหตุการณ์สองรุมหนึ่ง เพียง
ระยะเวลาสั้นๆ ก็ถูกชาวจีนเหล่านั้นสังหารจนหมดทั้งกองทัพ
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ ทําให้สมาชิกในครอบครัวที่
ยังคงซุ่มอยู่หลังภูเขาต่างก็ตกตะลึงกัน
พวกเขาหลายคนมีเคยส่วนร่วมในสงครามการรุกรานต่อต้าน
จีน ภาพแห่งความทรงจําของพวกเขา ชาวจีนก็เหมือนกับแกะที่
อ่อนแอ แม้แต่ทหารจีนที่แข็งแกร่งที่สุด ตอนที่ใช ้ดาบปลายปืนแทง
ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู ้ของเขาทั้งหมด
เพียงแต่ว่าเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า กลับโค่นล้มความรู ้ความ
เข้าใจของพวกเขาในสมัยก่อน ชาวจีนพวกนี้เป็ นแกะที่ไหนกัน?
ทุก คนเหมือนกับนักฆ่าก็ไม่ปาน จะบางคนหลังจากฆ่าญาติพี่น้อง
ของตัวเองแล้ว ก็ใช ้มีดแทงเข้าไปในหัวใจของพวกเขาแล้วเอาควัก
ออกมาเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
หัวหน้าผู ้อาวุโสถูกฆ่า ความโหดร ้ายของศัตรู ทําให้คนญี่ปุ่น
ที่คุ ้นเคยกับการเชื่อฟังคําสั่งของผู ้บังคับบัญชา ไม่รู ้จะทําอย่างไร
ไปชั่วขณะ ความรู ้สึกตื่นตระหนกกระจายอยู่ในจิตใจของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าจะพลาดโอกาสสําคัญ และชาวจีนเข้าพวกนั้นก็แยกกัน
เข้าไปในป่ าทึบทั้งสองด้านของหุบเขา
“ยิง ฆ่าพวกมันให้ตาย!”
เวลานี้เสียงปืนดังขึ้นมาหนึ่งนัด แล้วเสียงคําสั่งของคิตะมิยะ ฮิ
เดโอะก็ดังขึ้นมาด้วย คนญี่ปุ่นพวกนั้นรู ้เหมือนหาที่พึ่งพิงทางใจ

เจอแล้วอย่างฉับพลัน จึงเล็งปืนไปที่พวกชาวจีน แล้วยิงกระสุน
ออก
ถ้าจะพูดถึงความสามารถในการต่อสู ้แบบเดี่ยวของญี่ปุ่นถือ
ว่ามีความแข็งแกร่งมาก พวกเขายิงกระสุนออกไปท่ามกลางความ
สับสนและเตรียมตัวไม่พร ้อม แต่เสี้ยววินาทีนั้นกลับสามารถกราด
ยิงชาวจีนได้ถึงสิบเจ็ดสิบแปดคน และยังเหลืออีกห้าหกคน ที่ซ่อน
ตัวอยู่หลังหินผาก้อนใหญ่ ต่างฝ่ ายต่างยืนกรานและไม่ยอมอ่อน
ข้อต่อกันกับคนของตระกูลคิตะมิยะ
เมื่อการลอบสังหารประสบความสําเร็จ ทําให้คนญี่ปุ่นเหล่านั้น
รู้สึกมั่นใจอีกครั้ง และตําหนิตัวเองสําหรับความกลัวที่เกิดขึ้นเมื่อ
ครุ่
ดังนั้นตอนที่อีกฝ่ ายเหลืออเพียงอยู่ห้าหกคนนั้น คนญี่ปุ่ น
เหล่านี้แต่ละคนจึงส่งเสียงร ้องเรียก จากนั้นจึงชักดาบซามูไรออก
จากเอวและวิ่งลงที่หุบเขา พวกเขาตัดสินใจที่จะใช ้วิธีการต่อสู ้ด้วย
กําลัง เพื่อลบล้างความอัปยศในใจของพวกเขาเมื่อครู่
แต่ว่าความเป็ นจริงได้โจมตีพวกเขาอีกครั้ง แม้ว่าอีกฝ่ ายจะ
เหลือเพียงห้าหกคน แต่ไม่มีใครที่ไม่มีประสบการณ์การต่อสู ้มา
ร ้อยสนาม การโจมตีของคนสี่สิบห้าสิบคน ไม่สามารถทําให้พวก
เขาเกิดความสับสนวุ่นวายได้ ตรงกันข้ามชาวจีนเพียงสองสาม
คนนนั้กลับฆ่าสิบกว่าคนติดต่กัน
เพียงแต่ครั้งนี้ คนญี่ปุ่นก็มีจิตใจที่เข้มแข็งพร ้อมที่จะต่อสู ้จน
ลืมความหวาดกลัว ด้วยจํานวนคนที่ได้เปรียบ ทําให้พวกชาวจีน
เหล่านั้นเริ่มสู ้ไม่ไหว สุดท้ายจึงเหลือเพียงหัวหน้าและชายร่างสูง

กํายําและแข็งแกร่งพยายามยืนด้วยความลําบาก แต่กลับถูกพวก
เขาล้อมไว้
คิตะมิยะ ฮิเดโอะมีนิสัยเหลี่ยมจัด ครั้งแรกที่บุกโจมตีข ้าศึก
เขาหลบอยู่ด้านหลังสุด เวลานี้ชาวจีนที่ใช ้ดาบคนนั้นชาวจีนคน
นั้นเหมือนว่าจะทานกําลังไม่ไหวแล้ว จึงเดินไปอยู่ข้างตัวเขา
หลังจากที่อีกฝ่ ายแสดงช่องโหว่ออกมา เขาจึงใช ้มีดตัดแขนซ ้าย
ของเขา
เพียงแต่ว่าอีกฝ่ ายมีการตอบสนองที่เฉียบไว ไม่รอให้คิตะมิยะ
ฮิเดโอะขยายการต่อสู ้อีกต่อไป เขาจึงใช ้มีดแทงไปที่หัวใจของเขา
เร็วดั่งสายฟ้ าแลบ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่คนข้างตัวใช ้ฝักดาบมาต้านไว้
เวลานี้คิตะมิยะ ฮิเดโอะคงกลายเป็ นกองกระดูกไปแล้ว
แต่เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นโกรธมาก คาดไม่ถึงว่าเขาจะทิ้งมีด
ของเขา ใช ้ฝ่ ามือขวาตบเข้าไปที่คิตะมิยะ ฮิเดโอะ ตอนนั้นคิตะมิยะ
ฮิเดโอะก็สัมผัสได้ถึงพลังขนาดใหญ่ที่ผ่านออกมา เลือดในปากพุ่ง
กระเซ็น ร่างกายถอยครูดกระเด็นลอยไปข้างหลัง
จากสายตาที่พร่าเลือน ทําให้คิตะมิยะ ฮิเดโอะมองเห็นผู ้ชายที่
แข็งแกร่งเหมือนเจดีย ์เหล็กแผดเสียงคํารามด้วยความโกรธ แล้วจึง
สู ้สุดชีวิตเพื่อหาทางออกคุ ้มกันคนที่แขนถูกตัดขาดคนนั้นฝ่ าวง
ล้อมออกไป ส่วนเรื่องหลังจากนี้ คิตะมิยะ ฮิเดโอะก็ไม่เห็นกับตา
ตัวเองอีก เพราะตอนนั้นเขาได้หมดสติไปแล้ว
หลังจากที่คิตะมิยะ ฮิเดโอะฟื้นขึ้นมา อย่างแรกเขารู ้สึกว่า
ร่างกายนั้นหนาวเย็นมาก และก็ทําให้นิ สัยของเขาเกิดการ

เปลี่ยนแปลงใหญ่หลวง พฤติกรรมอันชั่วร ้ายที่ฆ่าพ่อและลูกสาว
จึงเป็ นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลัง
เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เหมือนกับความเย็นชาอึมครึมที่
เกิดขึ้นภายในร่างกายทุกวันแล้ว ร่างกายของคิตะมิยะ ฮิเดโอะที่
ยืนอยู่ตรงนั้น จึงเกิดอาการสั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่รู ้ว่าตัวเอง
ในตอนนี้ แท้จริงแล้วคือกลัวหรือตื่นเต้นกันแน่
“ไอ้โง่ โก่วซินเจีย หรือว่าแกยังไม่ตายใช่ไหม?”
คิตะมิยะ ฮิเดโอะตระหนักดีว่า หลังจากเกือบครึ่งศตวรรษที่
ผ่านไป เขาจะใช ้วิธีการอย่างอื่นประลองฝี มือกับชาวจีนที่ชื่อโก่ว
ซินเจียอีกครั้ง