บทที่ 2735 ข้าแค่เบื่อๆ นิดหน่อย
ว่าแล้วก็หยิบยันต์ถ่ายทอดเสียงออกมาติดต่อเลย ฝ่ายนั้นกดรับว่องไวยิ่ง เสียงอ่อนใสของตี้เฮ่าแว่วออกมา “ท่านแม่ คิดถึงข้าหรือ?”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก วาจาของเขาเปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก
เพียงแต่ พอกู้ซีจิ่วได้ยินเสียงอื่นแว่วออกมาจากยันต์ถ่ายทอดเสียงด้วย ก็ค่อนข้างร้อนรนแล้ว!
เสียงที่แว่วออกมาจากยันต์ถ่ายทอดเสียงคือเสียงลมอื้ออึงและเสียงต่อสู้ ถึงขั้นที่มีเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดอันใดด้วย ฟังดูเหมือนตี้เฮ่าจะอยู่ในการต่อสู้!
นี่เขาถูกสิ่งใดโจมตีเข้าหรือ?!
อวิ๋นเยียนหลีอยู่ไหนกัน?
กู้ซีจิ่วคิดจะสอบถามดู ก็ได้ยินตี้เฮ่าเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ท่านแม่ ท่านสบายดีใช่ไหม? ท่านพ่อล่ะ?”
ยังมีแก่ใจมาถามสารทุกข์สุกดิบอยู่ หรือว่าเขาจะไม่ได้ประสบอันตรายใด…
ถึงอย่างไรข้างกายของเขาก็มีอวิ๋นเยียนหลีอยู่ ยามจะไปอวิ๋นเยียนหลีเคยรับปากไว้ จะปกป้องเจ้าตัวเล็กนี่ให้ปลอดภัย
ในทวีปนี้ น่าจะไม่มีสัตว์ประหลาดใดที่สามารถต่อกรกับอวิ๋นเยียนหลีได้ ตี้เฮ่าไม่มีทางประสบอันตรายจริงๆ มากสุดก็แค่ได้ชมเรื่องครื้นเครง
“ท่านพ่อเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย นี่เจ้าอยู่ที่ไหน? สู้กับตัวอะไรอยู่?”
“แหะๆ ท่านแม่วางใจเถอะ ข้าแค่เบื่อๆ นิดหน่อย เลยมาแหย่เจียวตัวหนึ่งเล่นเท่านั้น…” ตี้เฮ่าเอ่ยอย่างสบายๆ ยิ่งนัก
ที่แท้ก็เป็นเจียว…
กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอกอีกครา ถึงแม้เจียวจะดุร้าย แต่ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู่ของอวิ๋นเยียนหลี เกรงว่าจะสู้ไม่ได้แม้แต่เสี่ยวตี้เฮ่าด้วยซ้ำ
เธอเอ่ยกำชับตี้เฮ่าอีกนิดหน่อย ตี้เฮ่าก็ตอบรับอย่างชื่นบาน
ขณะที่สองแม่ลูกคุยกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงอวิ๋นเยียนหลีที่ดูเหมือนจะอยู่ค่อนข้างไกลจากตี้เฮ่า อย่างน้อยก็ร้อยเมตรขึ้นไป
“ท่านแม่ ลูกคุยกับท่านต่อไม่ได้แล้ว กลับไปแล้วค่อยคุยกันอย่างถี่ถ้วนนะขอรับ ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ลูกไม่เป็นไร” ตี้เฮ่าพลันตัดสายในทันใด
กู้ซีจิ่วค่อนข้างฉงน ถึงแม้ระยะนี้อวิ๋นเยียนหลีจะอึมครึมขึ้นมาก แต่ความสุขุมก็ยังฝังลึกอยู่ในกระดูก และสุภาพเยือกเย็นยิ่งนัก ที่แท้ตี้เฮ่าทำอะไรกันแน่ ถึงบีบให้อวิ๋นเยียนหลีโวยวายออกมาได้…
….
อวิ๋นเยียนหลีอยากโวยวายจริงๆ!
เนื่องจากตอนที่ตี้เฮ่าตัดสายยันต์ถ่ายทอดเสียง กำลังห้อยต่องแต่งอยู่บนเขาเจียวตัวใหญ่สีขาวพิสุทธิ์ ถูกเหวี่ยงจนหมุนไปหมุนมาดุจกังหันลมอันหนึ่ง!
เจียวตัวนี้ไม่ใช่เจียวธรรมดา แต่ใกล้จะกลายเป็นพญามังกรแล้ว!
เจียวธรรมดาพลังวิญญาณจะประมาณขั้นสิบ ในทวีปนี้ถือเป็นตัวตนที่ขัดต่อสวรรค์ยิ่งนัก ไม่มีใครกล้ายุแหย่ เพียงแต่สำหรับอวิ๋นเยียนหลีแล้ว ต่อให้มังกรเจียวสิบตัวรุมโจมตีเขาพร้อมกันเขาก็ไม่นับว่าเป็นอย่างไร จัดการได้สบายยิ่ง
ดังนั้นตอนที่ตี้เฮ่ายื่นข้อเสนอให้อวิ๋นเยียนว่า ‘ล่าเจียวให้ข้าตัวหนึ่ง เมื่อเสร็จสิ้นแล้วข้าจะไม่วอแวเจ้าอีกเลย’ อวิ๋นเยียนหลีจึงตอบตกลงอย่างแช่มชื่นยิ่ง
กลับคาดไม่ถึงเลยว่าเจียวตัวนี้ที่ตี้เฮ่าหามาจะเป็นราชันเจียวที่กำลังจะเลื่อนขั้นเป็นมังกรแล้ว!
การที่เจียวจะกลายเป็นมังกรได้มีเงื่อนไขที่เข้มงวดยิ่งนัก เจียวนับล้านตัวก็ยังไม่แน่ว่าจะมีสักตัวที่บำเพ็ญเลื่อนขั้นเป็นมังกรได้
แต่เจียวที่สามารถบำเพ็ญมาจนถึงขั้นนี้ได้ล้วนจะแกร่งกล้ายิ่ง
และเจียวขาวตัวมหึมานี้ก็เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะแล้ว!
มันบำเพ็ญเพียรมากว่าแสนปีแล้ว มีอายุมากกว่าสัตว์วิญญาณตัวไหนๆ ในทวีปซิงเยวี่ยแห่งนี้
ซ้ำมันยังเรียบง่ายนัก ซ่อนตัวบำเพ็ญอยู่ในภูเขาหิมะลูกหนึ่งมาโดยตลอด หลบซ่อนมิดชิด ไม่เคยมีใครพบเห็นการมีอยู่ของมันมาก่อนเลย แม้กระทั่งตี้ฝูอีก็สัมผัสถึงกลิ่นอายของมันไม่ได้เลย
แต่วันนี้ เป็นวันสำคัญที่พญาเจียวจะกลายร่างเป็นมังกรแล้ว!
ขอเพียงมันอดทนผ่านพ้นวันนี้ไปให้ได้ ก็จะได้ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ เปลี่ยนร่างแปลงเต๋า กลายเป็นมังกรผู้สูงส่ง
เดิมทีมันอาศัยอยู่ในสระลึกของหุบเขาแห่งนั้น ดูดซับปราณจันทราที่ส่องลอดช่องว่างเข้ามา ซึมซับหล่อหลอมเป็นแก่นพลัง ทำให้เกล็ดบนร่างค่อยๆ กลายเป็นเกล็ดมังกรไปทีละนิดๆ…
กระบวนการนี้ยากเย็นเข็ญใจยิ่ง แต่ก็คุ้มค่ายิ่งนัก ขอเพียงแผ่นเกล็ดทั้งร่างล้วนกลายเป็นเกล็ดมังกรแล้ว มันก็จะได้เป็นมังกรอย่างสมบูรณ์แล้ว
ผลคือ เกล็ดบนร่างของมันเพิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปสองในสามส่วน มนุษย์สามคนนี้ก็บุกเข้ามา!
ตอนนั้นมันอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุด ไม่สนใจจะจัดการอะไร เพียงปลดปล่อยอำนาจอันแกร่งกล้าของมังกรออกไป คิดจะทำให้มนุษย์สามคนนี้เตลิดหนีไป
ไม่นึกเลยว่าจะมีเพียงเด็กสาวคนนั้นที่ถูกกดดันจนหน้าซีดเผือด ส่วนมนุษย์อีกสองคนไม่เป็นไรเลย!
นี่ยังไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้เด็กนั่นยังพุ่งเข้ามาปานฟ้าแลบอีก ฉกเอามุกมังกรที่กำลังลอยวนอยู่รอบปากของมันไป…
….
————————————————————————————-
บทที่ 2736 ครึ่งหทัย
มุกมังกรก็คือชีวิตของมังกร เพลิงโทสะของพญาเจียวขาวจึงพวยพุ่งสูงสามพันจั้ง!
พุ่งเข้าใส่ตี้เฮ่าด้วยความโมโห! คิดจะชิงมุกของตนกลับมา
ตี้เฮ่าพอฉกของได้ก็หนีไปเลย สิ่งที่ทำให้อวิ๋นเยียนหลีพูดไม่ออกยิ่งนักคือ ไม่รู้ไอ้เด็กนี่โดนไล่ตามจนทึ่มไปแล้วหรือไร ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่ได้หนีมาทางเขา แต่กลับวิ่งหนีไปในทิศทางตรงข้าม สองขาสั้นป้อมวิ่งว่องไวยิ่งกว่าสายลมเสียอีก เสมือนถีบวงจักรอัคคีหนีก็มิปาน!
พญาเจียวขาวตัวนั้นคำรามด้วยความโกรธ ย่อมไล่ตามหลังไปติดๆ
หนึ่งคนหนึ่งเจียวไล่ล่ากันจนเกิดฝุ่นฟุ้งตลบ
อวิ๋นเยียนหลีแทบจะกระอักเลือดแล้ว ได้แต่ไล่ตามไปเช่นกัน…
ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะไล่ตามไปทัน กลับพบว่าตี้เฮ่าห้อยต่องแต่งอยู่บนเขาพญาเจียวขาวแล้ว พญาเจียวขาวยืดกายขึ้น สูงถึงหนึ่งร้อยเมตร! กำลังสะบัดหัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง สลัดร่างน้อยๆ ของตี้เฮ่าไปมาดุจธงผืนหนึ่ง หมุนติ้วๆ อยู่รอบศีรษะของพญาเจียวขาว…
หนึ่งคนหนึ่งเจียวอุตลุดพัลวัน สู้กันอย่างดุเดือด
ตี้เฮ่าตกอยู่ในอันตรายเกือบจะถูกพญาเจียวขาวเหวี่ยงเข้าปากแล้ว!
หัวใจของอวิ๋นเยียนหลีแทบจะกระเด้งออกมาแล้ว!
บรรพบุรุษน้อยท่านนี้!
เขาตะโกนเสียงดัง ทะยานกายขึ้น พุ่งเข้าโจมตีพญาเจียวขาว! คิดจะพาเด็กน้อยที่อยู่ข้างบนลงมา
ความเร็วของเขาไม่อาจกล่าวได้ว่าเชื่องช้า เมื่อเห็นว่ามือของเขากำลังจะดึงร่างน้อยๆ ของตี้เฮ่าได้แล้ว กลับคาดไม่ถึงว่าเท้าน้อยๆ ของเขาจะเตะลงบนมือของเขาทีหนึ่ง ถือโอกาสถีบตัวขึ้นไป “ข้าจะสยบมัน!”
อวิ๋นเยียนหลีพูดไม่ออกเลย
เขาแทบจะหน้ามืดแล้ว
ถ้าต้องการสยบสัตว์สายพันธุ์มังกรจะต้องต่อสู้กับอีกฝ่ายด้วยตัวเอง สู้จนมันยอมจำนนโดยดี ถึงจะมีความเป็นไปได้ในการสยบมัน
และต้องอยู่ในสถานการณ์ที่สัตว์สายพันธุ์มังกรยินยอมด้วย
เจียวนิสัยหยิ่งทระนง ไม่ยอมรับผู้อื่นง่ายๆ เป็นจำพวกยอมตายไม่ยอมสยบ
เจียวตัวนี้เป็นกึ่งมังกรแล้ว นิสัยนั้นเย่อหยิ่งทระนงในความเป็นมังกรไปแล้ว
มุกมังกรถูกช่วงชิงไปตอนมันกำลังจะกลายเป็นมังกร ทำให้มันเกือบล้มเหลวในขั้นสุดท้าย เกรงว่ามันคงมีความคิดอยากจะฉีกตี้เฮ่าเป็นหมื่นชิ้นแล้ว จะยอมสยบต่อเขาได้อย่างไร? เกรงว่าถึงตีให้ตายก็ไม่ยอมสยบแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้นคือเจียวตัวนี้ยากจะตีให้ตายได้ อวิ๋นเยียนหลีสงสัยอย่างยิ่งว่าครั้งนี้พวกเขาทั้งสามจะรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้หรือไม่…
ไม่น่าเชื่อว่าเจียวจะเข้าใจภาษามนุษย์แล้ว มันแผดเสียงคำราม ราวกับได้ยินเรื่องน่าขัน!
สยบมันงั้นรึ? ฝันไปเถอะ!
พวกมนุษย์เบาปัญญา ไหนเลยจะสามารถสยบพญามังกรเจียวผู้ยิ่งใหญ่เช่นมันได้? มันจะกลายเป็นมังกรในไม่ช้าแล้วด้วย!
พญาเจียววนร่อนอยู่บนนภา ดังสายฟ้าเส้นหนึ่ง บังเกิดพายุฝน สายฝนกลายเป็นอาวุธลับนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าใส่ตี้เฮ่า!
อวิ๋นเยียนหลีก็ทะยานตามขึ้นมาด้วย เขาลอยอยู่ในอากาศมองความเคลื่อนไหวของพญาเจียว เห็นสายฝนทั่วนภากลายเป็นค่ายกลมีดที่คล้ายกับผลึกน้ำแข็งแหลมคม ราวกับวังวนขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง แฝงกลิ่นอายของหายนะไว้ ทั้งหมดพุ่งเข้าใส่ตี้เฮ่าจากทุกทิศทุกทาง…
ชัดเจนยิ่งนัก พญาเจียวตัวนี้สำแดงกระบวนท่าสังหารแล้ว!
กระบวนท่าประเภทนี้ต่อให้เป็นอวิ๋นเยียนหลีที่ต้านรับก็กินแรงยิ่งนักเช่นกัน จะต้านได้สักเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้เลย ส่วนตี้เฮ่าถึงอย่างไรก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ปกติแล้ววิ่งจนเหนื่อย ยังต้องให้เขาอุ้มเลย ร่างนุ่มนิ่มเปราะบาง สะดุดมุมหินก็ยังมุ่นคิ้วน้อยๆ อยู่ตั้งนานสองนาน
เด็กน้อยที่เป็นเช่นนี้ยามนี้กลับจับเขามังกรอยู่ตรงนั้น ร่างกายไร้ที่หลบซ่อนกำบัง ถ้าถูกโจมตี เกรงว่าคงกลายเป็นตัวเม่นไปในชั่วพริบตา!
ในสมองอวิ๋นเยียนหลีเกิดเสียงดังตูม แทบจะไม่หยุดคิดเลย โผเข้าไปหา อีกนิดเดียวก็จะโผเข้าไปถึงใต้ตัวของเด็กน้อยแล้ว ในขณะเดียวกันนี้ ก็ได้เปิดใช้เขตแดนคุ้มกายบนร่างทันที
พิรุณคมมีดที่แผงอำนาจทำลายล้างไว้พวกนั้นพุ่งเข้าปะทะกับเขตแดนของเขา ส่วนใหญ่ถูกดีดสะท้อนกลับไป
แต่จำนวนมากมายเกินไป พากันพุ่งเข้าใส่เช่นนี้
————————————————————————————-