บทที่ 2733 วาจานี้เสนาะหูผู้อื่นนัก!
จากนั้นเธอก็แย้งอีกครั้ง “ไม่ถูกสิ หนี่ว์วาสร้างมนุษย์ได้ เป็นต้นกำเนิดของมนุษยชาติ แต่ข้าทำไม่ได้ กลับเป็นฟั่นเชียนซื่อที่สร้างมนุษย์ สร้างร่างโคลนนิ่งมากมายถึงเพียงนั้นออกมาได้…”
ตี้ฝูอีงอนิ้วเคาะหว่างคิ้วนางทีหนึ่ง “เด็กโง่ นี่เป็นเพียงการเปรียบเปรยของข้า เปรียบเปรยถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับฟั่นเชียนซื่อ ไม่ได้บ่งชี้ว่าข้าคือฝูซี เขาคือผานกู่ ยังมีอีก ข้ายังไม่ได้บอกเจ้าเลย เรื่องของหนี่ว์วานั้น เป็นเพียงตำนานเล่าขานเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสที่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้เลยว่าเจ้าเกี่ยวข้องกับนาง”
กู้ซีจิ่วจึงเอนหลังลงไปเสียเลย “เห็นเช่นนี้แล้วช่างทำให้ผู้อื่นผิดหวังเสียจริง ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะไม่มีตำแหน่งใหญ่โตสูงส่งเป็นพิเศษเลย…”
ตี้ฝูอีก็นอนลงข้างกายนาง รั้งนางเข้าสู้อ้อมแขนของตน “เจ้าก็คือเจ้า เป็นหนึ่งไม่มีสอง ไม่มีใครแทนที่ได้ ไยต้องใส่ใจศักดิ์ฐานะอันใดอีก?”
วาจานี้เสนาะหูผู้อื่นนัก!
ดวงตากู้ซีจิ่วหยีโค้ง สบายใจขึ้นมากแล้ว เพียงแต่ เธอยังคงหม่นหมองอยู่บ้าง “อันที่จริงข้าก็แค่อยากเคียงบ่าเคียงไหลท่านเท่านั้น หากว่าข้าเป็นเทพเช่นเดียวกับหนี่ว์วาก็คงดี”
ตี้ฝูอีหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงสบายๆ “ข้าไม่ชมชอบหนี่ว์วาอันใด ข้าชอบเพียงกู้ซีจิ่ว”
คำพูดนี้อบอุ่นเหลือเกิน!
กู้ซีจิ่วผินหน้าซบอกเขา “อื้ม ข้าคือหนึ่งเดียวของท่าน ท่านก็คือหนึ่งเดียวของข้า ไม่ว่าท่านจะมีฐานะอะไร ข้าขอแค่พวกเราได้อยู่ด้วยกันเช่นนี้ไปชั่วกาลนาน”
นางซุกอยู่ข้างกายของเขาลมหายใจปานดอกกล้วยไม้ ร่างอรชรก็อยู่ในวงแขนของตน
ท้องส่วนล่างของตี้ฝูอีพลันหดเกร็ง เลือดลมมีแนวโน้มจะเดือดพล่านขึ้นมา
น่าเสียดายที่ตั้งแต่ความทรงจำของเขากลับมา ได้อยู่ร่วมกับนางอีกครั้ง ก็ไม่เคยได้เสพสมอิ่มเอมเลย การได้นอนกอดนางทุกวันช่างหวานชื่นและทรมานนัก ทำให้เขาต้องออกไปแช่น้ำเย็นเป็นประจำ…
ปรารถนาจะครอบครองนางยิ่งนัก!
ตอนนี้นางตั้งครรภ์กว่าสามเดือนแล้ว ว่ากันตามเหตุผลแล้ว น่าจะทำได้แล้วกระมัง?
สายตาที่เขามองนางค่อนข้างลุ่มลึก มือสะกิดสายรัดบนอาภรณ์นางเบาๆ “ซีจิ่ว...ได้หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วผงะไป เงยหน้าขึ้น เห็นว่าในดวงตาของเขาราวกับมีเพลิงลุกโชนอยู่ ทันทีที่เข้าใจความหมายของเขา ใบหน้าเฉิดฉันพลันแดงก่ำ หัวใจเต้นตึกตัก “นี่…”
ตี้ฝูอีรออยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้รับคำพูดต่อมาจากนาง นึกว่านางยังคงไม่ยินยอมอยู่ ในใจผิดหวังนิดๆ ยิ้มแวบหนึ่ง “ไม่เป็นไร ข้ารอต่อไปได้ รอจนลูกของพวกเราคลอดออกมาแล้วค่อย…”
เขาไม่กล้านอนต่อแล้ว ขณะที่กำลังจะลุกออกไปเดินเล่นสักรอบ ให้สงบลงหน่อย กู้ซีจิ่วกลับกอดเอวเขาไว้ทันที
ตี้ฝูอีแข็งทื่อไปทันที สัมผัสได้ว่าวงแขนของนางร้อนลวก นางกำลังเอ่ยอย่างตะกุกตะกักอยู่ที่แผ่นหลังตน “ความจริง…ความจริงไม่จำเป็นต้องรอแล้ว ขอเพียง…ขอเพียงระวังหน่อย…ก็”
นัยน์ตาตี้ฝูอีทอแสงแวบหนึ่ง ค่อนๆ หมุนตัวกลับไป ยกแขนโอบกอดนางไว้ ลมหายใจร้อนผ่าวประสานกัน เขาจุมพิตริมฝีปากนาง เอ่ยเสียงพร่า “ข้าจะระวัง…”
ต่างโหยหากันมาเนิ่นนานยิ่งนักแล้ว ทันทีที่ปลดเปลื้องข้อห้ามนั้นได้ ทุกสิ่งต่อจากนั้นล้วนเป็นไปตามกระบวนการ
อาภรณ์ชิ้นแล้วชิ้นเล่าลอยออกมาจากม่านมุ้ง วางซ้อนกันอยู่บนแท่นด้านข้างโดยตัวเอง
ภายในม่านมุ้ง ไฟรักค่อยๆ โหมกระพือ เงาร่างคนสอดประสาน ราวกับผกาที่กำลังแย้มบาน มีสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดต้อง พลิ้วไหวระเริงไปอย่างเร่าร้อนภายใต้เพลิงสวาท…
กู้ซีจิ่วหลับไปอีกครั้ง มุมปากหยักขึ้นน้อยๆ พอใจ ผ่อนคลาย อิ่มเอม
ตี้ฝูอีเอนหลังพิงหัวเตียง หลุบตามองดวงหน้าที่หลับใหลอย่างสงบของนาง ค่อนข้างใจลอยไปชั่วขณะ
ถึงอย่างไรก็เป็นการทำรักอย่างมีห่วงให้พะวง การกระทำทุกอย่างของเขาจึงอ่อนโยนยิ่งนัก เลี่ยงไม่ให้สะเทือนถึงลูกในท้องนาง ดังนั้นตี้ฝูอีจึงไม่ได้ตักตวงอย่างเต็มที่
————————————————————————————-
บทที่ 2734 ฝันร้าย
แต่ดีร้ายอย่างไรก็ได้ปลดเปลื้องไปบ้าง ว่ากันตามเหตุผลแล้ว เขาก็พอใจยิ่งนัก
เพียงแต่ พอใจก็ส่วนพอใจ ในใจเขากลับหนักอึ้งอยู่รางๆ
เนื่องจากระหว่างที่แนบชิดกันเมื่อครู่นี้ หลังจากกู้ซีจิ่วสุขสมอย่างเต็มที่แล้ว ในดวงตากระจ่างคู่นั้นปรากฏแสงสีแดงขึ้นแวบหนึ่ง
แน่นอนแสงสีแดงนั้นวาบผ่านไปเร็วยิ่ง หากมิใช่เพราะตี้ฝูอีเงยหน้ามองนางอยู่พอดี ก็คงไม่สังเกตเห็นเช่นกัน
ที่สำคัญกว่านั้นคือ ระหว่างที่เขาประกอบกิจอยู่ได้สัมผัสถึงไอมารมืดมนเล็กน้อยจากในร่างของอีกฝ่ายได้รางๆ ไอมารนั้นดูดดึงเขาเล็กน้อย เกือบทำให้เขาเสียการควบคุมแล้ว
แน่นอน นี่ก็คล้ายจะเป็นเขาหลอนไปเอง เนื่องจากต่อมาพอเขาสังเกตเห็นความผิดปกติ ก็ตรวจสอบร่างกายของนางอย่างละเอียดอีกครั้ง ทว่าไม่พบอะไรเลย
นิ้วมือของเขาละออกจากข้อมือของนาง ชีพจรปกติดี ไม่มีความผิดปกติ
เขายกมือขึ้นมามองดูนิ้วมือของตน เป็นเขาอ่อนไหวไปหรือ?
เขาไม่สบายใจ จึงอาศัยช่วงที่นางหลับใหลผ่อนคลายที่สุด แล้วใช้พลังวิญญาณตรวจสอบทั่วทั้งร่างของนางอีกครั้ง ชีพจรทุกชุ่นล้วนกวาดผ่านทั้งสิ้น ยังคงไม่พบอะไรเช่นเคย
….
กู้ซีจิ่วสะดุ้งตื่นขึ้นมา!
เมื่อครู่เธอฝันไป ในฝันเธอเดินอยู่ภายในม่านหมอกสีชมพูอ่อนผืนหนึ่ง ภายในม่านหมอกมีเสียงเด็กร้องไห้แว่วอยู่รางๆ
เธอมุ่งไปตามเสียงนั้นตามสัญชาตญาณ ในที่สุดก็พบทารกหญิงคนหนึ่งอยู่ในซอกมุมหนึ่ง
ทารกคนนั้นดูอายุราวไม่กี่เดือน ขาวผ่องเป็นยองใย แขนขาน้อยๆ ขาวอวบดั่งรากบัว งดงามอย่างยิ่ง
เด็กคนนั้นกำลังร้องไห้อยู่ตรงนั้น ร้องไห้จนทำให้หัวใจของกู้ซีจิ่วอึดอัดขึ้นมา
เธออดเดินเข้าไปหาไม่ได้ คิดจะอุ้มเด็กคนนั้นขึ้นมา แต่ตอนที่มือกำลังจะแตะถูกผิวกายของทารกหญิง จู่ๆ ก็พบว่ารอบกายของนางมีไอทมิฬจางๆ พัวพันอยู่!
เธอสะดุ้งโหยง มือพลันแข็งทื่อ มองละเอียดทันที พบว่าไอทมิฬนั้นพัวพันอยู่ที่ทารกคนนั้นอย่างเหนียวแน่น ทำให้ทารกน้อยค่อนข้างหายใจไม่ออก ดังนั้นนางถึงได้ร้องงอแงอย่างหนักเช่นนี้
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว จรดนิ้วร่ายอาคม คิดจะช่วยขจัดไอทมิฬไปจากหนูน้อยตามสัญชาตญาณ กลับคาดไม่ถึงว่าเธอเพิ่งจะร่ายอาคมควบรวมขึ้นกลางฝ่ามือ ไอทมิฬบนร่างของหนูน้อยก็ราวกับมีชีวิตขึ้นมา แปลงเป็นอสรพิษ มุดเข้าไปในร่างของทารกหญิง หายวับไปในพริบตา
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน
เธออุ้มทารกน้อยขึ้นมาทันที คิดจะตรวจสอบดูให้ดี ทารกคนนั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาในอ้อมแขนของเธอ ปากน้อยๆ อ้าขึ้นมา เปล่งเสียงไม่กี่คำ “ท่านแม่ ช่วยลูกด้วย…”
กู้ซีจิ่วผงะไป ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใด ดวงตาดำขลับเหมือนผลองุ่นของเด็กคนนั้นพลันมีแสงสีแดงสาดออกมา ริมฝีปากน้อยๆ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงสด เขายิ้มแวบหนึ่ง “ท่านแม่…”
รอยยิ้มนั้นอึมครึมมืดมนอย่างน่าประหลาด ราวกับมารร้าย กู้ซีจิ่วสะดุ้งโหยง ร้องอ๊าคราหนึ่ง สะดุ้งตื่นทันที!
ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น ถึงได้พบว่าตนเองยังคงอยู่ในห้องนอน ไหนเลยจะมีทารกหญิงอันใดอยู่?
หัวใจเธอเต้นตุบๆ ขึ้นมา บนร่างมีเหงื่อผุดออกมาชั้นหนึ่ง
“เป็นอะไร? ฝันร้ายหรือ?” ตี้ฝูอียกมือลูบหน้าผากของนาง
กู้ซีจิ่วสูดหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง พยักหน้านิดๆ
“ฝันว่าอะไร?”
กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง ตอนนี้ในสมองของเธอขาวโพลนไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าจะลืมความฝันนั้นไปแล้ว
เพียงรู้สึกได้รางๆ ว่าฝันถึงเด็กคนหนึ่ง เด็กคนนั้นงดงามยิ่งนัก เรียกเธอว่าท่านแม่…
เด็กที่เรียกเธอว่าท่านแม่ เธอจำได้แค่คนเดียวเท่านั้น
…เฮ่าเอ๋อร์
“คล้ายว่าข้าจะฝันถึงเฮ่าเอ๋อร์…”
“ฝันถึงเขาว่าอย่างไร?”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “ลืมแล้ว เพียงจดจำได้รางๆ ว่าเป็นฝันร้าย…”
กล่าวมาถึงตรงนี้เธอก็ค่อนข้างกังวลขึ้นมา “จะว่าไป ไม่รู้ว่าเฮ่าเอ๋อร์เป็นยังไงบ้าง? คงมิใช่ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นกับเขากระมัง?!”
————————————————————————————-