บทที่ 2739 ช่วยผู้ใดกัน?
ดังนั้นนางจึงฝืนข่มกลั้นอารมณ์ไม่ลงมือปองร้ายตี้เฮ่าเอาไว้ตลอด แต่ก็รังเกียจเด็กน้อยคนนี้อย่างสุดขีดจริงๆ ตลอดทางมานี้แทบไม่เคยเอ่ยวาจากับตี้เฮ่าเลย
ส่วนเสี่ยวตี้เฮ่าก็ประหลาดเช่นกัน วอแวแต่กับอวิ๋นเยียนหลี ไม่สนใจไยดีหมิงเตี๋ยเลย
บางครั้งอวิ๋นเยียนมีธุระ อยากให้หมิงเตี๋ยช่วยดูแลตี้เฮ่าสักหน่อย ตี้เฮ่าก็ไม่ยอมไปหานางเลย สายตาที่มองหมิงเตี๋ยก็เย็นชานัก ถึงขั้นที่แฝงแววรังเกียจอยู่รางๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตี้เฮ่ากับหมิงเตี๋ยจึงไม่ถูกกันยิ่งนัก ต่างฝ่ายต่างมองกันอย่างรังเกียจ
นี่ทำให้อวิ๋นเยียนหลีปวดหัวอย่างยิ่ง แต่ในใจยังคงมีความปีติยินดีที่เป็นที่ต้องการอยู่
ถึงอย่างเสี่ยวตี้เฮ่าก็เป็นลูกของกู้ซีจิ่ว สำหรับเขาแล้วการที่ลูกของนางมาเกาะติดพึ่งพาตนเช่นนี้ ก็เป็นการปลอบใจอย่างหนึ่ง กลับนึกไม่ถึงเลยว่าเด็กคนนี้จะมีแผนการซ่อนเร้นอย่างชัดเจน…
เพียงแต่เขายังคงฉงนอยู่บ้าง มองตี้เฮ่าอย่างเยือกเย็น “แท้จริงแล้วเจ้าวางแผนอันใดต่อข้า? หากว่าเจ้าต้องการครึ่งหัวใจของพญาเจียวจริงๆ เจ้ารบเร้าบิดาของเจ้ามา ด้วยฝีมือของเขาเชื่อว่าต้องสำเร็จแน่”
ไยต้องสร้างความอยุติธรรมให้ตัวเองด้วยการมาทำตัวน่าเอ็นดูอยู่ข้างกายของเขาด้วยเล่า?
ตี้เฮ่าเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มนิดๆ “พญาเจียวตัวนี้บำเพ็ญมาแสนปีแล้ว ไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต บำเพ็ญเพียรตามวิถีเซียน จะเอาหัวใจนี้ก็ต้องทำให้มันยินยอมมอบให้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง ไม่อาจสังหารมันหรือข่มขู่มันได้ มิเช่นนั้นจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
อวิ๋นเยียนหลีนิ่งไปแวบหนึ่ง
“ครึ่งหัวใจนี้มีประโยชน์อย่างไร?”
“หัวใจนี้สามารถชำระล้างไอมารชั่วร้ายทุกอย่างได้” ตี้เฮ่าก็ไม่ปิดบัง
“เจ้าบอกว่าจะเอามันไปช่วยคน ช่วยผู้ใดกัน?”
ตี้เฮ่าสูดหายใจแผ่วๆ เห็นแก่ที่อวิ๋นเยียนหลีที่มีส่วนช่วยให้เขาได้หัวใจมา จึงยังคงบอกไปตามความจริง “ญาติสนิทคนหนึ่งของข้า”
“ญาติสนิทของเจ้า? ใคร?” อวิ๋นเยียนหลีขมวดคิ้ว
ครั้งนี้ตี้เฮ่าเพียงยิ้มแย้มไม่เอ่ยวาจา
เห็นทีจะเป็นลิขิตสวรรค์อีกแล้ว!
อวิ๋นเยียนหลีหัวเราะหยันคราหนึ่ง เขาเอ่ยวาจาอีก หันหลังก้าวจากไป
เมื่อครู่ได้เห็นเด็กคนนี้ประมือกับพญาเจียวแล้ว วรยุทธ์เช่นนี้ท่องไปทั่วทวีปนี้ได้อย่างไร้ปัญหา! มีแต่เขาที่มองเขาเป็นเด็กน้อยจอมซนจึงปกป้องดูแลอย่างจริงจังดั่งคนโง่เขลา ตอนนี้เจ้าเด็กนี่ได้สิ่งที่ตนต้องการแล้ว ย่อมไม่ต้องการให้เขาปกป้องแล้ว
ตี้เฮ่าสูดหายใจเบาๆ ก้าวตามมาเล็กน้อย “เจ้าจะไปไหน?”
อวิ๋นเยียนหลีไม่แม้แต่จะหันกลับไป ย่อมไม่เอ่ยตอบด้วย
ตี้เฮ่าถอนหายใจ ทราบว่าตนล่วงเกินอีกฝ่ายลึกล้ำเกินไปแล้ว เขาหลุบตาลงนิดๆ ยังคงเปล่งเสียงเอ่ยวาจาไล่หลังอวิ๋นเยียนหลีไป “อยู่ให้ห่างจากหมิงเตี๋ยคนนั้นหน่อย นางไม่คู่ควรกับเจ้า หาไม่แล้ววันหน้าเจ้าจะต้องทุกข์ทรมาน!”
อวิ๋นเยียนหลีร้องเฮอะคราหนึ่ง ทราบว่าตี้เฮ่าไม่ถูกกับหมิงเตี๋ย เขาคร้านจะสนใจไอ้เด็กเหลือขอคนนี้แล้ว จากไปในชั่วพริบตา
หมิงเตี๋ยเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ต่อเขาที่สุด จงรักภักดีต่อเขา ตอนนี้นางถูกพญาเจียวซัดปลิวออกไป เขาย่อมต้องไปตามหานาง
ตี้เฮ่ามองเงาหลังของเขาหายลับไป ส่ายหัวนิดๆ อวิ๋นเยียนหลียังคงใจอ่อนไปหน่อยไม่เด็ดขาดพอ ส่วนหมิงเตี๋ยก็เป็นด่านเคราะห์ใหญ่ต่อชีวิตในอนาคตของเขา…
ตี้เฮ่าหลุบตาลงนิดๆ เห็นแก่ที่ครั้งนี้อวิ๋นเยียนหลีมีส่วนช่วยเหลือตนจริงๆ บางทีเขาสมควรจะช่วยเหลืออวิ๋นเยียนหลีสักหนกระมัง?
เจตนาสังหารพาดผ่านนัยน์ตาเขาแวบหนึ่ง…
….
ตอนที่ตี้เฮ่าพบตัวหมิงเตี๋ย หมิงเตี๋ยถูกซัดจนสลบไปแล้ว ล้มลงระหว่างพฤกษาใหญ่สองต้น นอนอยู่ใต้โขดหิน
ถึงอย่างไรนางก็มีสังขารเซียน ถูกซัดจนเป็นเช่นนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ เพียงแต่บาดเจ็บสาหัสจริงๆ ลมหายใจรวยริน ชีวิตดุจเทียนไขกลางสายลม พร้อมดับลงได้ทุกเมื่อ
ตี้เฮ่ามองนางอยู่ครู่หนึ่ง มือน้อยค่อยๆ ยกขึ้น มีแสงรุ้งผุดออกมาจากฝ่ามือ…
เขาไม่ชอบลงมือกับสตรีเสมอมา โดยเฉพาะสตรีที่บาดเจ็บสาหัสคนหนึ่ง นี่ขัดต่อมรรคาเทพของเขา เพียงแต่เพื่อช่วยอวิ๋นเยียนหลีสักครั้ง ก็มีแต่ต้องทำเช่นนี้…
————————————————————————————-
บทที่ 2740 ข้าจะรักษาให้เจ้า
แสงรุ้งควบรวม ซัดลงไปจนเกิดเสียงดังฟุ่บ!
หากว่าแสงรุ่งนี้ซัดลงบนร่างของหมิงเตี๋ย อย่าว่าแต่นางที่ใกล้จะตายแล้วเลย ต่อให้นางกระโดดโลดเต้นอย่างมีชีวิตชีวา ก็ต้องถูกซัดตายอยู่ดี!
‘เปรี้ยง!’ ไม่ทราบว่าสายฟ้าเส้นหนึ่งโผล่มาจากไหน เข้าปะทะกับแสงรุ้งที่ตี้เฮ่าซัดออกมา เสียงลำแสงสองสายพุ่งปะทะกันดังสะท้านสะเทือน ทำให้แผ่นดินโยกไปสามครา
หมิงเตี๋ยที่นอนอยู่บนพื้นถูกสะเทือนจนกลิ้งไปสองตลบ เลือดไหลกลบปากกลบจมูก หายใจถี่กระชั้นขึ้น
ตี้เฮ่าก็ถูกสะเทือนจนเซถอยหลังไปก้าวหนึ่งทันที เลือดลมเขาพลุ่งพล่านอย่างยิ่ง สูดหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง ดวงหน้าน้อยๆ ซีดเผือด
อัสนีสวรรค์!
สิ่งที่ขัดขวางเขาคืออัสนีสวรรค์ ยามนี้บนฟ้ามีเมฆาดำทะมึน สายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งแปลบปลายอยู่ในก้อนเมฆ พร้อมจะผ่าลงมาขัดขวางเขาอีกครั้งได้ทุกเมื่อ
เขารู้ว่าอัสนีสวรรค์สายนั้นคือคำเตือน หากว่าเขายังดื้อดึงอีก เกรงว่าจะเรียกทัณฑ์อัสนีมาเสียแล้ว!
เขาพลันหรี่ตา ไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง ยกมือขึ้นหมายจะทำอันใดอีก จู่ๆ เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น “ตี้เฮ่า เจ้าจะทำอะไร?!”
วาจาเปล่งคนถึง อวิ๋นเยียนหลีร่อนลงมาจากอากาศ ขวางอยู่ด้านหน้าหมิงเตี๋ย
เวรกรรม!
ตี้เฮ่าลอบถอนหายใจ เขาเชิดดวงหน้าน้อยๆ มองอวิ๋นเยียนหลีแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเฉยชา “อวิ๋นเยียนหลี หมิงเตี๋ยมิใช่คู่ครองของเจ้า พึงปฏิบัติต่อนางด้วยความระวัง อย่าปล่อยให้นางกลายเป็นเคราะห์ภัยในชีวิตของเจ้าได้”
อวิ๋นเยียนหลีตะลึงงัน…
ท่าทางของตี้เฮ่าในยามนี้ไหนเลยจะเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง? กลับเหมือนเทพองค์หนึ่งที่ทอดมองแดนมนุษย์…
ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมา เขาขมวดคิ้วนิดๆ หมายจะเอ่ยอันใด ตี้เฮ่าก็หันหลังจากไปแล้ว
อวิ๋นเยียนหลีตื่นตะลึงไปชั่วขณะ รู้สึกเพียงว่าเด็กคนนี้พิศวงลึกลับอย่างยิ่ง…
ไม่เพียงแต่ตามหาหมิงเตี๋ยที่กระเด็นออกมาไกลแล้วยังพบก่อนเขาเท่านั้น คำพูดคำจาก็ชวนให้คนสับสนงงงวยเช่นนี้ด้วย…
เป็นเพราะเขาไม่ถูกกับหมิงเตี๋ยถึงได้เอ่ยเช่นนี้? หรือว่าเขาจะหยั่งรู้อันใดล่วงหน้า?
ขณะที่อวิ๋นเยียนหลีค่อนข้างใจลอยอยู่ หมิงเตี๋ยที่นอนอยู่ด้านข้างก็ฟื้นขึ้นมาคราง ‘อืออา’ คราหนึ่ง เมื่อเห็นอวิ๋นเยียนหลีดวงตาก็ส่องประกาย “นาย…นายท่าน! โชคดี…โชคดีที่ท่านปลอดภัย…”
อวิ๋นเยียนหลีถอนหายใจเบาๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หมิงเตี๋ยเป็นลูกน้องที่ภักดีต่อเขาที่สุด เป็นเพียงคนเดียวในโลกที่ใส่ใจเขาอย่างแท้จริงๆ เขาไม่อาจทอดทิ้งหมางเมินนางได้!
เขาพยุงหมิงเตี๋ยขึ้นมา “นั่งดีๆ ข้าจะรักษาให้เจ้า”
หมิงเตี๋ยกะปลกกะเปลี้ยนั่งแทบไม่อยู่แล้ว แต่นัยน์ตากลับเจิดจ้า นางพยายามทำให้ตัวเองนั่งอย่างมั่นคง พริ้มตาลงสัมผัสรับพลังวิญญาณของอวิ๋นเยียนหลีที่ถ่ายทอดเข้าสู่แผ่นหลังของนาง พลังวิญญาณอันอบอุ่น ทำให้โลหิตที่เฉาโรยราของนางค่อยๆ ฟื้นฟูสู่ความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง และทำให้นางมองเห็นความหวังยิ่งขึ้น…
หลายวันมานี้อวิ๋นเยียนหลีปฏิบัติต่อนางอย่างเย็นชาเสมอมา แทบไม่คุยกับนางเลย คล้ายจะรังเกียจว่านางไม่สมควรตามมาจากแดนอสุรา…
เรื่องนี้ทำให้หัวใจของนางทั้งหนาวยะเยือกทั้งสิ้นหวัง แต่นางไม่ยอมแพ้เลย ยิ่งไม่ได้ก็ยิ่งต้องการ ดังนั้นจึงติดตามอยู่ข้างกายของเขาโดยไม่สนใจสีหน้าเย็นชาของอวิ๋นเยียนหลี ยังคงซื่อสัตย์ภักดีต่อเขา คิดหาทางปกป้องเขาให้ปลอดภัย ปรนนิบัติเขาทุกอย่าง
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายสนใจตนก่อนแล้ว! ซ้ำยังสละพลังวิญญาณมารักษาให้นางด้วย
บางทีนี่อาจจะเป็นนิมิตหมายอันดี เขาก็ใช่ว่าจะไร้เยื่อใยกับนางไปเสียหมด…
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม อาการบาดเจ็บหายดี อวิ๋นเยียนหลีชักมือกลับ ขณะที่กำลังจะยืนขึ้น จู่ๆ ร่างหมิงเตี๋ยก็ส่ายโงนเงน กระอักโลหิตคำหนึ่งออกมาเสียงดังพรวด! ร่างกายโอนเอน หงายหลังไป
อวิ๋นเยียนหลีพลันสะบัดแขนเสื้อ พยุงนางไว้ “ยังไม่ดีขึ้นหรือ?”
หมิงเตี๋ยพิงอกเขาสีหน้าซีดขาว “ข้า…ข้าน้อยทรมานยิ่ง…”