หลิงตู้ฉิงยิ้มให้กับหญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ในระหว่างที่ถือยันต์สั่งสวรรค์อยู่ในมือ
แต่ในตอนนี้รอยยิ้มของเขาไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วที่มันเคยดู ‘แข็งทื่อ’ หรือ ‘แสร้งทำ’ ตอนนี้มันคือรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นสมบูรณ์แบบที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “นับจากนี้ดีกับข้าให้มาก ๆ ด้วยล่ะ!”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “แน่นอน ๆ แต่ข้าอยากให้ตัวของเจ้ามาอยู่ตรงนี้ด้วยจริง ๆ!”
หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์พ่นลมออกจมูก และพูดว่า “ทำไม? สภาพตอนนี้ของข้ามันไม่น่าดูมากนักเหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น!” หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ข้าแค่อยากเจอตัวของเจ้าจริง ๆ เท่านั้นเอง”
หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ยิ้ม “มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ร่างแท้จริงของข้าจะมาหาเจ้าในเวลานี้ เอาเป็นว่ารอเวลาให้ทุกอย่างพร้อมก่อนพวกเราค่อยเจอกัน เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าจงไปทักทายเหล่าภรรยาและลูก ๆ ของเจ้าได้แล้ว พวกเขาทุกคนกำลังเฝ้ารอเจ้าอยู่!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะ จากนั้นเขาก็ม้วนเก็บยันต์สั่งสวรรค์ แต่แล้วเมื่อเขาเหลือบไปเห็นจี้หยก 2 ชิ้นที่เขาแขวนติดเอวเอาไว้มันยังคงส่องประกายออกมาเป็นรูปมังกรและฟีนิกซ์ เขาก็ส่ายหัวด้วยสีหน้าขมขื่น
เนื่องจากสถานะของเขาตอนนี้ หากต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของจี้หยกทั้งสองชิ้นที่เขารู้แล้วว่าแท้จริงเจ้าของเป็นใคร มันจะทำให้เขาต้องรู้สึกกระอักกระอ่วน
แต่เมื่อเขาคิดทบทวนอยู่ได้สักพักและปลงตกว่าในท้ายที่สุดเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของจี้หยกทั้งสองอยู่ดี ดังนั้นเขาจึงหยิบจี้หยกขึ้นมาและชี้นิ้วส่งพลังวิญญาณไปที่พวกมัน
เมื่อได้รับพลังวิญญาณจากหลิงตู้ฉิง จี้หยกทั้งสองที่เคยส่องประกายรูปมังกรและฟีนิกซ์ก็ฉายภาพ ชาย หญิง คู่หนึ่ง
ชายหญิงทั้งสองนี้ไม่ใช่ใครอื่น พวกเขาคน ๆ เดียวกับที่อยู่ในตำหนักไร้หทัยนั่นเอง!
ในตอนนี้ทางด้านของชายหญิงที่ถูกฉายภาพ เมื่อพวกเขาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงรู้เรื่องแล้วพวกเขาก็ได้แต่เผยรอยยิ้มอันกระอักกระอ่วน
ชายหนุ่มเป็นผู้เอ่ยขึ้นก่อน “อาจารย์ 3,000 ปีก่อนตอนที่ท่านร่วงหล่น พวกเราทั้งสามไม่ฟังคำสั่งของท่าน โปรดให้อภัยพวกเราด้วย!”
“ในตอนนั้นที่พวกเราเห็นสภาพของท่าน พวกเราไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปและรู้สึกกลัวมากจริง ๆ พวกเราเลยถือวิสาสะพาท่านไปเกิดใหม่ที่โลกเบื้องล่าง พวกเราไม่กล้าให้ท่านเกิดใหม่ที่โลกเบื้องบนเพราะว่าที่นี่มันมีแต่ภัยอันตรายที่มากมายกว่า”
“ส่วนบรรดาเด็ก ๆ ที่อยู่ข้างกายของท่านนั้นเป็นพวกเราที่ลักพาตัวมาจาก ตำหนักเต๋าสวรรค์ เผ่าเงามายา ตำหนักมังกร เทพแห่งมิติ ตระกูลมหาจักรพรรดิสูงสุดแห่งมวลมนุษย์ และสุดท้าย ฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเราลักพาตัวพวกเขามาก็เพราะว่าพวกเราเห็นว่าท่านอาจารย์ได้เปลี่ยนแปลงเส้นทางการดำเนินชีวิตไป หากในตอนนี้ท่านลองนึกทบทวนควาทรงจำที่น่าจะถูกคลายออกทั้งหมดแล้วอีกรอบ ท่านน่าจะเข้าใจได้ด้วยตัวเอง”
“ส่วนผนึกของทะเลชางหมางนั้น เป็นพวกเราสามคนเองที่เป็นคนผนึกเอาไว้ พวกเราสร้างผนึกนี้เอาไว้ก็เพื่อปกป้องท่านและรอจนกว่าท่านจะพร้อมเผชิญกับอันตรายจริง ๆ ผนึกมันถึงจะคลายออก ส่วนเรื่องอื่นนั้น…”
หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างรีบเอ่ยขึ้นแทรกทันที “ตอนนี้ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าข้าจะเรียกท่านว่าท่านอาจารย์หรือว่าลูกดี แต่จู่ ๆ มันกลับกลายเป็นว่าท่านดันมาถือกำเนิดในครรถ์ของข้า ซึ่งข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ดังนั้นทั้งข้าและศิษย์พี่จึงไม่มีทางเลือกนอกจากส่งท่านลงไปที่โลกเบื้องล่าง จากนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อมาก็เป็นไปตามที่ศิษย์พี่ได้เล่าให้ท่านฟังไปเมื่อครู่ แต่ในส่วนของเรื่องอื่น ๆ นอกจากนี้พวกเราค่อยมาคุยกันอีกทีหลังจากที่ท่านกลับขึ้นมาที่ตำหนักไร้หทัยก็แล้วกัน”
หลิงตู้ฉิง เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนมากเช่นกัน เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อนหน้านี้เลยว่าแท้จริงแล้วพ่อแม่ของเขาในชีวิตนี้กลับกลายเป็นศิษย์ในชีวิตที่แล้วของเขาเอง!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแหงนหน้ามองท้องฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้มันน่าจะถูกคนที่อยู่เบื้องบนนั้นจัดฉากขึ้นแน่นอน!
สิ่งนี้มันน่าจะเป็นการล้างแค้น!
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวพลางถอนหายใจ “มันเป็นเพราะตัวตนของข้าที่ทำให้การแต่งงานของพวกเจ้าต้องรั้งรอมาถึง 70,000 ปี และที่สำคัญจริง ๆ แล้วข้าเองก็ไม่ได้สอนอะไรพวกเจ้ามากมายนัก มันถือได้ว่าข้าเป็นเพียงอาจารย์ของเจ้าแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ซึ่งศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า ต้วนฉิง ยังมีคุณสมบัติมากกว่าข้าด้วยซ้ำที่จะเป็นอาจารย์ของพวกเจ้า”
“ดังนั้นในเมื่อข้าก็ไม่สมบูรณ์พร้อมที่จะเป็นอาจารย์ของพวกเจ้ามาตั้งแต่แรกและบวกกับที่ข้าเองก็ถือว่าเป็นหนี้บุญคุณของพวกเจ้าเป็นอย่างมากในชีวิตนี้ ฉะนั้นจากนี้ไปข้าจะถือว่าพวกเจ้าทั้งคู่เป็นพ่อและแม่ของข้าก็แล้วกัน! ส่วนเรื่องอื่น ๆ ไว้เจอหน้ากันแล้วค่อยคุยกันอีกที!”
หลิงตู้ฉิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะใช้วิธีนี้ในการแก้ปัญหา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทางด้านของชายหนุ่มก็ยิ้มด้วยความขมขื่นส่วนทางด้านของหญิงสาวนางหลุดหัวเราะออกมาและพูดว่า “ถ้างั้นนับจากนี้ไปข้าจะไม่เรียกท่านว่าอาจารย์แล้วนะ!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าด้วยสีหน้าขมขื่นและกระอักกระอ่วน “ก็แล้วแต่ท่านเถอะท่านแม่! เอาล่ะถอนจิตสำนึกของพวกท่านออกไปให้หมดได้แล้ว ไว้เราค่อยคุยกันใหม่เมื่อเจอหน้ากันอีกที!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ภาพร่างของชายหญิงพยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็หายไปในทันที
ด้านในท้องพระโรงของตำหนักไร้หทัย ในตอนนี้ชายหญิงทั้งสามกำลังนั่งมองหน้ากันด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนแต่มีความสุข
ส่วนทางด้านของคฤหาสน์สราญรมย์ เมื่อภาพร่างของคู่ชายหญิงหายไป ผนึกปริศนาที่ปกคลุมทั้งคฤหาสน์เอาไว้ก็หายไปเช่นกัน
หลิงตู้ฉิงเดินออกไปหาครอบครัวของเขาทันที ส่วนทางด้านของสมาชิกของครอบครัวเขาที่เห็นสีหน้าของหลิงตู้ฉิงแปลกไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะทักทายเขายังไง
หลิงตู้ฉิงหัวเราะและพูดว่า “ทำไมพวกเจ้าทั้งหมดต้องทำหน้าตาอึ้งกันแบบนั้น? หลายปีที่ผ่านมาพวกเจ้าคงลำบากกันมากเลยใช่ไหม?”
ท่าทีเช่นนี้ของหลิงตู้ฉิง มันยิ่งทำให้บรรดาคนในครอบครัวของเขารู้สึกตกตะลึงมากกันไปใหญ่
ในอดีต หลิงตู้ฉิงไม่เคยพูดกับพวกเขาแบบนี้เลยสักครั้ง
แต่ไม่ว่าจะยังไงพวกเขาก็รู้สึกว่าพวกเขาชอบการที่หลิงตู้ฉิงเป็นแบบนี้มากกว่า มันรู้สึกดูอบอุ่นมากกว่าแต่ก่อนนัก
“สามีนี่ท่านไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?” จ้าวเหมิงลู่เป็นคนแรกที่เดินเข้ามาและสำรวจตามร่างกายของหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงกอดนางเอาไว้ในทันทีพร้อมกับหัวเราะและพูดว่า “แน่นอนข้าสบายดี หลายปีที่ผ่านมาพวกเจ้าคงทุกข์ใจกันมามาก แต่ตอนนี้พวกเจ้าวางใจได้เลยข้าไม่เป็นอะไรแล้ว อ๋อใช่ ข้าจำได้ว่าข้ามีหลานแล้วนี่นา ไหนส่งเขามาให้ข้าอุ้มหน่อยเร็ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หมิงจู้จึงเดินไปหาหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้างุนงง และส่งลูกของนางที่อยู่ในอ้อมแขนให้กับหลิงตู้ฉิง
เนื่องจากบุคลิกที่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ของหลิงตู้ฉิง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดีใจแต่พวกเขาก็ยังคงไม่ค่อยจะชินสักเท่าไหร่
แต่แล้วในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาก็เริ่มปรับตัวได้และบรรยากาศในครอบครัวก็กลายเป็นมีชีวิตชีวามากขึ้น
ก่อนหน้านี้ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อหลิงตู้ฉิงนั้นมีเพียงแค่ความเคารพและน่าทึ่ง แต่ในตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดและอบอุ่นใจ
หลิงตู้ฉิงอุ้มหลานชายของเขาที่มีนามว่า หลิงเจิ้นฮุย เอาไว้ในวงแขน จากนั้นเขาพูดกับทุกคนว่า “พวกเจ้าทุกคนคงมีคำถามมากมาย หลังจากนี้ข้าจะไปหาพวกเจ้าทุกคนและจะตอบคำถามทุกอย่างที่พวกเจ้าอยากรู้ อ๋อ การเดินทางก่อนหน้านี้ที่ข้าได้ออกไปข้าได้รับสมบัติมามากมายที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเจ้าทุกคนเยอะเชียวล่ะ เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวข้าจะมอบพวกมันให้กับพวกเจ้า ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนแยกย้ายกันกลับไปที่เรือนของตัวเองก่อน เดี๋ยวข้าจะไปหาพวกเจ้าทีละคนหลังจากนี้”
“ส่วนชาน เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรกับพลังสายเลือดของเจ้าที่ถูกขโมยไป พ่อจะช่วยทำให้เจ้ากลับมาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน ซึ่งในอนาคตเจ้าจะสามารถคิดบัญชีกับตระกูลเทียนด้วยตัวเองได้อย่างแน่นอน ขอเพียงเจ้าตั้งใจฝึกฝนให้หนัก!”
ถึงแม้ว่าบุคลิกของเขาจะเปลี่ยนไป แต่หลักการของหลิงตู้ฉิงยังเป็นเช่นเดิม
ผู้ใดที่ติดค้างอะไรเขาไว้ เขาจะต้องเอาคืนให้สาสม!