บทที่ 713 เจ้าอยากตายอย่างไร

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 713 เจ้าอยากตายอย่างไร

ชายอ้วนหยุดเล็กน้อยคล้ายจะคิดบางอย่าง ก่อนที่เขาจะพูด “แล้วหากเจ้าเข้ารับตำแหน่งแทนเขาไปเสีย ทุกอย่างก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น และข้าก็จะแกล้งหลับตาทำไม่รู้ไม่เห็น ปล่อยให้เจ้าดูแลเมืองนี้ไปตามสบาย เจ้าจะทำสิ่งใดก็ทำไป”

หลินเป่ยเฉินมองหน้าชายอ้วนผ่านแว่นกันแดดในความเงียบ

คนวิกลจริต!

คนผู้นี้สติวิปลาสอย่างแท้จริง!

บัดนี้ เด็กหนุ่มเข้าใจทุกอย่างแล้ว

ชายอ้วนผู้นี้ไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาจะสามารถสังหารเกาเฉิงฮั่นได้สำเร็จหรือไม่

เป้าหมายที่แท้จริงของเหลียงหยวนเตาคือการทำให้หลินเป่ยเฉินกับเกาเฉิงฮั่นตายไปพร้อมกันต่างหาก

การที่ในเมืองมีผู้มีพลังระดับเซียนอยู่ถึงสองคน คงทำให้เหลียงหยวนเตาพลันรู้สึกว่าตำแหน่งของตนเองไม่มั่นคงขึ้นมาอย่างกะทันหันกระมัง?

อีกอย่างคนสติวิปลาสอย่างนี้ ล้วนไม่ได้มีวิธีคิดเหมือนคนปกติอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลย….

บัดนี้ หลินเป่ยเฉินชักเริ่มเข้าใจความรู้สึกของผู้คนที่ต้องรับมือกับ ‘เด็กหนุ่มสมองเสื่อม’ อย่างเขาขึ้นมาแล้วเช่นกัน

น่าปวดหัวจริงๆ

“หึหึ ข้าคงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับข้อเสนอของท่าน”

หลินเป่ยเฉินถอนหายใจ พูดด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจเท่าใดนัก จากนั้นจึงกล่าวย้ำหนักแน่น “แต่ท่านรู้ใช่ไหมว่าข้ารับความกดดันไม่ค่อยได้ หากข้าเจอกับความกดดันมากเกินไป สมองของข้าจะทำงานผิดปกติ และข้าก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้น ท่านอย่าทำร้ายความรู้สึกข้าเลยนะ หากไต้จือฉุนผมร่วงแม้แต่เส้นเดียว ข้าจะหั่นร่างท่านเป็นชิ้นๆ แม้แต่ไขมันสักก้อน… ก็จะเผาไฟไม่ให้เหลือ”

“เจ้าทำให้ข้ากลัวแล้วนะเนี่ย”

เหลียงหยวนเตาพูด “ข้าเคยแต่ข่มขู่ผู้อื่นเสมอมา ทว่าไม่เคยมีใครข่มขู่ข้าเช่นนี้มาก่อน …ไม่มี”

หลินเป่ยเฉินเค้นเสียงพูดออกมาจากในลำคอว่า “ท่านก็คงเห็นแล้วว่าแรงระเบิดนอกกำแพงเมืองมันรุนแรงแค่ไหน หากข้าเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นจวนผู้ว่าบ้าง ทุกคนก็จะต้องตายไปด้วยกันทั้งหมด อีกอย่าง ข้ายังมีอีกหนึ่งวิชาที่ไม่เคยใช้มาก่อน ดังนั้น ได้โปรดเชื่อข้าเถอะว่ามันคงไม่เป็นผลดีกับใครเลย ข้าสามารถทำให้มณฑลเฟิงอวี่หายวับไปจากโลกนี้ได้ในพริบตา แม้ว่ามันมีราคาที่ต้องจ่ายแพงมากก็ตาม”

เด็กหนุ่มไม่ได้พูดเล่น

ถ้ากดดันเขามากเกินไปนัก หลินเป่ยเฉินก็จะซื้อระเบิดนิวเคลียร์ลูกเล็กจากแอป Taobao มาระเบิดมณฑลแห่งนี้ให้แหลกกระจุยไปเลย

แม้ว่าคะแนนผู้ซื้อของเขาในปัจจุบันจะยังไม่มากพอให้ซื้อระเบิดนิวเคลียร์ได้ก็ตาม แต่เมื่อรวบรวมทรัพย์สินของบรรดาเหล่าเศรษฐีในนครเจาฮุยแล้ว หลินเป่ยเฉินผู้ตกอยู่ในสภาพสุนัขจนตรอกก็สามารถทำได้ทุกอย่างทั้งนั้น

เหลียงหยวนเตารู้สึกได้ถึงความอันตรายที่คุกคามเข้ามา

เขาสัมผัสได้ถึงความบ้าคลั่งในน้ำเสียงของหลินเป่ยเฉินอย่างชัดเจน

“ตกลง ถ้าเจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ข้าก็จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น”

เหลียงหยวนเตามีน้ำเสียงหนักแน่นจริงจังมากกว่าเดิม

หลินเป่ยเฉินจุดบุหรี่มวนใหม่อีกครั้ง “เห็นท่านรับประทานแต่ของมันขนาดนี้ ข้าล่ะอยากรู้เหลือเกินว่าท่านมีความดันโลหิตสูงเท่าไหร่?”

“ความดันโลหิต?”

เหลียงหยวนเตาขมวดคิ้วด้วยความฉงน “มันคืออะไร?”

หลินเป่ยเฉินลุกขึ้นยืน พูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก… จริงด้วยสิ เมื่อวันก่อนข้ามีเรื่องทะเลาะกับหนึ่งในบุตรชายของท่าน ท่านจะไม่พูดถึงเรื่องนี้สักหน่อยหรือ?”

ทันใดนั้น เหลียงหยวนเตาระเบิดเสียงหัวเราะฮ่าฮ่ากล่าวว่า “ข้าจะต้องไปสนใจเรื่องเล็กน้อยอย่างนั้นทำไม ข้ามีลูกชายนับไม่ถ้วน และอยากจะมีอีกเมื่อไหร่ก็ได้ สูญเสียไปสักคนสองคนจะเป็นอันใด? อีกอย่าง แม้แต่เนื้อบุตรชายของตนเอง ข้าก็เคยรับประทานมาแล้ว แต่มันไม่อร่อยเอาเสียเลย ไม่เห็นแตกต่างจากเนื้อของคนทั่วไปตรงไหน ช่างน่าผิดหวังจริงๆ”

โลกนี้จะมีใครโรคจิตมากกว่านี้อีกไหมเนี่ย

หลินเป่ยเฉินอดสบถคำหยาบอยู่ในใจไม่ได้

หรือเหตุผลที่โทรศัพท์มือถือของเขาประเมินค่าพลังของเหลียงหยวนเตาไม่ได้ เป็นเพราะว่าชายอ้วนคนนี้ไม่ใช่มนุษย์?

แต่เป็นปีศาจอีกตัวหนึ่งที่แฝงตัวมา?

น่าจะเป็นอย่างนั้น

ไม่อย่างนั้นแล้วคนเราจะมีหน้าตาอัปลักษณ์ มีจิตใจวิปริตถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?

“หืม? อาหารของข้าเสร็จแล้วอย่างนั้นหรือ”

ดูเหมือนเหลียงหยวนเตาจะได้รับข้อความแจ้งเตือนบางอย่าง จึงพูดออกมาอย่างมีความสุข “พ่อหนุ่ม เจ้าอยากอยู่รับประทานอาหารอีกมื้อกับข้าหรือไม่?”

หลินเป่ยเฉินหมุนตัวเดินตรงไปถีบประตูห้องอย่างแรง

โครม!

ประตูหินแตกกระจายเป็นสองส่วน

หลินเป่ยเฉินเดินเอามือไขว้หลังจากไป ไม่เหลียวมองกลับมาอีกเลย

เหลียงหยวนเตาไม่สนใจ ประทับฝ่ามือลงไปบนพื้นผิวโต๊ะแผ่วเบา

แสงสว่างเป็นประกายสะท้อนขึ้นมา

แล้วหม้อไฟขนาดใหญ่ก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมาจากใต้โต๊ะอีกครั้ง

ชายอ้วนยกมือดีดนิ้ว

ฝาปิดหม้อไฟลอยกระเด็นออกไป

ทันใดนั้น สีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเหลียงหยวนเตากลับกลายเป็นตกตะลึง

เพราะว่า ‘อาหาร’ ที่ควรจะอยู่ในหม้อไฟขนาดใหญ่นั้นกลับกลายเป็นซากศพของมือปราบจากหน่วยอินทรีธูมรณะคนหนึ่ง เลือดของเขายังคงแดงสด หมายความว่ามือปราบคนนี้เพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน

“เกิดอะไรขึ้น?”

เหลียงหยวนเตาระเบิดเสียงคำรามพร้อมกับฟาดฝ่ามือลงไปบนโต๊ะอย่างแรง

โต๊ะหินขนาดใหญ่และหม้อไฟขนาดยักษ์ระเบิดกระจายกลายเป็นผุยผง

“ยังไม่รีบเข้ามาอีก!”

ชายอ้วนร้องคำรามดุร้าย

ขันทีเฒ่าปั้นหน้ายิ้มแย้มวิ่งเข้ามาคุกเข่าตัวสั่นเทาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า “นายท่าน… ข ขะ ข้าน้อย….”

“จงไปตรวจสอบดูเดี๋ยวนี้!”

เหลียงหยวนเตากระชากเสียงรุนแรงราวพายุคลุ้มคลั่งโหมกระหน่ำชายฝั่ง

“ข้าน้อยรับคำบัญชา”

ขันทีเฒ่ารับคำพร้อมหมุนตัวพลิ้วกายออกไปจากห้องในลักษณะลำแสงสายหนึ่งในพริบตา

ปรากฏว่าเขาเองก็เป็นผู้มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์เช่นกัน!

ทางเข้าตำหนักต้าหลง

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

กงกงขมวดคิ้วมองกลุ่มชายชุดเทาที่ยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างระมัดระวัง

“หลินเป่ยเฉินนับเป็นของเล่นของนายท่าน ทำให้ในขณะนี้ พวกเรายังไม่สามารถฆ่าเขาได้” ชายฉกรรจ์เสื้อสามขีดยิ้มกว้าง ความดุร้ายวิปริตปรากฏขึ้นมาในดวงตาที่เย็นชาคู่นั้น แววตาที่เขากำลังจ้องมองกงกง ไม่ต่างไปจากแววตาที่ใช้มองศพคนตายศพหนึ่งขณะกล่าวว่า

“เพราะฉะนั้น ความโกรธแค้นที่ข้ามีในตอนนี้ ก็ต้องมาระบายลงที่เจ้าคนเดียวเท่านั้น… ฮ่าฮ่าฮ่า เรามาคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เจ้าอยากตายอย่างไร? เสียโลหิตจนตายดีหรือไม่? หรือจะเป็นถูกกระบี่ฟันจนตาย ถูกสัตว์ป่ากัดกินจนตาย ถูกเผาไฟจนตาย ถูกยาพิษจนตาย… หรือว่าถูกโยนลงในหม้อต้มน้ำเดือดจนตาย?”