บทที่ 712 สรุปก็คือข้าไม่มีทางเลือก?

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 712 สรุปก็คือข้าไม่มีทางเลือก?

เหลียงหยวนเตาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังคงแทะหัวหมูต่อไปอย่างสบายอารมณ์ น้ำไขมันจากหัวหมูไหลหยดย้อยลงไปตามชั้นผิวหนัง เปรอะเปื้อนเต็มลำตัวของชายอ้วน

“พ่อหนุ่ม ทำตัวหยาบคายกับข้าเช่นนี้ถือว่าไม่ฉลาดเลยนะ” เพียงพริบตาเดียว หัวหมูในมือของเหลียงหยวนเตาก็หลงเหลือเพียงหัวกะโหลกขาวโพลน “ข้าเป็นคนที่เวลาต้องเจรจาเรื่องราวกับผู้ใด ก็มักจะศึกษาข้อมูลของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี รวมถึงศึกษาข้อมูลของบุคคลรอบตัวคนผู้นั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนที่เจ้ารักหรือเกลียดชัง… ในนครเจาฮุยแห่งนี้ เจ้ามีมิตรสหายแฝงตัวอยู่มากมาย นอกจากไต้จือฉุนแล้ว ก็ยังมีเยว่หงเซียงกับหวังซินอวี่และคนอื่นๆ อยู่อีกด้วย ดังนั้น ข้าจึงอยากให้เจ้าคิดให้ดีก่อนพูดอะไรออกมา”

หลินเป่ยเฉินชะงักงันไปอีกครั้ง

ชายอ้วนคนนี้… ชัดเจนแล้วว่าเขาคือศัตรูที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่หลินเป่ยเฉินเคยพบเจอ

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ไป๋ไห่ชินจะกลายเป็นเพียงเด็กอนุบาล ส่วนแม่ทัพฉลามอู๋หยาก็กลายเป็นเพียงลูกหมาตัวน้อยเท่านั้น

สมแล้วที่เหลียงหยวนเตามีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าเมือง

ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใด… ล้วนไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดาจิตใจของเหลียงหยวนเตาได้ทั้งสิ้น

พลัน หลินเป่ยเฉินรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย

“ถึงปกติแล้ว ข้าจะไม่ค่อยสนใจงานบริหารบ้านเมืองสักเท่าไหร่ และนั่นก็ทำให้เจ้าสามารถรังแกนายทหารของทางการได้เป็นว่าเล่น แต่ข้าก็ไม่ว่าอะไรเจ้าเลย ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เกิดข้าคิดอยากเป็นศัตรูกับใคร มันผู้นั้นก็คงต้องสำนึกเสียใจที่ถือกำเนิดเกิดมาบนโลกใบนี้แล้ว”

น้ำเสียงของเหลียงหยวนเตาแข็งกร้าว คำพูดตรงไปตรงมา ไม่มีภาษาที่สวยงามอย่างเช่นขุนนางใหญ่ผู้ปกครองมณฑลทั่วไป

ชายอ้วนยกมือเช็ดคราบไขมันบนปากและกล่าวต่อ “ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เจ้ากระทำเรื่องราวเอาไว้มากมาย บางครั้งมันก็เป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่สมควรมีจริง ฮ่าฮ่าฮ่า และการสังหารเกาเฉิงฮั่นในครั้งนี้ มันก็คือการสร้างปาฏิหาริย์ครั้งใหม่ของเจ้า ถึงมันอาจจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่ใครจะไปรู้ เจ้าอาจสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาสำเร็จอีกครั้งก็เป็นได้ จริงไหม? ฮ่าฮ่าฮ่า”

หลินเป่ยเฉินหย่อนกายนั่งลงไปบนเก้าอี้อีกครั้งอย่างช้าๆ “สิ่งใดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สิ่งนั้นไม่ใช่ปาฏิหาริย์”

เหลียงหยวนเตาถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกและขยุ้มมันเป็นผ้าเช็ดปาก ก่อนจะโยนทิ้งไปข้างโต๊ะอาหารอย่างไม่ไยดี ส่งเสียงครางอย่างสบายอารมณ์ “งู้ย คารมคมคายยิ่งนัก.. แต่เจ้าจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้หรือไม่ มันก็คือเรื่องของเจ้า ข้ามีหน้าที่เพียงมอบหมายภารกิจให้เจ้าทำเท่านั้น หากเจ้าปฏิเสธ ข้าก็คงต้องผิดหวังมากแล้ว และข้าไม่เคยปราณีกับผู้ที่ทำให้ข้าต้องผิดหวังมาก่อน”

หลินเป่ยเฉินจุดบุหรี่มวนใหม่พลางพูด “ตราบใดที่ข้าสามารถสังหารเกาเฉิงฮั่นได้สำเร็จ ท่านก็จะปล่อยตัวไต้จือฉุนกับคนอื่นๆ ใช่หรือไม่?”

เหลียงหยวนเตายกมือขึ้นนวดแก้มตัวเอง “เรื่องนั้น… ก็แล้วแต่อารมณ์ของข้านั่นแหละนะ”

หลินเป่ยเฉินใช้เวลาสูบบุหรี่หมดมวนเพียงอึดใจเดียว “ข้ามองไม่เห็นความจริงใจในการเจรจาครั้งนี้เลย”

เหลียงหยวนเตายกมือหมุนวนในอากาศ แล้วเสื้อคลุมซึ่งเป็นชุดนอนตัวใหม่ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ชายอ้วนสวมใส่เสื้อคลุมอย่างเกียจคร้านขณะกล่าวตอบ “ความจริงใจของข้าจะแสดงออกมาต่อผู้ที่คู่ควรเท่านั้น กว่าที่เจ้าจะสามารถไปอยู่ในระดับนั้นได้ เจ้าต้องพิสูจน์ตัวเองให้ข้าเห็นก่อน”

หลินเป่ยเฉินหัวเราะในลำคอ “ท่านไม่กลัวหรือว่าข้าอาจจะหักหลังท่าน นำเรื่องทั้งหมดนี้ไปแจ้งต่อเกาเฉิงฮั่นและร่วมมือกันกลับมาสังหารท่าน? อีกอย่าง พี่ใหญ่เกาก็ดีต่อข้าถึงเพียงนั้น”

“คนเราจะทำดีต่อกัน ก็ต่อเมื่อไม่มีการขัดผลประโยชน์กันเท่านั้นแหละนะ”

เหลียงหยวนเตาตบฝ่ามือลงไปบนโต๊ะเบาๆ แล้วกลไกพร้อมด้วยค่ายอาคมบนโต๊ะก็ทำงานโดยทันที บังเกิดแสงสว่างระยิบระยับขึ้นบนพื้นผิวโต๊ะ ก่อนที่หม้อไฟขนาดใหญ่จะค่อยๆ จมหายลงไปใต้โต๊ะอย่างน่ามหัศจรรย์

ชายอ้วนแสยะยิ้ม “เกาเฉิงฮั่นไม่กล้าฆ่าข้าหรอก เพราะเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งบนกระดานของราชวงศ์เท่านั้น ส่วนข้าเป็นถึงผู้ว่าการมณฑลที่ได้รับการแต่งตั้งจากองค์จักรพรรดิโดยตรง หากเขาฆ่าข้า เขาก็จะกลายเป็นกบฏแผ่นดินทันที…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า และเจ้าคงไม่รู้ว่าคนแซ่เกาผู้นี้ขี้ขลาดขนาดไหน เขาเอาแต่มุดหัวอยู่ในตัวเมืองชั้นใน ไม่ยอมมาพบเจอข้าเลยสักครั้ง เกรงว่าอีกไม่นานหลังจากนี้ อาจเป็นเขาเองก็ได้ที่จับตัวเจ้าส่งมาให้ข้าเพราะอยากได้ผลงาน”

หลินเป่ยเฉินคิดตามอยู่เล็กน้อยก็พยักหน้าเห็นด้วย “พูดจาดีมีเหตุผล ดูเหมือนข้าจะไปขอความช่วยเหลือจากพี่ใหญ่เกาไม่ได้แล้วสินะ”

เหลียงหยวนเตาพูดต่อ “ในนครเจาฮุยแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ทุกต้น ดอกไม้ทุกดอก หรือการเคลื่อนไหวของผู้คน ทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า แม้แต่เรื่องที่เจ้าขึ้นไปบนวิหารประจำเมืองข้าก็รู้เช่นกัน ดังนั้น เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากร่วมมือกับข้า และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้อีกครั้ง”

หลินเป่ยเฉินถามว่า “สรุปก็คือข้าไม่มีทางเลือก?”

เหลียงหยวนเตาส่ายหน้า “เจ้าไม่มีทางเลือกแล้ว”

หลินเป่ยเฉินกล่าว “แต่ข้ามีคำถามอยากรู้คำตอบ”

“เชิญถามมา”

เหลียงหยวนเตาฉีกยิ้มชั่วร้าย

หลินเป่ยเฉินสอบถาม “ท่านมีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองของนครเจาฮุย เมืองแห่งนี้เปรียบเสมือนฐานที่มั่นของท่าน ไม่ว่าท่านจะมีความขัดแย้งกับเกาเฉิงฮั่นหนักหนาเพียงใด แต่เขาก็ทำหน้าที่ปกป้องเมืองนี้จากการรุกรานของพวกชาวทะเล และผู้ที่มีพลังระดับเซียนหาได้ไม่ง่ายนัก เหตุไฉนท่านถึงต้องอยากฆ่าเขาด้วย? หากไม่มีเกาเฉิงฮั่นคอยดูแลการสู้รบ ชาวทะเลก็คงบุกเข้ามายึดนครเจาฮุยได้ไม่ยาก แล้วท่านจะได้ประโยชน์อันใดกับเรื่องนี้?”

เหลียงหยวนเตาขยับตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อย ตอบว่า “เรื่องนั้น… เหอเหอเหอ เรื่องมันยาว ถึงพูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจหรอก… เหตุผลแรกเป็นเพราะว่าเขาไม่ยอมให้ข้าจับตัวมนุษย์มากินเป็นอาหาร เพราะฉะนั้น จนถึงบัดนี้ข้าก็ยังไม่รู้เลยว่าเนื้อของบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงมีรสชาติเป็นอย่างไร”

หลินเป่ยเฉินท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมาทันที

“แต่เมื่อชาวทะเลบุกยึดเมืองนี้ได้สำเร็จ ท่านก็จะต้องสูญเสียทุกอย่าง”

เด็กหนุ่มว่า

เหลียงหยวนเตาหัวเราะหึๆ “แต่เมื่อเกาเฉิงฮั่นตายไปแล้ว เจ้าก็จะขึ้นรับตำแหน่งต่อจากเขา โฮะโฮะโฮะ การที่เจ้าสามารถสังหารเขาได้ มันก็คือข้อพิสูจน์ว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าเขาไม่ใช่หรือ?…”