บทที่ 2745 ทุกสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น
เขาผงะไป ก้าวเข้าไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ อยากมองให้ชัดๆ หน่อย แต่แขนเสื้อของคุนเสวี่ยอี๋ปรกลงมาแล้ว บดบังข้อมือของเขาไว้อีกครั้ง
อวิ๋นเยียนหลีนิ่งไป มองคุนเสวี่ยอี๋ที่กำลังยุ่งง่วนอยู่ เขาก็เงียบงันไปอีกครั้ง
ไอ้คุนสารเลวตัวนี้ได้รับบาดเจ็บแล้วเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยล่ะ?
เขาแค่รอให้อีกฝ่ายช่วยเหลือลูกน้องของเขาให้หายดีก็พอ
….
และที่อีกเมืองหนึ่ง ตี้เฮ่าก็ได้พักเท้าอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง
เขาเหนื่อยล้าเกินไปจริงๆ ฝืนยืนหยัดไม่ไหวอยู่บ้าง
เถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมเห็นหนูน้อยตัวขาวอวบมาเปิดห้องพักคนเดียว แทบจะไม่กล้ารับแล้ว!
โชคดีที่แม้ว่าหนูน้อยคนนี้จะยังเล็ก แต่เงินทองกลับไม่น้อยเลย โยนเงินตำลึงสีขาววาววับลงบนโต๊ะคิดเงิน ทำให้เถ้าแก่โรงเตี๊ยมหุบปากที่ต้องการจะเอ่ยถามว่าใครคือบรรพชนแปดชั่วโคตรของอีกฝ่ายลง แล้วเปิดห้องพักที่ดีที่สุดให้เขา
เดิมตี้เฮ่ามีนิสัยรักสะอาด แต่ตอนนี้เหนื่อยจนแทบไม่อยากลุก หลังจากอาบน้ำอย่างลวกๆ ก็คลานขึ้นเตียง นอนลงไปเลย
นอนก็นอนแล้ว ทว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะหลับลงเลย
เขากำลังมองดูมือของตน ราวกับบนมือนี้ของเขามีดอกไม้งอกอยู่
ผ่านไปสักพัก เขาก็ถอนหายใจอย่างคล้ายจะโล่งอก และคล้ายจะทอดถอนใจด้วย
ในที่สุดชะตากรรมของอนาคตก็เริ่มมีวี่แววว่าจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว…
ตอนนี้เขามีความรู้สึกอ่อนแอไร้กำลังประการหนึ่งอยู่ ราวกับร่างนี้กำลังจะเลือนหายไป
บางทีหลังจากชะตากรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาก็คงหายไปจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง กลับไปสู่โลกที่แท้จริงของตนเลยกระมัง?
เขาหลับตาลง ลองนึกย้อนถึงเรื่องราวในวัยเยาว์เหล่านั้นดู พบว่าขาวโพลนไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าจะนึกอะไรไม่ออกเลย
เมื่อปรากฏสถานการณ์เช่นนี้มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ ถึงแม้ชะตากรรมของท่านพ่อท่านแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ก็ไม่อาจทราบได้ว่าเปลี่ยนไปในทางดีหรือทางร้าย แม้แต่ตัวเขาที่มาจากอนาคตก็ไม่อาจหยั่งรู้ล่วงหน้าได้แล้ว…
ในความทรงจำดั้งเดิมของเขา พอเขาถือกำเนิดก็กลายเป็นเด็กกำพร้าแล้ว ตั้งแต่เล็กไม่เคยได้พบหน้าบิดามารดา เติบโตขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ต่อมาในยามที่พลังวิญญาณสูงส่งลึกล้ำเพียงพอ เขาก็บรรลุเวทวิชาแขนงหนึ่งได้โดยไร้ผู้สั่งสอน สร้างกระจกวิเศษบานหนึ่งขึ้น สามารถข้ามผ่านกระจกย้อนกลับไปยังอดีตได้ ถึงขั้นที่สามารถย้อนกลับไปยังอดีตของญาติผู้ร่วมสายโลหิตได้
เขาย้อนกลับมา จากนั้นก็ได้เห็นทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่
ตามสถานการณ์ที่เขาได้เห็น ตอนที่ท่านแม่ของเขาอยู่ในแดนอสุราไม่ได้ปรับความเข้าใจคืนดีกับตี้ฝูอีเลย และด้วยการสกัดขัดขวางอย่างจงใจของอวิ๋นเยียนหลี ระหว่างพวกเขาทั้งสองจึงมีความเข้าใจผิดมหันต์อยู่ สุดท้ายแม้ว่าตี้ฝูอีกับกู้ซีจิ่วจะร่วมมือกันทำลายค่ายอาคมของแดนอสุรา คลี่คลายวิกฤตของแดนอสุราได้ แต่ความเข้าใจผิดระหว่างคนทั้งสองไม่ได้รับการคลี่คลายเลย ถึงขั้นที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นด้วย
ถึงแม้ทั้งสองจะออกจากแดนอสุราด้วยกัน แต่กู้ซีจิ่วตรงกลับไปยังทวีปซิงเยวี่ยเลย ส่วนตี้ฝูอีก็กลับสู่ดินแดนเบื้องบน
และในครั้งนี้หลานไว่หูก็น่าจะถูกฟั่นเชียนซื่อใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง กู่แม่ลูกในครรภ์ของนางก่อร่างขึ้นอย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็ดึงดันแหวกร่างของมารดาออกมา
หลานไว่หูสิ้นใจตาย เยี่ยนเฉินฆ่าตัวตายบูชารัก
ด้วยการ ‘หักหลัง’ ของตี้ฝูอีที่แดนอสุรา ประกอบกับสหายสนิทตายตกไปอย่างต่อเนื่องกันส่งผลกระทบต่อจิตใจของกู้ซีจิ่วอย่างยิ่ง ทำให้ในใจนางเต็มไปด้วยความขุ่นข้องคับแค้น ทำให้กู่แม่ลูกอาศัยโอกาสนี้เข้าไปพัวพันนาง ถึงแม้นางจะพึ่งพาพลังระดับซ่างเสินของตน ฝืนขับมันออกไป แต่ไอมารทมิฬอันเป็นเอกลักษณ์บนร่างมันได้แทรกซึมเข้าสู่ครรภ์ของนาง เปลี่ยนให้ทารกในครรภ์ของนางกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง
ส่วนกู้ซีจิ่วที่มีมันแฝงอยู่ในร่างก็ถูกมันหลอมกลืนไปทีละน้อย อุปนิสัยแปรเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวเจ้าอารมณ์ ถึงขั้นที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้เลย กลายเป็นมารมากขึ้นเรื่อยๆ…
ในยามที่ตี้ฝูอีตามถึงทวีปซิงเยวี่ย เวลาก็ล่วงเลยไปสิบเดือนแล้ว ทารกในครรภ์กู้ซีจิ่วใกล้คลอด นางกลายเป็นครึ่งปีศาจแล้ว ก่อเหตุสังหารในทวีปแห่งนี้ไปมากมายแล้ว ทำให้ชาวทวีปซิงเยวี่ยที่ทุกข์ยากลำบากลำบนอยู่แล้วดั่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเข้าไปอีก…
ตี้ฝูอีค้นพบความผิดปกติของนางอย่างรวดเร็ว หลังจากต่อสู้กันยกหนึ่ง ตี้ฝูอีก็กำราบกู้ซีจิ่วหันดาบเข้าห้ำหั่นเขาลงได้ คิดจะขจัดไอมารที่อยู่บนร่างนาง กลับพบว่าต้นตอของไอมารนั้นมาจากทารกในครรภ์นาง…
….
————————————————————————————-
บทที่ 2746 เจ้าแห่งลิขิตสวรรค์
ตี้ฝูอีคิดหาสารพัดวิธี ล้วนไม่อาจขับไอมารออกจากทารกในครรภ์ของนางได้ กลับกันเนื่องจากถูกกระตุ้นอยู่เนืองๆ ไอมารนั้นจึงแกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ อุปนิสัยของกู้ซีจิ่วก็ยิ่งมีสันดานมารขึ้นเรื่อยๆ เข่นฆ่าผู้คนอยู่เป็นนิตย์ กระทำการโหดเหี้ยมวิปริต ไม่แยแสใครหน้าไหนทั้งนั้น สิ่งที่ใส่ใจที่สุดก็คือทารกในครรภ์ ไม่ยอมให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเด็ดขาด ถึงขั้นที่เกิดภาพหลอนแล้ว รู้สึกว่าคนรอบข้างล้วนมุ่งร้ายต่อนาง จึงพลั้งมือสังหารกู่ฉานโม่…
ตี้ฝูอีไม่มีหนทางแล้วจริงๆ จึงกล่อมให้กู้ซีจิ่วล้มเลิกการให้กำเนิดเด็กคนนี้เสีย บอกให้นางทำแท้งเด็กคนนี้ วันหน้ายังมีลูกคนอื่นได้อีก แต่ถ้าเก็บครรภ์มารนี้ไว้ โลกาจะถึงคราววิบัติ
กู้ซีจิ่วระเบิดโทสะ เดิมทีนางก็มีความโกรธแค้นในตัวตี้ฝูอีเสริมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินวาจาเขานางก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว ทั้งสองคนทะเลาะกันใหญ่โตต่อสู้กันยกหนึ่ง กู้ซีจิ่วมิใช่คู่ต่อสู้ของตี้ฝูอีเลย ถูกเขาสยบ จากนั้นก็ฝืนบังคับสลายครรภ์มารของนาง
สำหรับกู้ซีจิ่วแล้วลูกในท้องคือสมบัติที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เมื่อวันนี้ต้องสูญเสียไป ย่อมโกรธแค้นจนคุ้มคลั่ง กลายเป็นมารอย่างสิ้นเชิง
ตี้ฝูอีนึกว่าสลายครรภ์มารไปแล้ว กู้ซีจิ่วก็จะกลับเป็นปกติได้ กลับคาดไม่ถึงว่าไอมารนั้นได้เข้าพัวพันดวงวิญญาณของนางแล้ว เขาไม่มีทางขจัดออกไปจากนางได้ ทำได้เพียงเบิกตามองนางค่อยๆ กลายเป็นมาร นางที่กลายเป็นมารแล้วย่อมไม่อาจวิเคราะห์แยกแยะตามหลักสามัญสำนึกได้ นางจงใจสังหารคนก่อความวุ่นวาย เป็นภัยต่อโลกมนุษย์ ราษฎรไม่อาจใจชีวิตอย่างเป็นสุขได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ไอมารบนร่างนางสามารถติดต่อได้ คนทั้งหมดที่ถูกนางทำร้ายจะถูกไอมารปนเปื้อน บ้าคลั่งไปทันที กลายเป็นมารคลั่งสังหารคน…
และในตอนนี้เอง ในที่สุดตี้ฝูอีก็ตื่นรู้ถึงฐานะเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ของตนแล้ว ความทรงจำทั้งหมดของเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์หวนคืนมา
เจ้าแห่งลิขิตสวรรค์จะต้องจัดการเรื่องราวโดยไม่เอนเอียง ถึงจะรักษาจัดการเรื่องราวอย่างเป็นธรรมได้ เบื้องหน้าเขามีอยู่สองทางเลือก หนึ่ง ประหารกู้ซีจิ่ว กำจัดไอมารนี้ไปอย่างสมบูรณ์ ชำระล้างสรรพสิ่งในโลกา สอง เขาสละตำแหน่งเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ แตกดับไปตามกฏเกณฑ์ลิขิตสวรรค์ ส่วนกู้ซีจิ่วก็ยังคงเป็นภัยต่อโลกาเช่นเดิม สุดท้ายก็จะถูกเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์คนต่อไปกำจัด
สุดท้ายตี้ฝูอียังคงสร้างทางเลือกที่สามขึ้นด้วยความเห็นแก่ตัว เขาฝึกฝนวิชาต้องห้ามอันเลิศล้ำแขนงหนึ่ง สามารถสลายไอมารที่เข้าพัวพันดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วได้
แต่ในขณะที่สลายไอมารนั้น ก็จะสลายพลังยุทธ์ทั้งหมดของกู้ซีจิ่วไปด้วย ทำให้นางกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา
ตี้ฝูอีเข้าจับกุมกู้ซีจิ่วที่ออกอาละวาดทำร้ายประชาราษฎร์ หลังจากทำร้ายนางจนบาดเจ็บสาหัสก็ใช้วิชาต้องห้ามสลายไอมารบนร่างของนาง
ตอนที่วิชาต้องห้ามนั้นโคจรอยู่บนร่างคนจะเจ็บปวดทรมานอย่างยิ่ง แทบจะเหมือนถูกหลอมอยู่ในกองเพลิง คนที่แข็งแกร่งขนาดกู้ซีจิ่วก็ยังถูกวิชาต้องห้ามนั้นเคี่ยวกรำจนแทบสูญสิ้นชีวิตไปครึ่งหนึ่งแล้ว ทุรนทุรายอยู่ถึงสามวันสามคืนเต็มๆ วิชานี้ถึงจะนับว่าเสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์ ไอวิญญาณที่พัวพันอยู่ในวิญญาณของกู้ซีจิ่วในที่สุดก็ถูกสลายหายไปจนสิ้น
แน่นอน ตัวนางก็กลายเป็นเซียนธรรมดาด้วย นอกจากอายุขัยยืนยาวไม่แก่เฒ่าแล้ว นางไม่อาจฝึกฝนเวทวิชาอันใดได้อีกแล้ว
กู้ซีจิ่วหมดอาลัยตายอยาก ตี้ฝูอีชดเชยให้แก่นาง จัดงานวิวาห์ที่ยิ่งใหญ่ให้นางอีกครั้ง แต่งนางเข้ามา ให้นางอยู่ข้างกาย
วิชาต้องห้ามที่ตี้ฝูอีใช้สร้างความเสียหายให้ศัตรูได้หนึ่งพันเท่าแต่ก็สร้างความเสียหายให้ตัวเองแปดร้อยเท่า ซ้ำเขายังฝ่าฝืนกฏเกณฑ์ลิขิตสวรรค์ ได้รับทัณฑ์สวรรค์ พลังเวทย์ไม่เลิศล้ำเท่าในอดีตแล้ว
และวงโคจรของผังดาราก็เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพลังเวทย์ของเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ด้วย เมื่อพลังเวทย์ของเขาอ่อนแอ ดวงดาวเหล่านั้นก็อลหม่านไปบ้าง หกภพภูมิวุ่นวายขึ้นมา
ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดกว่านั้นก็คือ วิชาต้องห้ามนี้ที่เขาใช้ได้ดูดซับไอมารส่วนหนึ่งจากในร่างของกู้ซีจิ่ว ดึงเข้าสู่ร่างของเขา ถึงแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปนิสัยของเขา แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการบำเพ็ญฟื้นฟูของเขา ทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของเขาชะลอลง พลังวิญญาณที่เดิมทีฝึกฝนสิบปีก็บรรลุแล้ว ต้องใช้เวลาถึงร้อยปีกว่าจะบรรลุ