ตอนที่ 1,994 : การเดิมพัน
ภายใต้สายตาไม่อยากจะเชื่อของหยางเหวิน ต้วนหลิงเทียนก็จรดพู่กันลงนามก่อนที่จะประทับรอยนิ้วมือลงบนสัญญาอย่างไม่ลังเล
“สัญญาประลองเป็นตาย เสร็จสิ้น! มีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้!!”
และแทบจะพร้อมกกันกับที่ต้วนหลิงเทียนประทับลายนิ้วมือลงตัวสัญญา อาวุโสเพลิงทองแดงที่ถือใบสัญญาเอาไว้ก็กล่าวออกมาเสียงดังทันที “หยางเหวิน ต้วนหลิงเทียน…จักขึ้นสังเวียนเป็นตาย และทำการประลองเป็นตายในอีกครึ่งชั่วยามหลังจากนี้!?”
“ครึ่งชั่วยาม?”
ต้วนหลิงเทียนได้ยินก็ถึงกับงุนงง อดสงสัยไปไม่ได้
ทำไมต้องรอนานถึงขนาดนั้นด้วย?
“ตลอดครึ่งชั่วยามหลังจากนี้ ทางวิหารเป็นตายของเราจะเริ่มเปิดโต๊ะรับเดิมพันการประลองเป็นตายของเจ้ากับหยางเหวิน หากเจ้ามั่นใจในพลังฝีมือของตัวเองย่อมสามารถทุ่มแทงข้างตัวเองได้ว่าจะเป็นฝ่ายชนะ…แน่นอนว่าหากเจ้าคิดว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายตกตายแน่ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องลงเดิมพันอะไร…”
คล้ายสังเกตเห็นความสงสัยของต้วนหลิงเทียน อาวุโสคุมวิหารเป็นตาย เนี่ยสุ้ย จึงหันมามองกล่าวอธิบาย “เช่นนั้นแล้ว ส่วนมากผู้ที่ขึ้นสังเวียนเป็นตายก็มักจะทุ่มแทงข้างตัวเองด้วยคะแนนสะสมทั้งหมด…”
ต้วนหลิงเทียนพอได้ฟังก็เข้าใจเรื่องราวได้ทันที ที่แท้วิหารเป็นตายกลับมีเรื่องดีๆแบบนี้ด้วย!
“พวกเราวิหารเป็นตาย ไม่คิดเก็บส่วนแบ่งใดๆจากการประลองเป็นตายของเหล่าศิษย์ทั้งสิ้น…พวกเราทำหน้าที่เป็นคนกลางให้เท่านั้น ส่วนอัตราการเดิมพันนั้น ก็ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนระหว่างคะแนนสะสมของทั้งสองฝ่าย”
“แน่นอนว่าหากอาวุโสของวิหารเป็นตายเกิดนึกสนุกและมองออกว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายชนะ ก็สามารถลงเดิมพันได้อย่างไร้ข้อจำกัดใดๆ”
เนี่ยสุ้ยกล่าวต่อ
“อาวุโสเนี่ยท่านหมายความว่า…ศิษย์คนอื่นก็สามารถลงเดิมพันได้เช่นกัน?”
ต้วนหลิงเทียนมองถามเนี่ยสุ้ยด้วยความประหลาดใจ
“ย่อมได้!”
เนี่ยสุ้ยพยักหน้า “หาไม่แล้วเจ้าคิดว่าอัฒจรรย์เหล่านั้นของวิหารเป็นตายพวกเรามีไว้ทำอะไรเล่า?”
“สำหรับการเดิมพันเจ้าสามารถไปหาอาวุโสเพลิงทองแดงของวิหารเป็นตายเรา 2 คนที่นั่งประจำโต๊ะรับแทงเดิมพันตรงนั้นได้เลย…หลังจากพวกเจ้าจัดการเดิมพันอะไรเสร็จแล้ว ก็สามารถขึ้นไปรอบนสังเวียนเป็นตายเพื่อเตรียมตัวได้ และทางวิหารเป็นตายของพวกเราก็จักเปิดให้ศิษย์ทั้งหลายเข้ามารอดูชมการประลองเป็นตายระหว่างพวกเจ้า”
“แต่ก่อนที่ข้าจะสั่งให้พวกเจ้าเริ่มประลอง ห้ามมิให้พวกเจ้าลงมือใดๆโดยเด็ดขาด จำเรื่องนี้ไว้ให้ดี! มิฉะนั้นหากผู้ใดเริ่มลงมือก่อนข้าให้สัญญาณ จะถูกวิหารเป็นตายลงทัณฑ์สถานหนัก!”
ขณะกล่าวถึงเรื่องนี้น้ำเสียงของเนี่ยสุ้ยก็แข็งกร้าวขึ้นไม่น้อย “ประเพณีของวิหารเป็นตายเรา มิยอมให้ผู้ใดล่วงละเมิดเด็ดขาด…เอาล่ะตอนนี้พวกเจ้าทั้งคู่ไปหาอาวุโสเพลิงทองแดงสองคนนั้นเพื่อเดิมพันเถอะ”
‘น่าเสียดายจริง…ทั้งเนื้อทั้งตัวข้ากลับมีคะแนนสะสมอยู่ร้อยเดียว…’
ระหว่างเดินไปลงเดิมพัน ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะลอบทอดถอนในใจ ขณะเดียวกันก็ลอบภาวนาในใจ ‘ขอให้ทุกคนมันแทงข้างหยางเหวินให้หมดเถอะ…พอข้าชนะอย่างน้อยก็จะได้คะแนนสะสมมหาศาลอยู่ดี’
“หยางเหวิน! เจ้าไม่ไปแทงข้างตัวเองรึไง?”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนแทงข้างตัวเองและเดินไปรอที่สังเวียนเป็นตายเรียบร้อยแล้ว เนี่ยสุ้ยที่เห็นหยางเหวินยังยืนนิ่งอยู่ก็กล่าวเตือนออกมา
ทันใดนั้นหยางเหวินอดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง สติสตังหวนกลับเข้าร่างก่อนที่จะเร่งรุดไปแทงเดิมพันบ้างทันที
หลังลงเดิมพันเสร็จ หยางเหวินก็ขึ้นไปยังสังเวียนประลองเป็นตายที่ต้วนหลิงเทียนไปรออยู่ก่อนแล้ว สองตาเปี่ยมเจตนาไม่ดีของมันมองจ้องต้วนหลิงเทียนเขม็ง
“ต้วนหลิงเทียน ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับข้า หยางเหวิน แต่ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ ว่าวันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าล้างแค้นให้น้องชาย! สะสางความแค้นระหว่างเจ้ากับบิดาให้สิ้น!!”
หยางเหวินกล่าวออกมาด้วยสีหน้าดุร้าย
“ปากเจ้าบอกปาวๆว่าจะฆ่าข้า…แต่นั่นก็ต้องดูปัญญาสามารถของเจ้าด้วยว่ามีมากพอหรือไม่…”
ไม่เหมือนกับหยางเหวิน สีหน้าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบนัก หลังได้ยินวาจาอาฆาตของหยางเหวิน ก็เพียงกล่าวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเฉยเมยเท่านั้น
“ข้าอยากจะรู้นัก…อีกครึ่งชั่วยามหลังจากนี้หน้าเจ้ามันยังจะนิ่งได้อยู่แบบนี้หรือไม่!”
หยางเหวินหัวเราะเยาะออกมาเสียงดัง
“อ้อ…ก็รอดูไปสิ”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ขณะเดียวกันก็เริ่มหันมองไปยังทางเข้าวิหารเป็นตาย เพื่อสังเกตเรื่องราวด้านนอกวิหารเป็นตาย
และแทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนหันไปมอง ก็พบศิษย์ชั้นยอดมาออมุงกันที่หน้าทางเข้า โดยที่มีอาวุโสเพลิงทองแดงคนหนึ่งออกไปกล่าวแจ้งเรื่องการประลองเป็นตาย เสียงด้านนอกตอนนี้นับว่าดังอื้ออึงไม่ต่างใดจากตลาดสด!
“หา!? ต้วนหลิงเทียนกล้าลงนามในสัญญาประลองเป็นตายจริงๆ!?”
‘สัญญาประลองเป็นตาย’ คำนี้คล้ายมีอิทธิพลในใจเหล่าศิษย์ชั้นยอดไม่น้อย พอได้ยินพวกมันก็อึ้งไปพักหนึ่งค่อยรู้สึกตัว
“ข้ามิรู้จริงๆว่ามันไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใด! ไม่คิดเลยว่าจะกล้าลงนามในสัญญาประลองเป็นตาย! เป็นมันหาที่ตายชัดๆ!!”
ศิษย์ชั้นยอดบางคนกล่าวปรามาสออกมา ด้วยคิดว่าการลงนามในสัญญาประลองเป็นตายของต้วนหลิงเทียนเป็นเรื่องโง่เง่าเต่าตุ่นอย่างถึงที่สุด ไม่พ้นคงตีค่าตัวเองไว้สูงเกินไป!
“ข้าคิดว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้มีโชคสูงนัก…ตั้งแต่ที่มาอยู่ลัทธิบูชาไฟของพวกเรา ก็ได้งัดข้อกับอาวุโสหลี่อันตั้งแต่แรก! ทว่าแม้จะอยู่ในแท่นบูชาเต่าทมิฬแท้ๆกลับอยู่ดีมีสุขมิได้รับอันตรายใดๆ! ดูเหมือนว่ามันจะไม่แพ้อาวุโสหลี่อัน!!”
ศิษย์ชั้นยอดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าซับซ้อน ขณะกล่าวถึงเรื่องราวความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนหลังมาอยู่ในลัทธิบูชาไฟ
ทว่าวาจานี้ของมันกลับทำให้ศิษย์ชั้นยอดโดยรอบเย้ยเยาะทันที
“เหอะๆ…แล้วเจ้าคิดว่าโชคดีของมันจะใช้ได้กับศิษย์พี่หยางเหวินรึไง? คิดว่ามันจะฆ่าศิษย์พี่หยางเหวินได้ในสังเวียนเป็นตาย?”
“ที่ต้วนหลิงเทียนมันยังอยู่รอดปลอดภัยมาได้ เพราะมันมิเคยพบ ‘ตอเหล็ก’ อันใด! สำหรับเรื่องอาวุโสหลี่อัน มันก็แค่ดูแลตัวเองอย่างดี ไมพ้นคงหดหัวอยู่แต่ในบ้านพัก หาไม่แล้วเจ้าคิดว่ามันจะมีปัญญารอดมาถึงนี่ได้หรือ?””
“ใช่! หากเจ้าคิดว่าต้วนหลิงเทียนมันโชคดี และวันนี้มันอาจจะรอดพ้นความตายไปได้ เจ้าก็ทุ่มแทงข้างมันเสียซี่! แต่ข้ากลัวว่าสุดท้ายเจ้าจักหมดตัว!!”
“ใช่ๆ หากเจ้าเชื่อในตัวต้วนหลิงเทียนก็รีบไปทุ่มแทงข้างมันเร็วๆ…พวกเราจะได้ส่วนแบ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย!”
…
บางทีกระทั่งศิษย์ชั้นยอดคนนั้นก็ไม่ได้รู้เลย ว่าวาจาที่มันกล่าวไปอย่างนั้นจะทำให้ศิษย์โดยรอบเกิดปฏิกิริยาตอบรับแบบนี้ ถึงกับทำให้มันโดนรุมเย้ยรอบทิศ!
มันได้แต่หุบปากเงียบไปทันที
เรื่องที่จะให้มันไปแทงข้างต้วนหลิงเทียน…มันไม่ใช่คนโง่!
เมื่อครู่มันก็แค่พูดไปอย่างไม่คิดอะไรเท่านั้น ไม่ได้เป็นความที่มาจากใจอะไร
ในสายตาของมันการประลองเป็นตายวันนี้ ก็เป็นศิษย์พี่หยางเหวินที่มีโอกาสชนะสูงกว่ามาก
เพราะท้ายที่สุดแล้วหยางเหวิน ก็คือศิษย์ที่แท้จริงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลัทธิบูชาไฟ เป็นถึง ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์!
สำหรับต้วนหลิงเทียนนั้น พลังฝีมือเต็มที่ก็แค่ครึ่งก้าวเซียนสวรรค์ ถึงแม้จะมีเวทย์พลังขั้นสูงทั้ง 4 สาย กระทั่งพลังฝีมือส่วนตัวยังมิใช่ชั่ว แต่ด้วยความที่พรสวรรค์รากวิญญาณเป็นเพียงสีเหลือง จึงยากที่ชาตินี้พลังฝึกปรือจะไล่ตามหยางเหวินได้ทัน….และนั่นต้องดูด้วยว่าจะรอดพ้นความตายวันนี้หรือไม่!
“ข้าแทงข้างศิษย์พี่หยางเหวินชนะ 300 คะแนนสะสม!”
“ของข้าแทงศิษย์พี่หยางเหวินชนะ 500 คะแนนสะสม!”
“พวกยากจนหลบไปให้หมด อาเสี่ยจะเดิน! ท่านอาวุโสข้าลงข้างศิษย์พี่หยางเหวินหมดตัว 3,300 คะแนนสะสม!!”
…
ด้วยการกรูกันเข้ามาปานน้ำหลาก อาวุโสเพลิงทองแดงที่รับแทงเดิมพันที่โต๊ะถึงกับมือไม้ปั่นป่วนอยู่บ้าง หากแต่คล้ายมันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ มือซ้ายยื่นบัตรไปแตะบัตรเหล่าศิษยรับคะแนนแคล่วคล่อง ส่วนมือขวาประหนึ่งบรรลุดัชนีเทพเขียนโพยพนันอย่างฉับไว!
หลังเปิดรับเดิมพันไปราวหนึ่งเค่อ ก็ยังไม่มีศิษย์ชั้นยอดแม้แต่คนเดียวที่ลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียน
นี่เผยให้เห็นว่าพวกมันตีค่าต้วนหลิงเทียนต่ำแค่ไหน
“เดี๋ยวๆๆ นี่ไม่มีใครคิดจะแทงข้างต้วนหลิงเทียนบ้างรึไง?”
และไม่นานเรื่องนี้ก็ถูกศิษย์ชั้นยอดสังเกตเห็นในที่สุด “แล้วแบบนี้ต่อให้พวกเราชนะเดิมพัน พวกเราจะได้อะไรเล่า?”
“นั่นสิ! อัตราเดิมพันของวิหารเป็นตายก็ขึ้นอยู่กับคะแนนสะสมที่ลงเดิมพันของทั้งสองฝ่าย และราคาสุดท้ายจะออกมาหลังคำนวนคะแนนสะสมทั้งสองฝ่าย…แต่ถ้าทุกคนแทงข้างศิษย์พี่หยางเหวินกันหมดแบบนี้ พวกเราก็คงไม่ได้รับคะแนนสะสมอะไรแล้ว!!”
“เฮ่ พวกเจ้าไม่มีใครคิดแทงข้างต้วนหลิงเทียนบ้างเลยรึไง? เล่นแทงข้างศิษย์พี่หยางเหวินกันหมดแบบนี้ สุดท้ายก็ไม่มีใครได้อะไรเลยนา…”
“เจ้าหุบปากไปเสีย! อยากแทงเจ้าก็ไปแทงเองคนเดียวเถอะ! แทงข้างต้วนหลิงเทียนยังไม่ใช่เอาคะแนนสะสมไปทิ้งรึไร!?”
……
เหล่าศิษย์ชั้นยอดเริ่มต่อปากต่อคำกันอีกครั้ง แต่ไม่มีใครมองต้วนหลิงเทียนในแง่ดีเลย ทั้งหมดล้วนคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องตายวันนี้แน่
“แม้พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนจะไม่เลว…แต่ด้วยพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลือง…ก็นับว่าตัวมันมีข้อจำกัดมากมายนัก ต่อให้บรรลุเวทย์พลังขั้นสูงทั้ง 4 สาย แต่ชั่วชีวิตก็ยากจะประสบผลสำเร็จอะไรได้”
“ใช่ ในสถานการณ์เช่นนี้คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่ไปแทงข้างมัน”
“แต่แบบนี้ก็ไม่ได้…หากแทงกันแต่ข้างศิษย์พี่หยางเหวินหมด พวกเรายังจะได้อะไรเรา”
“เจ้าพูดเช่นนี้…งั้นเจ้าก็ไปแทงข้างต้วนหลิงเทียนสิ”
“ข้ามิใช่ตัวโง่งม!”
……
เหล่าศิษย์ชั้นยอดโบ้ยกันไปโบ้ยกันมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครคิดจะแทงข้างต้วนหลิงเทียนสักคน
แต่ทว่าทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งดึงดูดความสนใจของทุกผู้คนดังขึ้น
“ข้าขอแทงข้างต้วนหลิงเทียน 100 คะแนนสะสม”
กลับมีศิษย์ชั้นยอดคนหนึ่งเป็นผู้กล้า เปิดเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียนจริงๆ!
ถึงแม้จะเป็นแค่ 100 คะแนนสะสมเท่านั้น ทว่าศิษย์ชั้นยอดก็หยีตามองโต๊ะเดิมพันเขม็ง ด้วยคิดว่าเมื่อมีคนแรกแล้ว ประเดี๋ยวต้องมีคนที่สองติดตามมาแน่!
ด้วยเหตุนี้พวกมันก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้รับเงินเดิมพัน
ถึงแม้จะได้น้อยก็ยังดี เพราะอย่างไรก็เสมือนคะแนนสะสมกินเปล่า ยังไม่ใครไม่อยากได้?
ดั่งคำว่า ‘ถึงยุงจะตัวเล็กเพียงใดมันก็ยังมีเนื้อ!’
“เฮ่ เจ้านั่นไม่ใช่ซุนเต๋อรึไง?”
“หือ? ซุนเต๋อ? ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่เข้าใจเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬ และกลายเป็นศิษย์ชั้นยอดเหมือนพวกเราเมื่อไม่นานมานี้คนนั้นน่ะเหรอ”
“เป็นมันนี่เอง! ข้าจำได้แล้ว ข้าได้ยินมาว่าเหตุผลที่มันสำเร็จเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬได้ เป็นเพราะถูกแรงกดดันของต้วนหลิงเทียนบีบคั้นในวันที่ประมือกับต้วนหลิงเทียน…ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียน ที่แท้มันคงคิดตอบแทนบุญคุณของต้วนหลิงเทียนด้วยวิธีนี้!”
“นับว่ามันยังฉลาดนัก พราะนี่เสมือนโอกาสสุดท้ายในการตอบแทนบุญคุณของมัน…เพราะหลังจากนี้ต่อให้มันคิดตอบแทนต้วนหลิงเทียนอะไรอีก มันก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
……
เหล่าศิษย์ชั้นยอดหลายคนสามารถจดจำศิษย์ที่ลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียนได้ทันที
“ศิษย์น้องหลิงเทียน…เจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าพึ่งมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก่อนเจ้าได้ไม่นาน…ทั้งเนื้อทั้งตัวข้าก็มีแค่ 100 คะแนนสะสมนี่ล่ะ”
ซุนเต๋อยิ้มแหยๆมองกล่าวต้วนหลิงเทียนบนสังเวียนเป็นตาย
เป็นต้วนหลิงเทียนที่ส่งเสียงกล่าวบอกมันให้ไปลงเดิมพัน!