บทที่ 624 แจกของขวัญล้ำค่า

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

หลังจากหลิงตู้ฉิงจากไป หลิงยู่ชานก็รู้สึกเบิกบานทันที เนื่องจากในที่สุดเขาก็ได้รู้แล้วว่าตัวเองมีที่มาอย่างไร

แต่ว่าเขาเองก็ยังคงไม่เก็บตัวบ่มเพาะในทันทีตอนนี้

หมิงจู้เพิ่งจะให้กำเนิดลูกชายของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวของเขาไปก่อนสักพัก จากนั้นค่อยกลับไปเก็บตัวบ่มเพาะอีกรอบก็ยังไม่สาย

เขาสาบานกับตัวเองว่าเขาจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับเทียนเก๋อที่ขโมยพลังสายเลือดของเขาให้ได้ในอนาคต

แต่แล้วเมื่อเขาคิดมาถึงจุดนี้ซึ่งเกี่ยวพันกับตระกูลเทียน เขาก็รู้สึกสับสนในใจ

เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนในตระกูลเทียนที่เลวร้ายกับเขา อย่างน้อย ๆ คนในสายครอบครัวของเทียนเฮงก็ดีกับเขามาก ๆ

บวกกับสิ่งที่หลิงตู้ฉิงเคยพูดกับเขาเอาไว้ว่าตัวตนของเขาอาจจะเป็นการสวมชะตาของผู้อื่นมาเกิด ดังนั้นบางทีเหตุผลการหายตัวไปของเด็กตระกูลเทียนมันก็น่าจะเป็นเพราะเขาไปสวมชะตาได้เช่นกัน

ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนแบบนี้มันทำให้ความรู้สึกของหลิงยู่ชานรู้สึกสับสน

ในอีกด้านหนึ่ง หลิงตู้ฉิงในตอนนี้ได้เดินไปที่เรือนของหลิงว่านถิงต่อ ซึ่งแน่นอนว่าก่อนเข้าไปเขาได้ตะโกนขออนุญาตก่อนที่หน้าเรือน

เมื่อมองไปที่หลิงว่านถิง หลิงตู้ฉิงก็รู้สึกจนใจ ที่แท้เด็กสาวผู้นี้ก็เป็นศิษย์ของเจ้าแห่งพรตเต๋า ฉิงอี้! นี่มันไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนางถึงมีความสามารถมากนักเพราะที่แท้นางก็มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา

“ท่านพ่อ ท่านไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?” หลิงว่านถิงถามขึ้น

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “พ่อไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าไม่ต้องกังวลหรอก”

“ไม่เป็นอะไรแน่นะ?” หลิงว่านถิงถามย้ำด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ

นางคือผู้ที่ได้เห็นความน่ากลัวของหลิงตู้ฉิงตอนอยู่ที่สันเขาทรราชกับตาของนางเอง ดังนั้นนางจึงเป็นกังวลกับมันมากกว่าคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เห็นว่าความน่ากลัวที่แท้จริงของหลิงตู้ฉิงนั้นเป็นอย่างไร

“พ่อต้องพูดยังไงให้เจ้าเชื่อดีล่ะเนี่ย?” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

หลิงว่านถิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นนางก็พูดขึ้นว่า “งั้นเล่าเรื่องตลกให้ข้าฟัง!”

หลิงตู้ฉิงคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็เริ่มเล่า “กาลครั้งหนึ่งมีเป็ดตัวหนึ่ง…”

หลิงว่านถิงกรอกตาและพูดแทรกทันที “อันนี้ข้ารู้แล้วตอนสุดท้าย นางคือห่าน!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ใช่สักหน่อย นางแค่คิดว่านางเป็นห่าน แต่จริง ๆ แล้วเมื่อนางโตขึ้นนางกลายเป็นฟีนิกซ์ต่างหาก! เป็นไงเจ้าคิดว่าเรื่องนี้ตลกไหม?”

หลิงว่านถิงเอียงคอมองไปที่หลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ไม่เห็นตลกเลยสักนิด!”

ถึงแม้ว่านางจะตอบกลับเช่นนี้ แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่าพ่อของนางไม่เป็นอะไรแล้ว

เหตุผลก็เพราะในอดีต พ่อของนางไม่มีทางพยายามเล่าเรื่องแบบนี้แน่นอน

“ท่านพ่อ แล้วเรื่องสายเลือดของพี่ใหญ่ท่านจะจัดการยังไง?” หลิงว่านถิงถามขึ้น

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “พ่อได้ชี้แนะพี่ของเจ้าไปเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปเขาจะกลับมาบ่มเพาะได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรหรอก ว่าแต่ตัวเจ้าเอง เจ้าตั้งใจว่าจะกลับไปที่สำนักเต๋าสวรรค์เลยหรือว่าจะอยู่เล่นที่นี่ไปก่อนอีกสักพัก?”

หลิงว่านถิงคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นนางก็ยิ้มและตอบว่า “ในเมื่อท่านพ่อสบายดีแล้วข้าคิดว่าข้าจะอยู่กับท่านที่นี่ต่อไปอีกสักพักก่อน และอีกอย่างท่านยังไม่ได้ให้ของดีกับข้าเลยตั้งแต่กลับมา!”

“เจ้านี่ฉลาดจริง ๆ เลยลูกรักของพ่อ! เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าเอ่ยขึ้นมาแบบนี้แล้วอันดับแรกพ่อจะให้น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตากับเจ้าก่อน ถึงแม้ว่าไอ้เจ้าน้ำนี่จะไม่มีประโยชน์กับเจ้าสักเท่าไหร่หากเจ้าใช้มันกับตัวเจ้าเอง แต่ถ้าหากเจ้าพกมันติดตัวไว้เพื่อใช้มันแลกกับสิ่งที่เจ้าต้องการกับคนอื่นแล้วล่ะก็มันก็จะมีประโยชน์มากกับเจ้า พ่อจะแบ่งมันให้กับเจ้าครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน ส่วนที่เหลือพ่อจะมอบมันให้กับจื่นซิน เพราะนางต้องการมันมากกว่าเจ้า”

“อ๋อ ยังมีเหล่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่ติดตามพ่อมา พ่อขอถามพวกมันก่อนก็แล้วกันว่าพวกมันยินดีจะติดตามเจ้าด้วยรึเปล่า” เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็หยิบกงล้อเบญจธาตุขึ้นมาและพูดกับเหล่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ “ลูกสาวของข้าเป็นผู้ที่เกิดมามีร่างกายแห่งเต๋าแต่ตอนนี้นางยังคงอ่อนแออยู่ มีพวกเจ้าตนไหนที่ต้องการจะติดตามลูกสาวของข้าในอนาคตไหม?”

สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์บางต้นมองสำรวจไปที่ร่างของหลิงว่านถิง จากนั้นพวกมันตอบกลับทันที “ตอนนี้ข้าขอติดตามเจ้าไปก่อน แต่ถ้าหากหลังจากที่นางสามารถสร้างวิถีเต๋าของนางเองได้แล้ว ข้าค่อยติดตามนางก็แล้วกัน!”

เมื่อได้รับคำตอบ หลิงตู้ฉิงก็ไม่สนใจกับเหล่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์อีก เขาหยิบใบไม้ 3 ใบขึ้นมาและหันไปพูดกับหลิงว่านถิงว่า “เอาล่ะ ลูกพ่อเจ้าจงรับใบไม้ 3 ใบนี้ไป แค่อำนาจของมันเพียงใบเดียวมันสามารถที่จะช่วยชีวิตผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิได้หลายคนหรือแม้แต่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของร่างระดับศักดิ์สิทธิ์เลยก็ได้ การที่เจ้ามีพวกมันไว้ในครอบครอง มันจะทำให้เจ้าไม่ต้องกังวลกับอาการบาดเจ็บในอนาคตอีกและอีกอย่างจงตั้งใจบ่มเพาะให้ดี มีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์บางต้นที่ยินยอมจะติดตามเจ้าหลังจากที่เจ้าสามารถสร้างเต๋าของตัวเองได้แล้ว”

หลิงว่านถิงตอบกลับด้วยสีหน้าดีใจ “ขอบคุณมากท่านพ่อ!”

เมื่อพูดจบ นางก็เก็บใบไม้ 3 ใบลงไปด้วยสีหน้าเบิกบาน จากนั้นนางก็ถามหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าคาดหวังต่อ “ท่านพ่อ ท่านจะต้องมีของดี ๆ อื่น ๆ อีกแน่เลยใช่ไหม?”

“แน่นอน พ่อยังมีบรรดาวัสดุระดับสูงต่าง ๆ อีกมากมายมาย เดี๋ยวเจ้าก็ส่งหลิงจู้มาให้พ่อ เดี๋ยวพ่อจะปรับแต่งมันให้เจ้าใหม่เพื่อพัฒนามันไปอีกระดับ อ๋อ ยังมีเนื้ออสูรอีกจำนวนมาก รอพ่อมีเวลาว่างเมื่อไหร่พ่อจะย่างพวกมันให้กับพวกเจ้าได้กินกัน” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงว่านถิงก็รีบหยิบหลิงจู้ขึ้นมาและส่งมันให้กับหลิงตู้ฉิงทันที จากนั้นนางก็พูดย้ำกับหลิงตู้ฉิง “ท่านพ่อ ท่านรีบไปพบกับน้อง ๆ คนอื่น ๆ เถอะ รีบ ๆ คุยกับพวกเขาให้เสร็จ ท่านจะได้มีเวลาว่างย่างเนื้อเหล่านั้นข้าอยากกินพวกมันเร็ว ๆ แล้ว!”

“ก็ได้ ๆ” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็เดินออกไปจากเรือนของหลิงว่านถิง

จากนั้นเขาก็เดินไปที่เรือนของลูก ๆ เขาทีละคน ๆ และมอบสมบัติที่เขาเตรียมไว้ให้กับลูก ๆ ของเขาจนครบ

หลังจากที่ไปพบลูกของเขาจนครบทุกคนแล้ว ในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็มาถึงเรือนของโจวจื่อซิน

“สามี นั่งลงก่อนเร็ว ให้ข้านวดผ่อนคลายให้ท่านนะ” โจวจื่อซินพูดด้วยรอยยิ้มพลางเดินเข้ามาหา

หลิงตู้ฉิงโบกมือและพูดว่า “ซิน ที่ข้ามาหาเจ้าก็เพราะว่าข้ามีบางอย่างที่ดีมาก ๆ สำหรับเจ้าจะมอบให้ ในอนาคตตราบใดที่เจ้าไม่สังหารชีวิตต่าง ๆ มากจนเกินไป เจ้าจะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน”

หลังจากพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็หยิบเม็ดบัวเพลิงพิพากษา 3 เม็ดขึ้นมาพร้อมกับขวดหยกขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตาอยู่ด้านใน และยื่นพวกมันให้กับโจวจื่อซิน

“สามี พวกมันคืออะไรกัน?” โจวจื่อซินถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย

หลิงตู้ฉิงอธิบาย “ที่อยู่ในขวดนี้คือน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตา ซึ่งมันจะช่วยชำระล้างบาปที่เกาะติดอยู่กับร่างกายของเจ้าให้หมดไป ดังนั้นตราบใดที่เจ้าไม่ทำผิดบาปมากจนเกินไปเจ้าจะไม่มีปัญหา ส่วนเม็ดบัวทั้ง 3 เม็ดนี้โตอยู่ในระดับที่ 3 เจ้าจงบ่มเพาะพวกมันและทำให้พวกมันกลายเป็นสมบัติแห่งชะตาชีวิตของเจ้า เมื่อไหร่ที่เจ้าสามารถบ่มเพาะพวกมันให้โตถึงระดับ 5 หรือมากกว่าได้ เมื่อนั้นเจ้าจะสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตใดก็ได้ตามที่เจ้าต้องการในอนาคต”

“แต่มันมีเรื่องน่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่งตรงที่เม็ดบัวเหล่านี้มันเป็นสมบัติของพวกพระศาสนาพุทธ หากเจ้าไม่ได้บ่มเพาะเคล็ดวิชาทางพุทธระดับสูงแล้วเจ้าจะไม่มีวันบ่มเพาะเม็ดบัวเหล่านี้ไปถึงระดับ 5 แน่นอน ไว้ในอนาคตข้าจะไปจับตัวแม่ชีมาให้เจ้าสัก 2-3 คนเพื่อไว้คอยเป็นสาวใช้ให้กับเจ้าและให้พวกนางสอนเคล็ดวิชาทางพุทธให้กับเจ้า เมื่ออดีตพวกพระศาสนาพุทธนั้นเคยสร้างกรรมใหญ่ไว้กับข้าทั้ง ๆ ที่ข้ายังไม่เคยยุ่งอะไรกับพวกมันเลย ดังนั้นมันถึงเวลาที่จะต้องทวงคืนสักหน่อย”

โจวจื่อซินยิ้มและพูดว่า “เมื่อถึงเวลาข้าจะช่วยท่านเอง”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เอาล่ะ ข้าได้พาเหล่าบรรพบุรุษของเจ้ากลับมาด้วย เดี๋ยวข้าจะให้เจ้าได้เจอกับพวกเขาเพื่อให้พวกเขามอบประโยชน์ให้กับเจ้าก็แล้วกัน”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็หยิบกงล้อเบญจธาตุขึ้นมาและเรียกเหล่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ “ออกมา!”

เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบ สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ต้นแรกที่ยินยอมติดตามหลิงตู้ฉิงก็บินออกมาจากกงล้อเบญจธาตุด้วยท่าทีไม่เต็มใจ จากนั้นมันก็ขับหยดของเหลวสีเขียวมรกตของมันออกมาและส่งไปให้กับโจวจื่อซิน

“สามี…” โจวจื่อซินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง นางสัมผัสได้ทันทีว่าของเหลวหยดนี้นั้นเต็มไปด้วยพลังชีวิตที่หนาแน่น ซึ่งมันมีมากกว่าที่มีในตัวนางหลายเท่าทวีคูณ

จากนั้นเมื่อของเหลวหลอมรวมเข้าไปในตัวนาง นางก็รู้สึกได้ว่าพลังชีวิตของนางมันเพิ่มพูนจนถึงระดับที่ว่าถ้าหากมีใครนำตัวนางไปทำโอสถ สรรพคุณของมันคงพอที่จะชุบชีวิตคนที่ตายไปแล้วให้กลับมาได้แน่นอน

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นี่คือบรรพบุรุษของเจ้า ดอกไม้ฟื้นชีพที่อยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์ยังไงล่ะ! เอาล่ะเร็วเข้ารีบผสานเม็ดบัวทั้ง 3 เม็ดนี้เข้าไปในร่างกายของเจ้าและเริ่มบ่มเพาะพวกมันด้วยพลังชีวิตที่เจ้าเพิ่งได้รับมาได้แล้ว ตอนนี้พลังชีวิตในร่างของเจ้ามันหนาแน่นเกินไปจนแม้แต่ข้ายังเริ่ม ๆ กังวลแล้วว่ามันอาจจะมีใครอดใจไม่ไหวมาชิงตัวเจ้าไปกิน!”

โจวจื่อซินหัวเราะคิกคัก “ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้กินข้าได้นอกจากสามีของข้า!”

เมื่อพูดจบ นางก็กลับเข้าไปในเรือนเพื่อทำการเก็บตัวบ่มเพาะเม็ดบัวเพลิงพิพากษา