“ฮ่า ๆ ผมบอกแล้วว่ามันเป็นแค่การสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาคนอื่นเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้น เฉินไต้ซือ แกตายเสียเถอะ!” เสียงที่ตื่นเต้นของหนานกงหยู่คำรามอยู่กลางอากาศ
เหล่านักบู๊ที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกผิดหวังมากเช่นกัน “ตอนแรกคิดว่าเฉินไต้ซือมีท่าไม้ตาย แต่นึกไม่ถึงว่าที่แท้เขาเป็นแค่คนที่ไร้ความสามารถเท่านั้น เอาไว้ดูได้ แต่ใช้งานไม่ได้!”
“เฮ้อ คราวนี้เฉินไต้ซือจะต้องตายอย่างแน่นอน!”
เหล่านักบู๊ทุกคนไม่ได้คาดหวังในตัวเฉินโม่ แม้แต่เฉินกั๋วเหลียงและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกสิ้นหวังเช่นกัน พวกเขารู้สึกว่าเฉินโม่กำลังจะพ่ายแพ้แล้ว
เมื่อดวงอาทิตย์ดวงเล็กสองดวงกำลังจะกระแทกร่างกายของเฉินโม่ มีเสียงหนึ่งดังสะท้อนอยู่กลางอากาศอย่างต่อเนื่อง
“เซียนกำลังตัดท้องฟ้า เซียนกำลังตัดท้องฟ้า เซียนกำลังตัดท้องฟ้า…… ”
ทันใดนั้น จุดแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าดวงอาทิตย์ดวงเล็กสองดวง ยิ่งอยู่จุดแสงสีเขียวนั้นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายกลายเป็นกระบี่สีเขียวขนาดใหญ่
เฉินโม่กล่าวเบา ๆ “ถึงแม้แกจะเป็นท้องฟ้า แต่แล้วไงล่ะ? ฉันมีกระบี่ ที่สามารถตัดท้องฟ้าได้!”
กระบี่สีเขียวขนาดใหญ่ฟันดวงอาทิตย์ดวงเล็กสองดวงแตกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นก็พุ่งไปที่หนานกงหยู่อย่างรวดเร็ว
หนานกงหยู่ไม่มีเวลาต่อต้าน ถูกกระบี่สีเขียวบดขยี้ทันที
“เป็นไปไม่ได้!”
หลังจากแสงเจิดจ้าหายไป ร่างของหนานกงหยู่ก็หายไป กระบี่สีเขียวขนาดใหญ่ก็หายไปแล้วเช่นกัน
เสียงคำรามที่น่ากลัวและไม่เต็มใจของหนานกงหยู่ ยังคงสะท้อนอยู่กลางอากาศ
กระบี่เก้าต้าเต๋าไม่ใช่เคล็ดวิชาบู๊ และไม่ใช่อาคม แต่เป็นวิธีการโจมตีของเซียนกระบี่แห่งสำนักเสวียนเต๋า การโจมตีแบบนี้มีแต่เซียนกระบี่ หรือผู้ที่ฝึกกายสิทธิ์กระบี่ฟ้าเท่านั้นที่สามารถทำได้
เฉินโม่ฝึกเพลงกระบี่พันมาโดยตลอด แต่ระดับพลังบำเพ็ญของเขาไม่สูงนัก ทำให้เขาไม่กล้าใช้วิธีการโจมตีของเซียนกระบี่ แต่ตอนนี้เฉินโม่ฝึกเพลงกระบี่พันถึงระดับสองชั้นสูงสุดแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะทะลวงไปถึงระดับสาม ประกอบกับถูกหนานกงหยู่กดดัน ในที่สุดก็ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะลองดู
การโจมตีของเซียนกระบี่ เป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของผู้บำเพ็ญ ตอนนี้เฉินโม่ได้ยืนยันประเด็นนี้แล้ว หากเฉินโม่ฝึกเพลงกระบี่พันถึงระดับเก้า กระบี่เล่มนี้ก็จะสามารถตัดท้องฟ้าได้จริง ๆ
“ชนะ ชนะแล้ว?” เหล่านักบู๊ที่อยู่รอบ ๆ ขยี้ตา และรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย
“ชนะแล้ว?”
เฒ่าประหลาดเหล่านั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม มองเฉินโม่ด้วยสายตาหวาดกลัว
“กระบี่เล่มนี้ ไม่ใช่กระบี่ของโลกมนุษย์ มีเพียงเซียนที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะสามารถใช้ได้ ถึงแม้ความแข็งแกร่งของเฉินไต้ซือจะไม่ใช่แดนเทพ แต่เขาเก่งกว่าแดนเทพ!”
“ถูกต้อง อาศัยกระบี่เล่มนี้ สังหารเทพเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องยาก!”
“ไปกันเถอะ หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ เกรงว่าอีกไม่นานโลกฝึกบู๊ของประเทศหัวเซี่ยจะเปลี่ยนไป!”
“ถูกต้อง ดูเหมือนว่าคุณยังจำตำนานในตอนนั้นได้ เมื่อแดนเทพกำเนิดขึ้น บู๊โบราณก็จะปรากฏขึ้น ตอนนี้แดนเทพกำเนิดขึ้นแล้ว เกรงว่าอีกไม่นานโลกบู๊โบราณก็จะปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์!”
“คุณกังวลเกินกว่าเหตุ โลกบู๊โบราณไม่ได้ปรากฏขึ้นเป็นเวลาร้อยปีแล้ว ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ บางทีตำนานนี้อาจเป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น?”
เหล่านักบู๊จากไปทีละคน เฉินโม่ยืนอยู่ที่เดิม และเขาอดไม่ได้ที่จะไอ
“ถึงแม้ว่าวิธีการโจมตีของเซียนกระบี่จะทรงพลังมาก แต่ก็ใช้พลังทิพย์มากเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจที่อย่างน้อยพลังบำเพ็ญของเซียนกระบี่ต้องอยู่แดนจิตปฐม และความแข็งแกร่งระดับแดนรวมพลังของผม เกรงว่าสามารถใช้วิธีการโจมตีของเซียนกระบี่แบบนี้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น!”
“เสี่ยวโม่!” หลี่ซู่เฟินตะโกนด้วยความเป็นห่วง วิ่งเข้าไปด้วยน้ำตานองหน้า แล้วกอดเฉินโม่เอาไว้
“แม่ดูหน่อย ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม!” หลี่ซู่เฟินใช้มือทั้งสองจับใบหน้าของเฉินโม่เอาไว้ มองสำรวจด้วยสีหน้ากังวล
เฉินโม่ไอสองครั้ง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่เป็นไร ผมขอโทษ ที่ทำให้คุณแม่เป็นห่วง!”
เฉินจิงเย่พยุงเฉินกั๋วเหลียงเดินเข้ามาหาเฉินโม่เช่นกัน
เฉินโม่คุกเข่าลงบนพื้นทันที มองเฉินกั๋วเหลียงด้วยความรู้สึกผิดและกล่าวว่า “คุณปู่ หลานชายเป็นคนอกตัญญู ทำให้คุณปู่ต้องทนทุกข์ทรมาน!”