บทที่ 2749 เจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ 4 / บทที่ 2750 เจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ 5

ลำนำบุปผาพิษ

บท​ที่​ ​2749​ ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​ ​4

ระหว่าง​เดินทาง​เขา​ถึงขั้น​ที่​ไม่ได้​ติดต่อ​อัน​ใด​กับ​คนใน​ตำหนัก​เลย​ด้วย​ ​แน่นอน​ ​ไม่ได้​ติดต่อ​ไปหา​นาง​เลย​เช่นกัน​ ​หมางเมิน​ไม่​ถามไถ่​ถึง​นาง​อย่างแท้จริง

เทพ​สงคราม​หญิง​นาง​นั้น​ยัง​สอบถาม​ตี้ฝู​อี​อย่าง​คล้าย​จะ​คุย​เล่น​ไป​เรื่อย​ว่า​มี​ความคิดเห็น​อย่างไร​ต่อ​ภรรยา​ตน​?

ตี้ฝู​อี​คล้าย​จะ​ไม่ใส่ใจ​ ​ส่ายหน้า​ ​ยิ้ม​แวบ​หนึ่ง​ ​“​ไม่มี​ความเห็น​อัน​ใด​ ​ผู้​ทรงสิทธิ์​อย่าง​ข้ามี​ชีวิต​มา​หลาย​ร้อย​ล้าน​ปี​แล้ว​ ​วางเฉย​ต่อ​เรื่อง​ความรัก​ไป​เนิ่นนาน​แล้ว​ ​นาง​เป็น​เพียง​สตรี​สามัญ​ที่​ข้า​ผู้​ทรงสิทธิ์​รู้จัก​ตอน​ลง​ไป​ฝ่า​ด่าน​เคราะห์​ที่​โลก​เบื้องล่าง​เท่านั้น​ ​ยาม​นั้น​อาจจะ​รัก​ล้ำลึก​ ​แต่​พอ​หวนคืน​วิถี​ลิขิต​สวรรค์​ย่อม​ไม่​นำพา​มา​ใส่ใจ​แล้ว​ ​เพียง​ถึงอย่างไร​นาง​ก็​เคย​ตั้งครรภ์​ธิดา​ให้​แก่​ผู้​ทรงสิทธิ์​อย่าง​ข้า​ ​ถึงแม้​ผู้​ทรงสิทธิ์​อย่าง​ข้า​จะ​สลาย​ครรภ์​มาร​นั้น​ทิ้ง​ไป​แล้ว​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ทำร้าย​นาง​ไป​ด้วย​ ​ย่อม​ต้อง​รับ​นาง​มา​เลี้ยงดู​อยู่​ข้าง​กาย​เพื่อ​ชดเชย​ให้​ ​ถึงอย่างไร​ตำหนัก​ของ​ข้า​ผู้​ทรงสิทธิ์​ก็​ใหญ่โต​ ​เลี้ยง​คนไร้ความสามารถ​คน​หนึ่ง​ไหว​อยู่​แล้ว​”

“​ท่าน​ออกจาก​การกั​กตน​แล้ว​จะ​ไม่​ไป​เยี่ยม​นาง​หน่อย​หรือ​?​”

“​ไม่มี​อัน​ใด​ต้อง​เยี่ยมเยือน​นี่​ ​ตำหนัก​นั้น​ของ​ข้า​ปลอดภัย​ยิ่งนัก​ ​อีกทั้ง​นาง​ยัง​สูญสิ้น​พลัง​ยุทธ์​ไป​หมด​แล้ว​ ​เท่ากับ​กลายเป็น​คน​ไร้ประโยชน์​ ​ขอ​เพียง​นาง​อาศัย​อยู่​ใน​ตำหนัก​อย่างว่า​ง่าย​ก็​ไม่มีทาง​เกิดเรื่อง​ใดๆ​ ​ขึ้น​ ​ตอนนี้​ผู้​ทรงสิทธิ์​อย่าง​ข้า​คร้าน​จะ​พบ​นาง​ ​มอง​นาง​เป็น​เพียง​ของ​ตกแต่ง​ชิ้น​หนึ่ง​ใน​ตำหนัก​เท่านั้น​”

….

กู้​ซีจิ​่​วก​ระ​อัก​โลหิต​พ่น​ใส่​บาน​กระจก​ ​ทำให้​กระจก​วิเศษ​บาน​นั้น​ปิด​ลง​ด้วยตัวเอง

นาง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​มอง​กระจก​วิเศษ​อย่าง​เลื่อนลอย​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​ชีวิต​ของ​ตน​เหมือน​เรื่องตลก​ ​อุตสาหะ​ทุ่มเท​มา​เนิ่นนาน​ ​กลับ​มีชีวิต​อยู่​เพื่อ​เป็น​ของ​ตกแต่ง​ใน​ชีวิต​ของ​ผู้อื่น​เท่านั้น​…

ในที่สุด​นาง​ก็​ตอบรับ​คำขอ​วิวาห์​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​แลก​กับ​การ​ที่​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ต้อง​สอน​วรยุทธ์​ที่​เลิศล้ำ​ให้​นาง​ ​นาง​ต้องการ​จะ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​โดย​ไม่สน​ใจ​ว่า​ต้อง​แลก​ด้วย​อะไร

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ย่อม​ตอบ​ตกลง​ ​ไม่เพียงแต่​ถ่ายทอด​พลัง​ยุทธ์​ให้​นาง​เท่านั้น​ ​ยัง​ถ่ายเทพ​พลัง​ยุทธ์​ส่วนหนึ่ง​ของ​ตน​ให้​นาง​ด้วย​ ​ทำให้​วรยุทธ์​ของ​นาง​พัฒนา​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​จน​น่า​ตะลึง

และ​ใน​ระหว่าง​นี้​ ​ตี้ฝู​อี​ยังคง​ไม่​ถามไถ่​ยิน​ยล​ถึง​นาง​ ​ไม่ได้​มาหา​นาง​เลย

ถ้า​กู้​ซีจิ​่​วจะ​แต่งงาน​ใหม่​ก็​ต้อง​ทำลาย​กำไล​คู่​บุพเพ​ที่​เชื่อมต่อ​กับ​ตี้ฝู​อี​ทิ้ง​ ​เมื่อ​กำไล​คู่​บุพเพ​แตกหัก​ก็​หมายความว่า​ชีวิตคู่​ของ​นาง​กับ​ตี้ฝู​อี​มาถึง​จุดสิ้นสุด​แล้ว

เมื่อก่อน​นาง​ไม่มี​พลัง​ยุทธ์​ที่จะ​ทำลาย​มัน​ ​แต่​หลังจาก​วรยุทธ์​ของ​นาง​บำเพ็ญ​จนถึง​ระดับ​ที่​แน่นอน​แล้ว​ ​แต่​คิด​จาก​ใจจริง​ว่าการ​ทำลาย​สิ่ง​นี้​ไม่ได้​ยุ่งยาก​จน​เกินไป​อีกแล้ว

ในที่สุด​นาง​ก็​ทำลาย​กำไล​วง​นั้น​ ​มอง​กำไล​สลาย​เป็น​แสงรุ้ง​เลือนหาย​ไป​ ​นาง​รู้​ว่า​ตน​ไม่ใช่​ภรรยา​ของ​ตี้ฝู​อี​อีกต่อไป​แล้ว

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เริ่ม​จัดเตรียม​งาน​วิวาห์​ ​งาน​วิวาห์​ยิ่งใหญ่​นัก​ ​เลื่อง​ลื่อ​ไป​ทั่ว​สี่​สมุทร​แปด​ดินแดน

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ยังคง​มี​มีชื่อเสียง​ยิ่งนัก​ใน​สี่​สมุทร​แปด​ดินแดน​ ​พอ​ถึง​เวลา​มี​ผู้คน​มากั​นมา​กมาย​ ​ใน​บรรดา​นั้น​มีตี​้ฝู​อี​ที่​ไม่​เผยโฉม​ออกมา​เนิ่นนาน​แล้ว​อยู่​ด้วย

ทันทีที่​ตี้ฝู​อี​ปรากฏตัว​ขึ้น​ก็​ก่อกวน​งาน​วิวาห์​ทันที​ ​เขา​โกรธ​เกรี้ยว​อย่าง​มหันต์​ ​ไม่เพียงแต่​ทำลาย​งาน​วิวาห์​เท่านั้น​ ​ยัง​ทำลาย​ตำหนัก​ทั้ง​หลัง​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ด้วย​ ​ถึงขั้น​ที่​ทำให้เกิด​แผ่นดินไหว​ระดับ​รุนแรง​ไป​ทั่ว​สวรรค์​ชั้น​ฟ้า​เลย​ด้วย​ ​แทบจะ​พัง​ถล่ม​ลงมา​แล้ว​!

งาน​วิวาห์​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถูก​ก่อกวน​ ​ย่อม​โกรธ​กริ้ว​อย่างยิ่ง​เช่นกัน​ ​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​อะไร​ก็​เข้า​ต่อสู้​กับ​ตี้ฝู​อี​เลย

ศึก​นี้​ของ​พวกเขา​ย่อม​สะท้าน​ฟ้า​สะเทือน​ดิน​ ​สนั่น​สั่น​ไหว​พลิก​ถาโถม​ไม่ทราบ​ว่า​ทำลาย​สวรรค์​ไป​กี่​ชั้น​ฟ้า​แล้ว

และ​ในท้ายที่สุด​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ก็​ปราชัย​ให้​ตี้ฝู​อี​ ​ถูก​เขา​ใช้​เพลิง​อัคคี​บัวแดง​เผา​ทั้งเป็น​ ​แน่นอน​ ​ตี้ฝู​อีก​็​บาดเจ็บสาหัส​เช่นกัน

ส่วน​กู้​ซีจิ​่ว​เห็น​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถูก​สังหาร​ ​ความชิงชัง​ครั้ง​เก่า​ความแค้น​ครั้ง​ใหม่​เข้า​ท่วมท้น​หัวใจ​ ​นาง​ไม่​พูดพร่ำ​ให้​มากความ​ก็​ลงมือ​กับ​ตี้ฝู​อี​เลย​…

กระบี่​อัน​น่า​ตื่น​ตะลึง​เล่ม​หนึ่ง​ได้​ก่อตัว​ขึ้น​จาก​แก่น​พลัง​ยุทธ์​ทั้งหมด​ของ​นาง​ ​แทง​เข้าใส่​ตี้ฝู​อี

นาง​ต้องการ​มอบ​คำอธิบาย​ให้​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​และ​มอบ​คำอธิบาย​ให้​ตัวเอง

เพียงแต่​นาง​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​กระบี่​นี้​ก็​แทง​ถูก​ตัว​เขา​จริงๆ​ ​เนื่องจาก​ตอนที่​นาง​แทง​ออก​ไป​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​เขา​จะ​ไม่​หลบ​เลย​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ถูก​กระบี่​นี้​ของ​นาง​แทง​ทะลุ​หัวใจ​ ​ถูก​ตรึง​ติด​กำแพง​เอาไว้​ทั้งเป็น

ว่า​กันตา​มเห​ตุ​ผล​แล้ว​ ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​ไม่มีทาง​ถูก​ศาสตราวุธ​ใดๆ​ ​สังหาร​ได้​ ​แต่​เวท​วิชา​ที่​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​สอน​ให้​นาง​ ​มีสิ​่ง​ที่​เอาไว้​ต่อกร​กับ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​โดยเฉพาะ​อยู่​ด้วย​…

และ​เนื่องจาก​ตี้ฝู​อี​ฝ่าฝืน​กฏ​เกณฑ์​ลิขิต​สวรรค์​ ​ร่างกาย​จึง​ไม่​คงกระพัน​แล้ว

กู้​ซีจิ​่​วก​็​คือ​จุดอ่อน​ของ​เขา​ ​และ​เป็น​เพียง​คนเดียว​ที่สามา​รถ​สังหาร​เขา​อย่างแท้จริง​ได้

ด้วยเหตุนี้​ ​กู้​ซีจิ​่​วจึง​เห็น​ตี้ฝู​อี​ดับขันธ์​ไป​ภายใต้​คมกระ​บี่​ของ​ตน​ ​กลายเป็น​ละออง​แสง​เลือนหาย​ไป​ ​ตอนนั้น​คล้าย​ว่า​เขา​อยาก​จะ​อธิบาย​อัน​ใด​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออกมา​…

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​2750​ ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​ ​5

บางที​เขา​อาจจะ​ไม่มีเวลา​พอได้​พูด​ออกมา​ ​ใน​วินาที​ที่​ดับขันธ์​สลาย​กลายเป็น​ละออง​แสง​ ​เขา​เอ่ย​ออกมา​เพียง​สอง​คำ​เท่านั้น​ ​“​ลูก​เรา​…​”

กู้​ซีจิ​่ว​เห็น​เขา​สลาย​หาย​ไป​ภายใต้​กระบี่​ตน​ ​ตัว​คน​ก็​เสียสติ​ไป​เลย​ ​ค่อยๆ​ ​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ได้รับ​ความนิยม​ไม่น้อย​เลย​ ​ส่วน​ตี้ฝู​อี​ที่​เป็น​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​ก็​ยิ่ง​ได้รับ​ความนิยม​มากกว่า​ ​ตอนนี้​ทั้งสอง​ต่าง​ต้อง​มอดม้วย​ไป​ทั้งคู่​เพราะ​สตรี​คน​หนึ่ง​ ​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​รับ​ไม่ไหว​เลย​จริงๆ

ไม่มี​ผู้ใด​ทราบ​ความจริง​ ​พวกเขา​เห็น​เพียง​ว่าย​อด​บุรุษ​ผู้​เลิศล้ำ​ใน​โลก​หล้า​ทั้งสอง​คน​นี้​สิ้น​ลง​เพราะ​สตรี​คน​นี้

ฝูงชน​ที่​ตกตะลึง​ตีวง​ล้อม​เข้ามา​อีกครั้ง​ ​สายตา​ที่​มอง​กู้​ซีจิ​่ว​เสมือน​มอง​โฉมงาม​กาลี​คน​หนึ่ง

บางคน​ด่าทอ​ ​บางคน​เหยียดหยาม​ ​บางคน​ร้องไห้

นาง​ล้วน​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ใด​เลย​ ​ไม่ได้​ยิน​เสียงเอ็ดอึง​โวยวาย​เหล่านั้น​เลย​ ​นาง​เพียง​มอง​มือ​ที่​สั่น​ระริก​ของ​ตน​ ​จากนั้น​ก็​มองดู​กระบี่​เล่ม​นั้น​ ​นาง​คล้าย​จะ​เอ่ย​กับ​ตัวเอง​ ​และ​คล้าย​จะ​ไต่ถาม​ด้วย​ ​“​ทำไม​ถึง​ไม่​หลบ​ล่ะ​?​ ​ทำไม​ท่าน​ถึง​ไม่​หลบ​กัน​?​”

น้ำเสียง​นาง​แหบ​โหย​อย่างยิ่ง​ ​เอ่ย​ถาม​ซ้ำๆ​ ​เลื่อนลอย​ขึ้น​เรื่อยๆ

โลหิต​สดๆ​ ​ที่​ตี้ฝู​อี​หลั่ง​ออกมา​ยังคง​เปรอะ​อยู่​บน​มือ​ของ​นาง​ ​ไม่ได้​ไหล​หยด​ลงพื้น​ ​แต่​ซึม​เข้าสู่​ผิวหนัง​ของ​นาง​ ​ราวกับ​ถูก​นาง​ดูดซับ​เข้าไป

ไม่น่าเชื่อ​ว่า​โลหิต​สด​เหล่านั้น​จะ​ถูก​ผิวหนัง​ของ​นาง​ดูดซับ​เข้าไป​ทั้งหมด​ ​และ​ตัวนาง​ก็​ราวกับ​ได้สติ​ตื่นขึ้น​มาจาก​ห้วง​ฝัน​ ​ร่างกาย​สั่นสะท้าน​ขึ้น​มา​อย่างรุนแรง

จู่ๆ​ ​นาง​ก็​หยิบ​กระบี่​ขึ้น​มา​ ​รังสี​สังหาร​อัน​กล้าแกร่ง​แผ่รัศมี​กดดัน​ออก​ไปร​อบ​กาย​ ​บีบ​ให้​ผู้​ที่​มุง​ด่าทอ​นาง​ด้วย​ความโกรธ​เกรี้ยว​เหล่านั้น​ต้อง​ถอยร่น​ออก​ไป​หลาย​ก้าว​อย่าง​ไม่​อาจ​ควบคุม​ร่างกาย​ได้

พวกเขา​เพิ่ง​ค้นพบ​ว่า​สตรีที​่​เคย​ถูก​พวกเขา​มองว่า​เป็น​แจกัน​บุปผา​ ​ไร้​ซึ่ง​พลัง​ยุทธ์​ใดๆ​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​จะ​ร้ายกาจ​ถึง​เพียงนี้​แล้ว​ ​แรงกดดัน​อัน​ไร้​ลักษณ์​บน​ร่าง​ของ​นาง​ทำให้​คนที​่​มุง​ล้อม​นาง​อยู่​ต้อง​คุกเข่า​ลง​แทบ​ทั้งหมด

ทุกคน​ตระหนก​ลนลาน​ ​ร่างกาย​สั่นเทา​อยาก​จะ​ลุกขึ้น​มา​ ​ทว่า​ยืน​ไม่​ขึ้น​แล้ว

ทุกคน​คิด​ว่า​สงคราม​นี้​จบสิ้น​แล้ว​ ​ขอ​เพียง​สตรี​คน​นั้น​ลงมือ​กับ​พวกเขา​ ​พวกเขา​ก็​ชะตาขาด​กัน​หมด

กลับ​คาดไม่ถึง​ว่า​กู้​ซีจิ​่ว​ไม่มี​ท่าที​จะ​สนใจ​พวกเขา​เลย​สักนิด​ ​นาง​ทำ​มุท​รา​ร่าย​อาคม​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​ใบหน้า​ที่​ซีดเผือด​ ​ผู้​ที่​มีพลัง​ยุทธ์​สูง​ย่อม​มองออก​ว่าที่​นาง​ร่าย​อยู่​คือ​อาคม​เรียก​วิญญาณ​ที่​พบเห็น​ได้​ยาก​แขนง​หนึ่ง​ ​สามารถ​เรียก​ดวงวิญญาณ​ทุกอย่าง​มา​ได้​ ​ต่อให้​เป็น​ผู้​ที่​ดวงวิญญาณ​แตกสลาย​ไป​แล้ว​ ​ก็​ถูก​อาคม​นี้​เรียก​กลับมา​ได้​ถึง​สามสี​่​ส่วน

แต่​กู้​ซีจิ​่ว​ยุ่ง​ง่วน​อยู่นาน​ยิ่ง​ ​ก็​รวบรวม​ดวงวิญญาณ​ไม่ได้​เลย​สัก​เสี้ยว

ในที่สุด​นาง​ก็​สิ้นหวัง​ ​ค่อยๆ​ ​หยุด​มือ​ ​พลัน​เงยหน้า​หัวเราะ​เสียงดัง​ ​กำ​กระบี่​เล่ม​นั้น​ไว้​ ​คมกระ​บี่​บาด​ลึก​เข้าไป​ใน​นิ้ว​ของ​นาง​ ​โลหิต​สด​ทะลัก​ออกมา

“​ตี้ฝู​อี​ ​ข้า​สังหาร​ท่าน​ ​ข้า​จะ​ชดใช้​ให้ท่าน​ด้วย​ชีวิต​!​”

นี่​คือ​วาจา​ประโยค​สุดท้าย​ที่นาง​ทิ้ง​ไว้​ใน​โลก​ใบ​นี้​ ​เมื่อ​เอ่ย​ประโยค​นี้​จบ​ ​นาง​ก็​ใช้​อาคม​แขนง​หนึ่ง​ระเบิด​ตัวเอง​เลย

ฉาก​สุดท้าย​ของ​บิดา​มารดา​ที่​ตี้​เฮ่า​ได้​เห็น​ใน​กระจก​ก็​คือ​ฉาก​นี้​ ​หน้าจอ​ถูก​ปกคลุม​ไป​ด้วย​หมอก​โลหิต

ตอนนั้น​ตี้​เฮ่า​ได้​เห็น​สถาน​ภารณ​์​ที่แท้​จริง​ของ​ทั้ง​ฝั่ง​บิดา​และ​มารดา

เขา​เห็น​ว่า​ตอนนั้น​ตี้ฝู​อี​ผู้​เป็น​บิดา​ได้​ปิด​ด่าน​กัก​ตน​จริงๆ​ ​และ​เนื่องจาก​เขา​สะเทือนอารมณ์​ ​การ​ปิด​ด่าน​กัก​ตน​จึง​เป็นไป​อย่าง​เชื่องช้า​ยิ่ง​ ​ถึงขั้น​ที่​เนื่องจาก​ห่วง​พะวง​ถึง​ภรรยา​ที่อยู่​ด้านนอก​จิตใจ​หวั่นไหว​จึง​ถูก​ธาตุ​ไฟ​เข้า​แทรก​…

ตอนที่​กู้​ซีจิ​่​วก​ระ​เสือก​กระ​สน​คลอด​บุตร​อยู่​ใน​ถิ่น​รกร้าง​กันดาร​ ​เป็น​ตอนที่​ตี้ฝู​อี​ถูก​ธาตุ​ไฟ​เข้า​แทรก​พอดี​ ​ร่าง​เขา​กลายเป็น​รูป​สลัก​หยก​ที่​ไร้สติ​สัมปชัญญะ​ ​ตัดขาด​จาก​ประสาทสัมผัส​ทั้ง​ห้า​ ​ย่อม​ไม่ได้​ยิน​เสียง​เรียกขาน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​เหล่านั้น​จาก​กู้​ซีจิ​่ว

ครั้งนี้​อาการ​ธาตุ​ไฟ​เข้า​แทรก​ของ​เขา​นับเป็น​โชค​ใน​คราวเคราะห์​ ​เนื่องจาก​พอ​หลังจาก​เขา​ตื่น​รู้​จาก​สภาพ​รูป​สลัก​หยก​อย่าง​ยากลำบาก​ ​พลัง​ยุทธ์​ใน​ร่าง​ก็​ฟื้นฟู​กลับมา​กว่า​ครึ่ง​แล้ว

เขา​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก​ ​คิด​จะ​ค่อยๆ​ ​ปรับ​ลมปราณ​แล้ว​ออกจาก​การ​ปิด​ด่าน​ ​กลับ​คาดไม่ถึง​ว่ายัง​ไม่ทัน​ได้​นั่งสมาธิ​ปรับ​ลมปราณ​ ​กำไล​คู่​บุพเพ​บน​ข้อมือ​ก็​แตกสลาย​เสีย​แล้ว​…

———————————————————————————–