ตอนที่ 785: การบุกรุกของทวีปสัตว์เทวะ (3)
การบุกรุกเข้ามาของจอมยุทธของทวีปสัตว์เทวะได้ทำให้จอมยุทธที่แข็งแกร่งของทวีปเทียนหยวนตื่นตัว โดยเฉพาะพลังการมีอยู่ของแลงคีรอสที่เป็นถึงเซียนจักรพรรดิซึ่งปกคลุมไปทั่วทั้งทวีป เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดสามารถรู้สึกได้ถึงความสั่นไหวในวิญญาณของพวกเขาและความกลัวที่อยู่ลึกภายใน
ในสำนักงานใหญ่ของสมาคมในเมืองแห่งเทพเจ้า เจี้ยนเฉินกำลังพูดคุยเกี่ยวกับทุกเรื่องที่เขาเจอมาในมิติของวัตถุเซียนกับท่านประธานและผู้อาวุโสสูงสุด
ทันใดนั้นเอง ท่าทางของท่านประธานและผู้อาวุโสสูงสุดที่กำลังฟังอย่างใกล้ชิดได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พวกเขายืนขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยและรีบอกไปที่หน้าต่าง พวกเขาจ้องไปไกลด้วยความตกใจและเคร่งเครียดอย่างมาก
“เป็นพลังการมีอยู่ที่กว้างใหญ่อะไรแบบนี้ ! นะ นะ นี่เป็นพลังของการมีอยู่ของสัตว์อสูรระดับ 8 ! ” ผู้อาวุโสสูงสุดพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและถาโถมไปด้วยความตกใจ ทันทีที่เขาพูดจบ พลังของการมีอยู่ที่กว้างใหญ่กว่านั้นได้ทำให้ส่วนลึกในใจของเขาสั่นไหว พลังนั่นครอบคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าของปราสาท มันทำให้ท่าทางของผู้อาวุโสสูงสุดเปลี่ยนไปอีกครั้ง เพราะว่าต่อหน้าการมีอยู่ที่น่ากลัวนี้ เขาไม่สามารถที่จะคิดแม้แต่ต่อต้านได้เลย แค่พลังของการมีอยู่ก็เอาชนะเขาได้แล้ว
“นะ นะ นี่อาจจะเป็นการมีอยู่ของเซียนจักรพรรดิ” ท่านประธานพูดอย่างประหลาดใจ
“นี่ต้องเป็นจอมยุทธจากทวีปสัตว์เทวะแน่ ทวีปสัตว์เทวะกำลังจะบุกรุกทวีปของพวกเราอย่างนั้นหรือ ? “
เจี้ยนเฉินที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งสามารถรู้สึกได้ถึงการจู่โจมของพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังนับไม่ถ้วนจากที่ไกลออกไป เขาหน้าบูดบึ้งและท่าทีของเขาก็หมองหม่นเหมือนน้ำในบ่อน้ำ เขารู้ดีว่าจอมยุทธของทวีปสัตว์เทวะมาแล้ว และพวกเขามาที่นี่เพราะเรื่องเสือขาว
“มีคนไม่มากนักที่รู้จักตัวตนของเสือขาว แต่คุณลักษณะที่พิเศษของมันนั้นสะดุดตาเกินไป ถ้าพวกเขาประกาศข่าวเรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะออกไป ข้าจะกลายเป็นจุดสนใจของคนอื่น ๆ ในไม่ช้านี้” สายตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายและเขารู้สึกไม่สบายใจ ทวีปสัตว์เทวะมาไวเกินกว่าที่เขาคิดไว้
เขาไม่กลัวเรื่องที่ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยอีกต่อไปแล้ว ในตอนนี้เขาเพียงแค่กังวลว่าเขาจะไม่สามารถรออีกปีได้กว่าที่จะได้เป็นระดับ 7 เขาจำเป็นต้องสำเร็จระดับ 7 เพื่อชุบชีวิตพ่อและแม่ของเขา
ในที่ใดก็ไม่ทราบได้ของทวีปเทียนหยวน หญิงวัยกลางคนที่ดูธรรมดาสามัญลืมตาของนางขึ้นอย่างช้า ๆ นางพูดอย่างช้า ๆ ด้วยเสียงที่สงบซึ่งดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
“ทวีปสัตว์เทวะได้บุกรุกทวีปเทียนหยวนของพวกเรา ติดต่อนิกายเฉินเซียว นิกายโพเทียน นิกายหยางจิ นิกายยิหยวน สำนักดาบทรราช สำนักเลือดเย็น สำนักกำยานสวรรค์ ตระกูลเจียงหยาง และตระกูลโม่หยวนนที บอกพวกเขาให้เตรียมตัวที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู ลูกศิษย์ที่เป็นเซียนผู้คุมกฎและเหนือไปกว่านั้น ตามข้าไปที่ทวีปเทียนหยวน”
“ขอรับ ท่านอาจารย์ ! ” เสียงพูดอย่างพร้อมเพรียงกันดังก้องขึ้นทั่วบริเวณ แต่เสียงนั้นออกมาจากหลาย ๆ ที่
ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบของทวีปเทียนหยวนปลดผนึกมิติของพวกเขาและจอมยุทธจำนวนนับไม่ถ้วนได้เข้าไปที่ทวีปเทียนหยวนเพื่อที่จะต่อต้านการบุกรุกของทวีปสัตว์เทวะ
“กระจายคำพูดของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบออกไป จอมยุทธมนุษย์ทั้งหมดของตระกูลให้ไปรวมกันที่เทือกเขาครอส” ในเวลานี้ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว พวกเขาเรียกรวมตัวเหล่าจอมยุทธเพื่อรวบรวมคนที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีป
ในตอนนี้ ในแนวภูเขาโบราณ ชายชรากำลังนั่งฝึกตนอยู่ในถ้ำ เขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไรนักเพราะเขาเป็นเพียงเซียนสวรรค์
ในตอนนี้ ประตูมิติขนาดใหญ่ได้เปิดขึ้นบนท้องฟ้าเหนือแนวภูเขา ร่างจำนวนนับไม่ถ้วนพร้อมพลังการมีอยู่ที่ชั่วร้ายได้พุ่งออกมากก่อนที่จะหายไปในพริบตา
ภายในถ้ำ ชายชราดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงมันและลืมตาขึ้นมาทันที เขาไม่สามารถปิดบังความตื่นเต้นเอาไว้ได้อีกและเขาพูด “สุดยอดมาก ! นิกายหยางจิได้ปลดผนึกแล้วในที่สุด สำนักสาขาที่ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้คำสั่งของท่านผู้อาวุโสได้ถูกทำลายลงแล้ว และตอนนี้ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม นิกายหยางจิของข้าจะไม่ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ พวกมันจะต้องโดนสังหารทั้งตระกูล ! “
หลังจากพูดจบ ชายชราก็ออกจากถ้ำไปทันที เขาใช้พลังงานธรรมชาติรอบ ๆ แล้วดึงตัวเขาเข้าไปที่ประตูมิติใหญ่ ในขณะที่เขานิ้วหัวแม่มือของตัวเอง เลือด 1 หยดได้พุ่งไปที่ประตูมิติ และเขาพูดอย่างนอบน้อม “ลูกศิษย์ของนิกายหยางจิได้กลับมาแล้ว ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องรายงานกับท่านผู้อาวุโส ! “
เสาแสงใหญ่ได้ห่อหุ้มรอบชายชราเอาไว้ และดูดเขาเข้าไปที่ประตูมิติ
ในส่วนลึกของเทือกเขาครอส จอมยุทธสิบกว่าคนจากทวีปสัตว์เทวะ ทั้งหมดลอยอยู่กลางอากาศ และจ้องไปที่ดินแดนกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดที่ห่างออกไป ขณะเดียวกัน สัตว์อสูรของตระกูลกิลลิกันก็ปรากฎออกมาจากที่ต่าง ๆ ในรูปแบบของมนุษย์ และยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความนอบน้อม
การมาถึงของจอมยุทธเหล่านี้ได้ทำให้ผู้คนที่ทรงพลังบนทวีปเทียนหยวนตื่นตัว ปฏิกิริยาของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างนั้นรวดเร็วมาก มิติเหนือเทือกเขาครอสเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงนานหลายวินาที แล้วประตูมิติก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับผู้คนที่ออกมาจากมัน แต่ละคนมีอายุและเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันได้เดินออกมาจากประตูมิติ แต่ละคนเปล่งรัศมีไปด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่กว้างใหญ่ ทำให้มิติแถวนั้นสั่นไหว
ในเวลาอันสั้น จอมยุทธที่เป็นมนุษย์หลายร้อยคนก็ปรากฏตัวออกมาเหนือเทือกเขาครอส พวกเขายืนเป็นกลุ่ม ๆ และกำลังเผชิญหน้ากับผู้บุกรุกภายนอกจากทวีปสัตว์เทวะ
มีอยู่ 11 กลุ่มที่มีคนมากที่สุด แต่ละกลุ่มมีจำนวนคน 20-30 คน พวกเขามาจากเมืองทหารรับจ้างและตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ
อีก 3 กลุ่มมีคนจำนวนน้อยกว่า พวกเขามาจากสามจักรวรรดิของทวีป ไม่แปลกใจเลยที่หญิงวัยกลางคนจากตระกูลซาร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย
ข้าง ๆ หญิงคนนั้นมีชายชราผิวสีเลือดฝาดยืนอยู่ เขาคือเซียนราชาอีก 1 คนของตระกูลซาร์
รอบ ๆ คนสองคนจากตระกูลซาร์นั้น มี 4 ผู้อาวุโสยืนอยู่ พวกเขาเป็นหัวหน้าตระกูลของตระกูลคาราและตระกูลคาซดา
อีกข้างหนึ่ง ลุงเซี่ยยืนอยู่ในชุดธรรมดาตามมาด้วยชายชราที่อยู่ในชุดสีแดง ข้างหลังเขาทั้งสองคนมีคนอีก 6 คนที่อยู่ในชุดสีแดง และเปล่งรัศมีไปด้วยพลังหยินชั่วร้ายไปทั่ว
นอกเหนือจากพวกเขาแล้ว มีตระกูลโบราณบางตระกูลและตระกูลสันโดษที่ไม่ได้สังกัดองค์กรไหนเลยก็ได้มารวมตัวกันเพื่อป้องกันการบุกรุกของทวีปสัตว์เทวะ
แม้ว่าจะไม่มีได้มีจอมยุทธมนุษย์มากมายนัก แต่การรวมตัวกันนี้ก็เป็นการรวมตัวของผู้ที่อยู่เหนือทุกคนทั่วทั้งทวีปเทียนหยวน
แลงคีรอสมองไปที่ทุกคนอย่างสงบ แม้ว่าจำนวนของมนุษย์ที่มากันจำนวนมากกว่าที่พวกที่เขานำมาจากทวีปสัตว์เทวะ แต่เขาก็ไม่ได้กังวลและแทนที่กันเขากลับยิ้มอย่างเย็นชา เขาพูด “พวกเจ้า จอมยุทธของทวีปเทียนหยวนมากันได้ค่อนข้างเร็วที่เดียว หลายคนได้มารวมกันอย่างรวดเร็ว”
“ทวีปสัตว์เทวะของเจ้าได้ทำลายข้อตกลงในการไม่รุกรานกันที่ตั้งไว้โดยท่านเจ้าเมืองและพยัคฆ์ปีกเทวะเมื่อหลายปีก่อนหน้ามานี้ กรุณากลับออกไปจากทวีปนี้โดยเร็ว” เทียนเจี้ยนที่อยู่ในชุดขาวพูดเสียงแหบ อ้างถึงข้อตกลงระหว่างท่านเจ้าเมืองของเมืองทหารรับจ้างและพยัคฆ์ปีกเทวะของทวีปสัตว์เทวะ แล้ว มันต้องเป็นเขาเท่านั้นมีสิทธิ์มากที่สุดที่จะพูดเรื่องนี้ออกมา
แลงคีรอสเหยียดและพูดอย่างเย็นชา “ทุก ๆ คน เจ้าต้องรู้ถึงจุดประสงค์ของพวกเรา ทวีปสัตว์เทวะ พยัคฆ์ปีกเทวะโบราณนั้นเป็นเทพเจ้าของเหล่าสัตว์อสูร แต่จอมยุทธของทวีปเทียนหยวนกลับขัดขวางผู้คนของข้าไม่ให้นำเขากลับไป ทำไมพวกเจ้าถึงทำอย่างนั้นล่ะ ? “
“อะไรนะ พยัคฆ์ปีกเทวะ ? “
สิ่งที่แลงคีรอสพูดทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นั่นประหลาดใจเป็นอย่างมาก สายตาแห่งความสงสัยและความสับสนเกิดขึ้นกับทุกคน มีเพียงท่านผู้อาวุโสบางคนของเมืองทหารรับจ้างและลุงเซี่ยเท่านั้นที่ยังคงปกติอยู่เพราะพวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับการมีอยู่ของพยัคฆ์ปีกเทวะแล้ว
“พยัคฆ์ปีกเทวะมาปรากฏตัวที่ทวีปเทียนหยวนแล้วอย่างนั้นหรือ ? ” ทุก ๆ คนที่อยู่ที่นี่เป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่มานานหลายพันปี ความฉลาดเฉลียวของพวกเขาอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมและเข้าใจทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว สายตาทุกคนที่อยู่ในที่นี่เป็นประกายไปด้วยความคิดต่าง ๆ
เมื่อเห็นดังนี้ ใจแลงคีรอสจึงสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย เขาเหยียด “ดูเหมือนว่าจะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะ ยังไงก็ตาม ทวีปสัตว์เทวะของข้าไม่ได้ปรารถนาที่จะทำลายข้อตกลงที่ทำมานานหลายปีนี้ พวกเราหวังว่าทวีปนี้จะไม่ขัดขวางเราในการตามหาพยัคฆ์ปีกเทวะ เราจะออกไปทันทีเมื่อเราพบมัน”
“ทวีปเทียนหยวนเป็นเขตแดนของมนุษย์ มันไม่ใช่ที่ซึ่งทวีปสัตว์เทวะของเจ้าที่จะมาทำตัวแบบสัตว์ป่าได้ เราหวังว่าพวกเจ้าจะออกไปจากทวีปนี้ ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างจะจัดการกับเรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะเอง” คนที่พูดเป็นหญิงวัยกลางคนธรรมดา ๆ เจ้าสำนักของอารามจิตพิสุทธิ์
“ถูกต้อง เรื่องของทวีปเทียนหยวนไม่ต้องการให้ทวีปสัตว์เทวะอย่างพวกเจ้ามายุ่งเกี่ยว กรุณาออกไปจากทวีปโดยเร็ว พวกเราจะให้คำอธิบายเกี่ยวกับพยัคฆ์ปีกเทวะเองหลังจากที่เรายืนยันเรื่องนี้ได้แล้ว” คนที่พูดเป็นชายชรา ผู้นำตระกูลของตระกูลผู้พิทักษ์ เขาอยู่ในขั้นสูงสุดของเซียนราชานานมาแล้วและห่างจากเซียนจักรพรรดิอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น
แลงคีรอสเหยียดออกมา “เมื่อพวกเจ้าไม่ต้องการที่จะช่วยเหลือ อย่าหาว่าพวกข้าทำเกินไปล่ะ” ในขณะที่เขาพูด แลงคีรอสก็ชี้ไปที่ชายชรา กรงเล็บเสือขนาดใหญ่ได้ควบรวมขึ้นมาทันทีทันใด และเหวี่ยงไปที่ชายชราคนนั้นด้วยแรงอย่างมหาศาล
กรงเล็บนั้นดูเหมือนจะธรรมดา แต่มันเต็มไปด้วยกฎแห่งธรรมชาติและความลึกลับต่าง ๆ ภายในกรงเล็บมีคลื่นพลังที่น่ากลัวที่สามารถที่จะทำลายโลกได้ กรงเล็บฟาดออกมามันได้ทำลายมิติที่อยู่รอบ ๆ และเปลี่ยนให้มิติเป็นสีดำสนิท
เซียนราชาที่อยู่ในขั้นสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์เริ่มเคร่งเครียด แค่กรงเล็บเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เขากดดันอย่างมากมาย เขาไม่แม้แต่จะคิดที่จะต่อต้านการโจมตีนั้น
อีกแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้นที่เขาจะเป็นเซียนจักรพรรดิ แต่ความแตกต่างเพียงนิดเดียวนี้คือช่องว่างอย่างมหาศาล
“ทวีปเทียนหยวนของข้าไม่ใช่ที่ซึ่งจอมยุทธทวีปสัตว์เทวะของเจ้าจะมาทำอะไรบุ่มบ่ามได้ เซียนจักรพรรดิของเผ่าเสือ ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเจ้าเอง ทำไมเจ้าถึงได้ไปโจมตีศิษย์น้องล่ะ ? ” เสียงที่นุ่มนวลและดูมีความรู้ได้ดังขึ้นมาในอากาศ หลังจากเสียงนั้น หมัดความกว้าง 10 เมตรได้รวมตัวกันอย่างรวดเร็วและพุ่งไปที่กรงเล็บด้วยความเร็วสูง
สายตาของแลงคีรอสเป็นประกายและเขาพูดออกมาด้วยเสียงที่ชัดเจน “มารราคะ ในที่สุดเจ้าก็มา ในฐานะที่เจ้าเป็นเพียงเซียนจักรพรรดิคนเดียวบนทวีปเทียนหยวน ขอให้ข้าได้ลองสู้กับเจ้าดู”
วิถีของกรงเล็บได้เปลี่ยนไป และพุ่งไปที่หมัดใหญ่
การปะทะกันของหมัดและกรงเล็บไม่ได้ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ แทนที่กันมิติตรงนั้นกลับกลายเป็นสีดำสนิท การโจมตีจากเซียนจักรพรรดิทั้งสองได้ทำลายมิติที่อยู่ตรงนั้นไป
“มารราคะ ที่นี่มันเล็กเกินไป ไปสู้กันข้างบนดีกว่า ! ” แลงคีรอสหัวเราะออกมาเสียงดัง เขาเปลี่ยนเป็นลำแสงและพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าและหายไปในพริบตา
“ทุกคน ไล่พวกมันออกไปจากทวีปเทียนหยวน ! ” หลังจากที่เซียนจักรพรรดิทั้งสองคนออกไป การต่อสู้ทำลายล้างก็ได้เกิดขึ้นระหว่างตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและสัตว์อสูรของทวีปสัตว์เทวะ
แม้จะมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองทวีป แต่จอมยุทธของทวีปเทียนหยวนก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย