ตอนที่ 786: การต่อสู้ได้หยุดลง
การต่อสู้ในส่วนลึกของเทือกเขาครอสนั้นตึงเครียดมาก มันอยู่ในความวุ่นวายที่สุดที่แม้แต่แสงจันทร์และแสงตะวันยังหมองหม่นไปและทำให้ทั้งทวีปตื่นตัว แม้แต่คนที่อยู่หลายล้านกิโลเมตรออกไปยังสามารถรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่น่ากลัวจากการต่อสู้
จอมยุทธของทวีปเทียนหยวนได้ต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับสูงของทวีปสัตว์เทวะ เหนือขึ้นไปหลายสิบกิโลเมตรเหนือเทือกเขาครอสในท้องฟ้าของมหาสมุทรทางทิศเหนือ เขตทั้งเขตเหมือนจะกลับหัว เหมือนน้ำที่กำลังไหลย้อนกลับ คลื่นใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นทันที ทำให้ระดับน้ำลดลงต่ำกว่า 9 เมตรไปทั่วทั้งเขต ขณะเดียวกัน เสียงคำรามทำลายล้างของสัตว์อสูรจากท้องฟ้าก็ได้ทำลายพื้นที่รอบ ๆ ไปครั้งแล้วครั้งเล่า
นอกเหนือไปจากนั้น ที่พื้นที่ด้านนอก การต่อสู้ระหว่างมารราคะกับราชาเสือแลงคีรอสนั้นดุเดือดมาก แม้ว่าจะไม่มีใครเห็น แต่คลื่นพลังที่น่ากลัวก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทันทีในท้องฟ้าสีคราม ทำให้ทั่วทั้งเขตบิดเบี้ยว ทุก ๆ ครั้งที่เซียนจักรพรรดิปะทะกัน มันจะเกิดพลังที่เหมือนจะทำลายล้างโลกได้ สามารถที่จะทำลายพื้นที่นี้ได้อย่างง่ายดาย
การต่อสู้ทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นที่เหนือมหาสมุทรหรือพื้นที่ด้านนอกได้ทำให้ทั่วทั้งทวีปตกใจ ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้เรื่องการบุกรุกของทวีปสัตว์เทวะ มีเพียงเซียนผู้คุมกฎเท่านั้นที่รู้ เซียนสวรรค์และคนที่ระดับต่ำกว่าสามารถสัมผัสได้ถึงการระเบิดของพลังที่น่ากลัวจากที่ไกลออกไป แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น ทำให้ทุกคนตกใจกลัวอย่างประหลาด
เจี้ยนเฉินกำลังนั่งอยู่ในห้องของสำนักงานใหญ่ของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงและไม่สบายใจอยู่ ในวินาทีที่การบุกรุกเริ่มขึ้น เขาก็กระสับกระส่าย เขาไม่รู้ว่าตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบจะทำอย่างไรถ้าพวกเขารู้เรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะ
แต่ไม่ว่าการกระทำอะไรก็ตามที่พวกเขาต้องทำ เจี้ยนเฉินเชื่อว่าพวกเขานั้นเป็นภัยอันตรายต่อตัวของเขาเอง แม่ว่าจอมยุทธจากทวีปสัตว์เทวะจะถูกขับไล่ออกไป แต่พวกเขาก็คงไม่ให้พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่กับเขาอยู่ดี และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่พวกเขาพยายามที่จะเอามันไปเอง
เพราะว่าพยัคฆ์ปีกเทวะนั้นเป็นเทพเจ้าสัตว์อสูรโบราณ มันจะเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิในอนาคตอย่างแน่นอน และการที่ควบคุมพยัคฆ์ปีกเทวะได้ก็หมายความถึงการควบคุมทั้งทวีปสัตว์เทวะได้นั่นเอง
“ข้าหวังว่าเรื่องร้ายร้ายคงจะไม่เกิดขึ้นในเร็วเร็วนี้ อีกแค่ 1 ปี ข้าต้องการเพียงอีกแค่ 1 ปีเท่านั้น” เจี้ยนเฉินคิด ในตอนนี้ ทั้งหมดที่เขาจะสามารถทำได้ก็คือภาวนาในใจของเขา เขารู้ดีว่าเขานั้นอ่อนแอเหมือนมดต่อหน้าทวีปสัตว์เทวะและตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ เขาไม่มีพลังพอที่จะต่อต้านได้เลย
“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าทวีปสัตว์เทวะจะมาบุกรุกที่ทวีปของเราจริง ๆ แต่นี่ก็ไม่มีผลอะไรกับพวกเราทั้งห้าคน เราแค่ต้องทำภารกิจของราชาเสือให้เสร็จก็เท่านั้น แค่จับตาดูเจี้ยนเฉินเอาไว้โดยไม่ต้องห่วงอะไรและก็คอยหาโอกาสเมื่อเราสามารถทำได้” กลุ่มของชายชราซิตูบ่นออกมาในใจในโรงเตี้ยมนอกสำนักงานใหญ่ของสมาคม
ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิตยังคงกำลังค้นหากลุ่มของชายชราซิตูอย่างยากลำบาก พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ที่ไกล ๆ เป็นครั้งคราว “เมื่อพวกเราเสร็จภารกิจนี้แล้ว เราจำเป็นที่จะต้องมุ่งไปที่มหาสมุทรทางเหนือทันทีเพื่อช่วยหัวหน้านิกายในการขับไล่พวกทวีปสัตว์เทวะออกไป”
อาคมปกปิดตัวตนของเมืองยังคงเปิดทำงานอยู่และปิดพลังแห่งการมีอยู่ของทุกคนในเมืองเอาไว้ คนทั้งสี่ไม่สามารถที่จะใช้วิชาลับเพื่อที่จะค้นหากลุ่มของชายชราซิตูได้ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถทำได้เพียงหาไปเรื่อย ๆ จากคนทั้งหมดเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร
สามวันผ่านไปในพริบตา การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่มหาสมุทรทางด้านเหนือยังคงดำเนินต่อไป การต่อสู้ระหว่างจอมยุทธหลายร้อยคนได้ทำให้พลังงานแห่งธรรมชาติในรัศมีหลายล้านกิโลเมตรเกิดการปั่นป่วน นักสู้ทุกคนในเขตไม่สามารถที่จะดูดซึมพลังงานเพื่อใช้ในการฝึกฝนได้
ตู้ม !
เสียงร้าวเหมือนสายฟ้าดังไปทั่วทั้งท้องฟ้า มันปกคุลมทั่วทั้งเขตไปด้วยพลังงานแห่งการทำลายล้างในขณะที่มีเสียงบนท้องฟ้า ท้องฟ้าสีครามเปลี่ยนไปเป็นสีดำสนิททันที ทำให้เกิดเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในอดีต
หลังจากนั้นไม่นาน แสงสองแสงที่สุกสว่างก็ตกลงมาจากเขตด้านนอก ด้วยความเร็วแสง พวกเขาก็มาถึงท้องฟ้าเหนือมหาสมุทร พวกเขาคือมารราคะและราชาเสือ
ในตอนนี้ พวกเขาทั้งคู่ห่อหุ้มไปด้วยชั้นของแสงสีรุ้งหนาทำให้ตัวของพวกเขานั้นมองเห็นได้ไม่ชัด แรงกดดันที่น่ากลัวจากพวกเขาทำให้โลกสั่นไหวในขณะที่มิติรอบ ๆ ก็เกิดการบิดเบี้ยว แรงกดดันที่มหาศาลนี้เพียงพอที่จะทำให้มิติพังทลายลงมาได้
การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่ยืดเยื้อมาถึง 3 วันได้มาถึงจุดหยุดพักเมื่อมารราคะและราชาเสือกลับลงมา แม้ว่าการต่อสู้ที่รุนแรงที่ทำให้ทั่วทั้งทวีปถึงกับตื่นตัว แต่ก็น่าแปลกใจที่ไม่มีใครตายเลย แต่มีบางคนที่ได้รับบาดเจ็บ
จอมยุทธของทวีปเทียนหยวนได้เปรียบในเรื่องจำนวนที่มากกว่าครึ่งของทวีปสัตว์เทวะ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการในตอนนี้คือการขับไล่ทวีปสัตว์เทวะออกไป ไม่ใช่การต่อสู้ที่ถึงชีวิต ถ้ามีการบาดเจ็บหนักและการตายเกิดขึ้น สถานการณ์คงจะเลวร้ายไปกว่านี้
ถ้าทั้งสองทวีปทำสงครามกันจริง ๆ ทวีปเทียนหยวนต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าพวกพวกเขาจะสามารถขับไล่พวกทวีปสัตว์เทวะไปได้จริง
“มารราคะ เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ข้าจิตนาการไว้มาก” เสียงของราชาเสือค่อนข้างแหบแห้ง แม้ว่าหน้าของเขาจะถูกซ่อนอยู่ แต่ทาทีของเขาก็ดูไม่สู้ดีนัก เขาตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบในการต่อสู้กับมารราคะ
“ราชาเสือ นำคนของพวกเจ้ากลับไปที่ทวีปที่เป็นของพวกเจ้าเถอะ” เสียงของมารราคะนั้นเรียบ ๆ และไม่แสคงความรู้สึกใดใด เสียงของเขานั้นดูมีความรู้และสละสลวยมาก และยังแฝงไปด้วยความปองร้ายและเหมือนผู้หญิง
“มารราคะ ข้านำคนมาแค่ครึ่งหนึ่งของตำหนักเทพเจ้าสัตว์อสูรเท่านั้นในครั้งนี้ ถ้าพวกเรา 98 คนอยู่ที่นี่พร้อมทั้งจอมยุทธของทุกเผ่า ทวีปเทียนหยวนของเจ้าจะทำอะไรได้ในการขับไล่พวกเรา ? เจ้าจะไม่สามารถสู้กับพวกเราได้แม้ว่าตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างจะใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ตาม ข้าต้องเอาพยัคฆ์ปีกเทวะกลับไปให้ได้ในครั้งนี้ ถ้าเจ้ายังต้องการที่จะขัดขวาง ข้าจะรวมพลของข้าและประกาศสงครามเต็มรูปแบบกับทวีปเทียนหยวน” ราชาเสือคำรามอย่างทรงพลัง เขาดูมั่นใจมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าความมั่นใจนั้นช่างแตกต่างอย่างมากกับความขมขื่นในจิตใจของเขา
ทวีปสัตว์เทวะ มีจอมยุทธที่สุดยอดอยู่ 3 คน พวกเขาเป็นผู้คุมกฎของทวีป เซียนจักรพรรดิซ่างเฉียงของเผ่าเปิง และเขาเอง ราชาเสือของเผ่าเสือ เช่นเดียวกัน ทวีปสัตว์เทวะ ได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนโดยแต่ละส่วนนั้นมีการปกครองตนเอง ทวีปนี้ถูกควบคุมโดยเซียนจักรพรรดิ 3 คน
ผู้คุมกฎเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในท่ามกลางคนทั้งสาม ดั้งนั้นเขาจึงควบคุมส่วนที่ทรงพลังที่สุดของทวีปไว้ รองขากเขาก็คือเซียนจักรพรรดิของเผ่าเปิงที่ควบคุมส่วนที่สอง ซ่างเฉียงเป็นรองแค่จากท่านผู้คุมกฏ
ในขณะเดียวกัน เขาเอง จักรพรรดิเสือ ควบคุมส่วนที่อ่อนแอที่สุด
ในตอนนี้ ผู้คุมกฎได้อยู่ในช่วงสำคัญของการฝึกตน เขาไม่สามารถที่จะไปไหนได้จนกว่าเขาจะสำเร็จ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของทวีปเทียนหยวนได้ชั่วคราว นอกไปจากนั้น ซ่างเฉียงยังอยู่ข้างพยัคฆ์ปีกเทวะ ซึ่งก็หมายความว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำอะไรที่เป็นการทำร้ายพยัคฆ์ปีกเทวะ ราชาเสือยังกลัวอีกว่าซ่างเฉียงอาจจะมาปรากฏตัวในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเพื่อช่วยพยัคฆ์ปีกเทวะในการกำจัดเขาออกไป
ดังนั้นแค่สองในสามส่วนเท่านั้นของทวีปสัตว์เทวะที่จะใช้ในการต่อสู้กับทวีปเทียนหยวนได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีท่านผู้อาวุโสหลายคนในสองส่วนนั้นที่ยังคงเลื่อมใสในพยัคฆ์ปีกเทวะจากส่วนลึกของจิตใจ ถ้าพวกเขารู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมท่านผู้คุมกฎถึงได้ต้องการที่จะนำพยัคฆ์ปีกเทวะกลับไป หลายเสียงคงจะต้องออกมาค้านและอาจจะมีคนที่พร้อมจะสู้ตายเพื่อที่จะต่อต้าน
ท้ายที่สุดพยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเทพเจ้าที่เป็นที่รู้จักของทุกคนบนทวีป ผู้อาวุโสสัตว์อสูรโบราณที่เลื่อมใสอย่างไม่ลืมหูลืมตาคงจะออกมาต่อต้านพวกเขาในการทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อพยัคฆ์ปีกเทวะ ถ้าเรื่องนี้รั่วไหลออกไป ผลลัพธ์อาจจะออกมารุนแรงมาก แม้แต่ผู้คุมกฎก็อาจจะเอาไม่อยู่
แม้ว่าผู้คุมกฎในตอนนี้จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนทวีปและเป็นที่เคารพอย่างมาก แต่เขาก็ยังห่างไกลจากพยัคฆ์ปีกเทวะในสายตาของประชาชนส่วนใหญ่ในทวีป
พยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเทพเจ้าที่สำคัญของทวีป เขาเป็นผู้นำสัตว์อสูรทั้งหมดให้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้น ราชาเสือจึงนำจอมยุทธเพียงครึ่งเดียวจากตำหนักเทพเจ้าสัตว์อสูรมาในครั้งนี้เท่านั้น อีกทั้ง พวกยังเป็นสัตว์อสูรที่เป็นที่เชื่อใจที่สุดของทั้งสองส่วน ราชาเสือไม่ได้นำจอมยุทธคนอื่นมา เพราะเขากลัวว่าพวกเขาจะประกาศถึงแผนการของเขาให้กับผู้คุมกฎทราบถ้าพวกเขารู้เรื่องขึ้นมา และจะทำให้เกิดผลลัพธ์ในทางลบ พวกเขาคงจะถูกสาปแช่งและรังเกียจจากคนทั่วทั้งทวีป
ถ้าทวีปเทียนหยวนไม่ปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตี เขาจะต้องรอท่านผู้คุมกฎออกมาจากการฝึกตนก่อนเท่านั้น ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม จอมยุทธของทวีปเทียนหยวนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับความจริงที่ถูกซ่อนเอาไว้ของทวีปสัตว์เทวะ เจ้าอารามของอารามจิตพิสุทธิ์ก้าวออกมาและพูดอย่างใจเย็น “พวกเรา ทวีปเทียนหยวน จะช่วยพวกเจ้าในการตามหาพยัคฆ์ปีกเทวะ แต่พวกเจ้าจะเข้ามาที่ทวีปไม่ได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น แลงคีรอสก็หยุดไปพักใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็ตกลง “ตกลงตามงั้น เพราะว่าข้อตกลงโบราณ ข้าจะเชื่อเจ้าในครั้งนี้ ข้าจะให้เวลาพวกเจ้า 3 เดือน ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะหาพยัคฆ์ปีกเทวะพบทันเวลาและส่งมันให้กับทวีปสัตว์เทวะ”
ท้ายที่สุด การต่อสู้ยิ่งใหญ่ที่กินเวลานานกว่า 3 วันได้มาถึงจุดสิ้นสุด จอมยุทธของทั้งสองทวีปได้มีข้อตกลงว่าทวีปสัตว์เทวะจะไม่พยายามที่จะบุกรุกทวีปเทียนหยวนอีก แต่พวกเขาต้องส่งพยัคฆ์ปีกเทวะกลับไปให้
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง จอมยุทธทั้งหลายก็แยกย้ายไปตามทิศทางต่าง ๆ กัน อย่างไรก็ตาม ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบได้มารวมตัวกันอยู่ที่เมืองทหารรับจ้างภายใต้การเชื้อเชิญของผู้อาวุโสสูงสุดของเมือง
ในเขตเปิดของเมืองทหารรับจ้าง เทียนเจี้ยนที่อยู่ในชุดขาวนั่งอยู่กับตัวแทนของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบรอบรอบโต๊ะประชุมในปราสาทลอยฟ้าที่เขาใช้ฝึกฝนตนอยู่
“ทุกคน พยัคฆ์ปีกเทวะได้ออกมาปรากฏตัวอีกครั้ง และครั้งนี้ในทวีปเทียนหยวนของเรา ข้าสงสัยว่าทุกคนรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ ? ” เทียนเจี้ยนพูดด้วยเสียงชัดเจน
“พยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเทพเจ้าสัตว์อสูรโบราณ เมื่อมันโตเต็มที่แล้ว มันจะเหนือยิ่งไปกว่าเซียนจักรพรรดิ ในครั้งโบราณกาล ทวีปของเรามีจอมยุทธโมเทียนหยุนปกป้องทวีปอยู่ ดังนั้นพวกเราจึงไม่กลัวพวกสัตว์อสูร แต่ตอนนี้โม่เทียนหยุนไม่อยู่แล้ว พวกเราจะมีอะไรไปสู้ ถ้ามันโตเต็มวัยได้สำเร็จ ? นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงยอมให้ทวีปสัตว์เทวะได้มันไปไม่ได้” ชายวัยกลางคนที่ดูชั่วร้ายพูดเสียงแหบแห้ง