เล่มที่ 26 เล่มที่ 26 ตอนที่ 773 ปัญหาของผู้ใด

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ไม่จำเป็นต้องออกไปตามข้างนอก คุณชายฉู่ก็พาฮูหยินท่านหนึ่งและเด็กน้อยผู้หนึ่งมายังเบื้องหน้าของตงหลิงหวง ซึ่งเด็กน้อยผู้นั้นคือคนที่ตงหลิงหวงนำมาเป็นตัวอย่างอธิบายให้เขาฟัง

“ป้าหลัวและบุตรชายคนโตของนางชื่อต้าเป่า เป็นคนกลุ่มแรกในหุบเขาที่ติดเชื้อนี้”

ตอนนั้นเองที่ตงหลิงหวงสังเกตสตรีนางหนึ่งและบุตรชายตัวเล็กของนางอย่างละเอียด

ตงหลิงหวงรู้สึกว่าเด็กน้อยผู้นี้ดูคุ้นหน้าอย่างมาก

“ฮูหยินท่านนี้ สามีของเจ้าเสียชีวิตแล้ว คนในครอบครัวยังมีคนชราและลูกชายคนเล็กอีกคน ใช่หรือไม่? ”

สตรีนางนั้นตื่นตระหนกเล็กน้อย “ฮูหยิน ท่านเรียกข้าน้อยว่าฮูหยิน ข้าน้อยรับไม่ไหวจริงๆ ข้าน้อยแซ่หลัว ฮูหยินเรียกเหมือนคุณชายฉู่ก็ได้ เรียกข้าน้อยว่าป้าหลัวดีกว่า

ครอบครัวของข้าน้อยมีคนชราหนึ่งคน เป็นหญิงชราอายุราว 80 ปี และยังมีลูกชายคนเล็กอายุ 5 ขวบ ฮูหยินทราบได้อย่างไร หรือว่าฮูหยินเคยพบพวกเขา”

ตงหลิงหวงพยักหน้า “ตอนที่เดินทางมาถึง ข้าพบกับพวกเขาที่ทางเข้าหมู่บ้าน พวกเขาตั้งตารอให้แม่ของเขากลับไป! ”

ทันทีที่สิ้นเสียงของตงหลิงหวง สตรีนางนั้นก็ร้องไห้ออกมา

“ข้าน้อยชีวิตต่ำต้อย ทำงานหนักตั้งแต่ยังเล็ก ตายไปก็ไม่เป็นอันใด แต่ที่น่าสงสารก็คือบุตรชายสองคนและแม่สามีของข้า หากข้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะอยู่อย่างไร? ”

เห็นได้ชัดว่าครอบครัวของสี่คนนี้ไม่มีบุรุษ ทุกคนต่างพึ่งพาสตรีนางนี้เพียงผู้เดียว

อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าเพียงคำพูดประโยคเดียวจะทำให้อีกฝ่ายร้องห่มร้องไห้ใหญ่โต ตงหลิงหวงรู้สึกผิดและทำอันใดไม่ถูก

“เจ้าวางใจได้! ในโลกนี้ ความชั่วไม่ครอบงำความถูกต้อง หากมีเหตุย่อมมีผล และหากมีผลก็ย่อมมีวิถีของมัน ไม่มีโรคใดที่รักษาไม่หาย พวกเจ้าจะดีขึ้นแน่นอน”

“จริงหรือ? ” เมื่อได้ยินเช่นนี้ สตรีนางนั้นจึงหยุดร้องไห้ พลางปาดน้ำตาพูดว่า “ฮูหยิน ท่านมีวิธีรักษาพวกเราจริงหรือ? ”

เด็กสามารถเกลี้ยกล่อมได้เป็นครั้งคราว ทว่ากับผู้ใหญ่ไม่อาจทำได้ ตงหลิงหวงจึงเลือกที่จะบอกความจริง

“ข้ายังไม่มีเบาะแส แต่ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด”

“ข้าน้อยเชื่อในตัวท่าน ฮูหยิน ข้าเชื่อในตัวท่าน! ” ป้าหลัวคุกเข่าต่อหน้าตงหลิงหวง “ท่านเป็นหมอที่คุณชายฉู่เชิญมา เป็นคนที่คุณชายฉู่ไว้วางใจ ข้าน้อยเชื่อมั่นในตัวฮูหยิน ท่านต้องทำได้

ฮูหยิน ท่านต้องช่วยข้าน้อยและลูกชาย ต้องช่วยพวกเราให้ได้! ”

ตงหลิงหวงเป็นคนที่ผู้คนคอยคุกเข่าให้ตั้งแต่เล็ก นางจึงไม่ตกประหม่าและแสดงท่าทางเรียบเฉย

“เจ้าวางใจได้ หากมีทางช่วยแม้เพียงนิด ข้าจะช่วยพวกเจ้าอย่างไม่ยอมแพ้ เจ้าลุกขึ้นก่อนแล้วค่อยคุยกัน”

ป้าหลัวรู้ว่าโรคในร่างกายของนางสามารถติดต่อได้ หากนางเข้าใกล้ ตงหลิงหวงอาจติดเชื้อได้ นางจึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

คุณชายฉู่เห็นการแสดงออกที่สงบนิ่งของตงหลิงหวง ดวงตาของเขาพลันทอประกายแปลกประหลาด

หากเป็นสตรีธรรมดา นางคงไม่อาจแสดงท่าทางได้สงบนิ่งถึงเพียงนี้

ท่าทางสงบนิ่งเช่นนี้ เห็นได้เฉพาะผู้ที่ดำรงอยู่ในตำแหน่งสูงส่งมาเป็นเวลานานเท่านั้น นอกจากนั้น ทั่วทั้งร่างของนางยังปรากฏรัศมีความสูงศักดิ์ออกมาอีกด้วย

นางแซ่หลิงแน่หรือ?

มีคนแซ่หลิงมากมายในอาณาจักรเทียนเหอ แต่มีคนจำนวนน้อยที่มีสถานะสูงส่ง

สถานะของนางเป็นอย่างที่นางพูด เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้นหรือ?

ตงหลิงหวงไม่รู้ว่าคุณชายฉู่กำลังครุ่นคิดอันใด

นางตรวจอาการของป้าหลัวและเด็กน้อยอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าไม่มีอันใดผิดปกติ

“พวกเจ้ารู้ว่าร่างกายของตนผิดปกติเมื่อใด? ”

ป้าหลัวตอบว่า “คราแรกเป็นบุตรชายของข้าที่มีร่างกายผิดปกติ ครึ่งเดือนก่อน เขามีไข้ตลอดสามวัน ไม่ลดลงแม้แต่น้อย ต่อมาเริ่มเป็นแผลพุพอง วันที่สี่ ข้าน้อยจึงป่วยด้วยโรคเดียวกัน”

“ตอนนั้น หญิงชราและบุตรชายคนเล็กในครอบครัวของเจ้าไม่มีอาการเหมือนกันหรือ? ”

“บังเอิญพวกเขาไม่อยู่ที่บ้าน บุตรชายคนสุดท้องและหญิงชราไปบ้านลุงรองที่อยู่ไกลออกไป พวกเขาจึงไม่มีอาการใดๆ ”

เช่นนั้น ปัญหาต้องเกิดจากบุตรชายคนโตของป้าหลัว

ตงหลิงหวงพยายามมองเด็กน้อยด้วยท่าทางเป็นมิตร

“บอกพี่สาวได้หรือไม่ เจ้าพบใครก่อนที่เจ้าจะป่วย หรือสัมผัสอันใด หรือพบเห็นสิ่งใดแปลกๆ ”

เด็กคนนี้คือต้าเป่าของป้าหลัว เขาอายุมากกว่าเสี่ยวเปาที่นางพบตรงปากทางเข้าหมู่บ้านก่อนหน้านี้มาก ดังนั้นเขาจึงมีความเป็นผู้ใหญ่ และจัดการสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่าเสี่ยวเปา

เขาไม่ได้ตอบคำถามของตงหลิงหวงทันที ทว่าเงยหน้าครุ่นคิดครู่หนึ่ง

ทุกคนมองดูท่าทางของเขา คิดว่าเขากำลังนึกถึงอันใดบางอย่าง จึงตั้งตารอคำตอบ

อย่างไรก็ตาม นึกไม่ถึงว่าหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขากลับส่ายศีรษะ

ท่าทางที่เฝ้ารอคำตอบอย่างมีความหวังพลันมลายหายสิ้น

ทว่าเพียงเท่านี้ไม่ทำให้ตงหลิงหวงสิ้นหวัง นางพูดกับป้าหลัวว่า “เช่นนั้นพาข้าไปตรวจดูที่บ้านของเจ้าได้หรือไม่? ”

ในเมื่อถามแล้วไม่ได้คำตอบ คงต้องไปตรวจสอบด้วยตนเอง ไม่แน่ว่าอาจพบเบาะแสอย่างอื่น

จากนั้น ตงหลิงหวง มู่หรงฉี และคุณชายฉู่ก็เดินทางมาที่บ้านป้าหลัว พร้อมกับป้าหลัวและบุตรชายคนโตของนาง

นับตั้งแต่เกิดโรคระบาด ท่านย่าและบุตรชายคนเล็กของป้าหลัวก็อาศัยอยู่ในบ้านอารองของพวกเขาซึ่งอยู่ไกลออกไป เมื่อคนมาถึง บ้านก็เต็มไปด้วยฝุ่น เพราะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน

ตงหลิงหวงตรวจสอบบ้านของป้าหลัวอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะอาหารของพวกเขา นางใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วยาม

ทว่าไม่พบเบาะแสอันใดแม้แต่น้อย

คุณชายฉู่พูดว่า “ฮูหยินหลิง ท่านต้องการความช่วยเหลืออันใดหรือไม่? ”

ตงหลิงหวงส่ายศีรษะ “ยังก่อน”

คุณชายฉู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พวกเราอาจมาผิดทาง พิษของต้าเป่าอาจติดจากที่อื่น”

การแสดงออกของตงหลิงหวงสงบนิ่ง แววตาของนางจริงจังอย่างมาก

“ยังไม่อาจตัดความเป็นไปได้นี้ พวกเราดูที่นี่ก่อนเถิด”

นางพูดพลางเดินออกไปด้านนอก

ครอบครัวของป้าหลัวไม่ได้อาศัยอยู่ในเขตที่เจริญในหุบเขา แต่อยู่ในจุดที่ห่างไกลจากเขตที่ผู้คนพลุกพล่าน บริเวณโดยรอบมีผู้คนไม่มากนัก ทั้งยังมีทุ่งนาและป่าไม้

ตงหลิงหวงเดินออกจากบ้านและมองไปรอบๆ อย่างละเอียด ก่อนจะเดินไปที่ด้านหลังบ้าน

มีลำธารเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก ตงหลิงหวงเดินไปที่ลำธาร พลางตรวจสอบไปตลอดเส้นทาง

เมื่อเห็นลำธาร จู่ๆ ท่าทางของนางก็ปรากฏความเคร่งขรึมราวกับพบอันใดบางอย่าง

มู่หรงฉี คุณชายฉู่ ป้าหลัว และคนอื่นๆ เดินตามมาด้านหลังตงหลิงหวง เมื่อเห็นท่าทางแปลกประหลาดของนาง คุณชายฉู่ก็อดถามไม่ได้ “ท่านพบเบาะแสหรือไม่? ”

ตงหลิงหวงไม่ได้ตอบคุณชายฉู่ในทันที ทว่านางถามป้าหลัวว่า “ลำธารสายนี้กว้างเช่นนี้เสมอหรือ? ”

เนื่องจากนางพบว่ามีหญ้าอยู่ในลำธาร แต่ไม่ใช่จอกแหนริมน้ำ เห็นได้ชัดว่ามันเติบโตที่ริมลำธารและจมอยู่ใต้น้ำในเวลาต่อมา

“ในอดีตไม่ได้กว้างถึงเพียงนี้ ทว่าจู่ๆ เมื่อครึ่งเดือนก่อนก็กว้างขึ้น”

หลังจากนั้น ตงหลิงหวงก็สังเกตลำธารต่อโดยไม่ได้ถามอันใดอีก

คุณชายฉู่และมู่หรงฉีไม่รู้ว่าตงหลิงหวงกำลังทำอันใด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้ารบกวน

ทว่าลำธารสายนี้เกี่ยวอันใดกับโรคระบาด?

มันเป็นเพียงลำธารธรรมดาบนเนินเขามิใช่หรือ?