บทที่ 2757 มันรู้สึกว่าฝาหอยหนาวยะเยือกอยู่บ้าง
โต๊ะหยกขาว ชามหยกขาว ในชามหยกขาวมีเนื้อก้อนใหญ่อยู่หนึ่งชิ้น
เนื้อนั้นมีขนาดเท่าโต๊ะกลมขนาดเล็ก หน้าตาคล้ายหัวใจครึ่งดวง สีแดงสดใส ซ้ำยังเต้นตุบๆ อยู่ด้วย
กู้ซีจิ่วมองก้อนเนื้อชุ่มโลหิตชิ้นนั้น จากนั้นก็มองดูใบหน้าน้อยๆ ที่อวบกลมของบุตรชาย “เฮ่าเอ๋อร์ นี่คือ?”
“หัวใจพญาเจียว! ท่านแม่ ชอบไหม?” ตี้เฮ่าเงยหน้ามองนาง แสดงสีหน้าปรารถคำชมเชยเป็นรางวัล
“เอ่อ…ชอบสิ…” กู้ซีจิ่วไม่นึกไม่ฝันเลยว่าสิ่งที่บุตรชายเรียกว่าของขวัญชิ้นใหญ่จะเป็นสิ่งนี้ จึงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองไปชั่วขณะ
แน่นอน เธอไม่ได้รังเกียจหรอก ถึงอย่างไรบุตรชายที่เยาว์ถึงเพียงนี้พอกลับบ้านก็รู้จักเอาของขวัญมาให้เธอแล้ว ช่างกตัญญูนัก ทำให้ปิติยินดีมาก แต่เธอไม่นึกเลยว่ารสนิยมของเด็กคนนี้จะสาหัสปานนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเอาหัวใจดวงหนึ่งมาเป็นของขวัญ
กู้ซีจิ่วเคยพบเห็นมังกรเจียวมามากมาย ที่สิ้นชีพด้วยน้ำมือเธอก็มีอยู่ไม่น้อย แต่เธอเคยได้ยินเพียงว่าแก่นพลังของเจียวมีสรรพคุณช่วยยกระดับพลังยุทธ์ ส่วนหัวใจเจียว…ดูเหมือนถ้าเอามาทำอาหารจานผัดจะรสชาติไม่เลวล่ะมั้ง?
บางทีบุตรชายอาจนำมันกลับมาเพื่อให้เธอลงครัวปรุงมันหรือเปล่านะ?
อืม ไม่ว่าอย่างไรก็ตามของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่บุตรชายล่ามาด้วยตัวเอง เป็นนิมิตหมายอันดี
กู้ซีจิ่วพินิจหัวใจดวงนั้นเล็กน้อย ใหญ่ขนาดนี้ ต้มผัดแกงทอดล้วนทำได้ทั้งนั้น
เธอม้วนแขนเสื้อขึ้น “เฮ่าเอ๋อร์ เจียวตัวนี้คงตัวใหญ่มากเลยใช่ไหม? ไม่ง่ายเลยกว่าเจ้าจะล่ามันได้ เจ้าอยากกินมันแบบไหน? แม่ว่ามันทำเป็นอาหารเลิศรสได้กว่าสิบอย่างเลย”
ตี้เฮ่าพูดไม่ออกเลย…
“หอมจังเลย! หอมมาก! ของสิ่งใดกันถึงได้หอมขนาดนี้?” เจ้าหอยยักษ์กับลู่อู๋วิ่งเข้ามาจากที่ไกลๆ ปานสายลมหอบหนึ่ง เมื่อเห็นหัวใจขนาดใหญ่ที่อยู่บนโต๊ะดวงนั้น เจ้าหอยยักษ์พลันตาเป็นประกาย “ช่างเป็นหัวใจที่ใหญ่โตนัก! ดูนุ่มนิ่มมากด้วย! เจ้านาย อ๋าๆๆ หัวใจที่ใหญ่ขนาดนี้ ต้องย่างได้มากมายหลายไม้แน่! เจ้านาย พวกเราย่างมันกินกันไหม? รสชาติต้องโอชามากแน่นอน…”
“ข้าคิดว่าหอยยักษ์ย่างก็คงโอชารสเป็นที่สุดเหมือนกันแน่ๆ” ตี้เฮ่ายิ้มแวบหนึ่ง วบรอบตัวเจ้าหอยยักษ์คราหนึ่ง “เนื้อหอยสดนุ่ม นอกจากย่างแล้ว ยังเอาไปตุ๋นได้ด้วย…”
เจ้าหอยยักษ์ตะลึงงัน มันรู้สึกว่าฝาหอยหนาวยะเยือกอยู่บ้าง…
มันพลันหดกาย เอ่ยเสียงอ่อย “ข้าอายุมากเกินไป เนื้อเหนียวอย่างยิ่งแล้ว…”
“โอ้ เจ้าอายุเท่าไหร่ล่ะ?”
เจ้าหอยยักษ์ยืดอก “กว่าหมื่นปีแล้ว!”
“อืม เพิ่งหมื่นกว่าปีสินะ เช่นนั้นถ้าเทียบกับพญาเจียวอายุแสนปีตัวนั้นแล้ว เจ้ายังเป็นเนื้อสดนุ่มนิ่มอยู่เลย ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีเนื้อหอยก็นุ่มนิ่มอยู่แล้ว เจ้าบำเพ็ญมานานขนาดนี้ ในร่างมีไอเซียน เช่นนี้เนื้อก็ยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาขึ้นไปอีก” สายตาที่ตี้เฮ่ามองพิศมันราวกับพิจารณาอาหารจานหนึ่งอยู่ คล้ายพร้อมจะคว้าตัวมันมา เอามันไปตุ๋นได้ทุกเมื่อ
เจ้าหอยยักษ์น้ำตาคลอ ไม่กล้าพูดจาเป็นอื่นแล้ว เอ่ยกระท่อนกระแท่นประโยคหนึ่งว่า “ข้า…เจ้านาย ข้าต้องไปฝึกฝนต่อแล้ว ไปก่อนนะ”
แล้วลากลู่อู๋หันหลังเผ่นแน่บไปเลย!
เจ้าหนูโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว! มันแค่อยากขอแบ่งเนื้อชิ้นเล็กๆ สักชิ้น เจ้าหนูก็คิดจะให้มันใช้ตัวแลกเสียแล้ว…
กู้ซีจิ่วประหลาดใจ “เฮ่าเอ๋อร์ เจ้าบอกว่าเจียวที่เป็นเจ้าของหัวใจดวงนี้อายุแสนปีแล้วหรือ?”
“อื้อ แสนปีเต็มแล้ว แถมยังเป็นพญาเจียวขาวที่ไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเลยด้วย”
กู้ซีจิ่วตะลึง
“มันกำลังจะกลายเป็นมังกรใช่ไหม?” จู่ๆ ตี้ฝูอีก็เอ่ยถาม
“ใช่แล้ว ตอนที่ข้าไปถึง มันกลายเป็นมังกรไปสามในสี่ส่วนแล้ว อีกนิดเดียวก็จะโบยบินฝ่าทะลวงแล้ว”
กู้ซีจิ่วพูดอะไรไม่ออกแล้ว…
เธอค่อนข้างเห็นใจเจียวตัวนั้นอยู่บ้าง ไม่ง่ายเลยกว่าผู้อื่นจะฝึกฝนมาได้ขนาดนี้! แถมยังเป็นเจียวที่สายธรรมเช่นนี้อีก พบเห็นได้ยากโดยแท้!
ต้องทราบก่อนว่าเจียวมีนิสัยดุร้าย ส่วนใหญ่ล้วนบำเพ็ญสายมาร ยากนักที่จะได้พบพานเจียวที่พิเศษขนาดนี้สักตัว กลับตกอยู่ในกำมือของบุตรชายเข้า…
————————————————————————————-
บทที่ 2758 เขาชอบความรู้สึกของการมีครอบครัวเช่นนี้…
“เฮ่าเอ๋อร์ สุภาพชนมีสิ่งพึงกระทำ มีสิ่งที่ไม่พึงกระทำ หากว่าเป็นเจียวที่ชั่วร้าย เจ้าจะฆ่าแกงก็ฆ่าแกงไปเถิด นั้นคือการกำจัดภัยให้ปวงประชา แต่เจียวตัวนี้การที่เข้าไปเข่นฆ่ามันถือว่าเป็นการก่อกรรมอยู่บ้าง…”
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่า เด็กยังเล็กอยู่จะต้องสั่งสอนคุณธรรมให้เขาสักหน่อย ไม่อาจปล่อยให้โหดเหี้ยมขนาดนี้ได้ ถึงอย่างไรบิดาของเขาก็เป็นถึงเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์…
“ท่านแม่ เฮ่าเอ๋อร์ไม่ได้ฆ่ามันนะ แค่เอาหัวใจมันมาครึ่งดวง แถมยังมอบโอสถวิญญาณให้มันไปด้วย ถึงครั้งนี้มันจะพลาดโอกาสกลายเป็นมังกรแล้ว แต่ขอเพียงบำเพ็ญไปอีกห้าพันปีก็สามารถสำเร็จบรรลุได้…”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กยังคงทำไม่ถูกอยู่บ้าง สามมุมมองของเขายังคงต้องได้รับการปรับแก้ “ไม่ง่ายเลยกว่ามันจะบำเพ็ญได้ หากว่าเจ้าเพียงกระหายอยาก จึงตัดสินใจทำร้ายมันเช่นนี้ ก็ค่อนข้างไร้เมตตาอยู่บ้าง…”
เธอพินิจดูตี้เฮ่าอีกเล็กน้อย ดึงตัวเขาเข้ามา จับชีพจรให้เขา “เจียวตัวนี้ต้องร้ายกาจมากแน่นอน เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?”
วิชาแพทย์ของเธอเลิศล้ำนัก ทันทีที่จับชีพจรก็สังเกตเห็นความผิดปกติของบุตรชายได้แล้ว พลันมุ่นหัวคิ้ว “เฮ่าเอ๋อร์ พลังวิญญาณของเจ้าลดทอนลงอย่างยิ่ง ชีพจรในกายก็บาดเจ็บอยู่หลายจุด…แม่ไม่ต้องการของขวัญจากเจ้า และไม่อยากให้เจ้าไปเสี่ยงอันตรายจนบาดเจ็บนะ”
“อื้อ ท่านแม่สั่งสอนได้ถูกแล้ว ต่อไปลูกไม่ทำแล้วขอรับ” ตี้ฝูอีซุกอยู่ในอ้อมกอดของเธออย่างว่าง่าย
หวา ความรู้สึกที่มีมารดาคอยห่วงใยช่างดีเหลือเกิน แม้ว่านางจะบ่นจู้จี้เขาสักประโยคสองประโยค แต่ก็ดีกว่าในอดีตที่เขาหัวแตกก็ไร้คนคอยถามไถ่มากนัก…
ตี้ฝูอีมองบุตรชายที่ว่านอนสอนง่ายแวบหนึ่ง ยื่นมือไปดึงเขาเข้ามา โบกมือร่ายคาถาชำระล้างให้เขา และในชั่วพริบตา ก็ทำให้บุตรชายสะอาดเอี่ยมเหมือนขนมอบที่เพิ่งออกจากเตาได้แล้ว เสื้อคลุมตัวน้อยก็เป็นระเบียบเรียบร้อย
“ตี้เฮ่า จำเอาไว้ประโยคหนึ่ง เกิดเป็นบุรุษจะต้องมีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะยามใดล้วนต้องดูแลเสื้อผ้าให้สะอาดสะอ้านเรียบร้อย ต่อให้ไม่เจริญหูเจริญตา ก็ต้องหาทางทำให้คนที่บ้านไม่เป็นกังวล”
เขามอมแมมไปทั้งตัว คนในบ้านเห็นย่อมกังวลใจขึ้นมา
ตี้ฝูอีหยิบรองเท้าคู่หนึ่งออกมาจากมิติเก็บของ โยนลงแทบเท้าตี้เฮ่า “ลองสวมดูสิ”
ดวงตาตี้เฮ่าทอประกาย ซุกเท้าน้อยๆ เข้าไปจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะพอดิบพอดี สวมแล้วเหมาะกับเท้ายิ่ง ชัดเจนยิ่งนัก นี่เป็นรองเท้าที่ตี้ฝูอีเตรียมไว้ให้เขานานแล้ว
มีพ่อแม่คอยห่วงใยช่างดีจริงๆ!
ตี้เฮ่าพึงพอใจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าต่อให้เหนื่อยยากลำบากลำบนกว่านี้ก็คุ้มค่าแล้ว!
เขาชอบความรู้สึกของการมีครอบครัวเช่นนี้…
ตี้ฝูอีเหลือบมองหัวใจชิ้นนั้นแวบหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่มีความทรงจำและองค์ความรู้ของเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ แต่ก็ยังสัมผัสได้ว่าหัวใจครึ่งส่วนนี้ไม่ธรรมดา…
ไอวิญญาณบนนั้นช่างบริสุทธิ์เหลือเกิน!
เขามองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง นางในยามนี้ดูสงบผ่อนคลาย กำลังพินิจดูหัวใจครึ่งส่วนนั้นอย่างสนใจใคร่รู้อยู่ สายตาสุขุมเยือกเย็น ไม่วิตกกังวลจนไม่อาจห่างจากผู้อื่นได้เสมือนหลายวันที่ผ่านมา…
คล้ายว่านางจะกลับเป็นปกติแล้ว!
หรือว่าหัวใจครึ่งดวงนี้มีสรรพคุณชำระล้างอันแกร่งกล้า?!
เขาพลันใจเต้นแรง จากนั้นก็มองดูบุตรชาย บุตรชายไม่มีทางล่าหัวใจของพญาเจียวมาโดยไร้เหตุผล หรือว่า…
ตี้เฮ่าก็กำลังมองเขาอยู่ พ่อลูกสบตากัน ตี้เฮ่ากะพริบตาปริบๆ ราวกับสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด
ตี้ฝูอีรั้งกู้ซีจิ่วเข้ามาอยู่ข้างกายด้วยสีหน้าราบเรียบ คิดจะให้นางนั่งบนตักของตน
กู้ซีจิ่วกลับสลัดเขาออก เธอไม่อยากพลอดรักกับเขาอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าลูก…
หัวใจตี้ฝูอีสั่นไหวอีกคราหนึ่ง หลายวันมานี้กู้ซีจิ่วพัวพันเขาดุจเถาวัลย์พันกิ่งก็มิปาน ปรารถนาจะติดหนึบอยู่กับเขาใจแทบขาด ไม่สนใจสายตาของผู้อื่นเลย ทว่าครั้งนี้…
นิ้วมือเขาแตะลงบนหัวใจครึ่งดวงนั้นเบาๆ คล้ายจะสัมผัสอะไรได้ มุมปากยกขึ้นน้อยๆ
กู้ซีจิ่วฉงน มองสีหน้าของเขา จากนั้นก็มองหัวใจครึ่งดวงนั้น เอ่ยถามประโยคหนึ่ง “บนหัวใจครึ่งดวงนี้มีอะไรหรือ?”
————————————————————————————