บทที่ 2755 ล่อไอมารให้ปรากฏ 3
เธอยังคงถือปูตัวใหญ่เอาไว้ในมือ เมื่อโผเข้าใส่เช่นนี้ ก้ามอันใหญ่โตของปูจึงแทบจะทิ่มหน้าของตี้ฝูอีแล้ว
เขาโยกหลบเล็กน้อย สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ปูสองตัวนั้นลอยขึ้นไปบนฝั่งด้วยตัวเองแล้ว
จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปดึงนางออกมา โคจรพลังวิญญาณ ทำให้อาภรณ์และเส้นผมของนางแห้งสนิท “เจ้าอยากกินปูหรือ? กลับไปข้าจะทำให้เจ้ากินนะ ขึ้นฝั่งก่อนเถอะ”
แล้วพานางขึ้นฝั่ง…
ระยะนี้ทักษะการครัวของตี้ฝูอีพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เขาลงมือปรุงปูใหญ่สองตัวนั้นด้วยตัวเอง จากนั้นก็เสริมวัตถุดิบหายากบางอย่างลงไปในเนื้อปูด้วย ให้นางค่อยๆ กิน
เนื้อปูเป็นอาหารธาตุเย็น ไม่เหมาะให้สตรีมีครรภ์รับประทาน
แต่หลังจากตี้ฝูอีเติมวัตถุดิบพิเศษเข้าไป จะทำให้ธาตุเย็นในเนื้อปูเป็นกลาง กินเข้าไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
ว่ากันตามจริงแล้ว ปูนี้ที่ตี้ฝูอีปรุงอร่อยมาก แต่พอกู้ซีจิ่วกินไปได้สองคำก็ไม่มีความอยากแล้ว เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าเธอยังคงชอบกินแบบเป็นๆ อยู่
เมื่อครู่ตอนที่ถือขาปูอยู่ เธอเปี่ยมไปด้วยความกระหายเลือดประการหนึ่ง
เมื่อตระหนักถึงจุดนี้ได้ เธอก็สะดุ้งโหยง! จู่ๆ ก็นึกถึงหลานไว่หูขึ้นมา เธอจำที่เยี่ยนเฉินเคยบอกได้ หลังจากหลานไว่หูต้องกู่พิษแม่ลูก ก็กระหายเลือดยิ่งนัก…
หรือว่าตนจะโดนวางกู่พิษแม่ลูกเหมือนกัน?!
ความคิดนี้ทำให้เธอตื่นตะลึง ขาปูในมือหลุดมือร่วงลงบนพื้น
“เป็นอะไรไป?” ตี้ฝูอีกุมมือนาง
สีหน้ากู้ซีจิ่วซีดขาวอยู่บ้าง “ฝูอี หรือว่าข้า…จะตั้งครรภ์กู่พิษแม่ลูกเช่นกัน? เด็กในท้องข้า…” ข้อสันนิษฐานนี้น่าหวาดกลัวเหลือเกิน เธอแทบไม่กล้าพูดออกไปเลย
ตี้ฝูอีกอดเอวนาง “จะเป็นไปได้ยังไง? เด็กน้อย เจ้าคิดมากไปแล้ว กู่แม่ลูกไม่อาจเล็ดรอดสายตาข้าไปได้หรอก เด็กในท้องเจ้าดียิ่งนัก ไม่มีความผิดปกติเลย”
กู้ซีจิ่วถึงได้โล่งใจ เพียงแต่ยังคงไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี “ข้ารู้สึกอยู่เสมอว่าผิดปกติอยู่บ้าง…”
เธอเล่าปฏิกิริยาของตนในสองวันมานี้ออกมา
ตี้ฝูอีรับฟังเงียบๆ จนจบ ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ข้าถามหมอตำแยมาแล้ว สตรีมีครรภ์จะเกิดปฏิกิริยาที่แปลกพิกลบางอย่างเกิดความเปรี้ยวปากที่ต่างกันออกไปสารพัด เจ้ายังอยู่ในขอบเขตที่ปกติอยู่ อย่าได้คิดมากไปเลย”
“แต่ว่าข้าคิดคำนึงถึงท่านราวกับคนติดฝิ่นก็มิปาน…”
“อืม นั่นยืนยันได้ว่าพวกเรารักใคร่กันยิ่งนัก ผู้ใดก็ไม่อยากห่างจากผู้ใด เด็กน้อย ข้ายินดียิ่งนัก” ตี้ฝูอียิ้มละไม โอบนางเข้าสู่อ้อมแขนเสียเลย จุมพิตริมฝีปากนางทีหนึ่ง
กู้ซีจิ่วผลักเขาออก “ไม่สำรวมเอาเสียเลย!” ดวงตาหยีโค้งขึ้นมา
จะว่าไปแล้วก็แปลก หลังจากตี้ฝูอีกลับมาอยู่ข้างกายเธอ ความรู้สึกประหลาดในใจเธอก็สงบลงไม่น้อยเลย ไม่มีความรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้นแล้ว
เธอเอนซบอยู่ในอ้อมอกเขา มองใบหน้าที่ ‘เลิศล้ำชวนกระหาย’ ของเขา กลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่งอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ เธออยาก ‘กิน’ เขาอีกแล้ว! เป็นบ้าอะไรเนี่ย?
เธอรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นสตรีหื่นกระหายไปเสียแล้ว!
โชคดีที่คนผู้นี้เป็นสามีของตน อยากจะกินเท่าไหร่ก็กินได้เท่านั้น!
กู้ซีจิ่วยกแขนโอบลำคอของเขาไว้ ขึ้นนั่งบนขาของเขาอย่างอุกอาจ งับใบหูของเขาเล็กน้อย ลมหายใจดุจดอกกล้วยไม้เป่ารดอยู่ริมหูเขา “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ต้องการข้าหรือไม่?”
เธอมองเขาด้วยสายตาวาววาม คล้ายว่าขอเพียงเขาเอ่ยว่า ‘ไม่ต้องการ’ ออกมา นางก็จะทำตัวเป็นป้าอ๋องฝืนน้าวธนูเสีย
แต่หนนี้ตี้ฝูอีกลับนิ่งทื่อเสมือนไก่ไม้ ไม่รู้งานเลยยิ่งนัก เขาอุ้มนางไปวางข้างกายตน “เด็กโง่ ข้าย่อมต้องการเจ้าอยู่แล้ว เจ้าเป็นภรรยาของข้านะ มาเถอะ กินมันปูอีกหน่อยนะ ข้าก็หิวแล้วเหมือนกัน ขาปูนี้ให้ข้าแล้วกัน”
หลังจากควักมันปูช้อนหนึ่งให้เธอ ตัวเองก็เริ่มแทะขาปูข้างหนึ่งแล้ว
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย…
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องอาหาร ถึงแม้ภายในห้องอาหารจะมีเพียงพวกเขาสองคน แต่เห็นได้ชัดว่ามิใช่สถานที่พลอดรักเลย
————————————————————————————-
บทที่ 2756 ล่อไอมารให้ปรากฏ 4
และตี้ฝูอีก็แทะขาปูอย่างได้อรรถรสขนาดนี้ ทำให้เธอหักใจขัดจังหวะไม่ลง ทำได้เพียงรอคอยอย่างร้อนอกร้อนใจ
‘เขาจากไปถึงสองวัน ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่ต้องการข้าเลย หรือว่าเขาจะเริ่มหน่ายแหนงข้าแล้ว?’ จู่ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในสมองของกู้ซีจิ่ว ทำให้ตัวเธอเองสะดุ้งโหยง!
เธอกลายเป็นคนคิดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?! คิดมากยิ่งกว่าแม่นางหลินเสียอีก!
แต่ว่า ถึงแม้จะทราบดีว่าตนเป็นคนคิดมากไปแล้ว แต่ในใจก็ยังคงไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ยิ่งนัก ความรู้สึกกระวนกระวายนั้นมีแนวโน้มที่จะโผล่ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
กู้ซีจิ่วไม่อยากให้ตนเองกลายเป็นคนน่ารังเกียจ ดังนั้นเธอจึงพยายามข่มกลั้นความรู้สึกเชิงลบประเภทนี้เอาไว้อย่างสุดกำลัง
วันนี้ตี้ฝูอีค่อนข้างมีความอดทนอย่างยิ่ง สนทนาสัพเพเหระกันไปเรื่อย เพียงแต่ไม่เอ่ยเรื่องพาเธอกลับห้องนอนเลย
กู้ซีจิ่วร้อนใจขึ้นเรื่อยๆ ในท้ายที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้ว ตัดสินใจโผเข้าหาเขา ดึงทึ้งอาภรณ์บนร่างเขา ราวกับโจรหญิงปล้นสวาทคนหนึ่ง น้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว “ฝูอี ข้าต้องการท่าน! ตอนนี้! เดี๋ยวนี้เลย!”
ตี้ฝูอีตกตะลึง
เขายื่นมือไปจับอุ้งมือน้อยๆ ที่เปะปะวุ่นวายของนาง “ได้ พวกเรากลับห้องนอนกัน!”
….
การร่วมรักทำให้กู้ซีจิ่วค่อนข้างได้รับความไม่เป็นธรรมอยู่บ้าง
สาเหตุไม่ใช่อื่นใด วันนี้ตี้ฝูอีเร่าร้อนเป็นพิเศษ ราวกับเขาจงใจจะเคี่ยวกรำเธอ ทุกครั้งที่เข้าสู่ช่วงสำคัญเขาจะผ่อนแรง…
ทำให้หัวใจของเธอคันยุบยิบปานถูกแมวข่วน!
เนื่องจากไม่ได้รับการเติมเต็มสักที เธอจึงแทบจะระเบิดโทสะออกมาแล้ว อยากจะฟาดเขาให้แหลกไปเสีย!
เธอกำมือแน่น เพียงแต่ในตอนที่เธอเกือบจะควบคุมความต้องการจะลงมือเอาไว้ไม่ไหว จู่ๆ หน้าท้องก็ปวดแปลบขึ้นมา! ราวกับว่ามีคนกระชากเส้นประสาทอันใดที่คล้ายกับใยแมงมุมออกมา!
เธอทนไม่ไหวจนร้องครางออกมา สูดลมหายใจเย็นเฉียบเฮือกหนึ่ง ขดร่างทันที เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า “ท่าน…ท่านทำอะไร?”
ไม่ง่ายเลยกว่าตี้ฝูอีจะล่อให้ไอมารสายนั้นปรากฏขึ้นมาอีกครั้งได้ เขาฉวยโอกาสเกี้ยวไอมารสายนั้นไว้ คิดจะดูดมันออกมาให้หมด!
กลับคาดไม่ถึงว่าจะยังไม่ทันได้ดึงไอมาร กู้ซีจิ่วก็เจ็บปวดจนหน้าเปลี่ยนสีเสียก่อน…
ไม่น่าเชื่อว่าไอมารนี้จะมิได้พัวพันอยู่ในร่างนางเท่านั้น แต่คล้ายว่าจะหยั่งรากลงไปในดวงวิญญาณของนางแล้ว เขาไม่มีทางดึงออกมาได้ด้วยการใช้วิธีนี้!
และการดึงอย่างรุนแรงของเขา ก็ทำให้ไอมารตระหนก หดกลับไปไม่โผล่ออกมาอีกเลย
….
ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้รับการเติมเต็ม ผล็อยหลับไปแล้ว
ตี้ฝูอีนั่งอยู่ข้างกายนาง หัวใจหนักอึ้งเหมือนตะกั่ว!
ไอมารนี้ที่อยู่ในร่างกู้ซีจิ่วยุ่งยากยิ่งกว่ากู่แม่ลูกในร่างของหลานไว่หูเสียอีก!
กู่แม่ลูกนั้นเขาสามารถใช้พลังวิญญาณสลายทิ้งได้อย่างง่ายดายยิ่ง แต่ไอมารในร่างกู้ซีจิ่วกลับคล้ายเม่นที่ขดตัวกลม ทำให้เขาไม่อาจแตะต้องได้
ไอมารนี้ไม่เพียงแต่พัวพันอยู่ในวิญญาณของกู้ซีจิ่วเท่านั้น ยังผูกติดอยู่กับครรภ์ของนางด้วย หากไปกระเทือนเข้า จะก่อให้ท้องของนางเจ็บปวดขึ้นมา ถ้าไม่ระมัดระวังให้ดีจะทำให้เด็กในครรภ์ของนางแท้งได้…
ตี้ฝูอีจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามชั่วคราว
แต่หากว่าปล่อยให้ไอมารนี้อยู่ในร่างนาง เกรงว่าจะแกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถึงเวลานั้นจิตใจของกู้ซีจิ่วอาจจะถูกไอมารนี้เข้าควบคุม กลืนกิน…
เขาควรทำยังไงดี?
นิ้วมือเขาลูบไล้ปรางแก้มนวลเนียนของนาง สายตาร่อนลงบนหน้าท้องนาง
นางรักใคร่หวงแหนบุตรคนนี้ยิ่ง เขาทราบดี
เขาก็รักใคร่นางยิ่งนักจริงๆ อยากให้นางคลอดออกมาอย่างปลอดภัย เติบใหญ่ขึ้น
แต่ว่า หากว่าถึงเวลาแล้วไม่มีทางเลือกจริงๆ เขาก็ทำได้เพียงสละเด็กคนนี้…
ซวี่เยวี่ยลูกสาวคนนี้ ถูกกำหนดให้ต้องมอดม้วยงั้นหรือ?
….
ล่วงเลยผ่านไปอีกสองวัน ตี้ฝูอีลองใช้ทุกวิธีที่รู้แล้ว ไอมารนั้นยังคงหยั่งรากฝังลึกอยู่ในร่างของกู้ซีจิ่วอยู่ดี แถมยังมีแนวโน้มที่จะซึมลึกขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ดวงตาของกู้ซีจิ่วปรากฎแสงสีแดงฉานขึ้นมาเป็นครั้งคราวแล้ว ราวกับแววตาของมารร้าย
ตี้ฝูอีรู้ดี ถึงเวลาที่ควรตัดสินใจได้แล้ว
มิเช่นนั้นเกรงว่าจะสายไปเสียก่อน!
ภายในสวนบุปผาแสงแดดกำลังพอเหมาะ ตี้ฝูอีจูงกู้ซีจิ่วเดินรับแสงตะวันอยู่ภายในสวนดอกไม้
“ฝูอี ท่านมีเรื่องในใจหรือ?” ประสาทสัมผัสของกู้ซีจิ่วยังคงเฉียบไวนัก
ตี้ฝูอีหลุบตาลงนิดๆ ลอบสูดหายใจเฮือกหนึ่ง พลันตัดสินใจ “ซีจิ่ว ลูกคนนี้…” ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยว่า ‘ลูกคนนี้พวกเราอย่าเก็บไว้เลย’ พลันมีเสียงลมพัดมาจากด้านนอก เงาร่างน้อยๆ สายหนึ่งพุ่งเข้ามาดุจกระแสไฟฟ้า “ท่านพ่อ ท่านแม่! ลูกกลับมาแล้ว!”
ผู้มาก็คือเสี่ยวตี้เฮ่า สภาพเขาดูมอมแมมอยู่บ้าง เสื้อคลุมตัวน้อยยับยู่ยี่ รองเท้าก็หายไปข้างหนึ่ง แต่ดวงตาทั้งคู่กลับเจิดจ้าจนน่าตะลึง แฝงความตื่นเต้นยินดีเอาไว้รางๆ “ท่านแม่ เฮ่าเอ๋อร์มีของขวัญชิ้นใหญ่มาฝากท่านด้วย! ท่านต้องชอบแน่ๆ!”