บทที่ 1806 ความขมขื่นของจื่อเว่ย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1806 ความขมขื่นของจื่อเว่ย

 

“มันกําลังมา!”

 

“ป้องกัน!”

 

“ใช้พลังวิหารอดีตปัจจุบันจนถึงขีดสุด!”

 

สี่ซุนจือตกสู่ความโกลาหล วิหารอดีตปัจจุบันระเบิดแสงสว่างออกมา

 

เรือรบหมื่นปีเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

 

“เข้ามา” ฟางหยวนที่ยืนอยู่บนหัวเรือเย้ยหยัน

 

แต่การโต้ตอบของวิหารอดีตปัจจุบันยังทําให้เรือรบหมื่นปีชะลอความเร็วลง

 

“ท่าไม้ตายอมตะชะลอความเร็ว?” ฟางหยวนคุ้นเคยกับท่าไม้ตายนี้ ภายใต้คําสั่งของเขา แสงสีเงินส่องประกายขึ้นบนเรือรบหมื่นปี

 

ท่าไม้ตายอมตะของวิหารอดีตปัจจุบันถูกทําลาย ความเร็วของเรือรบหมื่นปีเพิ่มขึ้นอีกครั้งก่อนที่มันจะพุ่งชนวิหารอดีตปัจจุบันโดยตรง

 

การป้องกันไม่ใช่จุดเด่นของวิหารอดีตปัจจุบัน ดังนั้นมันจึงพังทลายลงทันที

 

วิหารอดีตปัจจุบันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

สี่ซุนจือกระอักเลือดคําโตและร่วงลงไปในสายธารแห่งกาลเวลา

 

โดยไม่ได้รับการปกป้องจากวิหารอดีตปัจจุบัน สี่ซุนจือก็ไม่สามารถต่อต้านฟางหยวน พวกเขาถูกสังหารโดยฟางหยวนในพริบตา

 

สี่ซุนจือเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นเดียวกับหลิวห่าว พวกเขาไม่ใช่สมาชิกของวังสวรรค์ ดังนั้นมันจึงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขากับฟางหยวน

 

วิญญาณอมตะทั้งหมดของพวกเขาระเบิดตัวเอง

 

ฟางหยวนเก็บซากศพของสี่ซุนจือและเศษซากวิญญาณอมตะของพวกเขาขณะที่นาวานิรันดร์มาถึงสนามรบ

 

การแสดงออกของผู้อมตะระดับแปดชิงเย่เปลี่ยนเป็นมืดครื้มเมื่อเขาเห็นศพของสี่ซุนจือ “ปีศาจ เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”

 

ฟางหยวนหันหลังกลับและเผยรอยยิ้ม “รนหาที่ตายอีกคน”

 

โดยปราศจากการพูดคุย เรือรบหมื่นปีและนาวานิรันดร์พุ่งเข้าหากันทันที

 

การเคลื่อนไหวที่ก้าวร้าวและเฉียบขาดของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะที่อยู่ภายในนาวานิรันดร์ตกสู่ความโกลาหล

 

เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนหน้าผากของชิงเย่แต่เขายังออกคําสั่งอย่างชาญฉลาด “เราจะหลีกเลี่ยงมัน อย่าต่อสู้กับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้”

 

สี่ซุนจือตายไปแล้วแต่รายละเอียดของการต่อสู้ถูกส่งไปยังเทพธิดาจื่อเว่ยและชิงเย่เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลบหนีจากเรือรบหมื่นปี

 

ความเร็วของเรือรบหมื่นปีเพิ่มขึ้น มันทําลายขีดจํากัดที่แสดงไว้ก่อนหน้านี้

 

แม้มันจะมีรูปร่างเหมือนเรือแต่ตอนนี้มันเคลื่อนที่ราวกับดาวหางสีเงินที่พุ่งผ่านสายธารแห่งกาลเวลาด้วยความเร็วสูง

 

นาวานิรันดร์มีขนาดใหญ่โตกว่าเรือรบหมื่นปีแต่มันไม่เร็วนัก

 

“บึม!”

 

ด้วยเสียงระเบิด รูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนวานานิรันดร์

 

เรือรบหมื่นปีทะลวงผ่านนาวานิรันดร์โดยตรง

 

“มันเป็นไปได้อย่างไร?”

 

“เราใช้วิธีป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของนาวานิรันดร์แล้วแต่มันไม่สามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูได้แม้แต่ครั้งเดียว!”

 

สิ่งที่เกิดขึ้นทําให้ชิงเย่เบิกตากว้าง

 

“ปีศาจฟางหยวนกําลังพุ่งเข้ามาอีกครั้ง!” ผู้อมตะในนาวานิรันดรตะโกนด้วยความตกใจ

 

เขาพึ่งกล่าวจบประโยคเมื่อเรือรบหมื่นปีพุ่งชนนาวานิรันดร์อีกครั้ง

 

นาวานิรันดร์เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ชิงเย่เสียสมดุลและเกือบจะล้มลง เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของเขาพุ่งสูงขึ้น แต่เขาจะเอาชนะสิ่งนี้ได้อย่างไร?

 

นาวานิรันดร์ได้รับความเสียหายครั้งใหญ่ มันอาจพังทลายลงหากยังถูกชนต่อไป

 

ผู้อมตะทั้งหมดหน้าซีดเผือด โชคดีที่พวกเขาได้รับคําสั่งจากชิงเย่ในเวลานี้ “ถอย!”

 

นาวานิรันดร์หันหลังกลับและเร่งล่าถอย

 

“หนีงั้นหรือ?” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา

 

“บึม บึม บึม”

 

เรือรบหมื่นปีพุ่งชนนาวานิรันดร์อีกครั้งและอีกครั้ง นาวานิรันดร์ใช้ท่าไม้ตายอมตะตอบโต้แต่ฟางหวนเตรียมตัวมาแล้ว

 

รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้

 

ตราบเท่าที่แผนการของวังสวรรค์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ฟางหยวนจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด

 

ผลของการต่อสู้ครั้งนี้ถูกตัดสินตั้งแต่เริ่มต้น

 

ดังนั้นนาวานิรันดร์จึงถูกทําลายขณะที่ชิงเย่ตกลงไปในสายธารแห่งกาลเวลา

 

“ฆ่ามัน!” โดยไม่จําเป็นต้องรอคําสั่งของฟางหยวน ผู้อมตะที่อยู่ในเรือรบหมื่นปีตะโกนพร้อมกัน

 

เรือรบหมื่นปีพุ่งชนชิงเย่ราวกับฉลามที่ดุร้าย

 

ชิงเย่พยายามใช้วิธีป้องกันของเขา

 

แต่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งความมืดถูกสะกดข่มอย่างมากโดยสายธารแห่งกาลเวลา

 

“บึม!”

 

เรือรบหมื่นปีทําลายเกราะอันมืดมิดและส่งชิงเย่จมลงไปใต้น้ํา

 

ชิงเย่กระอักเลือดคําโตและพยายามว่ายขึ้นสู่ผิวน้ําอย่างอเนจอนาถ

 

แต่เขากลับพบว่าเรือรบหมื่นปีกําลังรอเขาอยู่

 

“บึม!”

 

เสียงดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเรือรบหมื่นปีพุ่งปะทะศีรษะของชิงเย่

 

กะโหลกศีรษะของชิงเย่ยุบลง กระดูกทั่วร่างของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

น้ําจํานวนมากทะลักเข้าไปในปากของเขา

 

การปะทะครั้งใหญ่ส่งเขาจมลงไปยังส่วนลึกของแม่น้ํา

 

“ยังไม่ตายอีกงั้นหรือ?” ปิงหยวนตกตะลึงกับความดื้อรั้นของชิงเย่

 

“เช่นนั้นเราก็ต้องทํามันอีกครั้ง!” ดวงตาของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่ามนุษย์หินเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

 

เรือรบหมื่นปีพุ่งออกไปราวกับนักฆ่าที่กําลังไล่ล่าเหยื่อ

 

“บึม!”

 

ด้วยการปะทะครั้งที่สาม ชิงเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง

 

ร่างกายส่วนใหญ่ของเขาถูกทําลาย ในที่สุดเขาก็เสียชีวิตและกลายเป็นซากศพลอยไปตามกระแสน้ํา

 

“เขาตายแล้ว!”

 

“นี่คือผู้อมตะระดับแปด!”

 

“เราฆ่าเขาจริงๆ!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์โห่ร้องด้วยความยินดี แม้แต่ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน และคนอื่นๆยังเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้น

 

การฆ่าผู้อมตะระดับแปดเป็นเรื่องยากมาก การต่อสู้ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเพียงพอให้พวกเขาโอ้อวดไปได้ตลอดชีวิต

 

ฟางหยวนรวบรวมศพของชิงเย่ น่าเสียดายที่วิญญาณอมตะของเขาระเบิดตัวเองไปแล้ว

 

“ชิงเย่ผู้นี้ค่อนข้างดุร้าย เขาทําลายดวงวิญญาณของตนเอง”

 

“แต่ร่างกายของเขายังเป็นทรัพยากรอมตะที่ยอดเยี่ยม มันจะช่วยให้ข้าสามารถค้นคว้าเกี่ยวกับเส้นทางแห่งภูตผี”

 

วังสวรรค์มีความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งภูตผี

 

สมาชิกของวังสวรรค์ต้องส่งมอบมิติช่องว่างของพวกเขาให้กับวังสวรรค์ก่อนที่พวกเขาจะได้รับมิติช่องว่างเทียมหากต้องออกมาต่อสู้นอกวังสวรรค์

 

เมื่อผู้อมตะของวังสวรรค์เสียชีวิต มิติช่องว่างเทียมจะสลายไปพร้อมกับวิญญาณที่อยู่ภายใน แม้แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าก็ไม่เหลือทิ้งไว้

 

แม้บางคนจะสามารถเอาชนะผู้อมตะของวังสวรรค์ แต่พวกเขาจะได้รับผลกระโยชน์เพียงเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาบอกฟางหยวนว่าซากศพของสมาชิกวงสวรรค์เก็บความลับเกี่ยวกับเส้นทางแห่งภูตผีเอาไว้ หากฟางหยวนสามารถทําความเข้าใจความลึกลับบนเส้นทางแห่งภูตผีจากซากศพของคนเหล่านี้ เขาอาจสามารถถอดรหัสวิธีการของวังสวรรค์

 

แม้เขาจะไม่สามารถทําสิ่งใดต่อวังสวรรค์แต่เขายังสามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งภูตผีกับตนเอง

 

ด้วยมิติช่องว่างเทียม ฟางหยวนจะสามารถควบคุมอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆได้มากขึ้น นี่เป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการรับรองความจงรักภักดี

 

เรือรบหมื่นปียังอาละวาดอยู่ในสนามรบ

 

ฝ่ายของฟางหยวนรู้สึกสนุนสนาน การฝึกซ้อมอันยาวนานของพวกเขาได้รับสิ่งตอบแทนในที่สุด ในการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาสามารถทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังและสังหารผู้อมตะมากกว่าสิบคน

 

วิหารอดีตปัจจุบันมีสี่ซุนจือขณะที่นาวานิรันดร์ยิ่งมีผู้อมตะมากกว่า

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่ต่างจากค่ายกลวิญญาณอมตะ พวกมันต้องถูกควบคุมโดยผู้อมตะจํานวนมาก คฤหาสน์วิญญาณอมตะบางหลังยังมีข้อกําหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับจํานวนของผู้ควบคุม

 

มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะน้อยมากที่สามารถควบคุมโดยคนเพียงผู้เดียว

 

ศพและดวงวิญญาณของผู้อมตะเหล่านี้ถูกเก็บรวบรวมทั้งหมด

 

การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้วแต่ฟางหยวนไม่รีบร้อนจากไป เขาลาดตระเวนไปรอบๆและรอดูว่ามีกําลังเสริมจากวังสวรรค์หรือไม่

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น ส่วนใหญ่เกี่ยวกับผู้อมตะระดับแปดชิงเย่

 

กล่าวถึงเรื่องนี้ ชิงเยู่ค่อนข้างโชคร้าย

 

นาวานิรันดร์ถูกทําลายขณะที่พลังอํานาจของเขาถูกจํากัดโดยสายธารแห่งกาลเวลา มันยอดเยี่ยมมากแล้วที่เขายังสามารถแสดงทักษะของตนเองออกมาได้ถึงสามสิบส่วนและไม่ตกตายในครั้งเดียว

 

ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีร่องรอยของเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากที่สุดในโลก

 

มันช่วยสนับสนุนวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาขณะที่เส้นทางสายอื่นจะถูกจํากัด ไม่ว่าจะเป็นมือปีศาจปล้นวิญญาณ เกราะหวนคืน หรืออื่นๆ พวกมันล้วนถูกระงับ

 

วังสวรรค์

 

ใบหน้าของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นซีดขาว สายตาของนางค่อนข้างมีนงง

 

นางได้รับข้อมูลล่าสุดแล้ว

 

“ฟางหยวนควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดและทําลายวิหารอดีตปัจจุบันรวมถึงนาวานิรันดร์ กระทั่งชิงเย่ยังถูกฆ่า?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

“การต่อสู้ครั้งนี้จบเร็วเกินไป!”

 

“มันไม่สมเหตุสมผล!”

 

วิหารอดีตปัจจุบันและนาวานิรันดร์อาจเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ด แต่ทั้งคู่ต่างเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่โดดเด่นและมีวิธีการมากมาย

 

หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่ส่งพวกมันออกไป

 

แล้วปัญหาอยู่ที่ใด?

 

“วิธีการตรวจสอบของคฤหาสน์วิญญาณอมตะลึกลับของฟางหยวนอยู่ในระดับแปด แต่มันยังมีขีดจํากัด นอกจากการควบคุมสายธารแห่งกาลเวลาเพื่อเพิ่มความเร็ว มันยังมีความแข็งแกร่งทางกายภาพ”

 

วิธีการต่อสู้ของเรือรบหมื่นปีสามารถอธิบายได้ด้วยคําเดียวว่าพุ่งชน!

 

มันเป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาแต่เหตุใดมันถึงประสบความสําเร็จ?

 

นั่นเป็นเพราะระหว่างการต่อสู้การป้องกันของวิหารอดีตปัจจุบันและนาวานิรันดร์ถูกทําลายทันที

 

เทพธิดาจื่อเว่ยผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง

 

นางไม่สามารถนั่งต่อ

 

เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผากของนาง “ดูเหมือนฟางหยวนจะเกิดใหม่แล้ว จริงๆ เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิหารอดีตปัจจุบันและนาวานิรันดร์ เขายังเตรียมวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อต่อต้านพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงดูเปราะบางและไม่แม้แต่จะสามารถตอบโต้!”

 

เป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวน เทพธิดาจื่อเว่ยสงสัยอย่างหนักว่าฟางหยวนกําเนิดใหม่แล้ว

 

“ พวกเราควรทําอย่างไร?”

 

“ฟางหยวนมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดและสามารถเดินทางในสายธารแห่งกาลเวลา ขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังของข้ายังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง”

 

“ข้าควรหยุดการก่อสร้างหรือไม่? ตั้งแต่ฟางหยวนกําเนิดใหม่ เขาย่อมต้องคุ้นเคยกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลัง”

 

“หากข้าหยุดและเปลี่ยนเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่น มันจะสายเกินไปหรือไม่?”

 

“ฟางหยวนเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาเพื่อค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงอย่างแน่นอน หากเขาทําสําเร็จ มันจะเลวร้ายมาก ผลที่ตามมาอาจเลวร้ายยิ่งกว่าความพ่ายแพ้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา!”

 

ในเวลานี้เทพธิดาจื่อเว่ยผู้มีไหวพริบกลับไม่รู้ว่าควรทําอย่างไร