บทที่ 1807 ความรู้สึกของผู้คน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1807 ความรู้สึกของผู้คน

 

ฟางหยวนและคนอื่นๆกลับถึงภาคใต้ในที่สุด

 

แม้พวกเขาจะยังอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมแต่พวกเขายังต้องพักผ่อนและจัดระเบียบตนเองหลังการต่อสู้

 

“กําไรครั้งนี้ค่อนข้างดี” ฟางหยวนตรวจสอบศพ

 

นอกจากผู้อมตะระดับแปดชิงเอ่ยังมีผู้อมตะระดับเจ็ดจํานวนมากจากสิบนิกายโบราณ คนกลุ่มนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่วังสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีมิติช่องว่างเทียม

 

วิญญาณส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกทําลายแต่มิติช่องว่างของพวกเขายังอยู่

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังที่พังทลายถูกเก็บไว้เช่นกัน

 

ฟางหยวนตรวจสอบมิติช่องว่างของผู้อมตะเหล่านี้ หากไม่พบปัญหา เขาจะกลืนกินพวกมัน

 

มิติช่องว่างที่ฟางหยวนไม่สามารถกลืนกินเป็นเพราะความสําเร็จที่ไม่เพียงพอ

 

ในความเป็นจริงมีผู้อมตะภาคใต้กลุ่มหนึ่งที่ฟางหยวนไม่สามารถกลืนกินมิติช่องว่างของพวกเขา

 

“สิ่งที่เก็บเกี่ยวมาจากการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงกําไรเล็กๆน้อยๆ คุณค่าที่แท้จริงของมันคือการประกาศสงครามกับวังสวรรค์”

 

ฟางหยวนเข้าใจจังหวะของการต่อสู้เป็นอย่างดี

 

หากเขาต่อสู้ก่อนหน้านี้โดยปราศจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะเรือรบหมื่นปี เขาต้องเปิดเผยการบ่มเพาะระดับแปด

 

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ หากการบ่มเพาะระดับแปดถูกเปิดเผย วังสวรรค์จะสังเกตเห็นว่าฟางหยวนไม่ได้ก้าวข้ามภัยพิบัติ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจะรู้ความลับของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

หากเขายื้อเวลาออกไป วังสวรรค์จะสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆ

 

ด้วยการทําลายวิหารอดีตปัจจุบันและนาวานิรันดร์ มันจะทําให้วังสวรรค์สั่นคลอน

 

วังสวรรค์ไม่ต้องการเห็นฟางหยวนได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องส่งกองกําลังออกมาปกป้องสายธารแห่งกาลเวลาและหยุดฟางหยวน

 

หลังจากหงซื่อเสียชีวิต วังสวรรค์ขาดแคลนผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ดังนั้น พวกเขาจึงต้องส่งตัวตนเช่นชิงเย่และคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาออกมา

 

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจะมีโอกาสโจมตีพวกเขาอีกครั้ง

 

แต่กระทั่งวังสวรรค์จะรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ยังต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหยุดฟางหยวน ไม่ว่าพวกเขาต้องจ่ายด้วยราคาใดก็ตาม

 

“ชีวิตก่อนหน้า วังสวรรค์ปกป้องสายธารแห่งกาลเวลาเหมือนป้อมปราการ แต่ชีวิตนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

“สายธารแห่งกาลเวลากลายเป็นสนามรบที่ดีที่สุดสําหรับข้าที่จะทําให้วังสวรรค์อ่อนแอลง”

 

ฟางหยวนเกือบแน่ใจการตอบสนองของวังสวรรค์

 

วังสวรรค์มีความได้เปรียบจากการครอบครองวิญญาณชะตากรรม และบังคับให้โจมตีพวกเขา

 

ฟางหยวนพึ่งพามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงเพื่อบังคับให้วังสวรรค์ส่งกองกําลังไปยังสายธารแห่งกาลเวลา

 

“มันเป็นเพียงความลับเรื่องการกําเนิดใหม่ของข้าเท่านั้นที่ไม่สามารถเก็บซ่อนได้อีกต่อไป”

 

ฟางหยวนจะไม่ประมาทเทพธิดาจื่อเว่ย หลังจากทั้งหมดเขาคุ้นเคยกับนางเป็นอย่างมาก

 

หลังจากสองสามวันเทพธิดาจอเว่ยประกาศในสวรรค์สีเหลืองว่าฟางหยวนกําเนิดใหม่แล้ว และครอบครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด

 

ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ฟางหยวนก็ทําให้โลกทั้งใบตกสู่ความโกลาหลอีกครั้ง

 

“ฟางหยวนเติบโตจนกลายเป็นจักรพรรดิปีศาจ เขาเป็นเสาหลักของเส้นทางสายปีศาจ”

 

“ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืนที่สามารถสะท้อนการโจมตีของผู้อมตะระดับแปด ตอนนี้เขายังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดอีกงั้นหรือ?”

 

“เร็วเกินไปหรือไม่? มันดูราวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า”

 

“ตั้งแต่เขากําเนิดใหม่ การปรากฏตัวของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่าลืมว่าเขากลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา มันเป็นรากฐานที่แข็งแกร่ง”

หัวข้อสนทนาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับวังสวรรค์เช่นกัน

 

“วังสวรรค์ช่างไร้ประโยชน์นัก พวกเขาไม่สามารถจัดการฟางหยวนจริงๆ”

“วังสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่พ่ายแพ้ซ้ําแล้วซ้ําอีก ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยข่าวของฟางหยวนออกมานหรือ?”

 

“ไม่ใช่ว่าวังสวรรค์อ่อนแอแต่พวกเขาไม่มีวิธีจัดการฟางหยวน”

 

“กระทั่งปีศาจอมตะระดับแปดก็ยังมีชื่อเสียงไม่เท่าฟางหยวน”

 

“ถูกต้อง หากปีศาจอมตะต้องการรุกรานกองกําลังฝ่ายธรรมะ กองกําลังฝ่ายธรรมะจะร่วมมือกันไล่ล่าพวกเขา มันเหมือนกับกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ที่ร่วมมือกันไล่ล่าฟางหยวน”

 

“แต่ฟางหยวนสามารถป้องกันการอนุมานของวังสวรรค์ เขายังมีวิญญาณท่องแดนอมตะ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาสูงมาก เขากระทั่งใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาซุ่มโจมตีและจับกุมผู้อมตะภาคใต้”

 

“เขากลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขาอย่างน้อยต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์เอก!”

 

ความสามารถที่หลากหลายของฟางหยวนทําให้ผู้คนรู้สึกตกตะลึง

 

“ข้าเข้าใจแล้ว เขาคือสัตว์ประหลาด!” หลายคนถอนหายใจ แม้แต่ผู้อมตะระดับแปดก็มักบ่มเพาะบนเส้นทางสายเดียว ไม่มีผู้ใดบ่มเพาะหลากหลายเส้นทางเช่นฟางหยวน

 

การบ่มเพาะบนเส้นทางแต่ละสายต้องใช้เวลา พลังงาน และทรัพยากรจํานวนมาก ผู้อมตะทั่วไปไม่สามารถบ่มเพาะหลายเส้นทาง

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนเคยคิดที่จะบ่มเพาะบนเส้นทางสายเดียวเช่นกัน แต่เขาถูกกดดันมาตลอด เขาจะผ่านมันมาได้อย่างไรหากเขาไม่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญา พลังการต่อสู้ของ เขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างไรหากเขาไม่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เขาจะจับผู้อมตะภาคใต้ได้อย่างไรหากเขาไม่มีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลและเส้นทางแห่งกาลเวลา?

 

“เราไม่สามารถกล่าวเช่นนั้น แม้พรสวรรค์ของฟางหยวนจะแย่กว่านี้ แต่ตราบเท่าที่เขากําเนิดใหม่อย่างต่อเนื่อง เขาจะมีเวลารวบรวมรากฐาน”

 

“ถูกต้อง ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณกาลเวลา แม้เขาจะล้มเหลว แต่เขาก็ยังสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ กระทั่งคนโง่ก็ยังประสบความสําเร็จหลังจากผ่านความล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน!”

 

“วิญญาณกาลเวลา…มันคู่ควรกับเป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัวแดงอย่างแท้จริง”

 

“วิญญาณกาลเวลาควรได้รับการจัดอันดับให้สูงขึ้นในรายการวิญญาณที่ลึกลับที่สุด”

 

“แต่ข้ารู้สึกว่าเราไม่ควรประเมินค่ามันสูงเกินไป วิญญาณกาลเวลาเป็นเพียงวิญญาณ มีหลายวิธีที่สามารถจัดการมัน เหตุผลที่ทําให้ฟางหยวนเป็นคนที่น่าอัศจรรย์เพราะเขาคือปีศาจต่างโลก!”

 

“การรวมตัวกันระหว่างปีศาจต่างโลกกับวิญญาณกาลเวลาสมบูรณ์แบบเกินไปจริงๆ นอกจากปีศาจต่างโลก มันเป็นเรื่องยากสําหรับคนทั่วไปที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาโดยใช้วิญญาณกาลเวลา”

 

ฟางหยวนตั้งใจฟังบทสนทนาเหล่านี้ หลังจากไตร่ตรอง เขาตัดสินใจเผยแพร่ภาพการต่อสู้ในสายธารแห่งกาลเวลาออกไปในสวรรค์สีเหลือง

 

เขายังกล่าวว่า “วังสวรรค์ การโต้กลับของข้าพึ่งเริ่มต้น! รอจนกว่าข้าจะได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะทําลายวิญญาณชะตากรรมของพวกเจ้าให้สิ้นซาก ในชีวิตก่อนหน้าพวกเจ้าประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม นั่นเป็นเพราะรากฐานของพวกเจ้าลึกล้ําเกิดความคาดหมายของข้า มีผู้คนไม่มากที่เข้าใจสถานการณ์ของอีกสี่ภูมิภาค ผู้อมตะระดับแปดจํานวนมากถูกควบคุมโดยพวกเจ้าอย่างลับๆ นอกจากนี้ยังมีผู้อมตะจํา นวนมากที่ใช้ชีวิตอย่างไร้เดียงสาโดยไม่รู้ถึงภัยคุกคามร้ายแรงจากวิญญาณชะตากรรม พวกเจ้าทุกคนเพียงรอก่อน!”

 

ทันทีที่คํากล่าวของเขาถูกเผยแพร่ออกไป โลกของผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคตกสู่ความเงียบงันชั่วคราว

 

หลังจากไม่นาน ความรู้สึกของผู้คนก็ปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟระเบิด “โอ้ สวรรรค์ ฟางหยวนยั่วยุวังสวรรค์โดยตรง เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อกี่ปีมาแล้ว?”

 

“กี่ปีงั้นหรือ? กระทั่งตลอดระยะเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์ กรณีเช่นนี้ก็เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น!”

 

“น้อยคนนักที่จะกล้าทําเรื่องเช่นนี้และน้อยคนนักที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อวังสวรรค์!”

 

“แม้ฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาสามารถต่อต้านวังสวรรค์ เขากลืนกิน แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและมีผู้อมตะใต้บังคับบัญชาจํานวนมากรวมถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด! สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือดูเหมือนเขาจะมีข้อมูลที่แม่นยําเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง หากเขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงจริงๆ นั่นจะน่ากลัวมาก!”

 

“หากเรื่องนี้ยังดําเนินต่อไป ฟางหยวนอาจกลายเป็นเทพปีศาจคนใหม่!”

 

“เห้อ…มันจะเกิดการทําลายล้างขึ้นอีกหรือไม่?”

 

“เราไม่สามารถเป็นศัตรูกับฟางหยวน ดูภาพเหตุการณ์เหล่านี้ ท่าไม้ตายอมตะทั้งหมดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังของวังสวรรค์ถูกทําลายโดยฟางหยวน ชัดเจนว่าฟางหยวนมีประสบการณ์จากชีวิตก่อนหน้า การรวมกันของวิญญาณกาลเวลาและปีศาจต่างโลกน่ากลัวเกินไป!”

 

ความหวาดกลัวค่อยๆพัฒนาขึ้นหัวใจของผู้คนทีละน้อย ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจรู้สึกเกลียดชัง อิจฉา และระวังฟางหยวน แต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มหวาดกลัวฟางหยวนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ผู้อมตะเหล่านี้ตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถยั่วยุฟางหยวน กระทั่งวังสวรรค์และกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ก็ยังถูกจัดการโดยฟางหยวนซ้ําแล้วซ้ําอีก ศักดิ์ศรีของพวกเขาถูกเหยียบย่ําอย่างไร้ปรานี จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่สามารถทําสิ่งใดต่อฟางหยวนภาคใต้ตระกูล

 

สายตาของวูหยงกลายเป็นมืดครื้ม “ฟางหยวนวังสวรรค์….”

 

ตระกูลจื่อ

 

ใบหน้าของอชิวหยูกลายเป็นซีดขาว ในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงความเป็นไปได้บางอย่าง “ไม่พบคนทรยศ บางทีนี่อาจเป็นข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในชีวิตก่อนหน้า หากข้าทําธุรกรรมกับเขาในชีวิตก่อนหน้าเช่นกัน มันไม่ได้หมายความว่าข้าคือคนทรยศงั้นหรือ?”

 

ทะเลทรายตะวันตก

 

ตระกูลถัง

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลถังลอบหารือกันอย่างลับๆ

 

“ฟางหยวนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หากความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกเราถูกเปิดเผย วังสวรรค์จะจัดการพวกเราอย่างแน่นอน”

 

“เราร่วมมือกับฟางหยวนไปแล้ว ตอนนี้ฟางหยวนแข็งแกร่งมากจนเราไม่สามารถหยุดความสัมพันธ์นี้ เราต้องระวังตัวให้มากขึ้น หากเขากลายเป็นเทพปีศาจในอนาคต มันจะเป็นโอกาสที่ดีสําหรับตระกูลถังของเรา”

 

ตระกูลซื่อ

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลซื่อหัวเราะ “น่าสนใจ วังสวรรค์ต้องการให้ทั้งโลกต่อสู้กับฟางหยวน ในเวลาเดียวกันฟางหยวนก็เปิดเผยความอ่อนแอของวังสวรรค์และภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ออกมาโดยหวังว่าผู้อมตะของสี่ภูมิภาคจะร่วมมือกันโจมตีวังสวรรค์”

 

“ลืมเขาไปซะ ตอนนี้ข้าต้องฝึกฝนต่อไป เมื่อข้ามีความก้าวหน้า แล้วมาดูกันว่าสัตว์ประหลาดของโลกใบนี้จะทําอย่างไรต่อหน้าดาบของข้า!”