บทที่ 1643 ไล่ตามยังไม่ชัดเจนพอ? / บทที่ 1644 นายลองดูได้

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1643 ไล่ตามยังไม่ชัดเจนพอ?

ที่ด้านหลัง เจียงเหยียนจ้องตาเขม็ง เห็นเยี่ยหวันหวั่นแค่โน้มเข้าไปพูดหนึ่งประโยคก็ถอนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วจึงค่อยอดทนไว้ได้ แต่ยังคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

หลังเสียงดนตรีสงบลงเล็กน้อย ชายหนุ่มจึงมองหญิงสาวตรงหน้าเอ่ยปากอย่างนิ่งสงบ ในดวงตาราวกับมีน้ำแข็งเปลวไฟต่อสู้กัน “ผู้นำไป๋เป็นแบบนี้กับผู้ชายทุกคนเลยเหรอ”

เยี่ยหวันหวั่นเท้าคางพลางจิบเหล้า เลิกคิ้วน้อยๆ “ฉันเข้าใจได้ไหมว่าท่านผู้นำอาชูร่ากำลังหึง”

ชายหนุ่มเงียบชั่วครู่ จากนั้นจึงเลี่ยงคำถามนี้โดยตรง “ผู้นำไป๋นัดฉันด้วยธุระอะไร”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยโดยใช้น้ำเสียงตกใจ “สาวน้อยอย่างฉันนัดคุณมาผับกลางค่ำกลางคืนยังจะมีธุระอะไรได้ หรือว่า…ฉันไล่ตามคุณขนาดนี้ยังไม่ชัดเจนเหรอ”

ผู้นำอาชูร่านิ่งเงียบ

เจียงเหยียนตื่นตกใจ “นางจิ้งจอก!”

เยี่ยหวันหวั่นเผยท่าทีเสียใจ “ก็ได้…ความผิดฉัน…ฉันควรทำให้ชัดเจนหน่อย!”

พูดจบเยี่ยหวันหวั่นลุกพรวดขึ้นก่อนเดินไปบนเวที

เยี่ยหวันหวั่นเดินไปถึงข้างตัวดีเจก่อนกระซิบกับอีกฝ่ายสองสามประโยคไม่รู้ว่าพูดอะไร

ดีเจพยักหน้ารัว จากนั้นก็สับเปลี่ยนดนตรีทั้งผับเป็นอีกเพลงหนึ่ง

เยี่ยหวันหวั่นหยิบไมโครโฟนเดินขึ้นเวที ในอ้อมกอดถือกีตาร์ที่ยืมมาจากนักร้องนำ

“ทุกท่าน สายัณห์สวัสดิ์~” เยี่ยหวันหวั่นนั่งบนเก้าอี้สตูลบนเวที ริมฝีปากยกยิ้ม

“โอ้ๆๆๆ” สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยบนเก้าอี้บูธตรงกลางพลันหวีดร้องเชียร์และผิวปากขึ้นมา

“เชี่ยๆๆ! ผู้นำจะทำอะไร!”

“สมกับเป็นพี่เฟิงของผม! ผมรู้อยู่แล้วเชียวว่าคืนนี้จะต้องเกิดเรื่องใหญ่! ถูกแล้วจริงๆ ที่ตามมาดู!”

“ต่อไป ฉันจะร้องเพลงให้…เพื่อนโง่คนหนึ่ง” เยี่ยหวันหวั่นพูดพลาง ดวงตาที่สว่างไสวใต้แสงไฟพร่างพรายก็แฝงรอยยิ้มมองไปยังทิศทางหนึ่งที่ด้านล่างเวที

“กรี๊ดดด—”

เชี่ยๆๆ! ผู้นำไม่ใช่ว่าจะสารภาพรักผู้นำอาชูร่าต่อหน้าทุกคนหรอกนะ!

นั่นคือผู้นำอาชูร่าเชียวนะ!

ผู้นำนี่จะขึ้นสวรรค์เอาได้นะ!

“นายท่าน…ไป๋เฟิงนี่! จะบังอาจเกินไปแล้ว!” เจียงเหยียนที่ด้านล่างเวทีโกรธจนจวนจะระเบิดอยู่แล้ว แต่ก็จนปัญญา ผู้นำตนไม่เอ่ยพูดเขาก็ทำบุ่มบ่ามไม่ได้

เวลานี้ดวงตาที่ลึกไม่เห็นก้นของชายหนุ่มกำลังจดจ่ออยู่บนตัวของหญิงสาวบนเวที

หญิงสาวดีดกีตาร์เบาๆ เพื่อปรับเสียง

เพลงนี้เป็นเพลงที่เธอแต่งเล่นๆ ตอนอยู่ประเทศจีน ตอนนี้พอคิดดู…ก็เหมาะสมทีเดียว…

ดนตรีเริ่มต้นมีชีวิตชีวาดังขึ้น

เยี่ยหวันหวั่นอุ้มกีตาร์ หลับตา ตั้งใจเอ่ยร้องประโยคแรก “คุณมีเสน่ห์บางอย่าง ทำลายระยะห่างของอากาศและเวลา ฉันเข้าใจ ฉันไม่สามารถปล่อยคุณ ฉันลืมคุณไม่ลง ทุกเมืองมีคุณอยู่ในความทรงจำ…”

หญิงสาวสวมชุดลำลองคล่องแคล่วสบายๆ ผูกผมหางม้าอย่างง่ายๆ นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างตามอำเภอใจ ผิวขาวผ่องราวหยกภายใต้แสงไฟดูราวกับเรืองแสงได้

วินาทีที่เธอหลับตาอ้าปาก เสมือนกับว่าแสงไฟทั่วทั้งโลกตกอยู่บนตัวเธอ

“ทุกเมืองมีความทรงจำของคุณ ต่อให้แสงจันทร์ชนโลก ก็จะอยู่ด้วยกัน โลกนี้สวยงามเพียงไหน ก็ไม่เท่าความสมบูรณ์แบบของคุณ…”

เมื่อร้องถึง ‘โลกนี้สวยงามเพียงไหน ก็ไม่เท่าความสมบูรณ์แบบของคุณ’ เยี่ยหวันหวั่นลืมตา สายตาราวกับทั้งแม่น้ำดวงดาวเต็มฟากฟ้าวาดไปยังมุมหนึ่งของผับ

เจ้าแม่ลั่วหลินน่าสองพวงแก้มแดงกุมหัวใจที่เต้นตึกตัก “เชี่ยๆๆๆ! ตกหลุมรักแล้ว! ลูกพี่ตกเก่งเกินไปแล้ว!”

“ปลายซอยหลังฝนตก กุหลาบบานสะพรั่งนั้น ความรักนี้สวยงามเพียงไหน ก็เหมือนแสงสายัณห์ลับฟ้า ซบไหล่ของฉัน คุณก็จะนอนหลับสนิท…”

ที่ด้านล่างเวทีไร้คนสังเกตเห็น ชายหนุ่มที่แต่ไหนแต่ไรเย็นชาน่ากลัวราวภูเขาน้ำแข็งนั้น ในดวงตาฉายแววอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…

———————————————————————————–

บทที่ 1644 นายลองดูได้

ที่ทำให้ชายหนุ่มหวั่นไหว ไม่เพียงเพลงเพลงนี้ ไม่เพียงเสียงของหญิงสาว แต่ยังเป็นความโดดเดี่ยวที่วาบผ่านดวงตาที่เจือรอยยิ้มนั้นหลังหญิงสาวร้องท่อน ‘ซบไหล่ของฉัน คุณก็จะนอนหลับสนิท’ จบ

ที่ด้านล่างเวที ชีซิงมองเหตุการณ์ที่เสียการควบคุมขึ้นทุกที และมองเป่ยโต่วที่โวยวายตามมาอยู่ข้างๆ อย่างเย็นชา “ป่วนพอหรือยัง”

เวลานี้เป่ยโต่วจึงค่อยตอบสนองว่าตัวเองมาจับตาดูพี่เฟิงเพื่อกันไม่ให้เธอก่อเรื่อง จึงเอ่ยอย่างกระดากอาย “ฉันดูอีกแป๊บเดียวอีกแป๊บเดียวเท่านั้น!”

ยังไงฉากอย่างนี้ ร้อยปีมีหนเดียวนะ!

ชีซิงได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกคอเสื้อของเป่ยโต่วแล้วไล่ตามไปยังทิศทางของเยี่ยหวันหวั่นโดยตรง

ด้านนอกผับ

แยกจากเสียงอึกทึกและแสงไฟพร่างพราว โลกก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบ

เวลานี้สมองของเยี่ยหวันหวั่นมึนเบลออยู่บ้าง

“ไม่มั้ง ฉันแค่ดื่มไม่กี่อึกเอง ทำไมถึงเมาแล้วล่ะ หรือว่าเหล้าไม่ได้มอมคนแต่คนมอมตัวเอง ถูกความสวยมอมแล้ว…” เยี่ยหวันหวั่นพึมพำอย่างสติเลอะเลือน

เจียงเหยียนพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้มีสักประโยคที่ไม่เอาเปรียบผู้นำไหมหา

เพื่อเขาผู้นำสังเวยอย่างใหญ่หลวงแล้วจริง!

ภายใต้แสงจันทร์ เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ใต้หลังคามองชายหนุ่มตรงหน้า แขนพาดบ่าของชายหนุ่ม “ท่านผู้นำอาชูร่า ยังต้องให้ชัดเจนอีกหน่อยไหม”

“ไม่ทราบว่าผู้นำไป๋หมายความว่ายังไง” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะ “ไปมาหาสู่กันตั้งนานแล้ว คุณฉันรู้จักกันดี ไม่จำเป็นต้องแข่งกันแสดงอีกแล้วมั้ง”

ชายหนุ่มจ้องรอยยิ้มของหญิงสาว ในหัวยังคงเป็นเพลงของหญิงสาวเมื่อครู่ สีหน้าเหม่อลอยเล็กน้อยเหมือนใจลอยนิดหน่อย

เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้นก็พูดไปด้วย มือที่พาดไหล่ของชายหนุ่มก็ยื่นไปสัมผัสเส้นผมของเขาอย่างเงียบเชียบไร้สุ้มเสียงไปด้วย…

ถูกต้อง…นี่ต่างหากถึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายใหญ่สุดของเธอ…

ตอนที่เพิ่งรู้ตัวคนที่แท้จริงของตัวเอง ที่เธออยากรู้มากที่สุด ก็คือพ่อแท้ๆ ของถังถังคือใคร…

อีกนิด…ใกล้อีกนิดเดียวแล้ว…

เชี่ย! ไหงผมของเจ้าหมอนี่สวยขนาดนี้ ไม่มีผมขาดสักเส้นเลยเหรอ

เมื่อกี้เธอหาโอกาสไม่ได้ตลอด ได้แต่อาศัยโอกาสที่เขาใจลอยตอนนี้เสี่ยงโชคดูแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นไม่กล้าออกแรงดึงเพราะจะต้องถูกค้นพบแน่นอน ดังนั้นเธอจึงลูบน้อยๆ ผลคือ ไม่ได้ผมสักเส้น

ไม่เพียงแค่นี้ ชายหนุ่มเหมือนสังเกตเห็นการกระทำเล็กน้อยของหญิงสาว ขณะที่เธอเตรียมเคลื่อนไหวครั้งที่สอง เขาก็คว้าข้อมือของหญิงสาวไว้แล้วจ้องเธอ เหมือนกำลังเสาะหาวัตถุประสงค์ของเธอ

“แค่กๆ …หึๆ …ผมของผู้นำอาชูร่าสวยมาก…ฉันเลยอยากลูบสักหน่อยเท่านั้น…นุ่มลื่นอย่างที่คิดจริงด้วย!” เยี่ยหวันหวั่นพูดไร้สาระอย่างหน้าไม่แดงใจไม่เต้น

ในที่สุดเจียงเหยียนก็ทนไม่ไหว “นางจิ้งจอก! พอได้แล้วหรือยัง! เธออยากนัดผู้นำ ผู้นำก็ทำให้แล้ว! ถ้าเธอยังไม่เกรงใจผู้นำอีก ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นดวงตาก็วาบประกายเย็นชาต่างจากปกติ “หึ ไม่เกรงใจ? ได้ซี่ นายลองดูก็ได้”

เพิ่งสิ้นเสียง ก็มีเสียงคำรามหนึ่งดังมาจากด้านหลัง “เฮ้ๆๆ ไม่เกรงใจกับใครนะ! กล้าแตะขนอ่อนพี่เฟิงฉันสักเส้น พันธมิตรอู๋เว่ยฉันจะหักกระดูกแก!”

เป่ยโต่วพูดจบก็ถูกชีซิงถลึงตาใส่

เป่ยโต่วจึงเพิ่งสังเกตว่าไม่ถูก จริงสิ ทั้งที่เขามากล่อมพี่เฟิงแท้ๆ ทำไมถึงเปลี่ยนท่าทีไปช่วยคนทำเลวใช้กำลังแย่งประชาชนได้ล่ะ

เอ่อไม่สิ…อีกฝ่ายเป็นประชาชนที่ไหน…นั่นคือจอมมารต่างหาก…

เวร พี่เฟิงเรื่องนี้ยิ่งทำยิ่งเลยเถิด ถ้าไม่ใช่ผู้นำอาชูร่าโดนกู่ ฆ่าพี่เฟิงไม่ได้ละก็ ไม่แน่ตอนนี้พันธมิตรอู๋เว่ยอาจประสบเคราะห์ไปนานแล้ว