บทที่ 1645 ยังต้องให้นายเตือนเหรอ / บทที่ 1646 อัญเชิญหัวกะทิไปประเทศจีน

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1645 ยังต้องให้นายเตือนเหรอ

เจียงเหยียนจ้องเป่ยโต่วกับชีซิงที่อยู่ไม่ไกลเขม็ง หัวคิ้วขมวดแน่นเป็นปม

นางจิ้งจอกนี้ถึงกับหากลุ่มคนมาแย่งผู้นำบ้านพวกเขา!?

ผู้นำบ้านพวกเขา เพื่อเขา จริงๆ เลย…

เจียงเหยียนตื้นตันใจเต็มเปี่ยม

“อยากตายเหรอ!”

ทันใดนั้นประกายเยือกเย็นวาบผ่านดวงตาของเจียงเหยียน เขาชี้เป่ยโต่วพร้อมตวาดเสียงเย็น

“เข้าใจผิด เข้าใจผิดกันทั้งนั้น…รอเดี๋ยว แกแม่งพูดว่าใครอยากตายนะ! แกไอ้เทพประตู ไอ้หมาเฝ้าประตู ถุย!” เป่ยโต่วมองเจียงเหยียนด้วยสีหน้าไม่ยอมแพ้และด่ากราด

เวลานั้นชีซิงเหล่มองเป่ยโต่ว “นายรู้ไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไป”

ได้ยินคำพูดนี้ของชีซิง เป่ยโต่วชะงักเล็กน้อย เหมือนจะหลงประเด็นไปหน่อยแล้ว…

“อะฮ่าๆ ต่อให้นายเป็นหมาเฝ้าประตู แต่ก็เป็นหมาที่ดีนะ เข้าใจผิด เข้าใจผิดกันทั้งนั้น…”

เป่ยโต่วพูดจบก็เดินไปข้างตัวเยี่ยหวันหวั่นทันทีแล้วยิ้มเต็มหน้า “พี่เฟิง พี่ดื่มมากแล้ว พวกเรารีบกลับกันเถอะ ในพันธมิตรยังมีเรื่องอีกมากรอให้พี่เฟิงจัดการนะ”

เป่ยโต่วพูดจบก็เกี่ยวแขนของเยี่ยหวันหวั่นทำท่าจะออกไปจากที่นี่

แต่ทว่า พริบตาที่เป่ยโต่วเกี่ยวแขนของเยี่ยหวันหวั่น เขาก็กลับรู้สึกว่าทั้งตัวถูกความเหน็บหนาวปกคลุม จนอดสั่นเทาโดยอัตโนมัติไม่ได้

“ใคร…แผ่ไอสังหาร ใครลอบโจมตีฉัน!”

เป่ยโต่วพินิจมองรอบด้านอย่างระมัดระวัง แต่นอกจากผู้นำอาชูร่าที่จ้องเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แล้วก็ไม่มีสถานการณ์อื่นอีก

เยี่ยหวันหวั่นจนใจเล็กน้อย เจ้าโง่นี้ทำบ้าอะไรกันแน่ ดูสถานการณ์ไม่เป็นเกินไปแล้ว ไม่เห็นเหรอว่าเรื่องของเธอกับผู้นำอาชูร่ายังจัดการไม่เสร็จน่ะ เส้นผมของผู้นำอาชูร่ายังไม่ถึงมือเลยนะ…

อย่างอื่นไม่พูดถึง นี่ดีเลวก็เป็นภารกิจระดับ S ที่โรงเรียนชื่อเยี่ยนเชียวนะ

ที่ด้านข้าง ชีซิงถอนหายใจ เขาเดินขึ้นหน้าช้าๆ ก่อนจะคว้าคอเสื้อของเป่ยโต่วไว้แล้วสาวเท้าเดินไปยังรถยนต์ส่วนตัว

“ผู้นำ พวกเราไปกันเถอะครับ…นางจิ้งจอกนี่สมองมีปัญหา เดี๋ยวไม่แน่อาจทำอะไรออกมาก็ได้…” เจียงเหยียนมองผู้นำอาชูร่าพลางเอ่ยปากอย่างระมัดระวัง

ผู้นำอาชูร่ามีสีหน้าไร้อารมณ์และหันตัวจากไป

หลังขึ้นรถซือเยี่ยหานก็ขมวดคิ้วแน่น

สถานการณ์ตอนนี้พัฒนาไปตรงข้ามกับที่เขาหวังไว้โดยสิ้นเชิง เป็นแบบนี้ต่อไป อยากให้เยี่ยหวันหวั่นออกจากรัฐอิสระกลับประเทศจีนก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

วิธีที่จะให้เยี่ยหวันหวั่นกลับประเทศจีน ไม่ใช่ว่าไม่มี…

นอกเสียจากว่า เขาจะกลับคืนตัวตนซือเยี่ยหาน…

เวลานี้ชีซิงขับรถมาถึงใต้ตึกพันธมิตรอู๋เว่ยแล้ว

หลังเยี่ยหวันหวั่นลงจากรถก็ตรงดิ่งเข้าสำนักงาน

“สวัสดีครับผู้นำ!”

สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยที่เฝ้ากะกลางคืนเมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นก็พลันยืดตัวตรงมีสติเต็มเปี่ยมในพริบตา จากนั้นก็ทำความเคารพเยี่ยหวันหวั่น

หลังเยี่ยหวันหวั่นทักทายพวกสมาชิกที่เฝ้ากะกลางคืนนึ่งเสียงก็กลับห้องทำงาน

ผ่านไปชั่วครู่ เป่ยโต่วกับชีซิงก็เดินเข้ามา

“พี่เฟิง ช่วงนี้รัฐอิสระไม่ค่อยสงบนะครับ…พวกเรายุแหย่คนของคุกแห่งบาปให้น้อยลงหน่อยดีกว่า…” เป่ยโต่วเพิ่งเข้าห้องทำงานมาก็รีบเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น

“คุกแห่งบาป? ”

ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็งุนงงเล็กน้อย “ใครคือคนของคุกแห่งบาป? ”

“ผู้นำอาชูร่าไงครับ สามกองกำลังแกนนำของคุกแห่งบาป” เป่ยโต่วเอ่ยปาก

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด ยังต้องให้นายเตือนเหรอ ฉันไม่รู้รึไง!

“พี่เฟิง พี่จะกลับโรงเรียนชื่อเยี่ยนเมื่อไร” ชีซิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยถามเยี่ยหวันหวั่น

ตอนนี้ภารกิจสำเร็จแล้ว ใกล้ได้เวลากลับโรงเรียนชื่อเยี่ยนแล้ว

“ในสองวันนี้แหละ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก

ก่อนกลับโรงเรียนชื่อเยี่ยน เธอยังมีเรื่องบางอย่างต้องไปจัดการ อย่างมากก็ใช้เวลาสองวัน

————————————————————————————

บทที่ 1646 อัญเชิญหัวกะทิไปประเทศจีน

“พี่เฟิง ได้ข่าวมา…ไม่รู้ควรบอกพี่หรือเปล่า…” ชีซิงมีสีหน้าใคร่ครวญ

“ว่ามา” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย คลุกคลีกับชีซิงและเป่ยโต่วก็นานแล้ว ทำไมถึงเปลี่ยนไประมัดระวังคำพูดแบบนี้กัน

“ครั้งหนึ่งฝ่ายสืบข้อมูลของพันธมิตรอู๋เว่ยภายใต้พี่เฟิง…สมาชิกแกนนำของพวกเราหลายคน ตั้งแต่ที่พี่เฟิงออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยก็ถูกจับเป็นเชลยศึกเพราะสงคราม หลายปีมานี้ผู้อาวุโสหลายคนส่งคนไปสืบเสาะตลอด เมื่อวานมีข่าวใหม่ล่าสุดส่งมาว่าคนอยู่ประเทศจีน” ชีซิงเอ่ยปากช้าๆ

ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็มีท่าทีครุ่นคิด

ตอนที่เธอเพิ่งมาพันธมิตรอู๋เว่ยได้ไม่นานก็เคยได้ยินมาก่อน ว่าตั้งแต่ที่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแบดเจอร์จากไป พันธมิตรอู๋เว่ยก็ก่อสงครามมากมาย และสมาชิกแกนนำจำนวนหนึ่งก็กลายเป็นเชลยศึก จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวแล้ว

นึกไม่ถึงว่าตอนนี้สมาชิกแกนนำของพันธมิตรอู๋เว่ยที่ถูกจับเป็นเชลยศึกจะปรากฏตัวที่ประเทศจีนได้

“น่าขายหน้าสิ้นดี!”

เป่ยโต่วขบกราม “พันธมิตรอู๋เว่ยฉันยิ่งใหญ่ขนาดไหน สมาชิกแกนนำดันถูกคนจับเป็นเชลยเสียได้…”

ชีซิงเหล่มองเป่ยโต่วทันที “ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะสมาชิกแกนนำพวกนั้น พันธมิตรอู๋เว่ยก็ไม่น่ายืนหยัดจนพี่เฟิงกลับมาได้”

เป่ยโต่วยิ้มแหยแล้วรีบเอ่ย “ฉันหมายถึง คนที่จับสมาชิกแกนนำพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราเป็นเชลยพวกนั้นหน้าไม่อายเกินไปแล้ว ควรสับเป็นพันๆ ชิ้น ฆ่าพวกมันซะ!”

“รู้ไหมว่าเป็นกองกำลังไหน”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามชีซิง

“ตอนนั้นพันธมิตรอู๋เว่ยมีศัตรูมากมาย กองกำลังที่ทำสงครามกับพันธมิตรอู๋เว่ยก็นับไม่หวาดไม่ไหว เพราะงั้น…จึงตรวจสอบไม่ได้ครับ” ชีซิงเอ่ยตามตรง

“ประเทศจีน…”

เยี่ยหวันหวั่นพึมพำในลำคอ

บังเอิญว่าตัวเธอก็ตั้งใจจะกลับไปประเทศจีนเร็วๆ นี้พอดี

ตอนนี้ตำแหน่งในพันธมิตรอู๋เว่ยของเยี่ยหวันหวั่นนับว่ามั่นคงโดยสมบูรณ์ และก็เป็นเวลาที่ควรทำผลงานบางอย่างออกมาแล้ว

ไม่งั้นเธอถือตำแหน่งของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย แต่กลับไม่มีคุณงามความดีสักอย่างต่อพันธมิตรอู๋เว่ยก็ดูเหมือนไม่ดีเท่าไร…อย่างน้อยตัวเธอก็ลำบากใจอยู่บ้าง

“ตกลง!”

เยี่ยหวันหวั่นตบโต๊ะ

เป่ยโต่วสะดุ้งโหยงจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างตกใจทันที

“เตรียมการๆ รวบรวมหัวกะทิที่แข็งแกร่งที่สุดของพันธมิตรอู๋เว่ยมาให้ฉัน ตามฉันไปประเทศจีน” เยี่ยหวันหวั่นแสยะยิ้มเอ่ย

“หา…ไปประเทศจีน? ”

ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วอึ้งงันเล็กน้อย

“พี่เฟิง ประเทศจีนห่างจากพันธมิตรอู๋เว่ยไกลโพ้น คนน้อยหน่อยจะดีกว่า ถ้าคนมากไปเกรงว่าจะเกิดเรื่องผิดพลาดอะไร ที่สำคัญคือพวกเราไม่คุ้นเคยกับประเทศจีน…” เป่ยโต่วรีบร้อนอธิบาย

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ นายไม่คุ้นแต่ฉันคุ้นนี่นา…

“จุดนี้ไม่ต้องกังวล ฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ขอแค่ทำตามที่ฉันพูดก็พอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก

เห็นเยี่ยหวันหวั่นตัดสินใจแล้ว เป่ยโต่วก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับอย่างจนใจ ยังไงพี่เฟิงก็เอ่ยปากแล้ว เขาจะพูดอะไรได้

เช้าวันถัดมาเยี่ยหวันหวั่นไปพบถังถังที่บ้านตระกูลเนี่ย และก็ตั้งใจจะอำลาคุณนายเนี่ยด้วย

ยังไงเสียหลังกลับโรงเรียนชื่อเยี่ยนครั้งนี้ ก้าวถัดไปของเธอก็ควรจะมุ่งหน้าไปยังประเทศจีน ถือโอกาสรับภารกิจกำจัดทหารรับจ้างหลบหนีของโรงเรียนชื่อเยี่ยนไปด้วย บางทีอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะจึงจะกลับมาได้

ในโถงใหญ่ของตระกูลเนี่ย เยี่ยหวันหวั่นดื่มน้ำชาคารวะคุณนายเนี่ยหนึ่งแก้ว

ที่ด้านข้าง ‘เนี่ยอู๋โยว’ จ้องเยี่ยหวันหวั่นอย่างเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยแววดูถูก

“หวันหวั่น ได้ยินว่าลูกไปโรงเรียนชื่อเยี่ยนเหรอ”

คุณนายเนี่ยมองเยี่ยหวันหวั่นพลางถาม