ลู่ฝานชี้ภาพแล้วพูดว่า “บอกได้ไหมว่านี่คือภาพวาดอะไร”

หลู่ยินยิ้มแล้วพูดว่า “ได้สิ ภาพวาดดึงวิญญาณ มีค่ายกลคำสาปซ่อนอยู่ข้างใน!”

ลู่ฝานขมวดคิ้วขึ้น พูดอย่างตกใจว่า “อะไรนะ”

หลู่ยินพลิกข้อมือ ม้วนภาพหายไป

เธอหัวเราะร่ามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “พี่ลู่ฝาน อย่าโกรธสิ วางใจเถอะ ค่ายกลคำสาปมีผลกับคนที่เขียนชื่อไว้บนภาพเท่านั้น ไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง!”

สายตาของลู่ฝานจ้องเขม็งไปที่หลู่ยิน แล้วพูดว่า “เธอจงใจเหรอ”

หลู่ยินยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วพูดว่า “ใช่แล้ว มีเพียงการทำแบบนี้ ฉันถึงจะรับรองได้ว่านายจะไม่คิดร้ายกับฉัน เพราะฉันสามารถฆ่านายผ่านคำสาปได้ทุกเมื่อ!”

หลู่ยินยกยิ้มมุมปาก เอนหลังพิงรถเข็น

ตอนนี้กลิ่นอายความอ่อนเยาว์บนใบหน้าเธอหายไปหมดแล้ว ถูกแทนที่ด้วยความฉลาดหลักแหลมเต็มไปหมด

แม้ตัวเธอเป็นเด็ก หน้าเด็ก ทว่าตอนนี้เธอให้ความรู้สึกเหมือนคนคนหนึ่งมาก หลู่เฉิงเซี่ยง!

ถูกต้อง เด็กน้อยตรงหน้าที่ดูเหมือนอายุยังไม่ครบสิบขวบ กลับทำให้ลู่ฝานรู้สึกถึงอันตรายรุนแรง

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “เธอจะทำอะไรกันแน่”

ตอนนี้หลู่ยินยกแก้วชาขึ้นเบาๆ ยิ้มแล้วพูดว่า “เปล่า พี่ลู่ฝาน นายก็เป็นคนที่เข้าร่วมการคัดเลือก นั่นหมายความว่า อีกไม่นานนายจะกลายเป็นคู่แข่งของฉัน แน่นอนว่าต้องใช้วิธีการทุกอย่าง ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลกับคู่แข่ง ฉันใช้ภาพหนึ่งภาพ ซื้ออนาคตตอนที่นายสู้กับฉัน ต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย นี่เป็นเรื่องที่คุ้มค่ามากไม่ใช่เหรอ”

ลู่ฝานพูดเสียงขรึม “คิดไม่ถึงว่าคนอายุน้อยอย่างเธอ จะมีวิธีโหดเหี้ยมถึงขั้นนี้”

หลู่ยินหัวเราะแล้วพูดว่า “มีความทะเยอทะยาน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุไม่ใช่เหรอ โอเค พี่ลู่ฝาน นายไปได้แล้ว”

ลู่ฝานพูดว่า “เธอไม่เอาภาพวาดให้ฉัน ฉันจะไปได้ยังไง”

หลู่ยินมองลู่ฝานอย่างดูหมิ่น แล้วพูดว่า “ทำไม นายคิดจะแย่งงั้นเหรอ อย่าลืมสิว่าที่นี่คือตระกูลหลู่! ถ้านายแตะต้องฉันแม้แต่ปลายฉัน วันนี้นายต้องตายคาที่แน่นอน”

หลู่ยินปรบมือเบาๆ จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าพื้นด้านล่างเท้าผิดปกติขึ้นมาอีกแล้ว

ความรู้สึกคุ้นเคยแบบนี้ ก็คือค่ายกลในห้องหนังสือเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ

คิดไม่ถึงเลยว่าค่ายกลนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องหนังสือ

หลู่ยินมองลู่ฝานอย่างได้ใจ สีหน้าเหมือนบอกว่านายจัดการฉันสิ

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “คำนวณไว้อย่างดี คำนวณไว้อย่างดี! คิดไม่ถึงว่าฉันจะเสียท่าให้กับเด็กคนหนึ่ง”

หลู่ยินโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ไม่ใช่แค่นาย อีกไม่นานทั้งใต้หล้าจะได้รู้จักชื่อของหลู่ยิน นายไปได้แล้ว เสี่ยวลิ่วจื่อ หาห้องดีๆ ให้คุณชายลู่ฝานหน่อย อย่าให้เขาว่าตระกูลหลู่ของเราเพิกเฉยเขา”

ลู่ฝานลุกขึ้นเดินไปข้างนอกช้าๆ ตอนเขาเดินถึงหน้าประตู ลู่ฝานหันมาพูดว่า “สาวน้อย เธอลองดูภาพอีกครั้งสิ!”

พูดจบ ลู่ฝานสะบัดมือพาสิบสามออกไป

หลู่ยินขมวดคิ้วเบาๆ ไม่เข้าใจความหมายของลู่ฝาน

เธอค่อยๆ เอาภาพออกมาอีกครั้ง เมื่อเธอเห็นตัวอักษรคำว่าหลู่ยิน เขียนเป็นระเบียบอยู่บนม้วนภาพ หลู่ยินโมโหจนหน้าแดงทันที!

“อะไรกัน!”

ลู่ฝานได้ยินเสียงกรีดร้องทางด้านหลัง เขายกยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข

“หลู่ยิน!”

ลู่ฝานพึมพำออกมา

เขาเคยได้ยินชื่อนี้ ตอนอู่คงหลิงแนะนำสิบตระกูลใหญ่ หลู่ยินแห่งตระกูลหลู่ ลู่ฝานจำชื่อนี้ได้