ตอนที่ 496 ผู้ชายคนนี้คือแฟนของฉัน เสี่ยวเฉวียนเฉวียน

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ภายในรถ ซื่อมั่วเก็บโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าลงไปช้าๆ เขายังคงนั่งพิงอยู่ที่เบาะหลังดังเดิม ดวงตาเปล่งประกายจางๆ 

 

 

“ยังคงเป็ท่านอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด!” วิญญาณทมิฬที่อยู่ข้างๆรีบประจบประแจงในทันที 

 

 

เหมื่อครู่มันเหลือบไปเห็นหมายเลขเหล่านั้นแวบหนึ่ง…. 

 

 

แม้แต่คนระดับนั้นท่านอาจารย์ก็ยังสามารถควบคุมได้ ….เพียงครู่เดียวก็กระจายข่าวสารความจริงที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไปตามเส้นสายในวงการบันเทิง เห็นได้ชัดเลยว่ายังคงเป็นท่านอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ปกป้องตู๋กูซิงหลันได้ดีที่สุด 

 

 

ตู๋กูซิงหลันไม่ต้องถามก็รู้แล้วว่า ปฏิกริยาที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คนที่อยู่นอกรถ เกิดจากฝีมือของท่านอาจารย์ 

 

 

ที่นอกรถ จีเฉวียนยังคงถูกพวกนักข่าวรายล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนาชนิดที่ลมก็ยังผ่านไม่ได้ พอเขาสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของผู้คนที่เปลี่ยนไปก็ต้องหันกลับไปมองดูในรถแวบหนึ่ง 

 

 

ศัตรูความรักสบตากันจนแววตาแดงขึ้นมา 

 

 

แววตานั้นพอดีถูกพวกนักข่าวถ่ายรูปเอาไว้ได้…. 

 

 

พวกเขายังคิดจะสอบถามจีเฉวียนอีกสักหน่อย แต่ก็เห็น Sherry พาพวกพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามา 

 

 

อีกด้านหนึ่งซ่งเจียงเสวี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นช้าๆ 

 

 

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว คนสวมใส่ชุดฮั่นฝูแบบโบราณสีขาว ใบหน้าที่เดิมทีสดใสไร้เดียงสา ตอนนี้พอเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ยืนอยู่ตรงมุมหนึ่ง ก็ให้ความรู้สึกเหมือนหยกงามไร้ตำหนิที่ไม่อาจประเมินค่าได้ขึ้นมา 

 

 

ศีรษะที่เมื่อหลายวันก่อนถูกซื่อมั่วทุบแทบแตกนั้น ยามนี้ฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว 

 

 

ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงแค่เปลือกหุ้ม โป๊ะๆปะๆไปก็พอใช้ได้อยู่ 

 

 

พอซ่งเจียงเสวี่ยปรากฏตัว แฟนคลับของนางก็พากันหึกเหิมขึ้นมา ทั่วทั้ง ‘ตำหนักจ้าน’ มีแต่เสียงผู้คนตะโกนดังระงมไปหมด 

 

 

พวกนักข่าวก็พากันหันกล้องไปทางเธอ 

 

 

ซ่งเสียงเสวี่ยเพียงแต่มองมาทางนี้แวบหนึ่ง แววตาของนางเหลือบไปที่จีเฉวียนชั่ววูบ จากนั้นก็ไปหยุดอยู่ที่ด้านหลังของรถเฌอรี่QQ 

 

 

ทั้งๆที่ไม่มีประตูรถแล้ว แต่กระทั่งนางก็ยังไม่อาจมองเห็นคนในรถได้อย่างชัดเจน 

 

 

เพียงแต่รู้สึกถึงกลิ่นอายที่แสนจะคุ้นเคยเท่านั้น 

 

 

เขา….ถึงกับมาส่งเยี่ยซิงหลันด้วยตนเอง? 

 

 

ถึงกับปล่อยวางสตรีผู้นั้นไม่ได้เลยหรือ! 

 

 

ตู๋กูซิงหลันเองก็หันไปมองพอดี ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ที่ร้านขายเสื้อผ้า …..ต้องนับว่าท่านอาจารย์ได้ช่วยชีวิตของซ่งเจียงเสวี่ยเอาไว้ครั้งหนึ่ง วันนั้นนางมัวแต่เป็นกังวลเรื่องของจีเฉวียน จึงไม่ทันได้สังเกตว่าท่านอาจารย์และซ่งเจียงเสวี่ยที่จริงแล้วมีความสัมพันธ์แบบใดกันแน่ 

 

 

ตัวประหลาดที่อยู่ในร่างกายของนาง….ที่จริงแล้วคืออะไร 

 

 

ท่านอาจารย์…..ที่จริงแล้วมีฐานะเป็นผู้ใดกัน  

 

 

เขาเป็นสหายรักของบิดาคนงาม แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่สามารถแบ่งร่างมาเกิดใหม่ ….แม้แต่เสินฟางที่เป็นถึงหนึ่งในสิบยมราชก็ยังถูกเขาสาปเป็นทาสรับใช้ได้ด้วยซ้ำ 

 

 

ท่านอาจารย์รู้ถึงความสงสัยของนางอย่างชัดเจน 

 

 

แต่พอมองผ่านกระจกหลัง ก็ยังเห็นอาจารย์ทำสีหน้าเย็นชาดุจเดิม ท่าทางยังคงไม่อยากพูดจาใดๆทั้งสิ้น 

 

 

“อาจารย์…ซ่งเจียงเสวี่ยแบกหนี้ชีวิตของผู้คนเอาไว้บนหลัง ข้าสงสัยว่า…..เรื่องที่เกิดขึ้นกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเทียนหยิ่งจะเกี่ยวข้องกับนาง” ตู๋กูซิงหลันกุมพวงมาลัยรถยนตร์เอาไว้ในมือข้างหนึ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

 

 

เพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่เดือน ไม่เพียงแต่ในเมืองหลวงจะเกิดเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตผู้คนขึ้น พื้นที่ต่างๆในโลกปัจจุบันต่างก็มีเรื่องเช่นกัน 

 

 

ทำเอาจิตใจของผู้คนหวาดผวากันไปหมด…. 

 

 

มีคนตายไปมากมาย แต่ว่าจำนวนวิญญาณแค้นหรือผีตายโหงกลับไม่เพิ่มขึ้น 

 

 

ซ่งเจียงเสวี่ยฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในชั่วเวลาสั้นๆ…ไม่เพียงแต่ฟื้นฟู กลิ่นอายของธาตุหยินและโลหิตบนร่างของนางก็ยังเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมด้วย 

 

 

ถึงแม้ว่าจะยืนอยู่ห่างกันขนาดนี้นางก็ยังคงรู้สึก 

 

 

ตู๋กูซิงหลันจึงอดไม่ได้ที่จะโยงเรื่องนี้เข้ากับตัวเธอ 

 

 

เหมือนกับตอนนั้นที่เสินฟางคุ้มคลั่งขึ้นมา เขาก็กลืนกินดวงวิญญาณและภูติผีเข้าไปไม่น้อยเพื่อเพิ่มพูนพละกำลังของตนเอง 

 

 

แถมซ่งเจียงเสวี่ยเดิมทีก็เป็นปีศาจอยู่แล้ว….. 

 

 

เห็นซื่อมั่วไม่พูดอะไร ตู๋กูซิงหลันก็ถามออกไปอีกประโยคหนึ่ง “โลกปัจจุบัน….ก็ไม่ค่อยสงบเหมือนกันหรือเจ้าคะ?” 

 

 

เพราะในตอนนี้ นางชักจะรู้สึกว่านางจากตัวนางและจีเฉวียน คล้ายจะมีบางสิ่งที่ติดตามมาจากโลกอดีตด้วยเช่นกัน 

 

 

เนิ่นนาน ซื่อมั่วถึงได้ตอบขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “ศิษย์เอ๋ย ไม่ว่าจะเมื่อใดก็ตามอาจารย์จะคอยปกป้องเจ้าเอง ไม่ต้องกังวลใจไป” 

 

 

“พอผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง เส้นทางข้ามมิติไปยังโลกโบราณจะเปิดขึ้นมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นอาจารย์ก็จะส่งเจ้ากลับไปยังโลกโบราณ” 

 

 

ประโยคนี้ของซื่อมั่ว ทำให้ตู๋กูซิงหลันเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา 

 

 

“โลกปัจจุบันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?” ท่านปู่ ท่านพ่อ พี่ชายทั้งสองคน และยังมีสหายของนาง ล้วนอยู่ที่โลกโบราณ นางย่อมคิดจะกลับไปอยู่แล้ว 

 

 

แต่ว่าในขณะเดียวกัน นางก็ไม่อยากปล่อยท่านอาจารย์ไว้ในโลกนี้เพียงลำพัง 

 

 

นางรู้ว่าบิดาคนงามมีลูกแก้วที่สามารถส่งคนเดินทางได้โดยเฉพาะ แต่ดูเหมือนว่าท่านอาจารย์จะไม่มี ดังนั้นต้องอาศัยธารน้ำพุเหลืองในการเดินทาง 

 

 

ที่ผ่านมาโลกปัจจุบันปลอดภัยกว่าโลกโบราณมากมายนัก …..ด้วยอุปนิสัยของท่านอาจารย์ ย่อมต้องวางนางไว้ในที่ปลอดภัยที่สุด….นี่ก็เท่ากับว่า โลกปัจจุบันไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว 

 

 

ซื่อมั่วมองออกไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง บนท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆหมอก อากาศในหน้าร้อนกำลังพัดเข้าหากันมีเค้าของพายุจนทำให้อากาศเย็นวูบวาบขึ้น 

 

 

เขาอยู่ในโลกใบนี้มานานหลายปี เหล่าผู้ที่คงอยู่ในหกภพภูมิจะอย่างไรก็ต้องพบเจอเข้าสักวันหนึ่ง 

 

 

“ไม่มีเรื่องอะไร” เขากดเสียงต่ำ ยื่นมือออกไปข้างหนึ่งเหนือศีรษะของนาง แต่แล้วมือข้างนั้นกลับวางลงไปบนเบาะหลังคนขับ พลางย้ำอีกครั้งว่า “ไม่มีอะไร” 

 

 

ต่อให้มีเรื่องใหญ่เทียมฟ้า ก็จะต้องสงบลงก่อนจะมาถึงตรงหน้านาง 

 

 

ขณะเดียวกัน…จีเฉวียนเองก็เหมือนกับว่าสัมผัสได้ถึงอะไรบ้างอย่างเช่นกัน พระองค์เงยพระพักตร์ขึ้นไปบนท้องฟ้า เมฆหนาที่ลอยต่ำทำให้คนรู้สึกอึดอัดขึ้นมา 

 

 

นั่นเป็นความกดดันที่อธิบายไม่ถูก บนหมู่เมฆที่หนาแน่นคล้ายจะมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจับตามองดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ทุกฝีก้าว 

 

 

ในชั่วขณะนั้น พระองค์คล้ายจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนึกคิดในใจของซื่อมั่ว 

 

 

ดวงเนตรหงส์ของจีเฉวียนหรี่ลง ….พระองค์กุมพระทัยเอาไว้และหันไปมองดูซื่อมั่วในทันที 

 

 

……………. 

 

 

 วันเปิดกล้องของเรื่อง《สนมคลั่ง》เต็มไปด้วยดารามากมาย 

 

 

แต่ว่าทางซ่งเจียงเสวี่ยคล้ายจะไม่มีสีสันเท่าไหร่ ความครึกครื้นทั้งหมดจับจ้องมาที่ตู๋กูซิงหลัน 

 

 

ดาวเด่นที่นับตั้งแต่กลับเข้าวงการมา ก็พึ่งจะยอมเผยโฉมในวันนี้ 

 

 

เยี่ยซิงหลันที่แต่งกายในชุดแบบโบราณไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวัง ในรูปภาพที่ถ่ายออกมานางสวมใส่ชุดสีแดงเพลิงทั้งตัว ทั้งดวงตาหางคิ้วล้วนมีความเย็นชาแฝงความสูงส่ง 

 

 

ทำเอาซ่งจียงเสวี่ยที่ร่วมแสดงด้วยดูจืดชืดไปในทันที 

 

 

ในบทประพันธ์ นางร้ายจ้านซิงเฉิน เดิมทีก็เป็นโฉมงามอันดับหนึ่งของแคว้นเทียนเฉินอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อนางเอกกลับชาติมาเกิดใหม่ จึงค่อยๆตกลงไปในหลุมพรางของนางเอกจนต้องพบกับจุดจบ 

 

 

ในยุคที่ผู้คนนิยมดูแต่รูปโฉมภายนอก แน่นอนว่าใบหน้าระดับนี้ย่อมเหนือล้ำกว่าทุกคนที่อยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างสบาย 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้คน …..เทพธิดาผู้นี้ยังประกาศออกมาอย่างกระทันหันว่านางมีแฟนแล้ว 

 

 

แต่น่าเสียดาย…..ที่แฟนคนนี้…..ดูเหมือนว่าจะเป็นคนปัญญาอ่อน 

 

 

เนื่องเพราะพอได้ฟังประโยคเดียวที่เขากล่าวออกมาว่า ‘เราคือฮ่องเต้’ ผู้คนต่างก็คิดไปว่าผู้ชายที่หน้าตาดีสุดๆคนนี้ คงจะเป็นพวกแฟนคลับที่ชมชอบตู๋กูซิงหลันจนคุ้มคลั่ง 

 

 

แต่ว่าในขณะที่ผู้คนต่างก็คิดไปว่าจีเฉวียนเป็นคนปัญญาอ่อนนั้น 

 

 

ตู๋กูซิงหลันกลับลุกขึ้นมาให้สัมภาษณ์ 

 

 

สื่อต่างๆพากันลงคลิปเสียงที่ว่า : ขออนุญาตแนะนำให้ทุกคนรู้จักนะคะ คนนี้คือแฟนของฉัน เสี่ยวเฉวียนเฉวียน 

 

 

ภาพประกอบก็เป็นรูปที่จีเฉวียนนั่งกินแอปเปิ้ลอยู่บนโซฟา 

 

 

และยังมีรูปที่ทั้งสองใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวถ่ายคู่กันพร้อมกับฉากหลังสีแดงสด ดูไปแล้วก็เหมือนภาพพรีเวดดิ้งอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

เพียงไม่นานข่าวนี้ก็ทำเอาระบบอินเตอร์เน็ตล่มแล้ว 

 

 

กระแสข่าวรุนแรงจนถล่มทลาย! 

 

 

เพียงช่วงเวลาสั้นๆ คนที่ใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหมดต่างก็พากันค้นหาว่า ‘เสี่ยวเฉวียนเฉวียน’ ผู้นี้คือใครกันแน่ ถึงขนาดที่ว่าขุดหาบรรพชนออกมาเลยทีเดียว 

 

 

ด้วยการผนึกกำลังที่แข็งแกร่งของมิตรรักแฟนคลับในอินเตอร์เน็ต ……แต่ละคนต่างก็แปลงร่างเป็นโคนัน ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบอะไรบางอย่าง! 

 

 

……………………….