บทที่ 1811 ดาบรุ่งอรุณ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1811 ดาบรุ่งอรุณ

แปลโดย iPAT

 

สายธารแห่งกาลเวลา

 

ไม่นานหลังจากฟางหยวนเข้ามา กู้หลิวรู่ก็ออกมาสกัดกั้นเขา

 

“เจ้าคือฟางหยวนงั้นหรือ? ข้าคือกู้หลิวรู่ของวังสวรรค์ ข้ามาที่นี่เพื่อเอาชีวิตของเจ้า” กู้หลิวรู่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยใบหน้าซีดขาวแต่สายตาเย็นชา

 

ทันทีที่เขากล่าวจบ ดวงแสงสีเทาขาวก็พุ่งเข้าหาฟางหยวนราวกับอุกกาบาต

 

“บึม บึม บึม!”

 

ดวงแสงสีเทาขาวถูกปิดกั้นโดยเรือรบหมื่นปีอย่างสมบูรณ์

 

แต่เรือรบหมื่นปียังเกิดการสั่นสะเทือนจากแรงระเบิด

 

“คนผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่!”

 

“ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขาถูกขยายพลังอํานาจโดยสายธารแห่งกาลเวลา”

 

“รากฐานของวังสวรรค์ไม่สามารถหยั่งถึงจริงๆ เพียงไม่นานผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาคนใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง”

 

ผู้อมตะที่อยู่ในเรือรบหมื่นปีตกตะลึง

 

“ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถเอาชีวิตของข้า” ฟางหยวนเย้ยหยัน

 

แรกเริ่มเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่ไม่นานเขาก็จําคนผู้นี้ได้

 

ในชีวิตก่อนหน้า เมื่อถ้ําสวรรค์นิรันดรบุกวังสวรรค์ ชิงช่ายฉวนส่งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การต่อสู้ในวังสวรรค์ทั้งหมดให้ฟางหยวนเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากฝายหลัง

 

กู้หลิวรู่ตื่นขึ้นและเข้าร่วมในสงครามครั้งนั้น

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงสามารถจดจํากู้หลิวรู่และวิธีการทั้งหมดของเขาได้อย่างรวดเร็ว

 

การต่อสู้ระหว่างฟางหยวนกับกู้หลิวรู่ทําให้สายธารแห่งกาลเวลาเกิดความโกลาหล

 

ทุกการเคลื่อนไหวของกู้หลิวรุ่งดงามและซับซ้อน ในความเป็นจริงกู้หลิวคู่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นหลักและยังบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาเป็นเส้นทางสายรอง

 

ฟางหยวนรู้สึกเหมือนกําลังเล่นหมากรุกอยู่กับคู่ต่อสู้ที่ชาญฉลาด หากเขาประมาทเพียงเล็กน้อย เขาอาจตกลงสู่หลุมพรางของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย

 

โชคดีที่ฟางหยวนเข้าใจรูปแบบการต่อสู้ของกู้หลิวรู่ ดังนั้นเรือรบหมื่นปีจึงสามารถอาละวาด และทําลายแผนการของชายชรา

 

การต่อสู้อันยาวนานไม่ปรากฏผลแพ้ชนะแต่กู้หลิวรู่เลือกที่จะล่าถอย

 

“เจ้าไม่ได้มาเอาชีวิตของข้างั้นหรือ?” ฟางหยวนตะโกนเย้ยหยันขณะนําเรือรบหมื่นปีไล่ล่า

 

กู้หลิวรุ่ตอบโต้ “ข้าไม่รีบ แล้วเจ้าจะรีบเพื่อสิ่งใด? ฟางหยวน เจ้าเป็นปีศาจที่ทําให้โลกเกิดความวุ่นวาย เจ้ามีทักษะบางอย่าง เมื่อข้ากลับมา ข้าจะถอดรหัสเรือลําจิ๋วของเจ้าและปลิดชีวิตของเจ้า!”

 

แม้ร่างกายครึ่งล่างของเขาจะเป็นอัมพาต แต่เก้าอี้รถเข็นที่เขานั่งเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะขนาดกะทัดรัดหลังหนึ่ง

 

สองล้อของมันหมุนอย่างรวดเร็วบนผิวน้ําและนํากู้หลิวรู่เคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูง

 

“ท่านฟางหยวน เราควรใช้ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนกระแสน้ําหรือไม่?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เสนอ

 

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่สามารถเปลี่ยนกระแสน้ําที่อยู่รอบๆและเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของเรือรบหมื่นปี

 

“ไม่รีบ ไม่รีบ” ฟางหยวนปฏิเสธและแนะนํา “ใช้ดาบรุ่งอรุณ”

 

หลังจากนั้นแสงสีเงินก็ปะทุขึ้นบนเรือรบหมื่นปีก่อนที่มันจะควบรวมเป็นดาบแสงสีเงิน จํานวนมหาศาล

 

“อันใด!?” กู้หลิวตกใจเมื่อค้นพบสิ่งนี้

 

เขาเร่งอนุมาน นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเปิดเผยท่าไม้ตายนี้ ช่างมหัศจรรย์นัก! มันใช้ประโยชน์จากสายธารแห่งกาลเวลาโดยเปลี่ยนร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาให้เป็นดาบอันแหลมคม หากข้าถูกโจมตี ข้าจะไม่สามารถจากไปโดยไร้อาการบาดเจ็บ!?

 

จิตใจของกู้หลิวู่ฮั่นไหวเล็กน้อย

 

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด ขณะเดียวกันฟางหยวนยังยกระดับมันด้วยสายธารแห่งกาลเวลาและทําให้พลังอํานาจของมันเหนือกว่าท่าไม้ตายอมตะระดับแปดทั่วไป

 

“พรสวรรค์ของปีศาจตนนี้ช่างน่ากลัวนัก ไม่เพียงเขาจะสามารถใช้งานแม่น้ําหวนคืน เขายังริเริ่มใช้ประโยชน์จากสายธารแห่งกาลเวลา” เจตนาสังหารของกู้หลิวรู่พุ่งสูงขึ้น “ข้าจะปล่อยให้ปีศาจตนนี้มีชีวิตอยู่ไม่ได้! ข้าต้องใช้กําลังทั้งหมดเพื่อกําจัดเขา มิฉะนั้นเขาจะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อวังสวรรค์ในอนาคต!”

 

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…”

 

ดาบแสงสีเงินพุ่งเข้าไปหากู้หลิวรู่

 

ในไม่ช้ากู้หลิวรู่ก็ได้รับบาดเจ็บ ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันของเขาไม่สามารถต่อต้านดาบแสง

 

“ฆ่ามัน!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์บางคนคําราม ขวัญกําลังใจของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น

 

หลังจากสังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ในครั้งก่อน ความมั่นใจของพวกเขาเพิ่มขึ้นมาก ตอนนี้พวกเขายังต้องการกําจัดกู้หลิวรู่อีกคน

 

ด้วยการบ่มเพาะระดับเจ็ดแต่สามารถไล่ล่าผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ นี่เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่สามารถกระตุ้นจิตใจของพวกเขา

 

ฟางหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่ “ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการปลิดชีวิตของข้างั้นหรือ? แต่ตอนนี้ดูเหมือนชีวิตวัยชราของเจ้ากําลังตกอยู่ในอันตราย”

 

กู้หลิวรู่กันเสียงเย็นแต่ไม่ตอบ เขาให้ความสําคัญกับการหลบหนีเท่านั้น

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน “เจ้าทําตัวราวกับสุนัขจรจัด เจ้านําความอัปยศมาสู่วังสวรรค์!”

 

ดาบแสงพุ่งเข้าตัดเสื้อคลุมและเนื้อของกู้หลิว

 

กู้หลิวรู่เงียบ

 

ฟางหยวนเย้ยหยันต่อไป “ดูเหมือนวังสวรรค์จะมีเพียงขยะเช่นเจ้า แท้จริงแล้วกองกําลังอันดับหนึ่งของโลกก็ไม่ได้มากมายอันใด”

 

กู้หลิวรู่รู้สึกอับอายและไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป “หุบปาก! ปีศาจตัวเล็กตัวน้อยเช่นเจ้าจะเข้าใจความยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์ได้อย่างไร?”

 

“ฉัวะ!”

 

ก่อนที่เขาจะกล่าวจบ ดาบแสงเล่มหนึ่งก็พุ่งผ่านศีรษะของเขาและตัดเส้นผมรวมถึงชั้นผิวหนังของเขาออกไป เลือกทะลักไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

กู้หลิวรู่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาระเบิดความเร็วของรถเข็นออกมาทันที

 

“ล่า!”

 

“เขาทนได้อีกไม่นาน!”

 

“ถูกต้อง วิญญาณอมตะของเขาถูกทําลายโดยดาบรุ่งอรุณแล้ว รถเข็นของเขากําลังจะพังทลาย”

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนตะโกนขณะที่ขวัญกําลังใจพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด

 

รถเข็นของกู้หลิวรู่พังทลายลงอย่างต่อเนื่อง แต่ฟางหยวนกลับเผยรอยยิ้มเฉยเมยและออกคําสั่ง “หยุด!”

 

“อา…” กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ประหลาดใจแต่พวกเขาไม่กล้าไม่เชื่อฟัง

 

เรือรบหมื่นปีหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน

 

กู้หลิวรู่ที่กําลังวิ่งหนีเห็นฉากนี้และรู้สึกจุกแน่นอยู่ในอกแต่ไม่สามารถระบายมันออกมา

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มและแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างสบายๆ “เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะที่ดี ข้าสงสัยว่าผู้อมตะของวังสวรรค์คนใดกําลังรอข้าอยู่?”

 

“เจ้ากําลังกล่าวถึงข้า หลี่ฮวง!” เสียงของหลี่ฮวงดังขึ้นขณะที่ค่ายกลวิญญาณอมตะเผยตัวมันเองออกมา

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนรู้สึกมึนงงอยู่ชั่วครู่ก่อนจะสามารถตอบสนอง “นี่คือกับดัก!”

 

“เจ้าแก่นั่นแสดงละครได้ดี!”

 

“เราเกือบตกลงสู่หลุมพราง หากไม่ใช่เพราะความเฉลียวฉลาดของท่านฟางหยวน เราอาจต กอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย!”

 

กู้หลิวรูค่อยๆบินกลับมาด้วยใบหน้ามืดมน

 

เขาแสดงละครฉากใหญ่ เขาจงใจรับการโจมตีและได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทุกอย่างกลับไร้ประโยชน์ต่อหน้าฟางหยวน

 

หลี่ฮวงกล่าวเสียงทุ่ม “ดูเหมือนเจ้าจะคุ้นเคยกับค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินเป็นอย่าง

 

ฟางหยวนยอมรับ “แท้จริงแล้วข้าเคยทุกข์ทรมานเพราะมันในชีวิตก่อนหน้า”

 

“หากเจ้ารู้จักมัน ชีวิตของเจ้าก็จะจบลงที่นี่” กู้หลิวรู่หัวเราะเย้ยหยัน

 

หลังจากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังก็ปรากฏขึ้นจากด้านซ้ายและด้านขวาของฟางหยวน

 

หนึ่งคือรังกระเรียนใบไม้ร่วง อีกหนึ่งคือฉลามล่องคลื่น

 

ฟางหยวนทําลายวิหารอดีตปัจจุบันและนาวานิรันดร์ไปแล้วแต่วังสวรรค์ยังสามารถสร้างใหม่

 

โครงการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะรังกระเรียนใบไม้ร่วงและฉลามล่องคลื่นเริ่มขึ้นเมื่อนานมาแล้ว พวกมันพึ่งเสร็จสมบูรณ์ไม่นานมานี้และถูกส่งออกมาในครั้งนี้

 

รังกระเรียนใบไม้ร่วงกับกู้หลิวรุ่ปิดกั้นเรือรบหมื่นปีเอาไว้ขณะที่ฉลามล่องคลื่นรับหลี่ฮวงเข้าไปภายใน

 

การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้นและทําให้สายธารแห่งกาลเวลาเกิดความปั่นป่วน

 

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ช่างแข็งแกร่งนัก!” หลี่ฮวงและกู้หลิวตกตะลึง

 

เรือรบหมื่นปีมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง มันสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนหัวเราะ “กู้หลิวรู่ ข้าเคยเห็นท่าไม้ตายของเจ้ามาแล้ว”

 

หลังกล่าวจบคํา เรือรบหมื่นปีก็พุ่งเข้าโจมตีจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม

 

“ไม่ดีแล้ว!” การแสดงออกของกู้หลิวรู่เปลี่ยนไป ท่าไม้ตายอมตะที่ถูกหยุดอย่างกะทันหัน ทําให้เขาได้รับผลกระทบย้อนกลับและกระอักเลือดคําโตออกมา

 

“หยุดเขา!” ฉลามล่องคลื่นและรังกระเรียนใบไม้ร่วงใช้ท่าไม้ตายอมตะของพวกมัน

 

“ พุ่งไปข้างหน้า” ฟางหยวนออกคําสั่ง

 

เรือรบหมื่นปีพุ่งออกจากสนามรบอย่างไร้เหตุผล

 

“อย่าไล่ล่า!? กู้หลิวรูรีบหยุดหลี่ฮวงที่ต้องการไล่ล่า เขากล่าวด้วยใบหน้ามืดครื้ม “คฤหาสน์ วิญญาณอมตะหลังนี้สมกับเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด เราไม่สามารถหยุดมัน”

 

“บัดซบ!” หลี่ฮวงกําหมัดแน่น เขารู้สึกอึดอัดใจ เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไฟและสามารถต่อสู้อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลาด้วยการพึ่งพาฉลามล่องคลื่นเท่านั้น

 

หากฟางหยวนตกลงสู่กับดัก เขาจะสามารถแสดงพลังอํานาจที่แท้จริงของตนออกมา แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสนั้นกับเขา

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้หลี่ฮวงรู้สึกหดหูยิ่งกว่ายังมาไม่ถึง

 

ฟางหยวนเห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ไล่ล่า ดังนั้นเขาจึงนําเรือรบหมื่นปีย้อนกลับมาและเผย รอยยิ้ม “สหายเรือรบหมื่นปีของข้ายังมีท่าไม้ตายอมตะที่เรียกว่าล่าหมื่นปี โปรดประเมิน

 

ฝายของวังสวรรค์ระวังตัวมาก พวกเขาได้กลิ่นแปลกๆก่อนที่เสียงคํารามของสัตว์ร้ายจํานวนนับไม่ถ้วนจะดังขึ้นจากทุกทิศทางและดูเหมือนพวกมันกําลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

 

“พวกมันคือ…อสูรปี อสูรปีบรรพกาลและยังมีอสูรปีแรกกําเนิด!”

 

“อสูรบีมากมายนัก พวกมันรวมตัวกันราวกับคลื่นสัตว์อสูร!”

 

หัวใจของหลี่ฮวงและกู้หลิวรู่สั่นสะท้านขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้

 

ปรากฏว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดของฟางหยวนไม่ได้มีดีเพียงการพุ่งชนแต่มันยังมีท่าไม้ตายอมตะที่น่าสะพรึงนี้อยู่ด้วย