ตอนที่ 2,006 : ศาสตราหมื่นอาคมเซียน!
สุดท้ายแล้ววันนี้ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดการประลองเป็นตายในวิหารเป็นตายแห่งนี้ก็คือต้วนหลิงเทียน เพราะไม่เพียงแต่จะฆ่าหยางเหวินได้สำเร็จ ยังได้รับคะแนนสะสมติดมือกลับไปถึง 1,000,000 คะแนน!
ภายใต้สายตาจับจ้องมองมาของเหล่าศิษย์ชั้นยอด ต้วนหลิงเทียนก็เดินไปหาศพหยางเหวินอีกครั้ง ก่อนที่จะริบแหวนพื้นที่ของอีกฝ่าย เมื่อสำรวจแล้วว่าไร้ของมีค่าอื่นใดอีก เขาก็เดินออกจากวิหารเป็นตายไปพร้อมกับพี่น้องสกุลหลิวอย่างอารมณ์ดี
เมื่อต้วนหลิงเทียนจากไปแล้ว เหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายก็เริ่มทยอยกันแยกย้ายจากไปเช่นกัน
เพียงแค่สีหน้าของพวกมันยามกลับออกไปกลับไม่ค่อยจะสู้ดีเท่านั้น
ยังจะให้ดีได้เหรอ?
ศิษย์ชั้นยอดเหล่านี้ล้วนลงเดิมพันข้างหยางเหวินหมดทั้งสิ้น บางคนก็ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว น่าเสียดายที่สุดท้ายต้วนหลิงเทียนกลับเป็นฝ่ายมีชัย ฆ่าหยางเหวินที่พวกมันลงเดิมพันตายคาที่…
“ศิษย์พี่หลิวอวิ๋น ว่าแต่ข้าจะใช้คะแนนสะสมพวกนี้แลกเปลี่ยนของได้ที่ไหนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือแล้วมันมีอะไรให้ข้าแลกเปลี่ยนได้บ้าง?”
หลังออกมาจากวิหารเป็นตาย ต้วนหลิงเทียนที่หันซ้ายหันขวาพักหนึ่ง ค่อยหันไปมองถามหลิวอวิ๋น
“มีหลายอย่างนักที่สามารถใช้คะแนนสะสมแลกได้…มาเถอะข้าจะพาเจ้าไปเดินสำรวจแต่ละวังของจัตุรัสกลาง ให้เจ้าดูว่าสามารถใช้คะแนนสะสมแลกอะไรได้บ้าง”
หลังตระหนักแล้วว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนไม่ได้ด้อยไปกว่ามัน ทัศนคติของหลิวอวิ๋นที่มีต่อต้วนหลิงเทียนย่อมเปลี่ยนไปมาก พอได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียนมันก็เสนอตัวช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
“รบกวนศิษย์พี่หลิวอวิ๋นแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าตอบรับอย่างไม่เกรงใจ นั่นเพราะเขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าในจัตุรัสกลางมีอะไรบ้าง และแต่ละวังมันต่างกันอย่างไร
หลังจากนั้นภายใต้การนำของหลิวอวิ๋น ต้วนหลิงเทียนกับหลิวมู่ก็เหินร่างไปยังจัตุรัสกลางทันที
ที่แรกที่เขาไปก็คือวังโอสถ หลิวอวิ๋นยังบอกเขาด้วยว่าที่นี่รับเพียงคะแนนสะสมเท่านั้น ไม่รับหินเซียน
และในวังโอสถแห่งนี้ก็มีโอสถมากมาย น้ำอมฤตที่ต้วนหลิงเทียนไม่เคยพบเจอ และไม่ใช่แค่โอสถที่ส่งเสริมการบ่มเพาะเท่านั้น กระทั่งโอสถต้องห้ามวังโอสถก็มีให้ซื้อหาจับจ่าย
แน่นอนว่าคะแนนสะสมที่ต้องจ่ายไปสำหรับแลกเปลี่ยนโอสถต้องห้ามก็ค่อนข้างสูงไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอสถต้องห้ามที่ใช้กันในขอบเขตเซียนสวรรค์ แต่ละเม็ดก็มีราคาหลักแสนคะแนนสะสม!
“โอสถส่วนนี้ล้วนเป็นโอสถต้องห้ามระดับเดียวกันกับที่หยางเหวินมันเอาออกมาใช้ สามารถเพิ่มพูนพลังเซียนต้นกำเนิดของผู้ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนได้ชั่วขณะ…และผู้ที่จะหลอมสร้างปรุงได้ก็มีแต่ปรมาจารย์เซียนหลอมโอสถระดับเทียมสวรรค์หรือเหนือกว่านั้น…”
หลิวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆกล่าวอธิบายให้ต้วนหลิงเทียนฟัง
“ใช้คะแนนสะสมหลักแสนเชียว!”
ต้วนหลิงเทียนพอได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย อดไม่ได้ที่จะกล่าวพึมพำออกมา “ดูเหมือนว่าหยางชงอาวุโส 5วังอุดรไพศาลจะตั้งความหวังไว้กับลูกชายคนโตของมันอย่างหยางเหวินไม่น้อย”
“เป็นเช่นนั้น”
หลิวอวิ๋นกล่าวยืนยันออกมาด้วยความมั่นใจ เห็นชัดว่ามันรู้เรื่องนี้ดี “แต่ก่อนข้าเพียงรู้ว่าหยางชงอาวุโส 5 วังอุดรไพศาลคนนั้นมีลูกชาย 2 คน และคนโตมีพรสวรรค์เหนือกว่าคนเล็กมาก มันจึงตั้งความหวังไว้กับลูกชายคนโตอย่างสูง…ว่ากันว่ามันส่งลูกชายคนโตไปเข้าร่วม 1 ใน 3 ลัทธิ เพื่อบ่มเพาะเคี่ยวกรำตัวเอง…”
“จนมาวันนี้นี่ล่ะ ข้าถึงได้รู้ว่าที่แท้ลูกชายคนโตของมันที่แท้กลับเข้าร่วมกับลัทธิบูชาไฟเรา…ยังเป็นศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟเราคนหนึ่ง หยางเหวิน!”
หลิวอวิ๋นกล่าวอธิบายออกมาอย่างต่อเนื่อง “ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มันจะพยายามหาโอสถต้องห้ามให้หยางเหวินติดตัวไว้ใช้รักษาชีวิต…ศิษย์น้องหลิงเทียน ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเองก็ฆ่า หยางหวู่ ลูกชายคนเล็กของหยางชงมาด้วยนี่…เพราะเหตุนี้ยังทำให้หยางชงมันถึงกับตามมาขู่เจ้าถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬ…”
ตอนนี้หลิวมู่ที่อยู่ข้างๆก็มองถามต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยสงสัย “เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่?”
เพราะทั้งหมดก็เป็นเพียงข่าวลือ มันเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
“ใช่!” ลูกตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเยียบเย็น “กล่าวไปวันนี้ที่ข้าคิดฆ่าหยางเหวิน ไม่ใช่แค่มันมาหาเรื่องข้าก่อนเท่านั้น…แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะหยางชงมันกล้าเอาครอบครัวข้ามาขู่วันนั้น!”
“ไม่ใช่มันอยากทำร้ายครอบครัวข้านักเหรอ ถ้างั้นข้าก็จะฆ่าลูกชายมัน!”
กล่าวถึงท้ายประโยค ต้วนหลิงเทียนยังอดนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในวันนั้นที่หยางชงยกครอบครัวเขามาข่มขู พาลให้ทั่วร่างเผยจิตสังหารอันเยียบเย็นออก อุณหภูมิโดยรอบคล้ายจะลดต่ำลงในชั่วพริบตา
“ฆ่าได้ดี! แต่จนแล้วจนรอดหยางเหวินนั่นมันคงไม่คิดไม่ฝัน ว่าศิษย์น้องหลิงเทียนเจ้าจะสามารถฆ่ามันได้!”
หลิวมู่กล่าวออกมาอย่างสะใจ
“ถ้ามันรู้ว่าข้ามีสามารถฆ่ามันได้ มันจะบ้าจี้ลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับข้าหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาเบาๆ
อาจกล่าวได้ว่าเหตุผลหลักที่ทำให้เขามีโอกาสฆ่าหยางเหวินได้วันนี้ ล้วนเป็นเพราะมันถือดีเกินไป ยังดูเบาเขาเกินไป คิดว่าเขาไม่นับเป็นตัวอะไรในสายตา
ต้วนหลิงเทียนคร้านจะกล่าวถึงเรื่องนี้สืบต่อ จึงเลือกจะหันไปมองบอกหลิวอวิ๋น “ศิษย์พี่หลิวอวิ๋น พวกเราไปดูวังอื่นๆกันเถอะ”
หลังออกจากวังโอสถแล้ว หลิวอวิ๋นก็พาต้วนหลิงเทียนกับหลิวมู่ไปยังวังศาสตราเซียน
เมื่อมาถึงวังศาสตราเซียน ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบเรื่องราวหลายอย่าง
อาธิเช่นศาสตราเซียนร้อยอาคมนั้น เฉลี่ยแล้ววังศาสตราเซียนของลัทธิบูชาไฟจะขายกันอยู่หลายแสนคะแนนสะสม! กระทั่งหากคิดสั่งตัดศาสตราเซียนตามความต้องการของตัว ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเหยียบล้านคะแนนสะสม!
ยิ่งไปกว่านั้นต้วนหลิงเทียนยังรับทราบว่าหากอยากได้ศาสตราพันอาคมเซียน เขาก็สามารถซื้อได้ที่นี่เช่นกัน!
แต่เป็นธรรมดาที่ศาสตราพันอาคมเซียนจะไม่นำมาตั้งแสดงไว้ที่นี่ ทว่าเป็นรองจ้าวลัทธิที่มีหน้าที่ควบคุมทุกวังในจัตุรัสกลางเป็นผู้เก็บไว้กับตัว
ตราบใดที่มีคะแนนสะสมถึง ก็สามารถไปหารองจ้าวลัทธิเพื่อซื้อหากับรองจาวลัทธิกับมือได้โดยตรง
“ศาสตราพันอาคมเซียนมันมีราคาเท่าไรเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามด้วยความสงสัย
“10,000,000 คะแนนสะสม!”
และคำตอบนี้ของหลิวอวิ๋น ก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง!
เขายังคิดอยู่ว่าอาศัยคะแนนสะสมนับล้านที่มีอยู่ก็เรียกว่าร่ำรวยมากแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าคะแนนสะสมที่เขามีก็เป็นเพียง 1 ใน 10 ของราคาศาสตราพันอาคมเซียนเล่มเดียวเท่านั้น!!
“ศาสตราพันอาคมเซียนแต่ละชิ้นล้วนเป็นผลงานของปรมาจารย์จารึกเซียนระดับเทียมสวรรค์ที่มีฝีมือระดับแนวหน้าของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าทั้งสิ้น”
“นอกจากนั้นเจ้าต้องทราบด้วยว่าปรมาจารย์จารึกเซียนระดับเทียมสวรรค์มีจำนวนน้อยนิดยิ่ง ยังน้อยกว่าปรมาจารย์เซียนหลอมโอสถเป็นเท่าตัว! ทำให้ศาสตราพันอาคมเซียนแต่ละเล่มล้วนแพงเสียดฟ้า กระทั่งบางครั้งมีเงินก็มิอาจซื้อได้…”
ได้ยินคำอธิบายของหลิวอวิ๋น ต้วนหลิงเทียนก็ทราบได้ไม่ยาก
‘จะว่าไปพอพูดถึงปรมาจารย์จารึกเซียนระดับเทียมสววรรค์…อดนึกถึงเรื่องเคล็ดจารึกพิสดารที่เคยได้รับมาก่อนหน้านี้ไม่ได้จริงๆ บางทีหากมีเวลาและไม่ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะพลัง ข้าคงต้องลองศึกษามันดูบ้าง’
ครั้งที่ต้วนหลิงเทียนยังอยู่ในสำนักจันทร์จรัสแสงนั้น ต้วนหลิงเทียนเคยได้รับแผ่นหยกบันทึกเคล็ดจารึกพิสดารมาจากศิษย์พี่เขาอย่างป๋ายลี่หง
ในตอนนั้นเขาก็ใช้เคล็ดจารึกพิสดารได้ไม่เลวเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาระหกระเหินออกจากสำนักจันทร์จรัสแสงมาแล้ว เขาต้องรีบเร่งบ่มเพาะฝึกฝนพลังอย่างหนัก ทำให้เขาค่อยๆลืมเลือนเคล็ดจารึกพิสดารนั้นไป
จนกระทั่งได้รับทราบถึงราคาศาสตราพันอาคมเซียน รวมถึงความหายากของปรมาจารย์จารึกเซียนระดับเทียมสวรรค์ ทำให้เขานึกถึงเคล็ดจารึกพิสดารขึ้นมา
นอกจากนั้นเขายังเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนคนหนึ่ง!
“ปากกาจารึก?”
เดินดูของในวังศาสตราเซียนได้สักพัก ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าที่นี่มีปากกาจารึกขายด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นยังมีปากกาจารึกระดับ 9 ดาวมากกว่า 1 ด้าม!
เมื่อมองดูให้ดีก็พบว่ามีเป็นโหลๆเลยทีเดียว!
‘มากมายขนาดนี้เลย…’
ต้วนหลิงเทียนอดทึ่งไปไม่ได้
เขาจำได้ว่าตอนที่อยู่สำนักจันทร์จรัสแสง ศิษย์พี่เขาป๋ายลี่หงก็พยายามคะยั้นคะยอให้เขารับปากกาจารึกระดับ 9 ดาวอันเป็นมรดกตกทอดเอาไว้ แต่เขาไม่อยากแย่งของรักศิษย์พี่เลยกล่าวปฏิเสธพร้อมเสนอเงื่อนไขออกไป
ในสถานที่เล็กๆแบบนั้น ปากกาจารึกระดับ 9 ดาวย่อมเป็นสิ่งของที่หายากนัก! เป็นสิ่งล้ำค่าที่แสวงหามิพบพานด้วยซ้ำ!!
ทว่าตอนนี้เมื่อได้เห็นสิ่งของหายากในอดีตวางเรียงรายอยู่เบื้องหน้าเต็มไปหมด พร้อมคำอธิบายของหลิวอวิ๋นก็ทำให้เขาได้รู้ว่า…
ปากกาจารึกระดับ 9 ดาวนั้น ไม่นับเป็นของหายากอะไรในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบนแห่งนี้ กระทั่งมันแทบจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 7 ดาวขึ้นไปด้วยซ้ำ ราคาเองก็ไม่ได้สูงมากมายอะไร
อย่างปากกาจารึกเซียนในวังศาสตราเซียนของลัทธิบูชาไฟแห่งนี้ แท่งที่แลดูดีและมีราคาแพงที่สุดก็มีราคาแค่ 1,000 คะแนนสะสมเท่านั้น…
ครู่หนึ่งต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน…
เมื่อเห็นว่าอยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็ซื้อปากกาจารึกระดับ 9 ดาวเอาดื้อๆ หลิวอวิ๋นกับหลิวมู่ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ และเป็นหลิวมู่ที่กล่าวถามออกไปตรงๆ “ศิษย์น้องหลิงเทียน เจ้าซื้อปากกาจารึกระดับ 9ดาวไปทำอะไรกัน? หรือเจ้าเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนด้วย?!”
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยร่ำเรียนศาสตร์การจารึกสลักอาคมเซียนมาบ้าง และกล่าวไปข้าก็เป็นปรมาจารย์จารึกเซียนคนหนึ่งจริงๆ…หากวันหน้ามีเวลาว่างข้าว่าจะลองศึกษาร่ำเรียนมันเพิ่มเติมดู เพราะอาชีพนี้ท่าทางจะร่ำรวยไม่น้อย”
กล่าวจบต้วนหลิงเทียนก็หัวเราะเบาๆ
“อา นับเป็นเรื่องดีไม่น้อยจริงๆ หากเจ้ามีเวลาศึกษามัน”
หลิวมู่พยักหน้ารับ ลึกลงไปในแววตาเผยความสะทกสะท้อนไม่น้อย
มันยังจำได้ว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงรากวิญญาณสีเหลืองเท่านั้น
หากพรสวรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนไม่ใช่สีเหลือง มันก็คิดจะบอกให้ต้วนหลิงเทียนมุ่งมั่นในวิถียุทธ์ต่อไปจะดีกว่า อย่าได้ไปเสียเวลาอะไรกับเรื่องพวกนี้
ทว่าตอนนี้มันไม่อาจพูด
เพราะในสายตาของมัน
ความสำเร็จในวิถียุทธ์ของต้วนหลิงเทียน สมควรมาสุดทางแต่เพียงเท่านี้แล้ว
ถึงแม้ศิษย์น้องหลิงเทียนคนนี้จะมีพลังฝีมือสูงส่งและร้ายกาจนัก แต่ด้วยพรสวรรค์รากวิญญาณที่เป็นสีเหลือง เกรงว่ากระทั่งขอบเขตเซียนนภาคงยากจะบ่มเพาะฝึกปรือจนบรรลุได้…นับประสาอะไรกับขอบเขตเซียนสวรรค์!
เช่นนั้นมันคิดว่าการที่ศิษย์น้องหลิงเทียนมีฝีมือย่อยอย่างอื่น และเลือกที่จะเพาะสร้างให้แข็งแกร่ง จะเป็นประโยชน์ในภายหลัง อย่างน้อยๆก็จะได้ไม่อยู่ว่างให้ทุกข์ใจ
“เหนือปรมาจารย์เซียนจารึกระดับ 9 ดาวยังมีปรมาจารย์จารึกเซียนระดับเทียมสวรรค์…ศิษย์พี่หลิวอวิ๋น แล้วในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเรามีปากกาจารึกระดับเทียมสวรรค์หรือไม่?”
คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองถามหลิวอวิ๋นทันที เพราะเขาไม่เห็นว่าจะมีปากกาจารึกระดับเทียมสวรรค์ขายที่นี่เลยสักด้าม
“ย่อมมี!”
หลิวอวิ๋นพอได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้ารับทันใด “ในฐานะปรมาจารย์จารึกเซียนระดับเทียมสวรรค์ หากคิดจะจารึกอาคมลงศาสตาเซียนให้ได้พันอาคม หากไม่ใช้ปากกาจารึกระดับเทียมสวรรค์ เกรงว่าคงยากจะสลักอาคมเซียนนับพันลงไปได้…”
ต้วนหลิงเทียนได้ฟังก็ถามสืบต่อทันที “แล้วปากกาจารึกระดับสวรรค์ล่ะ?”
ปากกาจารึกระดับสวรรค์!
ได้ยินคำถามนี้ของต้วนหลิงเทียน หลิวอวิ๋นก็เผยสายตามุ่งมาดปรารถนาออกมาทันที “ปากกาจารึกระดับเทียมสวรรค์นั้น ตอนนี้เป็นอะไรที่มีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น! ลือกันว่าก่อนที่ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจะถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน เคยมีปากกาจารึกระดับสวรรค์อยู่ด้ามหนึ่ง และมันก็อยู่ในมือปรมาจารย์จารึกเซียนระดับสวรรค์!”
“เมื่อปรมาจารย์จารึกเซียนท่านนั้นบรรลุขอบเขตสลักจารึกอาคมเซียนถึงระดับสวรรค์ ท่านก็ได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อสร้างศาสตราหมื่นอาคมเซียนออกมา และชั่วชีวิตท่านก็สร้างศาสตราหมื่นอาคมเซียนได้แค่ 10 ชิ้นเท่านั้น!”
กล่าวถึงตรงนี้สีหน้าหลิวอวิ๋นก็เผยความนับถือเลื่อมไส
ศาสตราหมื่นอาคมเซียน!
ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลงทันใด ด้วยไม่คิดไม่ฝันเลยว่าโลกนี้จะมีศาสตราหมื่นอาคมเซียนดำรงอยู่ด้วย!
“ศาสตราหมื่นอาคมเซียนทั้ง 10 นั้น ยังเป็น 10 ยอดศาสตราเซียนที่ติด 10 อันดับแรกในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย!”
“นอกจากนั้นศาสตราหมื่นอาคมเซียนยังค่อนข้างพิเศษนัก มันไม่เหมือนศาสตราร้อยหรือพันอาคมเซียน!”
“เพราะศาสตราเซียนหมื่นอาคมเซียนทั้ง 10 ไม่ได้เพิ่มพูนพลังสามารถให้แก่ผู้ใช้เพียงอย่างเดียวเหมือนกับศาสตราร้อยหรือพันอาคมเซียน…กระทั่งบางชิ้นยังเพิ่มพลังต่อสู้ให้ผู้ใช้ได้น้อยกว่าศาสตราร้อยอาคมเซียนเสียอีก! อย่างไรก็ตาม…พลังพิเศษเฉพาะของพวกมันถือว่ามีเอกลักษณ์นัก!!”