เล่มที่ 27 เล่มที่ 27 ตอนที่ 785 ศิลาโยวหมิง

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ราชาเฮยซาหู่เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าซูจิ่นซีไม่สนใจผลมะเดื่อของเขาแม้แต่น้อย

ภายใต้ความสิ้นหวัง เขาทำได้เพียงหยิบของอีกชิ้นหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ซึ่งเป็นอัญมณีที่เปล่งแสงสีน้ำเงินเข้ม

“พระชายาโยวอ๋อง นี่คือศิลาโยวหมิง มันมีประโยชน์ต่อผู้บำเพ็ญเพียร อัญมณีมีหลายประเภท ทว่าศิลาโยวหมิงที่มีแสงสีน้ำเงินเข้มเท่านั้นจึงจะล้ำค่าที่สุด”

หึ หากซูจิ่นซีไม่ชื่นชอบผลมะเดื่อก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะนางเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร สมุนไพรชนิดใดบ้างที่นางไม่เคยพบมาก่อน

ทว่าหากเป็นศิลาล้ำค่าที่ช่วยในการบำเพ็ญเพียรเล่า…

เขาไม่เชื่อว่านางจะไม่สนใจ

ได้ยินมาว่าพระชายาโยวอ๋องมีชาติกำเนิดต่ำต้อย นางเกิดมาในครอบครัวแพทย์ที่ไม่เก่งกาจมากนัก ไม่มีสถานะหรืออำนาจในเมืองหลวงแคว้นจงหนิง ส่วนความมั่งคั่งนั้น… ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

สรุปคือ นางเกิดจากครอบครัวเล็กๆ อัญมณีล้ำค่าชนิดนี้สำหรับคนที่มีสถานะต่ำต้อยแล้ว ย่อมไม่กล้าคิดแม้แต่น้อย

ดังนั้น ราชาเฮยซาหู่มั่นใจว่าซูจิ่นซีต้องสนใจอัญมณีล้ำค่าสีน้ำเงินเข้มนี้อย่างแน่นอน

เป็นจริงดั่งที่คาดไว้ ซูจิ่นซีสนใจอัญมณีนี้จริงๆ

ขณะที่ราชาเฮยซาหู่หยิบมันออกจากอกเสื้อ ระบบถอนพิษและอาคมกำไลปี่อั้นได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว มันเป็นอัญมณีที่หายากจริงๆ

ทว่าสิ่งที่อยู่ภายในใจ นางจะแสดงออกมาบนใบหน้าได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น… สิ่งที่นางต้องการ ไม่ใช่เพียงอัญมณีชิ้นนี้เท่านั้น!

เมื่อเห็นท่าทางเรียบเฉยของซูจิ่นซี ราชาเฮยซาหู่จึงไม่เข้าใจสิ่งที่ซูจิ่นซีครุ่นคิดแม้แต่น้อย

แขนของเขาถูกพิษกัดกร่อนมากขึ้นเรื่อยๆ มือหายไปแล้ว ดูเหมือนว่ากำลังลามมาถึงข้อมือ ราชาเฮยซาหู่เจ็บปวดจนเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบไหลผุดขึ้นมาบนหน้าผาก ใบหน้าของเขาซีดขาวจนน่าเกลียด

สาเหตุที่เขายังมีสติต่อรองกับซูจิ่นซีได้ เพราะอาศัยความอดทน

ราชาเฮยซาหู่กลืนน้ำลายที่แห้งผาก น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนกว่าที่เคย “พระชายาโยวอ๋อง ท่านดูเถิด เวลาผ่านไปดั่งสายน้ำ ข้า… ข้ากลัวจริงๆ ! หากท่านไม่สนใจศิลาโยวหมิงนี้ มิสู้ท่านบอกเงื่อนไขออกมาเลยดีกว่า”

ข้าอดกลั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ !

ประโยคสุดท้ายที่เขากล้ำกลืนลงไปในลำคอนั้น ราชาเฮยซาหู่ไม่มีทางพูดออกมาแน่นอน

มุมปากของซูจิ่นซีเผยรอยยิ้มที่ผู้อื่นไม่สามารถคาดเดาได้

ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา นางจะไม่พูดอ้อมค้อมอีก

“ได้ยินมาว่า ในตัวราชาเฮยซาหู่มีสัตว์ร้อยพิษตัวหนึ่งที่สามารถถอนพิษได้ทุกชนิด ข้าเป็นคนเล่นพิษ จึงต้องการเห็นสัตว์ร้อยพิษตัวนี้กับตาตนเองว่ามันมีหน้าตาอย่างไร? ”

ที่แท้ นางก็สนใจสัตว์ร้อยพิษของเขานั่นเอง

ราชาเฮยซาหู่พลันรู้สึกเจ็บปวดใจ เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก

ต้องการสัตว์ร้อยพิษของข้าหรือ อย่าได้ฝัน!

มันเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดของเขา เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้สัตว์ร้อยพิษตัวนี้มา

ทว่า สัตว์ร้อยพิษ…

ทันใดนั้น ราชาเฮยซาหู่ก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเหลือบมองบาดแผลของตน ความเจ้าเล่ห์พลันปรากฏขึ้นในแววตา

การแสดงออกของราชาเฮยซาหู่อยู่ภายใต้สายตาอันเฉียบคมของซูจิ่นซี นางแสร้งทำท่าทางง่วงเล็กน้อย ทั้งยังแสดงท่าทีราวกับหมดความอดทน

“ดูเหมือนราชาเฮยซาหู่ไม่เต็มใจนำสัตว์ร้อยพิษออกมาให้ข้าชม ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ราชาเฮยซาหู่ก็ไปหาผู้อื่นเถิด! ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องทำอีกมาก ไม่ต้องการเสียเวลากับเจ้าแล้ว! ”

เมื่อตกลงกันไม่ได้ก็จากไป แม้จะข่มขู่ราชาเฮยซาหู่หลายครั้งแล้ว แต่ต้องบอกว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลทุกครั้ง

ก่อนจากไป ดูเหมือนนางจะเห็นถึงความคิดของราชาเฮยซาหู่ นางไม่ลืมพูดเสริมว่า “แม้สัตว์ร้อยพิษจะถอนพิษได้ทุกชนิด ทว่าพิษของข้าเป็นข้อยกเว้น ราชาเฮยซาหู่อย่าคิดใช้สัตว์ร้อยพิษถอนพิษของข้า ไม่เช่นนั้น… นอกจากจะเร่งการกร่อนกระดูกและเนื้อแล้ว ยังไม่มีประโยชน์อันใดแม้แต่น้อย”

ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของซูจิ่นซี มือของราชาเฮยซาหู่ที่กำลังจะหยิบสัตว์ร้อยพิษออกมาก็กระตุกราวกับถูกเข็มแทง… เขาหดมือกลับอย่างรวดเร็ว ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ

น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก….

พระชายาโยวอ่องมีวิชาอ่านใจคนหรือ?

นางอ่านความคิดได้ว่า เขาต้องการถอนพิษตนเองด้วยสัตว์ร้อยพิษหรือ?

สตรีนางนี้เป็นมนุษย์จริงหรือ?

สัตว์ร้อยพิษเป็นสัตว์เทพที่สามารถถอนพิษได้ทุกชนิดในใต้หล้า พระชายาโยวอ๋องเก่งกาจเพียงใด แม้แต่สัตว์ร้อยพิษก็ไม่สามารถถอนพิษที่นางพัฒนาขึ้นมาได้เชียวหรือ

อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซีพูดเช่นนี้ ราวกับเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์ภายในใจของราชาเฮยซาหู่

ไม่ว่าสิ่งที่ซูจิ่นซีพูดมานั้นจริงหรือเท็จ ทว่าราชาเฮยซาหู่ไม่กล้าล้อเล่นกับชีวิตตนเองเป็นแน่!

ดังนั้น เขาจึงรีบเอ่ยเรียกซูจิ่นซีด้วยใบหน้าซีดเผือด “พระชายาโยวอ๋อง ช้าก่อน! ”

ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจอีกครั้ง นางหันกลับมาด้วยดวงตาสดใส

ราชาเฮยซาหู่พลิกฝ่ามือของตน กลางฝ่ามือของเขาปรากฏแมลงตัวหนึ่งที่ส่องแสงระยิบระยับเหมือนหิ่งห้อย เมื่อกางปีกออกมา ร่างกายของมันก็ค่อยๆ ใหญ่ขึ้น จนในที่สุดก็มีขนาดเท่านกกระจอก

ทว่าลักษณะของมันไม่เหมือนนกกระจอก ลำตัวของมันเป็นสีเหลืองอ่อนโปร่งแสงซึ่งทอแสงสว่าง หน้าผากคล้ายนกแก้ว หางมีขนฟูและโค้งเหมือนพัดขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง ปีกขนาดพอดีตัว

ทันทีที่เห็นสัตว์ร้อยพิษ ดวงตาของซูจิ่นซีก็เปล่งประกาย นางยื่นมือออกไปทางราชาเฮยซาหู่

ราชาเฮยซาหู่ตัดใจไม่ลงจริงๆ ! เขาค่อยๆ เดินไปหาซูจิ่นซีด้วยใบหน้าเจ็บปวดใจ และวางสัตว์ร้อยพิษลงบนมือของซูจิ่นซี

ขณะที่อุ้งเท้าของมันแตะนิ้วมือของซูจิ่นซี สัตว์ร้อยพิษไม่ตกใจแม้แต่น้อย มันกระโดดขึ้นไปบนแขนของซูจิ่นซีด้วยความตื่นเต้น

ซูจิ่นซีใช้นิ้วลูบสัตว์ร้อยพิษด้วยใบหน้าเอ็นดูรักใคร่ บางครั้งก็ป้อนสมุนไพรให้มันสองสามคำ ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้ว่านางหยิบมาจากที่ใด

ราชาเฮยซาหู่ต้องการพูดอันใดบางอย่าง ทว่าเมื่อเห็นสัตว์ร้อยพิษกินสมุนไพรโดยไม่มีท่าทีขัดข้อง ใบหน้าของเขาก็ปรากฏความประหลาดใจ ทั้งยังอ้าปากค้างอย่างพูดอันใดไม่ออก

นี่มันเกิดอันใดขึ้น?

เป็นไปได้อย่างไร?

ตั้งแต่เขาได้สัตว์ร้อยพิษตัวนี้มา เจ้าตัวน้อยนี้ช่างจู้จี้จุกจิก ดูแลยากอย่างมาก

สมุนไพรที่มันกินต้องเป็นสมุนไพรชั้นเลิศระดับแปด มันดื่มเฉพาะน้ำค้างยามเช้าบนต้นมะเดื่อ น้ำค้างข้ามคืนก็ไม่กินอีกด้วย

อย่างไรเสีย เมื่อมันอยู่ในมือของเขา สิ่งที่เขาทำทั้งหมดเพื่อให้มันพอใจ กลับวุ่นวายราวกับดูแลเด็กอ่อน

ทว่าเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าสมุนไพรหลายชนิดที่พระชายาโยวอ๋องป้อนให้สัตว์ร้อยพิษตัวนั้นกินกลับเป็นสมุนไพรธรรมดา แม้แต่สมุนไพรทั่วไปสองชนิดนั้นก็ไม่มีลำดับขั้นแม้แต่น้อย

เจ้าตัวนี้เลือกกินไม่ใช่หรือ? ดูแลยากไม่ใช่หรือ?

ท่าทีเอาแต่ใจและช่างเลือกนั้น หายไปที่ใดหมดแล้ว?

ขณะที่ราชาเฮยซาหู่กำลังตั้งข้อสงสัย ความดีใจบนใบหน้าของซูจิ่นซีก็ลดลงอย่างมาก นางยื่นแขนที่มีสัตว์ร้อยพิษไปทางราชาเฮยซาหู่

“เอ้า ข้าชื่นชมพอแล้ว เจ้าเอามันกลับไปได้! ”

ราชาเฮยซาหู่รีบตั้งสติ ขณะที่กำลังยื่นมือออกไปเก็บสัตว์ร้อยพิษคืนมา ดูเหมือนสัตว์ร้อยพิษจะตกใจกลัว มันส่งเสียงกรีดร้องแสบหู และกระโดดขึ้นไปบนแขนอีกข้างของซูจิ่นซี

ทุกคนต่างสงสัย โดยเฉพาะราชาเฮยซาหู่ ความรู้สึกไม่สบายใจที่อยู่เบื้องลึกในหัวใจของเขายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

ซูจิ่นซีลูบขนของสัตว์ร้อยพิษด้วยนิ้วของนาง จากนั้นจึงมอบสัตว์ร้อยพิษให้ราชาเฮยซาหู่อีกครั้ง

ในเวลานี้ ทุกคนแทบกลั้นหายใจและไม่กล้าเปล่งเสียงออกมา เพราะเกรงว่าหากพวกเขาหายใจแรง อาจทำให้สัตว์ร้อยพิษตกใจได้

ทว่าขณะที่ราชาเฮยซาหู่ยื่นมือออกไปทางสัตว์ร้อยพิษอีกครั้ง สัตว์ร้อยพิษกลับกระโดดขึ้นไปบนมือและกัดนิ้วมือของราชาเฮยซาหู่อย่างแรง

“อ้าก… ”

ทันใดนั้น เสียงร้องอันน่าอนาถของราชาเฮยซาหู่ก็ดังไปทั่วป่า

แม้สัตว์ร้อยพิษจะสามารถถอนพิษได้ทุกชนิด ทว่าฟันของมันมีพิษ ทั้งยังไม่มียาถอนพิษอีกด้วย