บทที่ 458
ได้ยินหม่าหลันถามเช่นนั้น เฉียนหงเย่นก็พูดด้วยใบหน้าขอโทษว่า “ไอ้หย๋าน้องสะใภ้ วันนี้ฉันมาหาเธอ ก็อยากจะมาขอโทษเธอ…..”
จากนั้น เธอก็พูดด้วยใบหน้ารู้สึกผิดว่า “ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลเซียว เป็นเพราะว่าฉันดูถูกคนมากไป ไม่เพียงแต่ไม่ไว้หน้าเธอ แถมยังมาว่าร้ายเธอต่อหน้านายหญิงใหญ่ตั้งหลายครั้ง ทั้งหมดเป็นฉันทำไม่ถูกเอง ฉันได้กลับมาทบทวนความผิดของตนเองแล้ว ดังนั้น ฉันก็เลยมาหาเธอ อยากจะขอโทษเธออย่างจริงจัง”
พูดจบ เธอก็กัดฟัน แล้วโค้งคำนับให้กับหม่าหลัน
หม่าหลันก็ทำอะไรไม่ถูก
นึกว่ายัยนี่จะมาหาท้าทายหาเรื่องตนเอง ไม่นึกว่าเธอจะมาโค้งคำนับขอโทษตนเอง
ตนเองเตรียมจะด่าไปชุดใหญ่ แต่พอได้ยินดังนั้น ก็ไม่รู้ว่าตนเองจะต้องวางตัวอย่างไร
ในตอนนี้ เฉียนหงเย่นเห็นหม่าหลันไม่พูดจา ก็เริ่มแสดงละคร ทั้งร้องไห้ ทั้งนั่งคุกเข่าลงที่พื้น ร้องไห้ขอร้องว่า “น้องสะใภ้ เธอยังโทษอาซ้ออยู่หรือ? ซ้อผิดไปแล้ว หลายปีมานี้ จริงๆ แล้วซ้อยังไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง พวกเราต่างก็เป็นสะใภ้ เป็นของนอกของตระกูลเซียว ควรจะรักกันแบบพี่น้อง รักกันดีๆ ถึงจะถูกนะ!”
พูดจบ เฉียนหงเย่นก็ตบหน้าตนเอง แล้วร้องได้พูดว่า “น้องสะใภ้คนดีของพี่ ก่อนหน้านี้ซ้อไม่รู้ความ ขอร้องอย่าได้ถือสาซ้อเลยนะ ต่อจากนี้พวกเราอยู่ด้วยกันแบบพี่น้อง ได้ไหม?”
หม่าหลันก็ตื่นเต้นอึ้งไป!
ดีสิ!
เฉียนหงเย่นผู้สูงส่ง มาคุกเข่าให้ตนเอง แล้วยังลงทุนตบหน้าตนเอง มองไปแล้วให้สะใจเสียจริงๆ !
หลายปีมานี้ เฉียนหงเย่นเคยก้มหัวให้ตนเองเสียที่ไหน แต่ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็สัมผัสถึงความรู้สึกที่เหยียบคนอื่นไว้แทบเท้าแล้ว ว่ามันเป็นอย่างไร
เฉียนหงเย่นเห็นใบหน้าเธอได้ใจ ในใจก็บังเกิดความโมโห แต่ปากก็ถอนหายใจพูดว่า “น้องสะใภ้ พี่พูดจากใจเลยนะ พี่เข้าใจแล้ว หลายปีนี้พี่ทำชั่วไว้เยอะ ทำอะไรกับเธอไว้บ้าง สุดท้ายมันก็ไม่ได้อะไรไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ในรู้สึกผิดมาก ถ้าหลายปีมานี้พี่เกรงใจเธอหน่อย พวกสะใภ้อย่างเราก็คงไม่ต้องเดินมาถึงจุดนี้”
พูดไป เธอก็พูดคำพูดจากใจอีกว่า “ความผิดทั้งหมด เป็นเพราะพี่คนเดียว ตอนนี้พี่ขอให้น้องสะใภ้เห็นแก่ความสัมพันธ์หลายปีของพวกเรา ให้อภัยกับความผิดที่ผ่านมาของพี่ด้วยเถอะนะ”
หม่าหลันก็ใจเต้น แต่ปากก็พูดไปนิ่งๆ ว่า “ไอ้หย๋า ซ้อใหญ่ พี่สามารถยอมรับความผิดตนเองได้ ทำให้น้องต้องมองพี่ใหม่เลยนะ คิดว่าในชีวิตนี้พี่จะไม่มีวันได้ตื่นรู้เสียแล้ว!”
เฉียนหงเย่นก็รีบพูดยิ้มด้วยว่า “ไม่หรอก ตอนนี้พี่ก็รู้ผิดแล้วเลือกเดินทางที่ถูกต้องแล้วอย่างไรเล่า!”
ก่อนหน้านี้หม่าหลันแม้แต่ฝันก็อยากจะให้ซ้อใหญ่ที่ชอบอาศัยอำนาจมารังแกคนอื่น มาก้มหัวให้ตนเอง แต่รอมา20กว่าปีแล้วก็ยังไม่ได้ดั่งฝัน ไม่คิดว่า ตอนนี้จะเป็นจริงแล้ว
ตอนที่หม่าหลันกำลังใจเต้น ก็ได้ใจขึ้นมา แล้วยิ้มพูดว่า “ในเมื่อซ้อใหญ่รู้แล้วว่าตนเองทำผิด น้องก็ไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องอะไรหรอก เรื่องก่อนหน้านี้ ก็แล้วกันไปก็แล้วกัน”
เฉียนหงเย่นรับตอบว่า “ได้ๆๆ น้องสะใภ้ใจกว้าง เช่นนั้นต่อจากนี้ พวกเราก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันแล้วนะ!”
แต่ทว่า ปากพูดไปเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังด่าทอ ยัยนี่ยอมให้หน่อยทำเป็นเย่อหยิ่งชูคอเชียวนะ!
อยู่กันมาหลายปีมานี้ แกทำอะไรไว้บ้าง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้หรือไง? พอประจบไปหน่อย ให้แกตัวลอยเล่นๆ จนลืมไปว่าตัวเองแซ่อะไร จากนั้นค่อยจัดการกับแกทีเดียว!
ในตอนนี้ หม่าหลันก็หยิบเอากุญแจรถออกมาจากกระเป๋า แล้วยิ้มพูดว่า “ซ้อใหญ่ ในเมื่อความเข้าใจผิดระหว่างเราได้จบลงแล้ว น้องก็จะไม่คุยต่อแล้วนะ พอดีรีบจะไปเล่นไพ่นกกระจอก ขอตัวก่อน!”
เฉียนหงเย่นก็กำลังคิดพอดี ไม่รู้จะชวนเธอไปเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันอย่างไร พอได้ยินดังนั้น ก็เลยรั้งเธอไว้ แล้วถามว่า “น้องสะใภ้ น้องจะไปเล่นไพ่นกกระจอกหรือ?”
หม่าหลันพยักหน้า “ใช่ ทำไมหรือ?”
เฉียนหงเย่นรีบพูดว่า “พอดีเลย พี่มีเพื่อน ที่บ้านพวกนั้นมีเงินมากมาย แล้วยังชอบเล่นไพ่นกกระจอกด้วย แต่ฝีมือการเล่นไม่เท่าไร แต่น้องก็รู้ดีนะว่า พวกคนรวยๆ พวกนี้ ไม่ค่อยสนใจเงิน สนใจแต่ความสนุก ดังนั้นพอแพ้ครั้งหลายหมื่นก็ไม่ได้กลัวอะไร”
พอพูดถึงจุดนี้ เฉียนหงเย่นก็พูดเสียงเบาอย่างระวังว่า “พอดีเลยว่า พี่จะบอกให้อยากจะนัดขาประจำมาเล่นด้วยกันทุกวัน ไม่รู้ว่าน้องสะใภ้จะสนใจด้วยไหม? เราสองพี่น้องร่วมมือกัน พอถึงตอนนั้นก็จะได้ชนะเอาเงินพวกนั้นมา!”