บทที่ 2791 เจ้าชอบมองของแบบนี้หรือ?
ดรุณีนางนั้นอ้าปากค้างนิดๆ ลืมเลือนคำตำหนิไปแล้ว นางกลอกตาทีหนึ่ง นิ้วขยับร่ายอาคม หมายจะเรียกงูเหลือมตัวนั้นกลับมา
แต่งูเหลือมที่เชื่อฟังคำสั่งนางเสมอมายามนี้กลับสะบัดหัวเต้นรำไม่ยอมหยุดเสมือนเป็นลมบ้าหมู
กู้ซีจิ่วใจเต้นแรงนิดๆ ถอยหลังออกไปเสียเลย ยืนพิงพฤกษาใหญ่ต้นหนึ่ง
เสียงขลุ่ยเร่งเร้า จังหวะเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กู้ซีจิ่วฟังแล้วไม่เป็นอะไร แต่กลับเป็นอันตรายต่อชีวิตของงูเหลือมตัวนั้น งูเหลือมตัวนั้นยังคงโบกสะบัดไปมาดุจกังหันอย่างไม่อาจควบคุมร่างกายของตัวเองได้แล้ว แผ่นเกล็ดทั่วร่างอ้ากางออก ปากก็อ้ากว้างคล้ายจะกรีดร้อง ทว่าร้องไม่ออกเลย
“หยุด! หยุดนะ! หยุดเป่าได้แล้ว!” ในที่สุดดรุณีชุดเขียวนางนั้นก็ตะโกนออกมา โผเข้าหาคุณชายคนนั้น หมายจะคว้าขลุ่ยเขาไว้
คุณชายคนนั้นหมุนกายคราหนึ่ง เหินพลิ้วขึ้นมา ร่อนลงบนยอดไม้ ขณะเดียวกันทำนองขลุ่ยก็แปรเปลี่ยนไปในทันใด ราวกับมีผกาตูมค่อยๆ คลี่แย้มออกรับแสงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
และฝีเท้าของดรุณีนางนั้นก็ชะงักลงพร้อมกับเสียงขลุ่ย ยืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะเริ่มเต้นรำขึ้นมาอย่างอดใจไม่อยู่
ดรุณีชุดเขียวงดงามยิ่ง การร่ายรำในยามนี้กลับเย้ายวนนัก อาภรณ์ค่อยๆ ยุ่งเหยิงขึ้นมา เสื้อผ้าถูกนางปลดเปลื้องออกด้วยตัวเองทีละชิ้นๆ โยนทิ้งไปอย่างมีจริตจะก้านเย้ายวน
ท่าทางนี้จะมองอย่างไรก็คล้ายระบำเปลื้องผ้าของยุคสมัยใหม่นัก ถึงขั้นที่ดูเร้าใจกว่าระบำเปลื้องผ้าด้วยซ้ำ
ตี้เฮ่าที่อยู่ด้านนอกลูบจมูกตน ฉากอนาจารไม่อาจรับชมได้ ว่ากันตามหลักแล้วเขาอยู่ในวัยเด็กไม่สมควรมองฉากอนาจารเช่นนี้ แต่ว่า…
เขาเกรงว่าจะพลาดประเด็นสำคัญอันใดไป อีกอย่างความจริงเขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้วด้วยฉากเช่นนี้สำหรับเขาแล้วก็แค่ฉากวาบหวิวเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้นจึงกระแอมคราหนึ่ง แล้วชมอย่างสงบต่อไป
เพียงแต่เขาได้จับสังเกตปฏิกิริยาของกู้ซีจิ่วไปด้วย นางพิงพฤกษาต้นหนึ่งอยู่ กอดอกรับชมอย่างได้อรรถรสเช่นกัน
งูเหลือมตัวใหญ่ สาวน้อยโฉมงามร่ายรำด้วยกันอยู่ตรงนั้น ค่อยๆ เข้ามารวมตัวกันอย่างช้าๆ
งูเหลือมยักษ์หมุนวนเป็นวง ร่างกายหดเล็กลงอย่างเร่งร้อน เปลี่ยนเป็นยาวกว่าหนึ่งจั้งเท่านั้น ลอยโผเข้าหาร่างของโฉมงามนางนั้น เกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น หางงูเหยียดยาวยื่นเข้าไปในหว่างขาของดรุณีนางนั้น…
สีหน้ากู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ยืดตัวขึ้นนิดๆ ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวอันใด แถบแพรเส้นหนึ่งก็ลอยเข้ามา พันปิดวงตาของเธอเอาไว้พอดิบพอดี บดบังสายตาของเธอ
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย…
ทำนองขลุ่ยแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง หนนี้คล้ายท่วงทำนองธรรมดา ไพเราะดุจบรรพตสูงธารารินไหล และกลบซ่อนเสียงอื่นที่ไม่สอดคล้องกันออกไปด้วย
กู้ซีจิ่วคิดจะกระชากแถบแพรบนดวงตาออกตามสัญชาตญาณ เสียงหัวเราะแผ่วเบาสายหนึ่งราวกับแว่วขึ้นข้างหูเธอ “เจ้าชอบมองของแบบนี้หรือ? ฉากนี้น่าตื่นตะลึงเหนือธรรมดา หากว่าแม่นางชอบมอง ก็ปลดแถบแพรออกแล้วรับชมเถิด ข้ายินดีจะร่วมแบ่งปันกับแม่นาง”
กู้ซีจิ่วนิ่งไปแล้ว…
มือเธอแข็งทื่ออยู่ข้างตัว สุดท้ายก็ไม่ได้ปลดแถบแพรนั้นออก
“น้องเล็ก!” เสียงดังกึกก้องสายหนึ่งพลันดังขึ้นไม่ไกล เสียงฝีเท้าแว่วปะปน คล้ายมีคนจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามา
“หยุด! หยุดนะ! สมควรตาย หยุดได้แล้ว!”
กู้ซีจิ่วยื่นมือไปปลดแถบแพรออก ในที่เกิดเหตุมีคนเพิ่มขึ้นมาเจ็ดแปดคน คนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มแต่งกายด้วยอาภรณ์หรูหราประณีตสีดำทอง รูปโฉมหล่อเหลางดงาม ยากจะจิตนาการได้ว่าน้ำเสียงโฮกฮากหยาบคายนั้นจะแว่วออกมาจากปากคนผู้นี้
คนผู้นี้กู้ซีจิ่วรู้จัก เป็นราชันของแดนปีศาจ คนที่เหลือก็เป็นบริวารของราชันปีศาจ
ทันทีที่ราชันปีศาจมาถึง ก็ฟาดฝ่ามือใส่งูเหลือมที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นตัวนั้น คิดจะแยกหนึ่งคนหนึ่งงูออกจากกัน
งูเหลือมกรีดร้องคราหนึ่ง ทว่าร่างกลับรัดแน่นกว่าเดิม โฉมงามถูกมันรัดจนร้องครางออกมาด้วย แทบจะตาเหลือกแล้ว
คนที่เหลือทึ่มทื่อไปทันที จะมองก็ไม่ดี ไม่มองก็ไม่ได้
“ไสหัวออกไปให้หมดซะ!” ราชันปีศาจโกรธกริ้ว
————————————————————————————-
บทที่ 2792 ไม่ตายไม่เลิกรา
คนอื่นต่างแยกย้ายกันไป หลบห่างออกไปไกลแล้ว
ไม่ทราบว่าราชันปีศาจหยิบเชือกสีดำเส้นหนึ่งออกมาจากไหน คล้องงูเหลือมตัวนั้น แล้วดึงอย่างรุนแรงอีกครั้ง!
วรยุทธ์เขาสูงล้ำ ด้วยการดึงนี้อย่าว่าแต่งูเหลือมตัวเดียวเลย แม้แต่ขุนเขาก็สามารถดึงขึ้นมาได้!
เขาดึงงูเหลือมตัวนั้นขึ้นมาได้จริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ดึงโฉมงามที่โดนมันรัดพันไว้อย่างแน่นหนาขึ้นมาด้วย...
หนึ่งคนหนึ่งงูเกี่ยวกระหวัดเป็นองศาที่งดงามเส้นหนึ่งอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็หล่นลงบนพื้นเสียงดังตุบ แต่ยังคงพัวพันกันแน่นอยู่เช่นเดิม
ดรุณีนางนั้นหวีดร้องเสียงแหบเครือ คล้ายจะสะลึมสะลือ
“เฟิงเจี่ยอี เจ้าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง? รีบแยกพวกเขาเร็ว!” ราชันปีศาจตะโกนใส่คุณชายคนนั้นอย่างโกรธเกรี้ยว
คุณชายคนนั้นหยักยิ้มมุมปากบางๆ “มิใช่ว่าองค์ราชันต้องการให้ผู้น้อยตามหาตัวคนร้ายในคดีฆ่าข่มขืนดรุณีสิบแปดนางหรอกหรือ? ผู้น้อยก็กำลังจับอยู่นี่ไง”
ราชันปีศาจเอ่ยด้วยความโกรธ “เปิ่นหวางให้เจ้าจับกุมผู้ต้องสงสัย ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะเบิกตามองนางถูกงูกระทำย่ำยี งูตัวนี้เป็นเจ้าที่บงการใช่หรือไม่?! เจ้าอย่าได้คิดเล่นลิ้น เปิ่นหวางได้ยินเจ้าใช้เสียงขลุ่ยบงการมัน”
“งูตัวนี้เป็นของน้องสาวท่านนี้ น้องสาวท่านนี้คิดจะให้มันมากัดข้า ถึงได้ถูกคุณชายผู้นี้ควบคุม” ในที่สุดกู้ซีจิ่วที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็เปิดปากเอ่ยแล้ว
สายตาของราชันปีศาจหันเหไปที่ร่างของกู้ซีจิ่ว เห็นได้ชัดว่าจดจำเธอไม่ได้ “หญิงอัปลักษณ์ผู้นี้เป็นใคร?!”
เขาระเบิดโทสะ “เฟิงเจี่ยอี เลิกสนใจก่อนว่างูตัวนี้จะเป็นของผู้ใด รีบแยกพวกเขาออกจากกันซะ!”
เฟิงเจี่ยอีพลันกอดอก “ไม่อาจทำได้ คนที่สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้มีเพียงเจ้าของมันเท่านั้น” แววตาเขาคมกริบอยู่รางๆ “ราชันผู้ยิ่งใหญ่ คงมิใช่ว่าแม้แต่งูตัวนี้เป็นสายพันธุ์ใดท่านก็ยังไม่รู้จักกระมัง?!”
ราชันปีศาจผงะไป เอ่ยอย่างโกรธา “เปิ่นหวางย่อมรู้จัก! สิ่งนี้เป็นสัตว์มาร เชื่อฟังเพียงคำสั่งผู้เป็นนาย ตอนนี้ผู้ที่สามารถสั่งการมันได้ก็คือเจ้า!”
เฟิงเจี่ยอีเอ่ยอย่างเฉยเมย “ผู้น้อยเพียงใช้เสียงขลุ่ยมอมเมาจิตใจมัน ให้มันจดจำผู้เป็นนายไม่ได้ชั่วขณะเท่านั้น ไม่อาจสั่งการมันได้”
เขาปรายตามองดรุณีนางนั้นแวบหนึ่ง “เห็นทีว่าองค์หญิงจะโปรดปรานสัตว์เลี้ยงตัวนี้ยิ่งนัก เลยกอดไว้ไม่ยอมปล่อยสินะ?”
ดรุณีนางนั้นเปลือยเปล่าทั้งร่าง ตรงหว่างขามีโลหิตไหลนอง เดิมทีนางถูกเสียงขลุ่ยควบคุมจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่สามารถควบคุมบงการงูเหลือมกู่มารตัวนี้ได้อีก ทันทีที่เสียงขลุ่ยหยุดลงนางก็ได้สติแล้ว เมื่อเห็นพี่ชายของตนมาถึงก็อับอายจนอยากตายไปให้พ้นๆ เสีย ไม่อยากลืมตาขึ้น จึงแกล้งสลบไปเสียเลย ไม่นึกเลยว่าจะถูกคุณชายผู้นี้เปิดโปง
การเลี้ยงดูงูตัวนี้เป็นการส่วนตัวคือเรื่องต้องห้ามร้ายแรง นางก็ไม่กล้ายอมรับเช่นกัน
แต่นางก็รู้ว่าทันทีที่งูตัวนี้สมสู่กับมนุษย์ หากว่าไร้คำสั่งจากผู้เป็นนาย นั่นก็คือไม่ตายไม่เลิกรา…
ไม่เพียงแต่สังขารเท่านั้นที่สิ้นชีพ แม้แต่ดวงวิญญาณก็จะถูกกลืนกินไปด้วย
เมื่ออยู่ต่อหน้าความเป็นความตาย ก็ได้แต่ละวางความอับอายไว้อีกด้านหนึ่งแล้ว
ดรุณีนางนี้พลันตัดสินใจ ฟาดมือใส่หัวงูเหลือมอย่างรุนแรง “ออกไปนะ! ไสหัวออกไปซะ!”
นางคิดว่างูเหลือมตัวนี้คงจดจำผู้เป็นนายได้ ตอนนี้งูเหลือมตัวนี้ไม่ได้ถูกเสียงขลุ่ยควบคุมแล้ว ตามหลักน่าจะได้สติจดจำนางได้แล้ว เชื่อฟังคำสั่งของนาง
ไหนเลยจะคาดไม่ถึงว่างูตัวนี้จดจำเพียงวาจาสิทธิ์ไม่ได้จดจำผู้ออกวาจา ถูกนางฟาดอย่างรุนแรงเช่นนี้ก็ระเบิดความดุร้ายออกมา ขยับหางงูอย่างรุนแรง ดรุณีนางนั้นหวีดร้อง งอตัวทันที
หางงูทำให้นางบาดเจ็บสาหัส เจ็บปวดเจียนตาย แถมเมื่องูตัวนี้เห็นโลหิตก็ยิ่งคึกคักขึ้นมา หางงูเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
สีหน้าของดรุณีน้อยซีดเผือดแล้ว ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว พยายามขยับมือร่ายอาคมอย่างสุดชีวิต กลุ่มควันรูปหัวกะโหลกสีดำผุดออกมาจากปลายนิ้วของนาง ดีดเข้าสู่ปากที่อ้ากว้างของงูตัวนั้น นางพลันตะโกนออกไป “ชิงปี้ ออกไปซะ!”
เห็นได้ชัดว่าคาถานี้ควบคุมมันได้ ร่างงูตัวนั้นพลันแข็งทื่อ แล้วผละจากนางไปอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก
เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ราชันมารก็ไม่อาจแก้ต่างให้น้องสาวได้อีกต่อไปแล้ว “งามหน้าเหลือเกิน!”
————————————————————————————-