บทที่ 855 สอนการบ้านอลเวง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 855 สอนการบ้านอลเวง
เย่เซิ่งเทียนกำลังตรวจการบ้านของซีซี จึงพูดอย่างไม่ใส่ว่า“เปิดเผยก็เปิดเผยไปสิ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย ผมไม่อยากมีเรื่องหรือล่วงเกินใคร แต่ถ้าใครมายุ่งวุ่นวายกับผม งั้นผมก็ต้องสั่งสอนพวกเขาสักหน่อย โฟเดนท์ไม่เชื่อในเรื่องความชั่วร้าย นี่เลยเป็นจุดจบของเขา”

หวางซีพยักหน้า สำหรับเรื่องพวกนี้ เธอเองก็ไม่รู้ดีนัก รู้เพียงแค่ว่าคนที่เย่เซิ่งเทียนต้องต่อกรเป็นคนแข็งแกร่ง

“ตอนนี้มีข่าวคราวแม่ของเราไหม?”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเย่เซิ่งเทียนก็เศร้าลงทันที เขาส่ายหัวไปมาแล้วกล่าวว่า“ยังสืบอะไรไม่เจอเลย ตอนนี้กำลังสืบกันอยู่”

หวางซีพูดอย่างอ่อนโยนว่า“นายวางใจเถอะ แม่ของเราเป็นคนดีต้องได้รับการช่วยเหลือจากสวรรค์เบื้องบน ความยากลำบากเรายังผ่านกันมาได้เลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวของเราจะไม่มีวันแยกจากกัน”

เย่เซิ่งเทียนหัวเราะ“เรื่องพวกนี้คุณไม่ต้องเป็นกังวลหรอกครับ ยังมีผมอยู่ทั้งคน”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ คิ้วของเย่เซิ่งเทียนก็ขมวดเข้าหากัน เขามองไปทางซีซี แล้วจะเอ่ยถามว่า“ซีซี โจทย์ข้อนี้คือเด็กเจ็ดคนเลือกที่นั่งบนรถไม่ใช่หรอ?ทำไมถึงเลือกแปดที่นังล่ะ?”

ซีซีตอบด้วยสีหน้าจริงจัง“เพราะยังมีคุณครูด้วยอีกคนไงค่ะ?”

เย่เซิ่งเทียน“……”

“แล้วข้อนี้ล่ะ?”

เย่เซิ่งเทียนชี้ไปที่โจทย์ที่ต้องเติมคำลงไป ข้อนี้มีพระถังซัมจั๋ง ซุนหงอคง ตือโป๊ยก่าย ซั่วเจ๋งทั้งสี่คน เขาจึงเอ่ยถามว่า“ข้อนี้ถามว่าทั้งหมดมีกี่คน ทำไมลูกถึงตอบว่า‘2’คนล่ะ?หนึ่งสองสามสี่ นี่มันสี่คนไม่ใช่หรอ?”

ซีซีชี้ไปที่ซัวเจ๋งกับตือโป๊ยก่ายนูปภาพด้วยสีหน้างุนงงพลางกล่าวว่า“พวกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนหนิคะ เป็นสัตว์หนิ”

สัตว์……

เย่เซิ่งเทียนรู้สึกว่าความดันโลหิตของเขาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง แล้วจึงชี้ไปที่คำถามแบบปรนัย“โจทย์ข้อนี้ เขาถามว่าดินสอแท่งนี้ยาว18() ทำไมลูกถึงต้องเลือกเมตรด้วยล่ะ?ดินสอของลูกยาว18เมตรหรอ?”

ซีซีตอบอย่างไม่พอใจ“ทำไมดินสอถึงยาว18เมตรไม่ได้ล่ะคะ?”

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเหนื่อยใจ“ลูกเชื่อไหมว่าพ่อชักมีดอีโต้40เมตรออกมาได้?”

ซีซีพูดเสียงดัง“มีดอีโต้สี่สิบเมตรของคุณพ่อเหลาดินสอสิบแปดเมตรของหนูได้พอดีเลยค่ะ”

เย่เซิ่งเทียนรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะบ้าเต็มทน เขาในตอนเด็กไม่ได้โง่ขนาดนี้ หรือลูกจะเป็นเหมือนหวางซี?

หวางซีที่อยู่ข้างๆหัวเราะจนแทบเป็นบ้าเป็นหลัง เย่เซิ่งเทียนถลึงตาใส่หวางซี แล้วชี้ไปที่โจทย์คิดคำนวณ“158=?โจทย์ข้อนี้ลูกคิดคำนวณไม่เป็นหรอ?ลูกเอาเลขมาตั้งสิ”

ซีซีเบะปากแล้วพูดว่า“หนูเอาเลขมาตั้งแล้วนะคะ แต่58มันไม่พอลบหนิคะ”

เย่เซิ่งเทียนเอาเลขมาตั้งแล้วพูดว่า“58ไม่พอลบ ลูกก็ยืมจากหลักสิบมาสิคะ”

ซีซีพูดอย่างไม่ยอมแพ้“แต่ถ้าหลักสิบไม่ให้ยืมล่ะ!”

เย่เซิ่งเทียนสมองดังวิ้งๆเลย“ไม่ยืม……ถ้าไม่ให้ยืมลูกก็เอาชื่อพ่อขึ้นมาอ้างเลย พูดไปเลยว่าพ่อพูดเอง ดูสิว่ามันจะให้ยืมไหม!”

หวางซีหัวเราะแบบหยุดไม่ได้ เธอกุมท้องแล้วพูดว่า“ฮ่าๆๆๆ ฉันขำไม่ไหวแล้ว……”

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างขุ่นเคือง“หยุดหัวเราะเลยนะคุณ ลูกต้องได้คุณมาแน่เลย”

“เอาล่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ สอนการบ้านเด็ก พวกลูกแต่ละคนโมโหกันแทบตาย ยังว่าซีซีของเราว่าโง่อีก แม่ว่าพวกลูกนั่นแหละสอนไม่เป็น ซีซีของเราออกจากฉลาดขนาดนี้”

หลี่หลานผู้เป็นแม่ยายถือถาดอาหารเดินออกมา แล้วเหลือบมองหวางซีที่หัวเราะไม่หยุด กับเย่เซิ่งเทียนที่โมโหจนแทบจะระเบิด

“มาจ๊ะซีซี เรามากินน่องไก่กันเถอะ”

ซีซีสิ่งไปหาคุณยาย แล้วทำปากจู๋“คุณยายดีกับหนูที่สุดเลยค่ะ โจทย์ง่ายขนาดนี้คุณพ่อกับคุณแม่ยังสอนหนูไม่เป็นเลยค่ะ หนูเป็นเด็กตัวเล็กๆ ทำไมต้องถือสาขนาดนี้ แม่สูตรคุณแม่เก้าหนูก็ท่องเป็นแล้ว หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง หนึ่งบวกสองเท่ากับสาม สองบวกสองเท่ากับสี่……เจ็ดบวกแปดเท่ากับสิบห้า……”

เย่เซิ่งเทียนรีบตอบ“เจ็ดบวกเจ็ดเท่ากับสิบห้า งั้นสิบห้าลบแปดเท่ากับเท่าไร?”

ซีซีเกาหัวแกรกๆด้วยความงุนงง“หนูไม่รู้ค่ะ”

เย่เซิ่งเทียน“!!!!”

หวางซีมีความสุขบนความทุกข์ร้อนของคนอื่นๆ“รู้รึยังว่าฉันสอนการบ้านลูกยากขนาดไหนน่ะ?”

ไม่สอนการบ้านก็จะเป็นแม่พระ แต่ถ้าได้สอนการบ้านมันก็จะกลายเป็นเรื่องอลเวงทันที