ตอนที่ 1395 ปะทะระยะใกล้

Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ

ตอนที่ 1395 ปะทะระยะใกล้ โดย Ink Stone_Fantasy

ไม่ทำเป็นต้องทดสอบยิง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องปรับทิศทาง สิ่งที่ทีมโจมตีต่อต้านต้องทำก็คือยิงกระสุนปืนใหญ่ออกไปให้ได้มากที่สุด

ทุกคนงัดเอาทุกทักษาที่เคยฝึกออกมาใช้จนหมด

ถึงแม้การออกแบบกระสุนปืนใหญ่แบบแยกบรรจุจะทำให้ความเร็วในการยิงลดลง แต่เหล่าทหารปืนใหญ่ก็ยังทำให้ปืนใหญ่ทั้ง 3 กระบอกยิงออกมาได้นาทีละ 4 นัด การยิงที่เหลื่อมกันเล็กน้อยทำให้เกิดความรู้สึกในการยิงที่ต่อเนื่องขึ้นมา ในเทือกเขามีเสียงสะท้อนดังสนั่นซ้ำๆ เหมือนกับเสียงพายุอย่างไรอย่างนั้น

“พวกเขายิงปืนใหญ่แล้วจิ๊บ!” เมซี่กอดหัวไลต์นิ่งเอาไว้

“อื้อ” อีกฝ่ายตอบรับเบาๆ แต่ภายในใจกลับรู้สึกเป็นห่วงแทนกองทัพที่หนึ่ง พวกเขาจะต้องมองเห็นภาพแนวรบที่ปลอมขึ้นมาถูกบดขยี้แน่นอน แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ทีมโจมตีต่อต้านก็ยังเลือกที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองจนถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตัดสินใจแล้ว ดังนั้นเธอเองก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ด้วยการทำการสอดแนมครั้งนี้ให้ดีที่สุด

ถึงแม้จำนวนปืนใหญ่จะมีไม่เยอะ แต่พวกเขายังคงดูน่าเกรงขามอยู่ น่าจะเป็นเพราะศัตรูคิดไม่ถึงว่าบนพระผู้สร้างจะถูกศัตรูโจมตีกลับได้ ในตอนที่กระสุนปืนใหญ่ไปตกบริเวณรอบๆ เมือง เธอเห็นปีศาจจำนวนไม่น้อยวิ่งแตกตื่นลนลานออกมา เห็นได้ชัดว่าบนป้อมปราการเคลื่อนที่แห่งนี้นอกจากจะมีกองทัพประจำอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว มันยังมีปีศาจชั้นต่ำอยู่อีกเป็นจำนวนมากด้วย

นอกจากนี้ไลต์นิ่งยังมองเห็นมนุษย์อยู่ในหมอกแดงด้วย

นี่เป็นการยืนยันสิ่งที่ทางทีมที่ปรึกษาตั้งสมมติฐานเอาไว้ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าปีศาจทำการเคลื่อนย้ายประชากรในพื้นที่ที่พวกมันควบคุมอย่างมีเป้าหมาย เพียงแต่เธอไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรมากนัก เพราะเกรย์คาสเซิลทำการประกาศและทำการอพยพผู้คนมานานกว่าครึ่งปีแล้ว คนที่ยังยืนกรานที่จะอาศัยอยู่ในอีเทอร์นอลวินเทอร์ต่อส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นคนของขุนนาง และขุนนางพวกนั้นก็เป็นกลุ่มคนที่ต่อต้านฝ่าบาทโรแลนด์ พวกเขายอมที่จะต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันแล้วไปเข้าพวกกับปีศาจ

จากที่เอดิธส์บอกว่า สายตาของพวกเขานั้นมองอยู่แค่ผลประโยชน์ของตัวเอง ต่อให้ต้องขายอนาคตเผ่าพันธุ์ของตัวเองก็ไม่เสียดาย

เมื่อพระผู้สร้างเคลื่อนที่เข้ามาเรื่อยๆ กระสุนปืนใหญ่ที่ยิงออกไปก็ไปตกยังใจกลางเมืองปีศาจได้เสียทีแต่เนื่องจากหมอกแดงหนาแน่นมากเกินไป ทำให้ไลต์นิ่งยากจะสังเกตดูผลการยิงได้

ตอนนี้ซิลเวียอยู่บนซีกัลป์ ความจริงเธอสามารถเรียกอีกฝ่ายให้ช่วยได้ตลอด แต่ในเมืองปีศาจอาจจะมีปีศาจดวงตาแอบซ้่อนอยู่ ทันทีที่ดวงตาของทั้งสองฝ่ายสบกัน ตำแหน่งของซีกัลก็จะถูกเปิดเผย ตอนนี้การโจมตียังดำเนินมาจนถึงตอนนี้ได้ แต่ความไม่สบายใจของไลต์นิ่งยังคงไม่จางหายไป เธอมักจะรู้สึกว่าการโจมตีที่เตรียมตัวมาเป็นเวลานานของปีสาจไม่มีทางที่จะจบลงง่ายๆ แบบนี้แน่

ในขณะที่เธอกำลังสงสัย จู่ๆ พระผู้สร้างก็ค่อยๆ หมุนขึ้นมา

เสาหินสูงใหญ่แท่งหนึ่งเล็งไปทางแนวยิงปืนใหญ่

ไลต์นิ่งใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที ในที่สุดสิ่งที่เธอกังวลก็มาถึงแล้ว อาศัยเพียงแค่ปืนใหญ่ไม่กี่กระบอกกับซีกัลนั้นไม่มีทางที่จะหยุดหยั้งการยิงของศัตรูได้ ส่วนอัศวินอากาศก็ยังคงสู้กับอสูรสยองอยู่ ช้าเร็วแนวยิงปืนใหญ่ก็จะต้องถูกเสาหินโจมตีใส่อย่างแน่นอน

“เมซี่ เจ้าจัดการเรื่องการสอดแนมต่อด้วยนะ” เธอกัดฟัน

“จิ๊บ?”

ไลต์นิ่งไม่อธิบาย เธอโยนนกพิราบที่อยู่บนหัวขึ้นไป จากนั้นจึงพุ่งตัวบินลงไปแล้วเร่งความเร็วไปจนถึงความเร็วเสียง — ทีมทหารที่อยู่บนพื้นไม่ได้พกรูนสดับเอาไว้ คนที่จะไปแจ้งข่าวพวกเขาได้ทันเวลามีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น!

ระยะพันกว่าเมตรมาถึงในพริบตา ส่วนอีกด้านหนึ่ง เสาหินขนาดใหญ่เองก็ส่องแสงลอยขึ้นไปบนฟ้า!

“ทุกคน —- รีบหาที่ซ่อนตัว!” ไลตืนิ่งตะโกนอยู่ด้านบนแนวยิงจนสุดเสียง “ศัตรูมันสังเกตเห็นที่นี่แล้ว เสาหินจะยิงมาถึงแล้ว รีบหาที่ซ่อนตัวเร็ว!”

“ขอรับ คุณหนูไลต์นิ่ง…” แคทคลอว์รีบเป่านกหวีด “ทุกคน รีบหนีออกไปจากตรงนี้! นี่คือคำสั่ง รีบหนีออกไปจากตรงนี้!”

เหล่าทหารที่ได้รับคำสั่งพากันหมุนตัวแล้วใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดวิ่งไปยังบังเกอร์ และในเวลานี้เงาของเสาหินก็ได้ปรากฏขึ้นตรงกลางแนวยิงแล้ว

กระทั่งทุกคนวิ่งหนีออกไปจนดหมดแล้ว แคทคลอว์ถึงจะวิ่งไปยังที่ซ่อนตัว ในขณะเดียวกัน เสาหินส่องแสงสีน้ำเงินก็กระแทกตกลงมาตรงกลางแนวยิงปืนใหญ่ป้อม! แรงกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ภูเขาสั่นสะเทือนขึ้นมา ปืนใหญ่ที่ถูกกระแทกกลายเป็นเศษชิ้นส่วนกระเด็นกระจัดกระจาย

เพียงแต่ครั้งนี้เสาหินไม่ได้กลิ้งกระเด็นไปบนพื้นเหมือนก่อนหน้านี้ หากแต่กระแทกจนพื้นเป็นรอยแตกขนาดใหญ่ขึ้นมา — นั่นเกิดจากการที่หลุมเพลาะและบังเกอร์ใต้ดินบางส่วนพังทลายลงมา

“แค่กๆ…” แคทคลอว์ส่งเสียงไอพร้อมกับปีนขึ้นมาจากกองหิมะ ความรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงที่ส่งผ่านจากพื้นแล้วกระจายไปทั่วทั้งร่างกายนั้นย่อมไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีซักเท่าไร มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่เขารู้สึกเหมือนอวัยวะข้างในร่างกายมันเคลื่อนออกจากที่ แต่ที่โชคดีก็คือนอกจากเท้าทั้งสองข้างที่ยังคงสั่นอยู่ ร่างกายของเขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

“ถ่ายทอดคำสั่งข้าออกไป!” แคทคลอว์ดึงตัวทหารคนหนึ่งมาสั่งกำชับ “นับจำนวนผู้บาดเจ็บ จากนั้นถอยไปจากที่นี่ตามแผนที่วางไว้”

“รับทราบ หัวหน้าหน่วย!”

“โพเมโล่ เจ้าอยู่ไหน? แค่กๆ …. ได้ยินแล้วตอบด้วย!” เขาเงยหน้าตะโกน แต่หูของเขากลับได้ยินเสียงปืนดังสนั่นขึ้นมา

เกิดอะไรขึ้น?

หรือว่าศัตรูบุกขึ้นมาบนเขาแล้ว?

ยังไม่ทันที่แคทคลอว์จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เสียงเตือนของไลต์นิ่งพลันดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ระวัง ในเสาหินมีปีศาจซ่อนตัวอยู่! นั่นต่างหากถึงจะเป็นการโจมตีที่แท้จริงของศัตรู!”

ปีศาจ…ซ่อนอยู่?

แคทคลอว์รีบหยิบปืนออกมาจากข้างหลังพร้อมปลดล็อก ก่อนจะวิ่งไปยังจุดถอยที่กำหนดเอาไว้ —- ส่วนใหญ่ทหารหน่วยปืนใหญ่จะอยู่ด้านหลังของแนวป้องกัน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ค่อยได้พกอาวุธปืนติดตัวซักเท่าไร แต่เนื่องจากภารกิจโจมตีระยะใกล้ครั้งนี้มีความเสียงอย่างมาก ทหารทุกคนไม่เพียงแต่จะพกอาวุธปืนติดตัว แต่ทางกองทัพยังส่งทหารจากกองพันปืนมาช่วยคุ้มครองด้วย

เห็นได้ชัดว่าคนที่ทำการตอบโต้ออกมาคนแรกนั้นคือทหารจากกองพันปืนที่มีประสบการณ์โชกโชนพวกนั้น

กระทั่วหมอกควันค่อยๆ จางหายไป แคทคลอว์ถึงได้เห็นหน่วยปืนกลหลายหน่วยได้ใช้ปืนกลยิงปิดตายพื้นที่ตั้งแต่ช่วงทางลงเขาจนถึงกึ่งกลางแนวยิงเอาไว้

ส่วนศัตรูนั้นคือปีศาจแมงมุมขนาดเล็กที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

พวกมันคลานออกมาจากเสาหินที่เปิดออก ก่อนจะวิ่งฝ่าห่ากระสุนเข้ามา — ปีศาจแมงมุมชนิดนี้สูงแค่ครึ่งตัวคนเท่านั้น รูปร่างของมันเหมือนกับปีศาจแมงมุมเกราะที่เคยเจอตรงอ่าวนอร์ทเธิร์นโมสต์ ส่วนหัวกับขาหน้าของมันมีแผ่นหินสีดำหนๆ ป้องกันเอาไว้อยู่ ต่อให้ถูกกระสุนยิงเข้าไปจังๆ นัดสองนัดก็ไม่เป็นอะไร การเคลื่อนไหวของมันยังคงดูคล่องแคล่วอยู่

นอกจากนี้มันยังสามารถพ่นเข็มหินออกมาโจมตีระยะไกลได้เหมือนกับปีศาจแมงมุมธรรมดา เพียงแต่ก่อนที่มันจะยิง มันจำเป็นต้องเปิดเกราะส่วนหัวออก นี่ทำให้เหล่าทหารมีโอกาสในการโจมตีมันเหมือนกัน

แคทคลอว์มารวมตัวกับหน่วยปืนกลและร่วมกันยิงสกัดปีศาจแมงมุมเอาไว้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าในเสาหินมีสัตวประหลาดแบบนี้ซ่อนตัวอยู่กี่ตัว แต่เส้นทางลงเขาเส้นนี้คือทางออกเพียงหนึ่งเดียวในแผนการ เพื่อนทหารคนอื่นที่ยังเคลื่อนไหวได้จะต้องมารวมตัวกันที่นี่อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือรอให้กองหนุนมาช่วยก็ล้วนแต่จำเป็นต้องรักษาเส้นทางนี้เอาไว้

“ระวังลำกล้องปืนของพวกเจ้า อย่าเหนี่ยวไกปืนค้างเอาไว้!”

“กระสุน ตรงนี้ต้องการกระสุน!”

“กระสุนระเบิดต่อต้านปืนใหญ่ระวัง — ยิงได้!”

เสียงตะโกนและเสียงปืนกลดังสลับขึ้นมารอบบริเวณ บนแนวรบมีปีศาจแมงมุมอยู่หลายตัวที่หยุดเคลื่อนไหว

แคทคลอว์กราดยิงจนกระสุนหมดคลิปก่อนจะเปลี่ยนกระสุนคลิปใหม่ เขาสังเกตเห็นว่าถึงแม้อสูรยักษ์แมงมุมกลุ่มนี้จะทนกระสุนมากกว่าปีศาจคุ้มคลั่ง แต่พวกมันก็ยังบุกเข้ามาได้อย่างยากลำบากเมื่ออยู่ต่อหน้าห่ากระสุนที่กระหน่ำยิงเข้าไป เกราะหินสีดำบนร่างกายของมันไม่สามารถทนต่อกระสุนที่ยิงเข้าไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางพายุกระสุนนี้ เกราะของมันเกิดการร้าวและปริแตกออกอย่างรวดเร็ว ถ้ายิงนัดหนึ่งไม่พอ อย่างนั้นก็ยิงสิบนัด ร้อยนัก สำหรับทีมโจมตีที่เตรียมอาวุธและกระสุนมาพร้อม นี่ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรเลย

ยิ่งไปกว่านั้นการกระหน่ำยิงเข้าไปเหมือนพายุยังเป็นการสกัดความสามารถในการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายได้อย่างดี การป้องกันหลักๆ ของปีศาจแมงมุมขนาดเล็กนั้นอยู่ที่ส่วนหัวและขาหน้าของร่างกาย เวลาที่วิ่งเร็วๆ จะทำให้ร่างกายในส่วนที่ไม่มีเกราะป้องกันเปิดเผยออกมา ด้วยเหตุนี้เวลาที่พวกมันเจอกับม่านกระสุน พวกมันจึงได้แต่ต้องค่อยๆ ขยับไปข้างหน้า และนี่ก็ทำให้กระสุนระเบิดต่อต้านปีศาจได้มีโอกาสยิง

หลังรู้ถึงลักษณะเด่นและหลักการเคลื่อนไหวของศัตรูแล้ว การใช้ปืนกลยิงสกัดกาเคลื่อนไหวของศัตรูเอาไว้ แล้วค่อยใช้กระสุนระเบิดสังหารมันจึงกลายเป็นวิธีการสู้รบที่ช่วยประหยัดแรงและกระสุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของปีศาจแมงมุมพวกนี้นั้นอยู่ที่ด้านหลังของพวกมัน

พวกเขาเห็นหญิงสาวผมสั้นสีทองคนหนึ่งพุ่งลงมาจากบนฟ้าแล้วโฉบผ่านหัวของศัตรูไปเหมือนวิญญาณ สองมือของเธอถือปืนกระหน่ำยิงไปที่ปีศาจแมงมุม น่าจะเพื่อทำให้ตัวเองสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ปีศาจแมงมุมที่อยู่ด้านหลังจึงแทบจะไม่ได้ทำการป้องกันเลย ต่อให้เป็นกระสุนปืนพกก็สามารถฉีกเนื้อของมันได้สบายๆ ไม่ต่างอะไรกับปีศาจคลุ้มคลั่ง ร่างกายและเส้นประสาทของพวกมันถูกยิงจนเละเหมือนแป้งเปียกเหนียวๆ

ทุกครั้งที่เธอลงมือ ในแนวป้องกันจะมีเสียงเฮแสดงความดีใจดังระเบิดขึ้นมา

ทุกคนคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วแบบนี้เป็นอย่างดี

นี่คือคุณหนูไลต์นิ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจ!

……………………………………………………………………………..