เฉินโม่ละสายตาจากหูหยางหยู่ที่เฝ้ามองด้วยความเย็นชา ท่าทางของหูหยางหยู่สงบเยือกเย็นมาก แล้วก็มีความแปลกประกายผ่านดางตาของเฉินโม่
“โอเค!” เฉินโม่พยักหน้า และกล่าวทันทีว่า “คุณเป็นนักบู๊ ทำไมต้องอวดพลังอำนาจของตนต่อหน้านักเรียนธรรมดาเหล่านี้ด้วย?”
หลิ่วจื่อเฉิงถูกดึงดูดทันที เขามองเฉินโม่ด้วยความสนใจ มองสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า “เจ้าหนู ผมไม่ได้สังเกตเห็นความผันผวนของชี่แท้ในร่างกายของคุณ บอกมาสิว่าคุณรู้ว่าผมเป็นนักบู๊ได้อย่างไร?”
เมื่อเห็นหลิ่วจื่อเฉิงพูด ฮู่เชียนเสวี่นก็โบกมือทันทีและกล่าวว่า “หยุดก่อน!”
ชายหนุ่มสวมชุดดำเหล่านั้นหยุดทันที ส่วนนักเรียนเหล่านั้นตกใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา มองเฉินโม่ด้วยความตกใจและสงสัย
เฉินโม่มองหลิ่วจื่อเฉิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่ใช่ว่าร่างกายของผมไม่มีชี่แท้ผันผวน แต่พลังของคุณมันอ่อนแอเกินกว่าจะสัมผัสได้”
หลิ่วจื่อเฉิงหน้าบึ้ง รอยยิ้มจางหายไปทันที “เจ้าหนู คุณกล้าดูถูกผม!”
ฮู่เชียนเสวี่นขมวดคิ้ว มองเฉินโม่ราวกับกำลังมองคนที่ตายไปแล้ว
พี่หาวสังเกตคนจากสีหน้าและคำพูด และเมื่อเขาเห็นว่าหลิ่วจื่อเฉิงโกรธ เขาก็ตะโกนใส่เฉินโม่ทันที “แกเป็นนักเรียน จะไปรู้อะไร! นึกไม่ถึงว่าแกจะกล้าดูถูกคุณชายหลิ่ว แกเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่ไหม?”
เฉินโม่ไม่สนใจพี่หาว มองหลิ่วจื่อเฉิงด้วยสีหน้าราบเรียบ “ถ้าคุณไม่เชื่อ พวกเรามาประลองกัน ถ้าผมชนะ คุณก็ปล่อยพวกเขาไป คุณคิดว่าไง?”
หลิ่วจื่อเฉิงมองเฉินโม่ และกล่าวเยาะเย้ย “แล้วถ้าคุณแพ้ล่ะ?”
“ผมไม่แพ้หรอก” น้ำเสียงของเฉินโม่ราบเรียบ ราวกับว่าเขากำลังอธิบายข้อเท็จจริง ซึ่งท่าทางนั้นทำให้คนอื่นอยากจะต่อยเขามาก
หลิ่วจื่อเฉิงหัวเราะเสียงดังสักพัก แล้วเขาก็หยุดหัวเราะทันที “ดี จองหองมาก นึกไม่ถึงว่าสถานที่เล็ก ๆ อย่างอำเภอเฟิ่งซาน จะมีคนที่กล้าหาญแบบนี้ ผมยอมรับคำท้าของคุณ!”
“ที่นี่เล็กเกินไป พวกเราออกไปหาสถานที่ใหญ่กว่านี้เถอะ” หลิ่วจื่อเฉิงกล่าว
เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก เพราะจัดการคุณแค่กระบวนท่าเดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าผมใช้สองกระบวนท่า ก็ถือว่าผมเป็นฝ่ายแพ้!”
“จองหอง!” ฮู่เชียนเสวี่นคำรามด้วยความเย็นชา
เจตนาฆ่าประกายอยู่ในดวงตาของหลิ่วจื่อเฉิง และกล่าวเยาะเย้ย “โอเค โอเค โอเค งั้นผมจะคอยดูว่าคุณมีคุณสมบัติอะไรที่จะพูดแบบนั้น!”
ก่อนที่จะพูดจบ ร่างของหลิ่วจื่อเฉิงก็หายไปแล้ว แล้วเขาก็ปล่อยหมัดไปที่เฉินโม่
หมัดที่ทรงพลัง ทำให้นักเรียนธรรมดาที่อยู่รอบ ๆ เหล่านั้นรู้สึกหวาดกลัวมาก
“นี่…นี่เป็นซูเปอร์แมนเหรอ?” นักเรียนบางคนมองหลิ่วจื่อเฉิงด้วยความหวาดกลัวและตะโกนเสียงดัง
“ไม่รู้ว่าเฉินโม่จะเป็นอันตรายไหม?”
“พูดยาก ฉันคิดว่าแค่คุณชายหลิ่วคนเดียว ก็สามารถเอาชนะทุกคนที่อยู่ในห้องนี้แล้ว แล้วเฉินโม่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร?”
“แล้วทำไมเมื่อสักครู่เฉินโม่ยังพูดจาโอ้อวดอีก? นี่มันเป็นการรนหาความตาย?”
“เดาว่าเพื่อทำให้คุณชายหลิ่วตกใจ เพื่อจะช่วยพวกเรา! เฮ้อ แต่น่าเสียดาย ตอนนี้ไม่สามารถช่วยพวกเราได้ แล้วยังทำให้ตนเองเดือดร้อนอีกด้วย!”
เมื่อได้ยินเพื่อนนักเรียนวิพากษ์วิจารณ์ จางจื่อเจี้ยนมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “เจ้าหมอนี้ ชอบทำตัวเด่น คราวนี้ฉันจะคอยดูว่านายจะตายยังไง!”
ในบรรดาเพื่อนนักเรียนทั้งหมด ท่าทางของหูหยางหยู่สงบที่สุด เธอยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างเงียบ ๆ เมินเฉยกับหมัดที่ทรงพลังของหลิ่วจื่อเฉิง แต่กลับจ้องมองเฉินโม่อยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อเฉินโม่เห็นหลิ่วจื่อเฉิงปล่อยหมัดออกมา เฉินโม่โบกมือเบา ๆ เหมือนไล่แมลงวัน
หลิ่วจื่อเฉิงส่งเสียงคราง แล้วถูกกระแทกจนกระเด็นกลับหัวออกไป
นักเรียนทุกคนตกตะลึง มองเฉินโม่ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นี่….ฉันไม่ได้มองผิดใช่ไหม! เฉินโม่ชนะแล้วจริง ๆ!”
“โอ้สวรรค์ นึกไม่ถึงว่าเฉินโม่จะเก่งขนาดนี้ เขาเป็นซูเปอร์แมนที่ซ่อนตัวอยู่ข้างกายพวกเราหรือเปล่า? จริงสิ คลิปวิดีโอข้ามทัณฑ์คราวที่แล้วเป็นเขาหรือเปล่า?”
นักเรียนต่างตกใจกับการพลังที่เฉินโม่แสดงออกมา และเริ่มคิดฟุ้งซ่าน