บทที่ 2799 (1) หากว่าอาจารย์ตายล่ะ?
เมื่อกู้ซีจิ่วเห็นสภาพของเขาก็โกรธขึ้นมาทันที “ทำไมถึงถึงมีสภาพจนตรอกขนาดนี้?!”
ฟั่นเชียนซื่อที่เสื้อผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดสะอ้านสง่างามอยู่เสมอดูทรุดโทรมตกอับยิ่งนักอยู่บ้าง อาภรณ์ยับยู่ยี่ ช่วงเอวยังโหว่เป็นรูด้วย เส้นผมค่อนข้างสังกะตัง คล้ายจะไม่ได้สระมานานมากแล้ว สีหน้าซีดขาว ตัวคนผ่ายผอมลงหนึ่งรอบตัว
เพียงแต่ถึงอย่างไรเขาก็มีหน้าตาหล่อเหลางดงาม ถึงแต่งตัวแบบนี้ก็ยังมีความงามในแบบคนตกยากอยู่ดี
กู้ซีจิ่วไม่ได้สนใจความงดงามของลูกศิษย์ มองเห็นเพียงสภาพตกอับของลูกศิษย์เท่านั้น
ฟั่นเชียนซื่อคล้ายจะเพิ่งสังเกตเห็นว่ารูปลักษณ์ของตนไม่ถูกต้อง ชะงักลงในทันใด แล้วทำความเคารพกู้ซีจิ่วทันที “อาจารย์ ประเดี๋ยวศิษย์มานะขอรับ” แล้วหันหลังวิ่งไปเลย
กู้ซีจิ่วนิ่งงันอยู่ที่เดิม
ฟั่นเชียนซื่อวิ่งไปอย่างรวดเร็วและกลับมาอย่างรวดเร็วด้วย เพียงแต่ตอนที่เขากลับมาได้ชำระสะสางใหม่แล้ว กลับเป็นชายรูปงามที่อาภรณ์แผ่พลิ้วอีกครั้ง
“อาจารย์ ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว! ปล่อยให้ศิษย์ตามหาอยู่เสียนาน!” ฟั่นเชียนซื่อมีท่าทางโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด สายตาร่อนลงบนร่างกู้ซีจิ่วอย่างโหยหา เขาก้าวเข้ามา คล้ายจะทำสิ่งใด ทว่าในที่สุดก็สะกดเอาไว้ “ช่วงที่ผ่านมาอาจารย์ไปอยู่ที่ไหนขอรับ? คนของหกภพภูมิตามหาท่านอย่างบ้าคลั่ง ศิษย์หลงนึกว่าอาจารย์จะประสบเหตุอันใดไปเสียแล้ว ช่วงที่ผ่านมาออกตามหาอยู่ตลอดเลย…”
“คนของหกภพภูมิตามหาข้า? ตามหาข้าทำไม?” กู้ซีจิ่วฉงนอยู่บ้าง
ลูกศิษย์ออกตามหานั้นเธอไม่แปลกใจเลย ถึงอย่างไรเธอก็หายหน้าหายตาจากศิษย์ไปนานๆ เช่นนี้น้อยยิ่งนัก
แต่ปกติแล้วเธอปรากฏตัวในหกภพภูมิน้อยยิ่ง ช่วงหลายปีมานี้โอกาสที่พวกเขาจะได้เห็นตัวตนของเธอนั้นแทบนับนิ้วได้เลย เธอหายตัวไปแค่เดือนเดียว ว่ากันตามเหตุผลแล้วพวกเขาต้องไม่ทราบเลยถึงจะถูก…
“อาจารย์ ช่วงหนึ่งเดือนก่อน จู่ๆ ราชันปีศาจก็มาเยี่ยมเยือน บอกว่าล่วงเกินอันใดท่านเข้า ต้องการพบท่านให้ได้ ตอนนั้นศิษย์กำลังอยู่ในช่วงสำนึกตนพอดี เชียนเหยียนจึงขวางเขาไว้ บอกเขาว่าท่านไม่อยู่บ้าน กล่อมให้เขามาใหม่วันหลัง เขากลับบอกว่ามีเรื่องเร่งด่วน ต่อให้ไม่อาจพบหน้าท่านได้ ก็ต้องติดต่อให้ได้ก่อน เชียนเหยียนทำไม่ได้ จึงเข้ามาถามข้า ข้าก็เกรงว่าเขาจะมีการใดที่ไม่อาจล่าช้าได้จริงๆ ดังนั้นจึงลองติดต่อหาอาจารย์ดู ทว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ติดต่อท่านไม่ได้เลย อับจนหนทาง เชียนเหยียนจึงไปรายงานต่อเขา…เขาถึงได้จากไป คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ยอมจบ วันต่อมา ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมาพร้อมกับจักรพรรดิเซียน ไม่พูดพร่ำทำเพลงอันใดก็บุกเข้ามาเลย! รื้อค้นหุบเขาเสียงสวรรค์ของพวกเราจนแทบพลิกฟ้าพลิกดิน ไม่ปล่อยผ่านเลยสักซอกมุม ข้ากับเชียนเหยียนต้านไม่อยู่เลย พวกเขาไม่พบเห็นอาจารย์ ก็พูดปาวๆ แล้วว่าศิษย์กับเชียนเหยียนมีจิตคิดไม่ซื่อ เกรงว่าจะปองร้ายต่อเทพผู้สร้างโลก ต้องการจับกุมพวกเรา พวกเขาจับตัวเชียนเหยียนไป กำหนดเวลาให้ข้าหนึ่งเดือน หากว่าไม่อาจหาอาจารย์ให้พบตามระยะเวลาที่กำหนดได้ พวกเขาจะประหารเชียนเหยียน เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง เรื่องนี้สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วหกภพภูมิ ผู้นำของหกภพภูมิล้วนส่งคนออกไปเสาะหาตัวอาจารย์…”
กู้ซีจิ่วกำมือแน่น
นี่เป็นการเอาคืน!
เอาคืนที่เธอทำให้น้องสาวของเขาต้องถูกประหาร…
วันนั้นราชันปีศาจนึกสงสัยในวรยุทธ์ของเธอจริงๆ คิดจะลงมือเพื่อหยั่งเชิง ทว่าถูกพสกนิการชาวมารที่ตี้ฝูอีดึงดูดมาขัดคอเข้า
หลังจากราชันปีศาจจากไป ตี้ฝูอีก็รีบร้อนพาเธอจากไปด้วย…
คาดว่าต่อมาราชันปีศาจคงกลับมาตามหาเธออีกครั้ง ผลคือค้นหาทั่วภพมารแล้วก็ไม่พบตัวเธอเลย เขาไม่ยอมแพ้ จึงแล่นไปที่หุบเขาเสียงสวรรค์เพื่อสืบหาเส้นสนกลใน
————————————————————————————-
บทที่ 2799 (2) หากว่าอาจารย์ตายล่ะ?
พอเห็นว่าเธอไม่อยู่ ก็ฉวยโอกาสเอาตัวสาวใช้ของเธอมาบีบคั้น
“เชียนเหยียนถูกขังไว้ที่ไหน? ช่วงที่ผ่านมาเจ้าได้ไปสืบข่าวที่ภพมารบ้างไหม?”
ฟั่นเชียนซื่อชะงักไปแวบหนึ่ง “ช่วงที่ผ่านมาศิษย์พยายามตามหาอาจารย์อยู่ตลอด…”
กล่าวอีกนัยคือ เขาไม่ได้ไปสืบข่าวที่อยู่ของอูเชียนเหยียนเลย ไม่สนใจความเป็นความตายของนาง
อูเชียนเหยียนกับเขาเติบโตมาด้วยกัน แทบนับได้ว่าเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ และอูเชียนเหยียนก็นับถือเชื่อฟังเขา ตามหลังเขาอยู่ต้อยๆ ราวกับหางน้อยๆ ก็มิปาน
ถึงขั้นที่เคยเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อเขาอยู่หลายหน ความรู้สึกน่าจะนับว่าลึกล้ำแล้วเช่นกัน ตอนนี้อูเชียนเหยียนเป็นตายไม่ทราบชัด ทว่าฟั่นเชียนซื่อกลับคล้ายจะไม่เก็บมาใส่ใจเลย
กู้ซีจิ่วเหลือบมองฟั่นเชียนซื่อแวบหนึ่งอย่างเหลืออด เด็กคนนี้จะใจดำเกินไปหน่อยแล้วกระมัง…
อย่างไรก็ตาม หากว่าภายหน้าเขาต้องสืบทอดตำแหน่งเทพผู้สร้างโลก ก็ไม่อาจมีความรู้สึกส่วนตัวได้จริงๆ เลี่ยงไม่ให้ละทิ้งส่วนรวมเป็นประโยชน์ส่วนตน การที่เขาเป็นเช่นนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องดีกระมัง?
กู้ซีจิ่วลอบส่ายหน้า โยนคำถามนี้ไว้ด้านข้างก่อนชั่วคราว
เธอคำนวณเวลาดูแล้ว ยังเหลืออีกสองวันกว่าจะถึงกำหนดเวลาของราชันมาร เธอจึงสั่งการให้ฟั่นเชียนซื่อไปสืบข่าวที่อยู่ของอูเชียนเหยียนในภพมารก่อน แล้วเธอจะตามไปทีหลัง
ฟั่นเชียนซื่อหลุบตาลงเล็กน้อย เงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ซวนเซ โผเข้าใส่ร่างของกู้ซีจิ่ว
กู้ซีจิ่วพยุงเขาไว้ทันที “เป็นอะไรไป?”
ครึ่งร่างของฟั่นเชียนซื่อแทบจะพาดอยู่บนไหล่ของกู้ซีจิ่วแล้ว มีเหงื่อซึมออกมาจากหน้าผาก “ศิษย์…ศิษย์อ่อนแรงอยู่บ้าง…”
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วแล้วจับชีพจรให้เขาเล็กน้อย พบว่าชีพจรของเขาอ่อนแออย่างยิ่ง เป็นสัญญาณของการพักผ่อนไม่เพียงพอและตรากตรำเกินไป
“เจ้าไม่ได้พักผ่อนมากี่วันแล้ว?” กู้ซีจิ่วถามเขา
“นับตั้งแต่อาจารย์หายตัวไป ศิษย์ก็ไม่ได้พักเลย…เพียงแต่อาจารย์วางใจเถิดขอรับ ศิษย์ยืนหยัดไหว ประเดี๋ยวศิษย์จะไปสืบหาที่อยู่ของเชียนเหยียนที่ภพมารดู” เขาฝืนหยัดร่างขึ้นหมายจะก้าวเดิน ผลคือเหงื่อซึมออกมามากกว่าเดิม ร่างกายส่ายโอนเอนอย่างต่อเนื่อง
แววตากู้ซีจิ่ววูบไหวนิดๆ มองเขาก้าวออกไปไกลเรื่อยๆ จู่ๆ เอ่ยขึ้น “หยุดก่อน”
ฟั่นเชียนซื่อหันกลับมาทันที สายตาที่มองเธอทอประกายนิดๆ “อาจารย์มีธุระอันใดจะสั่งการอีกหรือขอรับ?”
กู้ซีจิ่วไม่สบตาเขา แต่โยนขวดโอสถใบหนึ่งให้เขา “กินสิ่งนี้สองเม็ด สามารถชดเชยความอ่อนล้าของเจ้าได้ เอาล่ะ ไปได้แล้ว”
ฟั่นเชียนซื่อมองขวดโอสถในมือ ประกายที่เพิ่งลุกวาบขึ้นมาในดวงตาหม่นหมองลงไป “ขอรับ ขอบพระคุณอาจารย์” หนนี้หันหลังจากไปจริงๆ
กู้ซีจิ่วมองเงาหลังของเขาหายลับไป เม้มริมฝีปากนิดๆ
เธอย่อมทราบถึงจิตใจของฟั่นเชียนซื่อ อันที่จริงเขาไม่อยากแยกกับเธอ ยังต้องการรั้งอยู่ข้างกายเธอ
แต่ว่า ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งไม่อาจให้เขาอยู่ใกล้ตัวเธอได้อีก…
….
กู้ซีจิ่วก็ไม่ชักช้าเช่นกัน กลับไปที่หุบเขาเสียงสวรรค์ก่อน สำรวจดูภายในหุบเขารอบหนึ่ง
ราชันปีศาจรื้อค้นที่นี่อย่างสมบูรณ์แบบยิ่ง ของวิเศษและสมุนไพรที่ศิษย์ของเธอก็ไม่รู้จัก สูญหายไปมากมายนัก
เคราะห์ดีว่าสมุนไพรอันล้ำค่าเป็นที่สุดเหล่านั้นล้วนถูกเธอใส่ไว้ในมิติเก็บของ มิเช่นนั้นเกรงว่าครั้งนี้คงต้องถูกกวาดปล้นไปจนเกลี้ยงแล้ว!
เธอยื่นมือออกไปแล้วมองดูมือตน มุมปากหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเยียบเย็น พลังยุทธ์ฟื้นฟูกลับมาสองส่วนแล้ว บางทีอาจต้องสั่งสอนราชันปีศาจเสียว่าควรประพฤติตนเยี่ยงไร!
————————————————————————————-