ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 628 สังหารจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอลดฝ่ามือลง ส่วนหยางจ้าวหงยันสองมือขึ้น สุดท้ายต้านฝ่ามือของชายหนุ่มไว้ได้ โชคดีที่ไม่ถูกสังหารในหนึ่งฝ่ามือ!

แต่ระหว่างดันฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ กระดูกทั่วร่างหยางจ้าวหงเกิดเสียงดังกรอบแกรบ!

คล้ายกับมีเส้นเอ็นจำนวนนับไม่ถ้วนแตกสลายพร้อมกัน

จุดลมปราณทั่วทั้งร่างของหยางจ้าวหงกำลังสั่นสะเทือน มีเปลวเพลิงสีเขียวน่าสะพรึงหลายสายพ่นออกมาจากในจุดลมปราณ

ทว่าแสงไฟสีเขียวเพิ่งสว่างขึ้นได้ไม่ทันไร ก็ดับลงในชั่วพริบตาเดียว

ท่ามกลางเสียงระเบิด หยางจ้าวหงตัวเตี้ยลงครึ่งส่วน เยี่ยนจ้าวเกอพลิกฝ่ามือ กดดันจนแม่ทัพหลวนเซียงเข่าอ่อน เกือบจะต้องคุกเข่าลง!

เขาส่งเสียงคำราม พละกำลังอันน่ากลัวของร่างกายระเบิดออกมา คิดจะลุกขึ้นยืน

แต่ว่าแรงกดดันด้านบนกลับกดให้ร่างของเขาลดต่ำกว่าเดิม กระดูกทั่วร่างบิดเบี้ยวไปพร้อมกัน

หยางจ้าวหงคิดฝืนยืน แต่กลับยืดตัวไม่ขึ้น ถ้าหากจะฝืนลุกให้ได้ สุดท้ายจะถูกบดขยี้กระดูกจนแหลกละเอียด

เยี่ยนจ้าวเกอใช้ฝ่ามือกดหยางจ้าวหัวไว้ เมื่อมองเห็นสีหน้าที่กลายเป็นสีแดงของหยางจ้าวหง เขาก็หัวเราะพลางยกอีกมือหนึ่งขึ้น

ท่ามกลางสายตาอันสิ้นหวังของหยางจ้าวหัว สองมือของเยี่ยนจ้าวเกอใช้รอยตราพลิกนภาพร้อมกัน ฟาดลงใส่ศีรษะของเขา

เสียงตูมดังขึ้น ในร่างของหยางจ้าวหงมีเสียงระเบิดดังมา!

จากนั้นก็เป็นเสียงระเบิดของกระดูกและเส้นเอ็นที่ดังขึ้นต่อเนื่อง เนิ่นนานไม่ขาดหู

หยางจ้าวหงอ้าปาก ทว่าไม่มีเสียงใดๆ ลอดออกมา กลับกระอักเลือดมากมายออกมาแทน

เลือดทั้งตัวของเขายามนี้เหมือนกับถูกบีบเค้น ซึมไหลออกมาจากด้านในรูขุมขนทุกรู ย้อมตัวเขาให้เหมือนกับมนุษย์เลือดก็ไม่ปาน

กระดูกทั่วร่างแหลกสลายนับไม่ถ้วน อวัยวะภายในล้วนกลายเป็นน้ำเลือด

เพลิงในศิลาสีเขียวสูญเสียการควบคุม ลุกไหม้ขึ้นในร่างกายของหยางจ้าวหง

ในวังฝูงมังกร เยี่ยนจ้าวเกอชักฝ่ามือกลับอย่างนิ่งเงียบ มองร่างกายของหยางจ้าวหงเบื้องหน้าระเบิดออกมา เพลิงโลหิตลอยว่อน

อีกด้านหนึ่ง เกราะเหมันต์ทระนงยังคงพัวพันหอกขนอีกาสังหาร ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่สนใจ ปล่อยให้พวกมันสู้กันอย่างพลิกฟ้าพลิกดินต่อ อย่างไรก็อยู่ในวังฝูงมังกร ต่อให้หอกขนอีกาสังหารมีความคิดเป็นของตัวเองแล้วคิดจะหนี ก็ยังหนีออกจากวังฝูงมังกรไม่ได้

เยี่ยนจ้าวเกอหมุนกายไปเปิดประตูวังฝูงมังกร เดินออกมาจากด้านใน ก้มมองคนในเมืองเหลาเฟิงด้านล่าง

คนในเมืองต่างเงยหน้ามองวังฝูงมังกรที่ยึดครองท้องฟ้าอยู่

ชายหนุ่มกับหยางจ้าวหงเข้าไปด้านใน สุดท้ายมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร ทุกคนล้วนให้ความสนใจอย่างยิ่ง

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หยางจ้าวหงจะถูกกดดันจนต้องหมุนตัวหนีตาย แต่ว่าความเลื่อมใสอย่างแน่วแน่ที่มีต่อจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ในใจของทุกคน ยังทำให้ทุกคนหวั่นวิตกอยู่ดี

แต่ว่าตอนที่เห็นเยี่ยนจ้าวเกอเปิดวังฝูงมังกรออกมาอย่างหน้าตาเฉย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนก็รู้ผลลัพธ์ของการต่อสู้ในครั้งนี้แล้ว

เยี่ยนจ้าวเกออาศัยพลังฝึกปรือระดับมหาปรมาจารย์ สังหารหยางจ้าวหง ‘เผิงอัคคี’ แม่ทัพราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแห่งเกาะหลวนเซียง ซึ่งเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ข้ามขั้น!

มหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมตรงหน้านี้ไม่เพียงแต่อายุน้อยอย่างน่าเหลือเชื่อ พลังฝึกปรือยังทะลุฟ้าทะลุดิน เหนือกว่าอัจฉริยะทั่วไป

เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ยังพอว่า คนอื่นๆ ในขณะนี้ ต่างอดเหม่อลอยไม่ได้

จางเชียนซงแห่งสำนักความมืด ตอนนี้เบิกสองตากว้าง มองเยี่ยนจ้าวเกอไม่วางตา พูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดถึงเรื่องที่พวกเติ้งเซินเสียชีวิต จางเชียนซงรู้สึกตกตะลึง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ไร้หลักฐานโดยสิ้นเชิง

กอปรกับในความเข้าใจของจางเชียนซง นั่นสมควรเป็นฝีมือของผู้อาวุโสในสำนักของเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่า

สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้าตน ในความคิดของจางเชียนซง อายุน้อยถึงเพียงนี้ก็กลายเป็นมหาปรมาจารย์ ถือเป็นอัจฉริยะมากความสามารถแล้ว

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าระดับพลังฝึกปรือของเยี่ยนจ้าวเกอ จะถึงขั้นบรรลุธรรม อันเป็นขั้นสูงสุดของของมหาปรมาจารย์ยุทธ์สิบขั้น

ยิ่งคาดไม่ถึงว่า ความแข็งแกร่งด้านพลังของเยี่ยนจ้าวเกอ จะสามารถฆ่าหยางจ้าวหงที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ได้

วิธีการขอวชายหนุ่มไม่ซับซ้อน แต่จางเชียนซงยังอ้าปากตาค้าง อึ้งเป็นเวลานาน

อายุเท่านี้ พลังฝึกปรือเช่นนี้ พลังระดับนี้ จางเชียนซงไม่คิดว่าทั่วทั้งทะเลหวงเจียจะมีคนอื่นทำได้อีก

ขุมกำลังต่างๆ อย่างสำนักความมืดของตน หรือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง และสำนักแสงสว่าง ในหมู่ผู้สืบทอดสายตรงที่โดดเด่นที่สุด ยังไม่มีมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมที่อายุไม่ถึงสามสิบปีเหมือนเขา

ตอนนี้หาไม่เจอ ต่อให้ตั้งใจนึกย้อนประวัติศาสตร์ของแต่ละพรรคแต่ละสำนัก อย่างน้อยจางเชียนซงก็ยังคิดถึงบุคคลที่น่าทึ่งเช่นนี้ไม่ออกอยู่ชั่วขณะ

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บวังฝูงมังกร ครั้นกลับมาถึงพื้น เขาก็มองจางเชียนซงด้วยรอยยิ้ม “หยางจ้าวหงนั่น ข้าได้ฆ่าไปแล้ว สำนักท่านไม่ว่าอะไรกระมัง? ไม่รู้ว่าสำนักท่านมีแผนการอะไรบนเกาะหลวนเซียงหรือไม่”

จางเชียนซงได้สติ เอ่ยอย่างแน่วแน่ “โจรเสวียนทุกคนสมควรตาย ท่านเยี่ยนสังหารเขาทิ้งได้ สำนักเราย่อมไม่มีความเห็นอื่น”

ขณะนี้เขารู้สึกตัวแล้ว สายตาที่มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกออดเปลี่ยนเป็นร้อนระอุอย่างไม่อาจควบคุม

ตอนนี้จางเชียนซงมีความคิดอย่างเร่งด่วนว่า สำนักของเขาจำเป็นต้องดึงเยี่ยนจ้าวเกอกับสำนักที่อยู่เบื้องหลังเขามาเป็นพวกให้ได้

ที่พักของตระกูลเว่ยเละเทะไปหมดแล้ว

คนในตระกูลเว่ยที่ก่อนหน้านี้ไม่อยากลงมือกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอและจางเชียนซง ยามนี้นั่งกันไม่ติด แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้พวกเขา ได้แต่เคลื่อนไหวอย่างกระอักกระอ่วน

เว่ยอวิ๋นชางผู้เป็นประมุขตระกูลเงียบงัน ในแววตาไม่เห็นประกายแม้แต่น้อย

แม้แต่เว่ยหลางที่ถูกจองจำก่อนหน้านี้ ครั้งนี้เมื่อถูกปล่อยออกมา ก็มองภาพตรงหน้าอย่างงงงันเหมือนรูปปั้น

“ท่านเยี่ยนว่า…” จางเชียนเซิงสังเกตสีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ ชายหนุ่มเพียงยักไหล่อย่างเฉยชา “สำนักท่านจัดการได้เลย ข้าไม่คิดจะลงมืออยู่แล้ว จนปัญญาที่มีคนมาหาที่ตายเอง”

พูดจบเยี่ยนจ้าวเกอก็กลับห้องพักอย่างสบายอารมณ์

จางเชียนซงมองเว่ยหลางสองพ่อลูก ก่อนจะถอนใจคำหนึ่ง

สำนักความมืดจะจัดการตระกูลเว่ยอย่างไร เยี่ยนจ้าวเกอไม่ใส่ใจจริงๆ

เทียบกันแล้ว สถานะของหยางจ้าวหงสำคัญกว่าพวกเขามาก แต่เยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ปราณีแม้แต่น้อย

ไม่ทันไร คนจากสำนักความมืดที่มารับจางเชียนซงก็มาถึง

สิ่งที่จางเชียนซงเล่าเป็นอย่างแรกในทันทีก็คือสถานการณ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ ครั้นคนในสำนักได้ฟัง ดวงตาพลันถลนออกมา ตกใจจนต้องอ้าปากค้าง

ทุกคนรีบร้อนแจ้งหวังเหวินหมิน ผู้นำระดับสูงสุดของสำนักความมืดที่เคลื่อนไหวอยู่ในเกาะหลวนเซียง เขาเป็นผู้อาวุโสยอดฝีมือในสำนักที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง ขั้นรวมรูประยะกลาง

หวังเหวินหมินกับหยางจ้าวหงเดิมทีคุมเชิงกันอยู่ ไม่กี่วันมานี้กำลังสงสัยถึงการหายไปของหยางจ้าวหง มิคาดตอนที่ได้รับข่าวของเขาอีกครั้ง กลับเป็นข่าวการตายของหยางจ้าวหง

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าเดิมคือเรื่องราวต่อมา ที่หยางจ้าวหงถึงกับถูกมหาปรมาจารย์คนหนึ่งใช้มือเปล่าสังหาร!

เรื่องนี้ทำให้หวังเหวินหมินสะดุ้งโหยง เขากับหยางจ้าวหงประมือกันมาหลายครั้ง ย่อมรู้ว่าหยางจ้าวหงมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางอย่างหอกขนอีกาสังหารอยู่ในมือ แม้ตัวหวังเหวินหมินเองจะไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ติดตัว แต่ต่อสู้มาหลายครั้งแล้วก็ยังไม่อาจล้มคู่ต่อสู้ผู้นี้ได้

สุดท้ายตอนนี้มีคนบอกเขาว่า หยางจ้าวหงถูกมหาปรมาจารย์คนหนึ่งฆ่าตายหรือ?

ปฏิกิริยาแรกของหวังเหวินหมินคือไม่เชื่อ

จากนั้นเมื่อได้ฟังว่าจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์คนนั้นมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งอยู่ในมือเช่นกัน เขาก็ถอนใจ พยักหน้าเล็กน้อย ‘ค่อยยังชั่ว…จะบ้าหรือ!’

ต่อให้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ปลดหอกขนอีกาสังหารของหยางจ้าวหงได้ แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างหยางจ้าวหงถูกมหาปรมาจารย์คนหนึ่งสังหารนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

แม้จะเป็นหวังเหวินหมินที่ผ่านคลื่นลมมรสุมมามากมาย ในวินาทีนั้น ห้วงสมองก็เกิดเสียงระเบิดดังติดต่อกัน