ตอนที่ 1400 เรื่องที่ทำ

Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ

ตอนที่ 1400 เรื่องที่ทำ โดย Ink Stone_Fantasy

‘ยังมีชีวิตอยู่เหรอ?’

ในหัวไซเลนท์ดิสเอสเตอร์มีเสียงเดอะแมสก์ดังขึ้นมา นั่นคือเสียงสะท้อนจิตสำนึกที่ส่งมาจากห่อคอยแห่งการให้กำเนิด

มันก้มหน้าลงมองดูเศษผ้าสีขาวในมือที่ดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ‘ข้าเคยบอกแล้วไง ถ้ายังฆ่ามนุษย์ไม่หมด ข้าไม่มีทางตายเด็ดขาด’

‘ดีมาก แต่อย่าลืมซะล่ะ คนที่ตัดสินแพ้ชนะในศึกนี้คือข้านาซเพล! ถ้าไม่มีร่างซิมไบออนท์ใหม่กับพระผู้สร้างล่ะก็ ต่อให้เพิ่มร่างระดับต้นเข้าไปอีก 2 – 3 พัน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก…’

‘ข้าไม่ปฏิเสธในเรื่องนี้’

‘…..’ น่าจะเป็นเพราะคิดไม่ถึงมันจะตอบออกมาง่ายๆ แบบนี้ อีกฝั่งจึงเงียบไปครู่หนึ่ง ‘เอาเป็นว่า ถ้าจักรพรรดิถามเกี่ยวกับศึกทางตะวันตกขึ้นมา ข้าก็หวังว่าเจ้าจะจำคำพูดที่ตัวเองพูดเอาไว้ได้ นอกจากนี้ เฮคซอดก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศึกนี้ ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เจ้าเห็นด้วยตาตัวเอง ถึงแม้มันจะมีเหตุผลของมัน แต่เรื่องความดีความชอบก็ควรจะแบ่งให้มันชัดเจนหน่อยจะดีกว่า’

‘ข้าเห็นด้วย’

‘…..’ อีกฝ่ายเงียบไปทันที ‘คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเข้าใจง่ายขนาดนี้ อย่างนั้นตรงที่ตั้งฝนเพลิงของพวกแมลงเถอะ เดี๋ยวข้าจะให้พระผู้สร้างไปรวมกับเจ้าที่นั่น’

‘เจ้าอยากจะเก็บเอาอาวุธของพวกมันได้ด้วยงั้นเหรอ?’

‘ถูกต้อง’ นาซเพลพูดอย่างภูมิใจ ‘มันเป็นทั้งหลักฐานของชัยชนะ แล้วก็เป็นของสะสมชั้นยอดบนเส้นทางค้นคว้าความลี้ลับของข้าด้วย’

…….

ในตอนที่ลอยขึ้นไปบนยอดเขา พระผู้สร้างก็ได้ปิดประตูด้านล่างลง พร้อมกับค่อนๆ เคลื่อนตัวลงไปด้านล่าง

ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์จำต้องยอมรับเลยว่าเดอะแมสก์นั้นเป็นราชาที่ไม่มีใครจะมาแทนที่ได้จริงๆ เมื่อยืนอยู่ด้างล่างแผ่นดินลอยฟ้าที่กว้างกว่าเทือกเขาสิ้นวิถี ไม่ว่าใครก็ต้องเกิดความรู้สึกเหมือนภูเขากำลังจะหล่นลงมาทับทั้งนั้น แต่ความจริงแล้วมันจะหยุดทันทีที่สัมผัสถูกพื้น เหมือนกับของหนาๆ ที่ทับลงมาบนไข่ไก่ แต่กลับไม่ทำให้ไข่แตกอย่างไรอย่างนั้น

หลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทรัพยากรต่างๆ หรือว่าส่งกำลังพลก็ล้วนแต่จะกลายเป็นเรื่องง่าย

ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้พระผู้สร้างไม่ลงมาแตะพื้น มันก็สามารถใช้แท่นลอยฟ้าที่สามารถลอยขึ้นลงได้มาใช้ในการ และระยะในแนวดิ่ง 100 เมตรนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ศัตรูทำได้แค่มอง นี่ไม่ใช่สิ่งที่คูน้ำรอบเมืองอย่างในอดีตจะมาเทียบได้เลย

เรียกได้ว่าถ้าอยากจะโจมตีพระผู้สร้างจากด้านนอกนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย

ในขณะที่รอรวมตัว ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์พลันได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบาๆ ดังมาจากใต้เท้า

พวกมนุษย์ทิ้งแนวรบตรงนี้ไปแล้ว ต่อให้ยังมีคนที่ยังหลงเหลืออยู่ ร่างซิมไบออนท์ก็น่าจะจัดการพวกเขาไปแล้ว

มันเดินตามเสียงไปจนถึงปากหลุมที่ยุบตัวลงไป

นั่นน่าจะหลุมหลบภัยที่อีกฝ่ายขุดเอาไว้ พอถูกลองสเปียร์กระแทกใส่ก็เลยยุบตัวลงไป ทำให้ทางลับใต้ดินกลายเป็นกรง เสียงเบาๆ ที่มันได้ยินน่าจะมาจากที่นี่

ถ้าไม่ทำอะไร ไม่ว่าคนที่ถูกขังอยู่ด้านล่างจะเป็นใครก็ต้องตายแน่นอน

แต่ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์กลับย่อตัวลงไป ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งเปิดเพดานที่ยุบตัวลงไปออก

มันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงทำแบบนี้ บางทีอาจเป็นเพราะอยากจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็เป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากความรู้สึกสนใจในตังคนเกรย์คาสเซิลของเดอะแมสก์เข้าแล้ว ไม่นานมันก็จัดการเปิดรูขนาดใหญ่พอที่คนๆ หนึ่งจะสอดตัวเข้าไปได้ตรงพื้นที่ยุบตัวลงไปขึ้นมารูหนึ่ง

ทางเดินลับไม่ยาวเท่าไร หลังเดินเลี้ยวไปสองครั้ง ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ก็เดินมาถึงสุดทางเดินแล้ว ขณะเดียวกันมันก็มองเห็นต้นกำเนิดเสียง ที่ปลายสุดของทางเดินเป็นห้องมืดๆ ที่ค่อนข้างกว้างห้องหนึ่ง ตรงปากประตูมีตะเกียงไฟแขวนเอาไว้ ภายใต้แสงไฟที่สลัว มนุษย์ตัวผู้คนหนึ่งกำลังนั่งเอาหลังพิงกำแพงพร้อมหอบหายใจ บนพื้นมีรอยเลือดที่เหมือนถูกลากไปลากมา

ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์สังเกตเห็นว่าขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายนั้นขาดจนเหลือเศษเนื้อและหลังอยู่ไม่เท่าไร น่าจะเป็นเพราะเขาถูกหลังคาที่ถล่มลงมาทับเอาไว้ จากนั้นจึงตัดขาตัวเองเพื่อหนีออกมา

แต่ว่าคนๆ น่าจะรู้ถึงโครงสร้างของอุโมงค์ลับนี้ดีนี่นา ต่อให้ตัดขาทั้งสองข้างทิ้ง เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะหนีออกไปจากที่นี่ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมเขายังต้องดิ้นรนแบบนี้อีก?

“น่าเสียดาย…” มนุษย์ตัวผู้เงยหน้าขึ้นมามองมัน “สุดท้ายคนที่มาก็เป็นปีศาจ”

“บอก ข้อมูลที่เจ้ารู้มา ไม่อย่างนั้น ความตายจะเป็นสิ่งเดียวที่เจ้าได้รับ” ไซเลนท์พูดเสียงแข็ง มันไม่เหมือนกับวัลคีรีย์ นับตั้งแต่ที่มีจิตสำนึกขึ้นมา เวลาส่วนใหญ่ของมันก็สู้อยู่กับอาณาจักรซีสกาย มันจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับภาษามนุษย์เท่าไร

แต่อีกฝ่ายกลับเหมือนไม่ได้ฟังที่มันพูดอย่างไรอย่างนั้น

“ก่อนหน้านี้ข้ากำลังคิดว่า…ถ้าคนที่มาเป็นเพื่อนก็คงจะดี แต่ถ้าเกิดคนที่มาเป็นปีศาจล่ะก็….อย่างนั้นก็เท่ากับข้านั่งรอความตายอยู่เฉยๆ น่ะสิ” เขาหัวเราะขึ้นมาอย่างหมดแรง “ยังดีที่ที่นี่มีดินปืนอยู่พอดี ถ้าใช้มันคู่กับตัวจุดระเบิดล่ะก็ ข้าก็ยังสามารถทำภารกิจสุดท้ายได้ เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะล่อปลาตัวใหญ่ขนาดนี้มาได้…”

น่าจะถามอะไรไม่ได้แล้วมั้ง ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ครุ่นคิดด้วยสีหน้าราบเรียบ จับตัวกลับไปให้เดอะแมสก์จัดการแล้วกัน

ในขณะที่มันกำลังจะทำให้อีกฝ่ายสลบ เชือกเส้นหนึ่งพลันหลุดออกมาจากมือของอีกฝ่าย

ส่วนที่ปลายอีกด้านหนึ่งของเชือกก็เหมือนเชื่อมต่อกับวัตถุหนักๆ เอาไว้ หลังสูญเสียที่ยึดไป เชือกก็พุ่งขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ถึงได้สังเกตเห็นว่าตรงมุมหนึ่งของห้องนั้นมีสิ่งของลักษณะเหมือนแพนเค้กวางกองอยู่เต็มไปหมด วัตถุสีดำอันหนึ่งตกลงมาจากบนเพดานเตี้ยๆ ส่วนด้านล่างนั้นมีวัตถุสี่เหลี่ยมที่ทำจากโลหะวางอยู่อันหนึ่ง และตรงนั้นก็เป็นตำแหน่งที่มีรอยเลือดเยอะที่สุดด้วย

ไม่…อีกฝ่ายไม่ได้พยายามดิ้นรนเพื่อจะหนีออกไปจากที่นี่

ตรงประตูมีตะเกียงไฟแขวนอยู่ ทำให้เขาเห็นหน้าคนที่มาได้ในทันที

เชือกที่อยู่ในมือคือหลักประกันว่าไม่ว่าเขาจะหมดสติไปหรือว่าถูกฆ่าตายก็ล้วนแต่จะจุดชนวนกับดักที่เขาทำเอาไว้ได้

เขาลากสังขารของตัวเองคลานไปคลานมาอยู่ในห้องเล็กๆ เพียงเพื่อที่จะได้ไม่ต้องนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ

ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ถอยไปข้างหลังด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด!

มนุษย์ตัวผู้ยิ้มมุมปากขึ้นมา

“มนุษย์….จงเจริญ!”

แสงสว่างที่เจิดจ้าระเบิดออกมาจากมุมห้อง ภายในห้องสว่างขึ้นมาเหมือนในเวลากลางวัน!

จากนั้นก็เป็นเสียงดังกัมปนาท พื้นดินตรงตำแหน่งที่ยุบตัวลงไปพลันยกตัวสูงขึ้นมาเหมือนถูกกำปั้นขนาดยักษ์ต่อยขึ้นมาจากด้านล่าง เศษหินเศษดินและเศษหิมะจำนวนมากปลิวกระจายขึ้นไปบนท้องฟ้า

….

“เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย?”

เดอะแมสก์มองดูไซเลนท์ลอร์ดถูกหาบขึ้นมาบนพระผู้สร้าง ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมถามผู้ช่วย

“ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน รู้เพียงแต่ว่าจู่ๆ บนภูเขาระเบิดขึ้นมา…น่าจะไปเหยียบถูกกับดักของพวกแมลงเข้าน่ะขอรับ”

นาซเพลส่งเสียงเหอะออกมา “หมดสภาพเลย ถ้าเป็นราชาตัวอื่นคงจะตายไปนานแล้วนะเนี่ย”

สภาพของไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ในเวลานี้เหมือนกับถูก ‘ฮอร์น’ เหยียบมาอย่างไรอย่างนั้น เกราะที่แตกเป็นชิ้นกับเศษเนื้อผสมเข้าด้วยกัน ใบหน้าที่ดูคล้ายมนุษย์ตัวผู้ก็เหลือเพียงแค่เค้าโครงนิดหน่อย พลังเวทมนตร์เองก็เหลืออยู่แค่ไม่เท่าไร

“นี่มันก็แสดงให้เห็นว่าความคิดของท่านถูกต้องไม่ใช่หรือขอรับ?” ผู้ช่วยพูดพร้อมก้มหน้า

“ถูกต้อง” นาซเพลหัวเราะขึ้นมา “ต่อให้เป็นร่างกายที่แข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ยังมีขีดจำกัดอยู่ ในทางกลับกัน ร่างซิมไบออนท์คต่างหากถึงจะเป็นการวิวัฒนาการในอุดมคติ เมื่อเสียหายก็สามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา การเติบโตก็ไม่มีขีดจำกด นั่นต่างหากถึงจะเป็นร่างกายที่พวกเราควรจะไล่ตามหา!”

มันไม่สนใจราชาที่นอนสลบอยู่อีก หากแต่หมุนตัวเดินไปยังหอคอยแห่งการให้กำเนิด “เอาเจ้านี้ไปแช่ในบ่อละอองชีวิต หลังจากนี้คงไม่ต้องให้มันลงมือแล้ว แมลงพวกนั้นคงจะคิดไม่ถึงแน่ว่าวูล์ฟฮาร์ทที่แค่เอื้อมมือไปหยิบก็ได้มานั้นจะไม่ใช่เป้าหมายสำคัญของพระผู้สร้าง การกลืนกินทุกอาณาจักรทั้งหมดในทีเดียวต่างหากถึงจะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการจะได้ชิ้นส่วนสืบทอดมา”

“ถ่ายทอดคำสั่งข้าไป ปรับเส้นทางการเดินทาง มุ่งหน้าไปยังที่ราบสูงเฮอร์มีสเต็มกำลัง!”

……………………………………………………………………….