บทที่ 464
ทุกคนรวมตัวกันเดินเข้าไปในโรงเรียน ระหว่างทางมีคนถามโจวชิ่งว่า “เมื่อกี้นี้พวกคุณกำลังคุยอะไรกันเหรอ ดูพวกคุณพูดกันอย่างดุเดือดมาก”
โจวชิ่งหัวเราะและพูดว่า “ผมกำลังพูดถึงหานเหม่ยฉิง จริงสิ วันนี้เหม่ยฉิงไม่มาเหรอ?”
มีคนยิ้มและพูดว่า “เซียวฉางควนเขายังไม่ถาม แล้วนายตื่นเต้นไปทำไม?”
โจวชิ่งหัวเราะและพูดว่า “นี่ผมก็ถามแทนฉางควนเขาไง ยังไงเหม่ยฉิงก็เป็นรักแรกของฉางควน ไม่รู้ว่าหลายปีมานี้ ฉางควนลืมเธอแล้วหรือยัง”
พันหยวนหมิงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด มองจากมุมมองของเซียวฉางควนในวันนี้ที่กำลังลำบาก เกรงว่าตลอดชีวิตนี้เขาก็คงลืมหานเหม่ยฉิงไม่ลง”
“ อ๋อ? มีอะไรเหรอ?” จู่ๆก็มีคนถามขึ้นอย่างสงสัย
พันหยวนหมิงเปิดปากพูด “รอเข้าห้องเรียนแล้ว ผมค่อยเล่ารายละเอียดให้พวกคุณ”
เซียวฉางควนพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี “ทำไมถึงเก็บความลับไม่อยู่ขนาดนี้? ไม่พูดก็ไม่มีใครบอกว่าคุณเป็นใบ้”
พันหยวนหมิงหัวเราะเฮอเฮอสองครั้งและพูดว่า “แต่ผมอยากพูด คุณยุ่งอะไรด้วย?”
เมื่อเดินเข้ามาห้องเรียน ทุกคนมองไปที่สถานที่ที่พวกเขาไม่ได้มาหลายปี นึกถึงช่วงเวลาดีๆในมหาวิทยาลัย ขณะนั้นหลายคนก็น้ำตาไหลออกมา
พันหยวนหมิงนั่งลงตรงที่นั่งของเขา เสียงทอดถอนหายใจ แล้วค่อยพูดกับเพื่อนนักเรียนเก่าแก่ว่า “ถ้าพูดน่าเกียจหน่อย ในตอนนั้นหานเหม่ยฉิงก็เพื่อหาเกาะกำบังไว้ ถึงได้คบหากับเซียวฉางควน รอเรียนจบ คนเขาก็บินตรงไปอเมริกาแล้ว”
พูดแล้ว พันหยวนหมินก็พูดอีก “ผมได้ยินมาว่า แม่ของหานเหม่ยฉิงก็เหมือนจะไม่ชอบเขา ดังนั้นในหลายปีที่ผ่านมาในสังคมเขาไม่มีอะไรที่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ง่ายเลยนะที่จะให้กำเนิดลูกสาวที่สวยงาม หวังว่าจะใช้ลูกสาวมาฟื้นตัว ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายกลับหาได้ไอ้ขยะมาแต่งเข้าบ้าน ตามที่เขาว่ากันลูกเขยคนนี้ ก็คือเด็กกำพร้าที่เกาะลูกสาวคนเดียวกิน ดังนั้นเทียบพวกเรานักเรียนทุกคน ตอนนี้เขาน่าอนาถมากเลย ”
เมื่อทุกคนได้ยินเขาพูดแบบนี้ พวกเขาก็กรูกันเข้ามาข้างๆเขาทันที สอบถามด้วยความสงสัยทุกรายละเอียด
เย่เฉินลูบจมูก ในใจคิดพันหยวนหมิงกับเหตุการณ์ของพ่อตา เข้าใจมากจริงๆ รู้แม้กระทั่งสถานะเด็กกำพร้าของตัวเอง ทั้งเรื่องอยู่บ้านเกาะผู้หญิงกินล้วนพูดได้ชัดเจน ดูเหมือนว่าความแค้นของผู้ชายคนนี้ที่มีต่อพ่อตา จะฝังลึกมากจริงๆ!
ในตอนนี้ มีคนพูดด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ “ ทำไมตอนนี้ฉางควนถึงได้อนาถอย่างนี้? เมื่อก่อนตอนอยู่โรงเรียน ฉางควนเป็นประธานนักเรียน เป็นนักเรียนชั้นนำที่มีชื่อเสียงในโรงเรียน เขาคงไม่น่าจะแย่อย่างนี้มั้ง?”
เซียวฉางควนด่าอย่างไม่สบอารมณ์ “พันหยวนหมิง คุณช่วยหุบปากได้ไหม?”
จางเจี้ยนหัวเราะเฮอเฮอแล้วพูดว่า “อาเซียว คุณอย่าไปสนใจเลย ทุกคนก็แค่สนุกๆกันเท่านั้น ไม่มีใครเอาไปใส่ใจจริงๆ คุณก็พยายามใจกว้างหน่อย”
สีหน้าของเซียวฉางควนนั้นดูไม่ได้เลย คำพูดของจางเจี้ยนนี้ พวกเขาสร้างความเจ็บปวดให้กับตัวเองเพื่อความสุขของพวกเขาไม่ใช่หรอ?
พันพยวนหมิงมองเซียวฉางควนอย่างเร้าใจ จากนั้นก็ยิ้มและพูดกับเพื่อนนักเรียนเก่าแก่ว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าอนาถที่สุดนะ พวกคุณรู้ไหมว่าสิ่งที่น่าอนาถที่สุดคืออะไร?”
“คืออะไร?” ทุกคนถามอย่างอยากรู้
พันหยวนหมิงหัวเราะและพูดว่า “สิ่งที่น่าอนาถที่สุดก็คือ คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเซียวฉางควนก็ได้แต่งงานกับคนดังในโรงเรียน!พวกนายเดาสิว่าเป็นใคร?”
มีคนพูดแขวะว่า “อันนี้พวกเราจะเดาออกได้ยังไงล่ะ พวกเราทุกคนล้วนเจริญก้าวหน้าอยู่ต่างถิ่น ไม่เหมือนนาย ก็อยู่ในเมืองจินหลิง รู้เรื่องข่าวรอบด้านก็เยอะ”
“ใช่ไง คุณอย่าเฉไฉ รีบบอกพวกเราเถอะ พวกเราอยากรู้เต็มทีแล้ว!”
พันหยวนหมิงก็ไม่เฉไฉต่อ หัวเราะและพูดว่า “คนที่แต่งกับเขา ก็คือคนที่ปากร้ายที่สุดในโรงเรียนในปีนั้น หม่าหลัน!