ตอนที่ 804 การชุมนุมที่คฤหาสน์เจียงหยาง 4
“เจียงหวูจี่ เป็นเจ้าจริง ๆ “
คำสรรพนามที่เจียงหวูจี่ใช้ “ฮูหยินผู้เฒ่า” และ “นายท่านผู้เฒ่า” กับเจียงหยางซูอวี้หยวนและเจียงหยางซูหยวนเซียว ทำให้ทั้งสองรู้แน่ชัดแล้ว เจียงหยางซูอวี้หยวนไม่สงสัยเกี่ยวกับเจียงหวูจี่อีกต่อไป ก่อนร้องออกมาอย่างดีใจ
สำหรับเจียงหยางซูหยีหยวน การที่ได้พบกับเจียงหยางจี้ก็เท่ากับตามหาลูกชายตัวเองพบ การที่นางดีใจยามนี้ไม่ใช่เพราะเจอเจียงหวูจี่ แต่เพราะรู้ว่าจะได้เจอลูกชายตัวเอง
“เจียงหวูจี่ คงเอ๋อเล่า คงเอ๋ออยู่ที่ใดกัน ? เจ้าออกจากตระกูลไปพร้อมคงเอ๋อ เจ้าต้องอยู่ที่นี่กับคงเอ๋อเป็นแน่ใช่หรือไม่ ? บอกข้ามาคงเอ๋ออยู่ไหน” เสียงของเจียงหยางซูอวี้หยวนสั่นด้วยความเร่งร้อนใจ ยามนี้จิตใจที่ทุกข์ทรมานของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นมีความสุขอย่างที่ไม่ได้มีมาหลายร้อยปี นางไม่เคยตื่นเต้นมีความสุขเช่นนี้นับตั้งแต่ลูกชายถูกขับออกจากตระกูลไป
“นะ นะ นายท่านผู้เฒ่า…” หลังจากได้เห็นนายหญิงกับนายท่านอีกครั้ง เจียงหวูจี่เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เสียงอันปวกเปียกจากอาการบาดเจ็บหายไปวูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมาอีกระลอกหนึ่ง เลือดออกมาเยอะจนบางส่วนกระเด็นไปเปื้อนชุดของสองสามีภรรยาเจียงหยาง
เจียงหยางซูหยุนเซียวรีบดึงยาเม็ดหนึ่งออกมาจากแหวนมิติแล้วป้อนให้ลุงเจียง เม็ดยานี้ผลิตขึ้นมาภายในตระกูลเจียงหยาง ส่วนผสมทั้งหมดล้วนล้ำค่า มูลค่ามากพอ ๆ กับเม็ดยาจิตวิญญาณธาตุแสงขั้นสูงด้วยซ้ำ
หลังจากทานยาไป อาการบาดเจ็บของเจียงหวูจี่ที่กำลังแย่ลงเรื่อย ๆ ก็ทรงตัว ก่อนจะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากเห็นสภาพอาการบาดเจ็บของเจียงหวูจี่ เจียงหยางซูหยุนเซียวหน้าเคร่งขรึมขึ้น ก่อนที่จะเต็มไปด้วยแววตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารจะปรากฏขึ้น “เจียงหวูจี่ ใครทำร้ายเจ้า ? “
ลุงเจียงเงยหน้ากลุ่มคนจากสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า แล้วพูดอย่างอ่อนแรง “คนจากสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง พวกมันบังคับจะพาทุกคนไปเมืองแห่งเทพเจ้า”
“มันบังอาจมากนัก ! ” เจียงหยางซูหยวนเซียวโกรธทันทีที่ได้ยิน พลังค่อย ๆ แผ่ออกมาจากร่างกายปกคลุมไปทั่วบริเวณ เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร
ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาเจียงหยางซูหยวนเซียวไม่เคยโกรธมาก่อน แม้สมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงจะเป็นองค์กรที่อยู่จุดสูงสุดบนทวีปเทียนหยวน มีพลังเทียบเท่าตระกูลโบราณต่าง ๆ แต่ก็ไม่ต่างจากมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางอย่างเทียบไม่ติด
แล้วยามนี้ลูกชายของเขามาตั้งตระกูลเจียงหยางของตัวเองอยู่โลกภายนอก ลูกชายของหนึ่งในเจ็ดผู้อาวุโสสูงสุด กลับถูกสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงมาข่มเหง ทำไมเจียงหยางซูหยวนเซียวจะไม่โกรธ ? ยิ่งคิดยิ่งนึกถึงอุปสรรคต่าง ๆ ที่ลูกชายคนเดียวต้องเผชิญตลอดมา ในฐานะพ่อ เจียงหยางซูหยวนเซียวก็ยิ่งปวดใจ
ร่างของเขาสั่นไหวเพียงวูบเดียวก็มาปรากฏตัวสูงอยู่บนฟากฟ้า มองเหล่าคนจากสมาคมอย่างเย็นชา ก่อนพูดขึ้น “ใครกล้าทำร้ายคนจากตระกูลเจียงหยาง ? ก้าวออกมา ! ไม่งั้นเจ้าทุกคนต้องชดใช้ร่วมกัน ! “
สีหน้าของเหล่าผู้คนจากสมาคมมืดครึ้มและหันมามองกันเอง พอจะเดากันได้แล้วว่าเจียงหยางซูหยวนเซียวที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นเซียนราชาเป็นแน่ สมาคมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตระกูลเจียงหยางนี้จะมีเซียนราชาคุ้มครองอยู่
“ไม่ทราบว่า ข้าขอทราบนามของท่านได้หรือไม่ ?” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา ชายแก่คนหนึ่งพูดด้วยเสียงแหบแห้ง ไร้ซึ่งท่าทีทรงพลังแตกต่างจากตอนแรก ราวกับเห็นประตูสู่ปรโลกรออยู่ตรงหน้า
ชายแก่ผู้นี้คือคนเดียวกันกับที่เจียนเฉินพบที่หอคอยพลังเซียนธาตุแสง คอยเช็ดเครื่องเรือนด้วยผ้า
“ซูหยวนเซียว จากตระกูลเจียงหยาง” เขาตอบอย่างเย็นชา
หลังจากได้ยินชื่อ เหล่าคนที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบต่างหน้าถอดสีกันไปตาม ๆ กัน จ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกตะลึง ความหวาดกลัวค่อย ๆ ผุดขึ้นภายในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
ประธานแห่งสมาคมรีบออกมาป้องมือคารวะเจียงหยางซูหยวนเซียว “หรือว่าท่านจะมาจากสาขาซู หนึ่งในสามสาขา ซู หยวน ชิง ของตระกูลผู้พิทักษ์?”
ทันทีที่ได้ยินคำถามของประธาน จิตใจของเหล่าสมาชิกสมาคมที่ยืนอยู่พลันหนักอึ้ง คราแรกทั้งหมดเพียงแค่คิดว่าตระกูลเจียงหยางแห่งเมืองลอร์นั้นเพียงแค่บังเอิญชื่อซ้ำกับตระกูลผู้พิทักษ์ แต่กลับกลายเป็นว่าตระกูลเจียงหยางจากเมืองลอร์กลับมีสายสัมพันธ์ที่ดูท่าทางจะแนบแน่นกับตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง
เหล่าสมาชิกตระกูลเจียงหยางที่อยู่เบื้องล่างเองก็มีท่าทีเปลี่ยนไปยามได้ยินคำพูดของประธานสมาคม แววตาของทุกคนเปลี่ยนไปทันที ไม่มีใครรู้ว่าสามสาขาของตระกูลผู้พิทักษ์คืออะไร แต่ที่ทุกคนเห็นคือความหวาดกลัวที่อยู่ภายในน้ำเสียงของประธาน ทุกคนพอจะเดาได้ว่าตระกูลผู้พิทักษ์นั้นแข็งแกร่งมากกว่าสมาคมเป็นแน่ แววตาสิ้นหวังของคนในตระกูลกลับมามีความหวังอีกครั้ง
เจียงหยางซูหยวนเซียวมองประธานอย่างเย็นชา ก่อนพูดช้า ๆ “เจ้าดูพอมีความรู้อยู่บ้าง ถึงได้รู้ถึงสามสาขาของตระกูลเจียงหยาง” หลังจากนั้นเจียงหยางซูหยวนเซียวมองผู้คนรอบ ๆ “มันเป็นใครที่ทำร้ายคนตระกูลเจียงหยางของข้า ? ถ้าไม่พูดออกมา พวกเจ้าก็เตรียมตัวโดนลงโทษให้หมด”
ทุกคนจากสมาคมดูราวกับหมดอาลัยตายอยาก ไม่มีใครกล้าจะลบหลู่ตระกูลผู้พิทักษ์ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างเก็บท่าทางยโสในตอนแรก ไม่กล้าแสดงท่าทีเช่นนั้นอีกแม้แต่น้อย ชายที่ทำร้ายลุงเจียงดูราวกับเห็นยมทูตมายืนรออยู่ตรงหน้า เขาลอยตัวค้างไม่กล้าจะปริปาก ภายในใจเต็มไปด้วยความสำนึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
“มัน มันเป็นคนทำร้ายลุงเจียง” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากเบื้องล่าง หยูเฟิงหยานยืนอยู่บนพื้นชี้นิ้วไปยังชายตัวการพร้อมพูดเสียงดังด้วยความโกรธ
“ใช่ ๆ มันทำร้ายลุงเจียง”
“ล้างแค้นให้ลุงเจียงด้วย”
หลังจากที่หยูเฟิงหยานพูด หลายคนในตระกูลก็เริ่มส่งเสียงพร้อมชี้นิ้วตรงไปยังตัวการพร้อม ๆ กัน ทุกคนต่างโกรธแค้น จากสถานการณ์ตอนนี้ คนในตระกูลเริ่มเข้าใจแล้วว่าสองสามีภรรยาที่พึ่งมานั้นมีสายสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลเจียงหยางของตน
เจียงหยางซูหยวนเซียวหันไปมองชายคนนั้นก่อนคำราม “เป็นแค่เซียนผู้คุมกฎ เจ้ากลับกล้าลงมือกับคนตระกูลเจียงหยาง” สิ้นคำพูด เจียงหยางซูหยวนเซียวโผล่มาอยู่เบื้องหน้าชายคนนั้นพร้อมยื่นมือยังหัวของมัน ชายคนนั้นไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่นิ้วเดียว
ฉับพลันชายแก่คนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วต่อยไปที่ฝ่ามือของเจียงหยางซูหยวนเซียวก่อนที่จะทันได้ปลิดชีพชายคนนั้น
เปรี้ยง !
เสียงดังลั่น การโจมตีของสองเซียนราชาทำให้พื้นที่รอบข้างสั่นไหวอย่างรุนแรงถึงแม้ทั้งสองจะควบคุมแรงของตัวเองเท่าไรก็ตาม
เจียงหยางซูหยวนเซียวจ้องมองอย่างเย็นชา พร้อมพูดด้วยเสียงเย็นเยียบ “เจ้ากล้าหยุดข้า”
“แม้คนจากสมาคมของเราที่ทำร้ายคนในตระกูลของท่าน แต่ก็ไม่ถึงตาย ขอท่านมีเมตตาละเว้นไว้ด้วยเถิด” ชายแก่ป้องมือคารวะ
“ไสหัวไป ! ” จิตสังหารของเจียงหยางซูหยวนเซียวระเบิดออก แสยะยิ้มก่อนซัดฝ่ามือตรงไปยังชายแก่ด้วยพลังมากกว่าเดิมจนทำให้มิติรอบข้างบิดเบี้ยว
เซียนราชาจากสมาคมตั้งท่ารับ ก่อนจะตะโกน พร้อมปล่อยพลังจากฝ่ามือแห้งเหี่ยวของตัวเองตรงไปสกัดพลังของเจียงหยางซูหยวนเซียว เขาต้องไม่ปล่อยให้เซียนผู้คุมกฎของสมาคมถูกสังหารลงเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เด็ดขาด
ต่อให้จะเป็นสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงก็ไม่สามารถปล่อยให้เซียนผู้คุมกฎตกตายลงอย่างง่ายดาย เพราะภายในสมาคมเองก็ไม่ได้มียอดฝีมือมากมายขนาดนั้น ทุกคนมีความสำคัญต่อสมาคมเป็นอย่างมาก เป็นกำลังสำคัญของสมาคม
สองฝ่ามือปะทะกับกลายอากาศด้วยพละกำลังมหาศาล มิติรอบข้างสั่นไหวบิดเบี้ยว มิติแตกเป็นจุด ๆ คล้ายกับกระจกอยู่โดยรอบ
ใบหน้าของเซียนราชาจากสมาคมซีดเผือดลงเล็กน้อยหลังจากปะทะกัน ก่อนจะพุ่งถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เจียงหยางซูหยวนเซียวจะลอยค้างนิ่งไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย ก่อนจะก้าวขามาปรากฏเบื้องหน้าเซียนผู้คุมกฏที่ทำร้ายเจียงหวูจี่อีกครั้ง “ใครก็ตามที่ทำร้ายคนตระกูลเจียงหยางของข้า ไม่มีวันได้รับการยกโทษ ! ” พร้อมกันเจียงหยางซูหยวนเซียวยื่นมือไปโจมตีอีกครั้ง
เซียนผู้คุมกฎถูกพลังหนักอึ้งกดดันไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย แม้จะเห็นฝ่ามือของเจียงหยางซูหยวนเซียวตรงเข้ามาแต่ก็ไม่สามารถหลบได้ ฝ่ามือตรงเข้ามาเปลี่ยนสมองให้กลายเป็นเพียงเศษเนื้อ วิญญาณภายในเองก็ถูกทำลายเสียสิ้น เลือดไหลทะลักออกมาจากทั้งจากตา หู จมูก ปาก
หลังจากสังหารเซียนผู้คุมกฏลง เจียงหยางซูหยวนเซียวหันไปมองเซียนราชาที่ถอยออกไปเมื่อครู่ก่อนพูดเย็นชาขึ้น “หากกล้าทำตัวแบบนั้นอีก ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งด้วย อยู่แค่ชั้นสวรรค์ที่ 2 เจ้ายังไม่มีค่าพอเป็นคู่ต่อสู้ของข้า”
เซียนราชาโกรธแต่ไม่กล้าพูดโต้ตอบแล้วเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยใบหน้าหมองคล้ำ ตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางนั้นไม่สามารถลบหลู่ได้จริง ๆ หากทำอะไรเกินไป แม้แต่สมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงจะพลอยโดนลูกหลงจากการโจมตีของตระกูลเจียงหยางก็เป็นได้
วันนี้สมาคมทำได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้
เจียงหยางซูอวี้หยวนไม่สนใจสถานการณ์เบื้องบน นางคุกเข่าลงข้าง ๆ เจียงหวูจี่ก่อนถามอย่างร้อนใจ “เจียงหวูจี่ บอกข้ามาว่าคงเอ๋ออยู่ที่ไหน คงเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง ? “
หลังจากได้รับยาไป อาการบาดเจ็บของเจียงหวูจี่ก็ดีขึ้นมามาก เขาค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วพูดอย่างขมขื่น “ฮูหยินผู้เฒ่า นายท่านจากไปหลายร้อยปีก่อน ท่านออกไปหาวิธีทำลายผนึก นับแต่วันนั้นจนวันนี้ยังไม่มีข่าวคราวแม้แต่น้อย”
“เกิดอะไรขึ้น ! ? คงเอ๋อ – คงเอ๋อ…” เจียงหยางซูอวี้หยวนหมดคำพูดไปทันที ตอนแรกนางเต็มไปด้วยความหวัง ก่อนจะสิ้นหวังลงยิ่งกว่าเก่าหลังได้ยินคำตอบของลุงเจียง นางคิดว่าจะได้พบลูกชาย เจียงหยางซูหยุนคง หลังได้พบกับเจียงหวูจี่ แต่ไม่เคยคิดว่าจะกลับกลายเป็นเช่นนี้