บทที่ 516 เฝ้าคลอด

หลังจากขัดขี้ไคลกับโจวเสี่ยวเหมยจนสะอาด โจวเสี่ยวเหมยก็กลับไปเล่าให้ซูต้าหลินฟัง

แน่นอนว่าสองสามีภรรยาพูดคุยเรื่องนี้กันในที่ลับ

โจวเสี่ยวเหมยไม่กล้าเล่าให้พ่อกับแม่ของหล่อนฟังเหมือนกัน หากเล่าไปแล้วเกิดพวกท่านโมโหจนเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร?

ซูต้าหลินฟังจนจบแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นเช่นกัน

“ถ้าเกิดพวกเขามาหาคุณ คุณห้ามทำอะไรด้วยตัวเองเด็ดขาดเลยนะ ต้องอย่าลืมมาบอกกับฉันนะคะรู้ไหม” โจวเสี่ยวเหมยพูด

“ไม่…พวกเขาไม่มา…หา…หาผมหรอก” ซูต้าหลินส่ายหน้า

โจวเสี่ยวเหมยส่งเสียงฮึตอบกลับ “กล้าดูถูกคุณงั้นเหรอ? ฉันจะคอยดูว่าสองพี่น้องนั่นจะไปได้ไกลสักแค่ไหนเชียว!”

ยิ่งคิดหล่อนก็ยิ่งมีโทสะ สวี่เชิ่งเหม่ยกับสวี่เชิ่งเฉียงสองพี่น้องดูถูกต้าหลินของหล่อนว่าพูดติดอ่าง ต้าหลินของหล่อนเป็นคนดีมากเลยนะ!

ซูต้าหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณ..คุณแค่…ไม่…ไม่ทิ้งผม…ก็…ก็พอ”

“ทำไมฉันต้องทิ้งคุณคะ ผู้ชายของฉันหายากมากนะ” โจวเสี่ยวเหมยค้อนเขาปะหลับปะเหลือก

ซูต้าหลินยิ้ม เขารู้สึกซาบซึ้งใจต่อภรรยาของตนเหมือนกัน หลายปีมานี้หล่อนไม่เคยทิ้งเขาที่เป็นคนติดอ่างเลย ไม่เพียงไม่ทอดทิ้งเขา ยังปกป้องเขาอีกด้วย

แถมให้ลูกชายสองคนและลูกสาวอีกสองคนกับเขาอีก ซูต้าหลินทั้งรู้สึกรักและซาบซึ้งใจภรรยาของตัวเองอย่างยิ่ง

“ทูน…ทูนหัว…คน…คนดี” ซูต้าหลินยิ้มขณะที่มองภรรยาตน

โจวเสี่ยวเหมยหน้าแดง “ฉันไม่ได้ดีอย่างที่คุณพูดขนาดนี้สักหน่อย ตัวฉันเองทำอะไรไม่เป็นหรอก แค่ชอบเดินตามพี่สะใภ้สี่เท่านั้นแหละค่ะ”

แต่การที่หล่อนเดินตามรอยพี่สะใภ้สี่ก็ไม่ใช่การตัดสินใจผิดจริง ๆ

ซูต้าหลินยิ้ม

เพียงพริบตาก็เข้าสู่เดือนกรกฎาคม อีกไม่นานนักปิดเทอมฤดูร้อนก็จะมาถึง ซึ่งในวันที่สองของช่วงปิดเทอมฤดูร้อน โจวกุยหลายได้พาผู้เฒ่าหวังและท่านพ่อโจวขึ้นรถไฟไปเที่ยวด้วยกัน

ถึงตอนนี้จะเป็นเพียงปี 1984 แต่มันก็มีสถานที่มากมายที่สามารถไปเที่ยวได้แล้ว หลินชิงเหอเคยเห็นพื้นที่ที่ลูกชายจะไปเที่ยวอยู่ เป็นสถานที่ที่ท่านพ่อโจวและผู้เฒ่าหวังสามารถเดินทางไปไหว ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจเขามากนัก

เพียงให้เขาพกเงินไปให้เพียงพอเท่านั้น ออกไปข้างนอกต้องมีค่ากินค่าเที่ยว ไม่สามารถพกเงินไปจำนวนน้อย ๆ ได้

หลินชิงเหอเองก็ได้ปิดเทอมฤดูร้อนแล้วเช่นกัน ซึ่งเธอวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะไปต้าเหลียน หากที่นั่นมีอาหารทะเล เธอก็จะสั่งจองอาหารทะเลแห้งจากที่นั่นเหมือนกัน ส่วนทางตอนใต้ย่อมต้องมีการสั่งจองเอาไว้เป็นธรรมดา แต่ก็ไม่อาจสั่งจองกับแหล่งผลิตไว้นานเกินไปได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกโกง

“ม้าต้องฝากบ้านให้ลูกดูแลแล้วนะจ๊ะ” หลินชิงเหอพูดกับเจ้ารอง

โจวเฉวี่ยนพูดอย่างอ่อนแรง “งั้นพวกแม่ก็รีบกลับมานะครับ ผมอยากจะหยุดบ้างเหมือนกัน”

“นิสัย” หลินชิงเหอมองเขาแล้วยิ้ม ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเจ้ารองที่เป็นกุนซือหัวสุนัข*จะสามารถทำการค้าได้ คิดไม่ถึงว่าจะโตมาแล้วสุภาพเรียบร้อยแบบนี้

*ใช้เรียกคนที่คอยให้ท้ายหรือออกความคิดเห็นเลวร้ายกับคนอื่น

หลังจากนั้นเธอก็ไม่บ่นว่าเจ้ารองแล้ว หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ออกเดินทางในวันถัดมา และตรงไปที่ต้าเหลียนเลย

2-3 วันต่อมาท่านแม่โจวก็มาหา นางถือไก่ที่เชือดเสร็จแล้วมาด้วยและเอ่ยขึ้น “พ่อกับแม่เธอไปนานแค่ไหนแล้วล่ะ ปู่กับปู่หวังก็ไปเที่ยวเล่นกันหมด เธออยู่คนเดียวงานหนักไหม?”

“พอไหวครับ” โจวเฉวี่ยนตอบพลางห่อเกี๊ยวไปด้วย

คุณป้าหม่าที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เอ่ยขึ้น “เจ้าเด็กเสี่ยวเฉวี่ยนคนนี้คล่องแคล่วมากเลยจ้ะ ไม่ต้องให้ใครเป็นห่วงเลย คุณพี่วางใจเถอะนะจ๊ะ งานทางนี้ฉันก็ล้างจานไว้ให้หมดแล้ว เดี๋ยวก็จะไปช่วยเขาห่อเกี๊ยวแล้ว”

“งั้นต้องรบกวนเธอแล้ว” ท่านแม่โจวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

นางมีท่าทางสุภาพกับคุณป้าหม่า การที่หลานชายของนางสามารถคบหากับหญิงสาวจากปักกิ่งได้ ไม่ใช่เพราะว่าคุณป้าหม่าเป็นคนแนะนำหรือ

“ไม่ได้รบกวนอะไรเลยจ้ะ ได้ทำงานที่นี่ฉันมีความสุขมาก คนแก่อย่างฉันได้ทำอะไรบ้างก็หายเบื่อไปได้” คุณป้าหม่าพูด

ท่านแม่โจวยิ้มและเอ่ยกลับ “เธอทำงานไปก่อนเถอะจ้ะ ฉันแค่มาดูเท่านั้น ที่บ้านยังมีหลานสาวอยู่ ฉันขอตัวกลับก่อนนะ”

“จ้ะ พี่รีบไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วงทางนี้นะจ๊ะ” คุณป้าหม่าพูดอย่างคล่องแคล่ว

เมื่อท่านแม่โจวไปแล้ว คุณป้าหม่าก็ล้างจานเสร็จพอดี และล้างมือให้สะอาดมาช่วยอีกทางห่อเกี๊ยว ก่อนจะพูดกับโจวเฉวี่ยน “ย่าของเธอไม่เลวเหมือนกันนะ เธอดูเป็นห่วงลูกหลานอย่างพวกเธอมากเลย”

โจวเฉวี่ยนหัวเราะ “ย่าของผมชอบเป็นห่วงคนอื่นน่ะครับ ขนาดไก่ที่ทางนั้นกินอิ่มแล้วยังเอามาให้ทางนี้ได้กินด้วย”

คุณย่าของเขาดีต่อพวกเขาสามพี่น้องมากจริง ๆ แต่ค่อนข้างจะจู้จี้จุกจิก แม่ของเขาจึงรับไม่ไหว แต่เรื่องความกตัญญูนั้นยังมีไม่น้อย

“ทั้งหมดก็คือน้ำใจเล็ก ๆ ของคนแก่นั่นแหละจ้ะ ถ้าเอามาแล้วเห็นว่าพวกเธอชอบกิน หล่อนก็ดีใจแล้ว”คุณป้าหม่าพูด

โจวเฉวี่ยนพยักหน้า

เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว เขาจึงนำไก่ออกมาสับ หลังจากนั้นก็เอาครึ่งหนึ่งไปผัด ครึ่งหนึ่งไปต้มน้ำซุป

เมื่อโจวเอ้อร์นีกับหวังหยวนมาถึง โจวเฉวี่ยนก็ยกซุปไก่ที่ภายในมีเนื้อน่องไก่ไปให้เอ้อร์นีหนึ่งถ้วยและเอ่ยขึ้น “พี่เขยรอง ซุปนี่ไว้บำรุงร่างกายของพี่เอ้อร์นีนะครับ ฝีมือทำอาหารของผมเกือบจะเป็นพ่อครัวมืออาชีพได้แล้ว พี่มีอะไรตอบแทนผมไหมครับ”

“นายต้องการอะไรตอบแทนล่ะ หลังจากที่น้องคลอดออกมาแล้ว ก็ให้เรียกนายว่าน้าแล้วกัน” หวังหยวนพูด

โจวเฉวี่ยนหัวเราะ “ผมที่ถูกเรียกว่าน้าก็ยังเทียบไม่ได้กับพ่อแท้ ๆ นะครับ”

หวังหยวนพูดพลางหัวเราะ “ทำของอร่อยให้พี่สาวเธอกินเยอะ ๆ เสียเถอะ ปีนี้ฉันจะได้พาพวกเธอไปบ่อน้ำพุร้อน ทั้งทริปฉันเลี้ยงเอง”

โจวเฉวี่ยนพูด “ได้เลย เดี๋ยวผมจะเพิ่มกับข้าวอีกอย่างแล้วมาตั้งไว้ ผมทำซุปเตรียมไว้แล้วครึ่งหนึ่ง ที่เหลือเป็นผัดเห็ด”

รอจนหู่จือ กังจือ และซื่อนีมากันหมดแล้ว อาหารห้าอย่างก็ถูกนำวางไว้บนโต๊ะ

วันนี้เฉินซานซานก็มากินด้วยเช่นกัน

แต่คนจะมามากมาน้อยก็ไม่สำคัญ แค่หมั่นโถวมีพอสำหรับทุกคนก็พอแล้ว

“ตอนนี้ใกล้จะกลายเป็นพ่อครัวเต็มตัวแล้วสินะ” หู่จือยกยิ้ม

“แน่นอน นายก็มาเรียนรู้จากฉันบ้างนะ ไม่งั้นต่อไปเกิดซานซานมีลูกขึ้นมา นายจะดูแลหล่อนยังไง?” โจวเฉวี่ยนพูด

เฉินซานซานหน้าแดง “ยังเร็วเกินไปจ้ะ”

“พี่เอ้อร์นีของฉันก็บอกว่าเร็วไปเหมือนกัน ตอนนี้ดูสิว่าเร็วหรือไม่เร็ว” โจวเฉวี่ยนตอบ พอพูดถึงโจวเอ้อร์นี เขาก็พูดถึงโจวซานนีขึ้นมาด้วยเช่นกัน “กำหนดคลอดของพี่ซานนีคือเมื่อไหร่นะครับ?”

“ทำไมเหรอ นายเริ่มสนใจเรื่องพวกนี้ขึ้นมาแล้วเหรอ?” โจวเอ้อร์นีเอ่ยว่าพร้อมยิ้ม

“ก็ต้องสนใจสิครับ เกิดตอนที่พี่ซานนีคลอดลูกแล้ว ใครจะดูแลล่ะครับ ร้านจะต้องมีคนดูแลนะครับ” โจวเฉวี่ยนตอบ

ถ้าไม่ใช่ปิดเทอมฤดูร้อนนี้ เขาก็จะไม่เป็นห่วงหรอก แต่หากเป็นช่วงฤดูร้อนนี้ขึ้นมา เขาก็ต้องวางแผนเอาไว้ก่อน

“ฉันเคยไปถามซานนีมาแล้วเป็นเดือนตุลาคมนะ ถ้าถึงตอนนั้นเดี๋ยวฉันจะไปเฝ้าหล่อนคลอดเอง นายไม่ต้องสนใจหรอก” โจวซื่อนีพูดขึ้น และเอ่ยกับโจวเอ้อร์นีต่อ “พอถึงคราวพี่ต้องคลอดฉันก็จะไปเฝ้าเหมือนกัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

“งั้นก็ดีเลย” โจวเฉวี่ยนยิ้มออก

มีโจวซือนีเป็นคนไปงั้นเขาก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว โจวซื่อนีไม่ว่าจะทำกับข้าวหรืองานอื่น ๆ หล่อนก็ทำได้หมดไม่มีปัญหา ทั้งยังคล่องแคล่วเสียด้วย

“เฝ้าไข้หลังคลอดให้พี่สาวเธอ แล้วพี่จะซื้อแหวนทองไว้ให้เธอเก็บไว้เป็นสินเดิมเจ้าสาว” หวังหยวนเอ่ยขึ้น

“จะให้ได้อย่างไรคะ พี่เขยเกรงใจเกินไปแล้ว อยู่เฝ้าไข้คลอดให้พี่สาวเป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้ว ตอนพี่สาวใหญ่คลอดฉันก็ไปเฝ้าไข้ให้เหมือนกันค่ะ” โจวซื่อนีอึ้งก่อนจะเอ่ยรัวเร็ว

…………………………………………………………………………………………………………………………