บทที่ 517 กินเก่ง

แม้โจวซื่อนีจะยังไม่แต่งงาน แต่เรื่องการอยู่เฝ้าดูแลหลังคลอดนั้นหล่อนชำนาญมากจริง ๆ

คราวของโจวต้านีหล่อนก็เป็นคนไปเฝ้าดูแลทั้งยังทำได้เป็นอย่างดี อีกอย่างทั้งสองก็เป็นพี่สาวน้องสาวครอบครัวเดียวกัน ตอนนี้มีการวางแผนครอบครัวแล้วทั้งยังจำกัดการมีบุตร ถ้าไม่ได้คลอดลูกบ่อย ทั้งชีวิตก็ต้องไปช่วยสักครั้งหนึ่ง

เช่นนั้นหล่อนจึงต้องไปช่วย

“ยังกลัวว่าพี่เขยจะซื้อแหวนทองสักวงไม่ไหวอยู่เหรอ เขาให้เธอ เธอก็เก็บไว้เถอะ” โจวเฉวี่ยนยิ้มและพูดขึ้น

โจวเอ้อร์นีที่รู้ชัดว่าสามีตัวเองมีเงินมหาศาลขนาดไหนทำได้เพียงยิ้มบาง ๆ

แต่ท้องนี้ของเอ้อร์นีค่อนข้างจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย

คืนเข้าหอวันที่สองหล่อนก็ตั้งท้องแล้ว เดือนเมษายน เดือนพฤษภาคม เดือนมิถุนายน เดือนกรกฎาคมยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่หลังจากเข้าสู่เดือนที่กรกฎาคมท้องก็ค่อย ๆ เริ่มโตขึ้นอย่างช้า ๆ

ดูเหมือนเดิมทุกอย่าง

โจวเอ้อร์นีไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน หวังหยวนก็เช่นกัน พวกเขาต่างนึกว่าเป็นเรื่องปกติ พอเข้าสู่เดือนสิงหาคม ท้องของเอ้อร์ก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นมาก

ขนาดโจวเสี่ยวเหมยเห็นแล้วยังแปลกใจในตอนที่ทั้งคู่แวะมากินอาหารที่บ้านใหญ่โจว “ทำไมท้องเธอใหญ่เร็วขนาดนี้?”

“อาสะใภ้สี่บอกว่าท้องเอ้อร์นีไม่มีไขมัน ของบำรุงทั้งหมดก็ถูกเด็กคนนี้รับไปหมดแล้วน่ะครับ” หวังหยวนยิ้ม

“นั่นก็ไม่ถูกนะ นับ ๆ ดูแล้วก็เพิ่งจะท้อง 4 เดือนไม่กี่วัน แต่ท้องนี้กลับดูอย่างกับ 5 เดือนแล้ว ต่อให้ 5 เดือนก็ไม่ใหญ่ขนาดนี้หรอก” โจวเสี่ยวเหมยพูด

หล่อนท้องมาแล้ว 4 ครั้ง ประสบการณ์เรียกได้ว่าผ่านมาเยอะ เพียงมองท้องของโจวเอ้อร์นีที่ใหญ่ขนาดนี้แล้วหล่อนก็นิ่งไป

“น่าจะไม่เป็นอะไรมั้งคะ?” โจวเอ้อร์นีมองท้องตัวเองและพูดขึ้น

เพราะช่วงนี้เป็นฤดูร้อน อากาศจึงร้อนมาก อีกทั้งหล่อนก็กลัวว่าความร้อนจะไม่เป็นผลดีต่อครรภ์ จึงสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น ทำให้มองเห็นหน้าท้องที่โตขึ้นอย่างเด่นชัด

เมื่อท่านแม่โจวกลับมาจากให้อาหารไก่ โจวเสี่ยวเหมยจึงเรียกนางมาดู “แม่คะ แม่มาดูท้องเอ้อร์นีสิคะ ทำไมท้องหล่อนถึงใหญ่เร็วขนาดนี้?”

“ 4 เดือนกว่าแล้ว จะใหญ่ขนาดนี้ก็เป็นเรื่องปกตินี่” ท่ายแม่โจวมองและพูดขึ้น

“แต่นี่ก็ใหญ่เร็วไปหน่อยแล้วมั้งคะ” โจวเสี่ยวเหมยพูด มองไปที่โจวเอ้อร์นี “เธอรู้สึกอยากอาหารไหม”

“อยากอาหารมากเลยค่ะ” โจวเอ้อร์นีถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ความอยากอาหารนี้เป็นปัญหาใหญ่จริง ๆ ทุกอย่างก็ดูอร่อยเป็นพิเศษ

หล่อนเพิ่งกินข้าวเสร็จไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หิวอีกแล้ว วันหนึ่งหล่อนกินแอปเปิ้ล 2 ลูก ผลไม้อย่างอื่นก็กิน แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา

ดังนั้นหล่อนจึงไปหาโจวเฉวี่ยนกินนั่นนี้บ่อย ๆ หรือบางทีก็ไปกินข้าวโพดต้ม หรือกินหมั่นโถกับผัดเห็ดและเนื้อ หล่อนสามารถกินของทั้งหมดนี้ได้เอร็ดอร่อยเป็นพิเศษ

หวังหยวนพูด “ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”

“ไม่เป็นไรหรอก เธออย่าฟังน้าเธอมาก หล่อนก็ตื่นตูมเกินไปทั้งที่ตัวเองก็ท้องมาแล้วตั้ง 4 ครั้ง” ท่านแม่โจวพูด

“แต่ว่าเอ้อร์นีกินเก่งมากจริง ๆ ครับ ถึงกลางดึกผมต้องลุกขึ้นมาหาอะไรให้หล่อนกินประจำ” หวังหวยนพูด

ตั้งแต่ขึ้นเดือนนี้ ภรรยาของเขามักจะหิวกลางดึกเสมอ เขาต้องลุกขึ้นมาต้มไข่ให้หล่อนกิน ซึ่งหล่อนก็ดูเจริญอาหารมาก

แต่กินเยอะขนาดนี้ เธอกลับไม่มีไขมันอะไร เรียกได้ว่าอาหารทั้งหมดถูกดูดซึมสู่ตัวเด็กหมดแล้ว

“ตอนนี้ยังดีที่หิวแล้วก็ยังมีอะไรกิน สมัยก่อนหาอะไรกินไม่ง่ายขนาดนี้เลยนะ พอแก่ตัวลงแล้วกลับไปคิดดู ตอนนั้นที่บ้านเรายากจนมาก ฉันหิวจนแทบทนไม่ไหว คุณปู่เธอต้องตื่นตั้งแต่ตีสามไปจับไก่ฟ้ามาต้มให้ฉันกิน” ท่านแม่โจวพูด

เมื่อก่อนชีวิตของนางไม่ง่ายเลยจริง ๆ สามีของนางเองก็เช่นกัน แต่ว่าเขาก็ดีต่อนางมาก พอตั้งท้องเขาก็หาของมาให้กิน เมื่อตอนวัยรุ่นก็ออกไปรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แป้งจี่มาเขาก็ไม่กิน แต่นำกลับมาหล่อนได้กิน

“อยากกินอะไรก็บอกมาเถอะ ย่าจะทำให้กินเอง เธอก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญด้วย” ท่านแม่โจวกล่าว

“งั้นเย็นวันนี้กินแป้งจี่ข้าวโพดได้ไหมคะ” โจวเอ้อร์นีพูด

“ไม่เห็นมีอะไรยาก” ท่านแม่โจวตอบตกลง

แต่ยังไม่ทันที่นางจะลงมือทำ โจวเสี่ยวเหมยก็ทำเสร็จแล้ว แป้งจี่ข้าวโพดช่างอร่อยยิ่งนัก

ไม่เพียงมีแป้งจี่ข้าวโพด ยังมีซุปมะเขือเทศใส่ไข่ ซี่โครงหมูน้ำแดง ทั้งหมดมีแต่ของอร่อยทั้งนั้น

“ตอนกลับก็เอามะเขือเทศกลับไปด้วยนะ กลางดึกถ้าหิวจะได้ทำซุปมะเขือเทศใส่ไข่กิน” โจวเสี่ยวเหมยพูด

“ครับ” หวังหยวนตอบ หลังจากนั้นก็ถือตะกร้าใบเล็กที่บรรจุมะเขือเทศกลับไป

โจวเฉวี่ยนเองก็เคยประสบกับความกินจุของโจวเอ้อร์นีมาเหมือนกัน ดังนั้นในทุกครั้งเขาจะทำอาหารเพิ่มให้หล่อนเสมอ

ส่วนโจวซานนีตอนนี้ก็มีขนาดท้องที่ไม่เล็กแล้ว และเนื่องจากอาสี่กับอาสะใภ้สี่ไม่อยู่ร้านเกี๊ยว ดังนั้นหล่อนจึงต้องแวะมาดูทางนี้เสียหน่อย

โจวซานนีมาที่นี่คนเดียวเพราะหลี่อ้ายกั๋วต้องอยู่เฝ้าร้าน แต่การมาเองก็ไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าท้องอันใหญ่โตของหล่อนค่อนข้างจะเป็นอุปสรรค แต่หล่อนก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองปกติดี

“พี่ซานนี หิวไหมครับ ให้ผมทำอะไรให้กินหน่อยไหม?” พอเห็นหล่อนเดินมา โจวเฉวี่ยนก็เอ่ยทัก

“เสี่ยวเฉวี่ยนเอ๊ย ต่อไปภรรยาของเธอต้องมีความสุขมากแน่ ๆ เลย” คุณป้าหม่าเห็นแล้วก็พลอยมีความสุขไปด้วย

โจวเฉวี่ยนหัวเราะ “ต้องมีความสุขแน่อยู่แล้วครับ ตระกูลโจวน่ะรักใคร่ภรรยาจะตาย”

โจวซานนียิ้ม “ตอนแรกพี่ยังรู้สึกกังวลกับร้านทางนี้นิดหน่อย แต่พอมาเห็นก็รู้สึกว่าตัวเองกังวลมากเกินไปจริง ๆ”

เจ้ารองดูแลร้านได้เป็นอย่างดี

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ปีที่แล้วเจ้าสามก็ดูร้านให้ทั้งช่วงปิดเทอมฤดูร้อน” โจวเฉวี่ยนพูด

หลังจากนั้นเขาก็ตักเกี๊ยวไส้เห็ดหอมกับผักจี้ฉ่ายมาให้โจวซานนีหนึ่งชาม “พี่ซานนีกินก่อนสิครับ”

“ฉันกินมาแล้วล่ะ ไม่ต้องให้ฉันหรอก” โจวซานนีรีบพูด

“ตอนนี้ท้องของพี่ใหญ่ขนาดนี้แล้วน่าจะหิวเร็วนะครับ ท้องของพี่เอ้อร์นีเล็กกว่าพี่นิดหน่อย แต่วันหนึ่งต้องกินเกี๊ยว 2-3 ชามถึงได้กลับ แถมได้ยินว่าตอนกลางดึกสามีพี่เอ้อร์นีต้องลุกขึ้นมาทำบะหมี่ชามใหญ่ให้พี่เขากินด้วย” โจวเฉวี่ยนพูด

“เอ้อร์นีเพิ่งท้องไม่กี่เดือนเองนะ?” โจวซานนีถามอย่างแปลกใจ ท้องของหล่อนไม่เล็กเพราะว่าตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว ย่อมต้องใหญ่เป็นธรรมดา แต่ว่าท้องของเอ้อร์นีเพิ่งจะ 4 เดือนเองไม่ใช่หรือ

ตอนนั้นหล่อนก็มีความรู้สึกอยากอาหารไม่น้อยเช่นกัน แต่ไม่ได้รู้สึกหิวโหยมากนัก มีเพียงช่วงนี้ที่หล่อนมักจะทนหิวไม่ได้ต้องลุกขึ้นมากินกลางดึกเท่านั้น

“ 4 เดือนแล้วครับ แต่ว่ากินเก่งน่าดู” โจวเฉวี่ยนพูดด้วยรอยยิ้ม

โจวซานนีนั่งลง พอกินเกี๊ยวเสร็จหล่อนก็ว่าจะไปดูโจวเอ้อร์นีที่ร้านขายเสื้อผ้าเสียหน่อย

หล่อนเคยมาทำงานที่นี่จึงรู้ที่ตั้งร้าน เพราะว่าที่นั่นอยู่ค่อนข้างไกลจากร้านขายอาหารทะเลแห้งไปสักหน่อย หล่อนจึงมาที่นี่นาน ๆ ครั้ง

โจวเอ้อร์นีเห็นโจวซานนีอ้วนขึ้นมากก็ทักด้วยรอยยิ้ม “ซานนี เธอไม่ได้มาที่นี่พักใหญ่แล้วฉันเกือบจะจำเธอไม่ได้เลยล่ะ”

โจวซานนีสะดุดตากับท้องของหล่อน จึงเอ่ยถามขึ้น “ไม่ใช่ว่าพี่ท้อง 4 เดือนหรอกเหรอคะ ทำไมท้องถึงใหญ่เห็นชัดขนาดนี้ล่ะคะ?”

“คุณย่าบอกว่าผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนท้องใหญ่เร็ว บางคนท้องใหญ่ช้า” โจวเอ้อร์นีพูด

โจวซานนีพยักหน้า “ฉันได้ยินมาจากเจ้ารองว่าพี่กินเก่งมาก ทำไมไม่เห็นพี่อ้วนเลยล่ะคะ? ฉันนี่อ้วนขึ้นมาสองเท่า เสื้อผ้าก็ต้องซื้อใหม่หมด สิ้นเปลื้องเงินโดยแท้”

โจวเอ้อร์นีพูด “พี่กินเก่งจริง ๆ นั่นแหละจ้ะ มีแต่คนพูดว่าเด็กแย่งกินหมด”

หล่อนพูดพร้อมกับเดินไปล้างแอปเปิ้ลมา 2 ลูก ลูกหนึ่งของตัวเองอีกลูกหนึ่งของโจวซานนี “เธอกินแอปเปิลเยอะหรือเปล่า?”

“กินค่ะ กินทุกวันเลย” โจวซานนีกัดแอปเปิลและเอ่ยตอบ “เมื่อกี้ก็เพิ่งจะกินเกี๊ยวที่ร้านเจ้ารองไปชามหนึ่ง”

สองพี่น้องทอดมองท้องของกันก่อนจะรู้สึกจนใจ พวกหล่อนกินเก่งกันจริง ๆ นั่นแหละน่า

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

สองสาวกินกันเก่งมากเลยค่ะ ผู้แปลเองก็กินเก่งเหมือนกัน แล้วก็น้ำหนักขึ้นมาหลายกิโลเลยค่ะ แง ความต้องอยู่กับบ้านไม่ได้ไปไหนนี่มันทำให้น้ำหนักขึ้นจริง ๆ นะคะ

ไหหม่า(海馬)