ตอนที่ 918 ไม่กล้ายอมรับ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

พิธีกรผู้นี้มีรูปร่างที่ยั่วยวนเป็นอย่างมาก ทว่าจื่อโยวกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย เขาหยิบผลไม้ขึ้นมากัดอย่างเกียจคร้าน พร้อมกล่าววิพากษ์วิจารณ์ว่า

“เติมแต่งมากเกินไป เอวก็ยังบางไม่พอ แถมยัง…”

ด้วยสายตาอันมีเอกลักษณ์ของเขาแล้ว เขาจึงวิพากษ์วิจารณ์เพียงแค่นี้ จากนั้นก็หันไปมองกู้ไป๋อี และกล่าวว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าคิดว่ายังไง?”

สายตาของกู้ไป๋อีดุดันคมกริบขึ้น และกล่าวว่า “ข้าชื่อกู้ไป๋อี”

“คนงามเรียกเสี่ยวไป๋ได้ เหตุใดข้าถึงเรียกไม่ได้?” จื่อโยวบ่น

“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่มีสาเหตุใดทั้งสิ้น หากท่านยังยืนกรานที่จะทำเช่นนี้ต่อไป ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน” กู้ไป๋อีไม่ได้หลบซ่อนแววตาสังหารแต่อย่างใด

จื่อโยวยิ้มพลางกล่าว “กู้ไป๋อี กู้ไป๋อี ข้ารู้สึกคุ้นชื่อนี้นะ”

ทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศ ผู้ที่กล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับเขานั้นมีไม่มากนัก

แววตาของกู้ไป๋อีดุดันขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่รู้ชื่อของเขานั้นมีไม่มากนัก คนผู้นี้จะคุ้นชื่อเขาได้อย่างไรกัน

จื่อโยวขยับเข้าไปใกล้กู้ไป๋อี และกระซิบข้างหูเขาว่า “คนงามผู้นี้ เป็นถึงนายหญิงเพียงผู้เดียวของข้า ทางที่ดีเจ้าตัดใจซะเถอะนะ มิเช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าไม่ตายดีแน่”

คาดว่าคนงามจะไม่ให้เจ้านายของตนลงมือกับคนผู้นี้ แต่เขาจะไม่เกรงใจเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าชายผู้นี้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้านายตน ไม่ว่าจะเป็นพลังความแข็งแกร่งหรือรูปร่างหน้าตาก็ตาม

ทว่า เมื่อนึกถึงอันตรายที่แฝงอยู่ของเจ้านายแล้ว ชายรูปงามดุจดั่งดอกท้อผู้นี้ หากฆ่าได้ก็ต้องฆ่า

กู้ไป๋อีตกใจสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย “ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านพูด ข้ากับคุณหนูใหญ่ เราก็แค่มีข้อตกลงกันเท่านั้น ในระหว่างที่พลังความแข็งแกร่งของข้ายังไม่ฟื้นคืนกลับมา ข้าจะต้องอยู่ข้างกายนางก็เท่านั้น”

จื่อโยวยิ้มพลางกล่าว “นี่เจ้าไม่กล้ายอมรับ ดูท่า…ข้าจะประเมินเจ้าสูงไปซะแล้ว”

จื่อโยวขยับตัวออกห่างจากกู้ไป๋อี เขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าภายใต้คำแนะนำของเขา ชายผู้เย็นชาผู้นี้จะสามารถโค่นล้มเยี่ยได้

ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น สินค้าประมูลได้ขายออกไปสามชิ้นแล้ว

มู่เฉียนซีไม่ค่อยสนใจกับสินค้าก่อนหน้านี้ ไม่นานนักก็วนมาถึงการประมูลสินค้าชิ้นใหม่

พิธีกรผู้สวยเพริศพริ้งได้ประกาศขึ้นว่า “ต่อไป จะเป็นสินค้าประมูลชิ้นพิเศษ”

บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งเดินถือจานใบหนึ่งมา บนจานมีสร้อยคอหยกขาวเส้นหนึ่งวางอยู่

พิธีกรกล่าวแนะนำว่า “นี่คืออาวุธวิญญาณชิ้นหนึ่ง ไม่ใช่อาวุธวิญญาณในการโจมตี แต่สามารถใช้มันเพื่อบดบังระดับพลังวิญญาณและร่างกายที่มีความพิเศษได้ สำหรับผู้ที่มีร่างกายพิเศษ จะขาดอาวุธวิญญาณนี้ไปไม่ได้เลย”

“อาวุธวิญญาณชิ้นนี้ ราคาประมูลขั้นต่ำอยู่ที่หนึ่งล้านหยกวิญญาณ ราคาประมูลที่เพิ่มขึ้นแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นหยกวิญญาณ ทุกท่านเริ่มประมูลได้!”

อาวุธวิญญาณชิ้นหนึ่ง สำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้วมันไร้ประโยชน์ ดังนั้นทันทีที่พิธีกรเปิดราคาประมูลขึ้น ก็ไม่มีผู้ใดรีบร้อนที่จะเพิ่มราคา

ท่านเจ้าเมืองเหยียนกล่าวขึ้น “หนึ่งล้าน!”

นี่เป็นสิ่งที่บุตรสาวของตนต้องการ ไม่ว่าจะจ่ายราคาเท่าไหร่ก็คุ้มค่า

“สองล้าน!”

“สามล้าน!”

“……”

จากนั้นผู้ที่เพิ่มราคาก็เริ่มมากขึ้น ท่านเจ้าเมืองเหยียนกล่าว “หกล้าน!”

ราคานี้มีค่าเกินกว่าอาวุธวิญญาณชิ้นนี้แล้ว ไม่มีใครแย่งชิงกับท่านเจ้าเมืองเหยียนแล้ว แต่ทันใดนั้นเอง น้ำเสียงอันเย่อหยิ่งเสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้น

“เจ็ดล้าน หากอยากได้สร้อยคอเส้นนี้ ก็ให้บุตรสาวของท่านแต่งงานกับข้า เป็นเช่นไร?”

เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “เป็นเจ้าหมอนั่นอีกแล้ว เขาหาเรื่องอีกแล้ว บัดซบยิ่งนัก!”

ท่านเจ้าเมืองเหยียนกล่าวเสียงขรึมว่า “หกล้าน เป็นราคาสูงที่สุดที่พวกเราจะจ่ายได้แล้ว เจ้านี่มาเพิ่มราคาเช่นนี้แล้ว เราจะทำเช่นไรดี?”

ท่านเจ้าเมืองเหยียนรู้สึกเป็นกังวลใจมาก เขากำลังคิดว่าจะให้มู่เฉียนซีช่วยดีหรือไม่

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมากจากห้องข้าง ๆ

“สิบล้าน!”

ทุกคนได้ยินเช่นนี้ต่างก็อ้าปากค้างสูดลมหายใจเย็นเข้าปอดด้วยความตกใจ อาวุธวิญญาณเสริมเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนใจกล้าจ่ายราคานี้ได้

“ก็แค่หยกวิญญาณไม่ใช่เหรอ คนอย่างข้าไม่ขาดแคลนหรอกนะ เจ้าคิดว่าทรัพย์สินอันน้อยนิดของเจ้า จะมีคนชอบนักหรือไง” มู่เฉียนซีกล่าวดูถูกเหยียดหยาม

สีหน้าของนายน้อยหู่ดำคล้ำ “หญิงสาวผู้นี้ช่างไม่รู้จักความเป็นความตายเสียจริง นึกไม่ถึงว่าจะกล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกข้า”

“สิบเอ็ดล้าน!” นายน้อยหู่ตะโกนขึ้น

ทันทีที่เขากล่าวจบ มู่เฉียนซีก็กล่าวต่อว่า “ยี่สิบล้าน!”

นางรู้ดีว่าเม็ดยาวิญญาณกับยาแผนปัจจุบันที่วางประมูลเมื่อครู่นั้นเพียงพอที่จะให้นางเรียกราคาได้ตามอำเภอใจ ไม่จำเป็นต้องคิดอันใดมาก

“เจ้า…”

แน่นอนว่านายน้อยหู่ไม่พอใจที่โดนดูถูกเช่นนี้ เขากล่าว “ยี่สิบเอ็ดล้าน…”

“สามสิบล้าน!”

ราคาประมูลดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกคนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

“นายน้อย นายน้อยจะเรียกราคาประมูลตามอารมณ์เช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ หากพวกนั้นยอมแพ้ เราต้องทุ่มหยกวิญญาณไปมหาศาล ของดีที่แท้จริง แม้แต่ในงานประมูลยังไม่มีเลย”

ชายชราที่นั่งอยู่ข้างเขาทนดูต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ

สีหน้าของนายน้อยหู่เคร่งขรึมลง ตาเฒ่าผู้นี้ช่างน่ารำคาญใจยิ่งนัก

“หากข้าไม่สู้ราคาต่อ คนเหล่านั้นก็จะดูถูกเมืองหู่เสี้ยวของพวกเรา ข้าจะยอมรามือง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน!” นายน้อยหู่กล่าวด้วยความไม่พอใจ

“นายน้อย อย่าได้ก่อเรื่องเลย เมืองหู่เสี้ยวของพวกเราจะไม่โดนดูถูกดูแคลนเพราะการประมูลครั้งนี้แน่นอน!” ชายชรากล่าวเสียงขรึม

นายน้อยหู่ทำได้เพียงแค่จ้องมองไปที่สินค้าประมูลนั้นด้วยความไม่พอใจ และกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ช่างมันเถอะ”

พิธีกรยิ้มพลางประกาศ “สามสิบล้านครั้งที่หนึ่ง สามสิบล้านครั้งที่สอง สามสิบล้านครั้งที่สาม ปิดการประมูล!”

อาวุธวิญญาณชิ้นนี้ประมูลมาถึงราคานี้ได้ ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก

มู่เฉียนซีหลับตาลงอย่างช้า ๆ และถูกจิ่วเยี่ยกอดไว้ในอ้อมแขน ไม่นานนักสินค้าประมูลที่นางไม่สนใจก็ผ่านไปทีละชิ้น ๆ

ในตอนนี้เอง บ่าวรับใช้ได้เดินถือจานหยกออกมา ทุกคนในงานประมูลล้วนแต่เห็นกันชัดเจนว่าในจานหยกนั้นมีขวดหยกขวดหนึ่งวางอยู่

“เม็ดยาวิญญาณ!”

“ไม่รู้ว่าครั้งนี้งานประมูลชางหมางเอาเม็ดยาวิญญาณระดับใดมาประมูล!”

“อย่างน้อยก็เป็นเม็ดยาวิญญาณระดับเจ็ด!”

“ข้าว่ายาระดับเก้า!”

“……”

ในขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดากันอยู่นั้น พิธีกรก็กล่าวขึ้นว่า “ต่อไป จะเป็นการประมูลเม็ดยาวิญญาณขั้นปฐพี ยาชิงหวง ผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิ จะสามารถทะลวงพลังวิญญาณได้หนึ่งระดับอย่างไร้เงื่อนไขใด ๆ”

ซื๊ด!

“เม็ดยาวิญญาณขั้นปฐพี!”

ทุกคนต่างสูดลมหายใจเย็นเข้าปอดเฮือกใหญ่ด้วยความตกใจ นึกไม่ถึงเลยว่างานประมูลชางหมางจะเอาของดีเช่นนี้ออกมาประมูล

“ทะลวงพลังวิญญาณได้หนึ่งระดับ!” ดวงตาของนายน้อยหู่เปล่งประกายขึ้น

เขานั้นได้ติดอยู่ที่ขั้นจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับห้ามานานจนหงุดหงิดใจมากแล้ว ตอนนี้มีของล้ำค่าเช่นนี้ เขาจะพลาดได้อย่างไร

“ยาชิงหวงนี้ข้าจะต้องเอามาให้ได้” น้ำเสียงของนายน้อยหู่มีความปรารถนาอย่างแน่วแน่ที่จะได้มันมา

พิธีกรกล่าวว่า “ยาชิงหวงนี้ หนึ่งขวดมีเจ็ดเม็ด ราคาประมูลเริ่มต้นที่สามสิบล้านหยกวิญญาณ”

อาวุธวิญญาณชิ้นนั้นที่มู่เฉียนซีเพิ่งจะประมูลไปได้ สุดท้ายก็ปิดราคาอยู่ที่สามสิบล้านหยกวิญญาณ

แต่ยาขั้นปฐพีนี้มีราคาประมูลเริ่มต้นสามสิบล้านหยกวิญญาณ

นายน้อยหู่กล่าว “ข้าประมูลเจ็ดสิบล้าน ยาชิงหวงนี้ ข้านายน้อยหู่เอาแล้ว”

แค่เริ่มต้นราคาประมูลก็เพิ่มถึงสามเท่าแล้ว นี่เป็นการหยุดคู่แข่งในคราเดียว

นายน้อยหู่แห่งเมืองหู่เสี้ยว พวกเขาก็รู้ว่าเป็นใคร

ผู้ที่ไม่กล้าล่วงเกินก็ต้องตัดใจไป แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกรงกลัวนายน้อยหู่แห่งเมืองหู่เสี้ยวผู้นี้

“เจ็ดสิบเอ็ดล้าน!”

“เจ็ดสิบสามล้าน!”

“……”

จากนั้น ผู้ที่เพิ่มราคาประมูลก็เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

“แปดสิบล้าน!” นายน้อยหู่เพิ่มราคาขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทุกคนต่างเกิดความลังเลขึ้น

ราคานี้สำหรับพวกเขาแล้วเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง อีกอย่างพวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีของดีอันใดออกมาให้ประมูลอีก และในขณะที่ทุกคนกำลังลังเลอยู่นั้น มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นว่า “ร้อยล้าน!”