GGS:บทที่ 1051 สุดยอดสวนสัตว์ (6)
ผีเสื้อกลุ่มนี้นั้น บางตัวนั้นมีลวดลายสีน้ำเงินไม่ก็สีเขียวพาดผ่านไปบนปีกสีดำทมิฬ บางตัวก็มีลวดลายสีขาวน้ำตาลพาดผ่านซ้ำเข้าไปอีกราวกับทางช้างเผือก
ลวดลายเหล่านี้ส่งเสริมให้มันดูสวยงามอย่างมาก ถึงแม้จะสวยไม่เท่ากับผีเสื้อจุดทองคำและผีเสื้อนางไม้ก็ตาม
“นี่มันผีเสื้ออะไรกัน”
“ฉันไม่คุ้นมันเลยนะ”
“ฉันก็เหมือนกัน”
“ฉันหาข้อมูลพวกมันบนเน็ตไม่เจอเลย”
“ในเมื่อคุณซิ่วพูดว่าพวกมันนั้นไม่ใช่ผีเสื้อธรรมดา ถ้าอย่างนั้นก็ลองส่งข้อมูลพวกมันขึ้นอินเตอร์เน็ตดูแล้วกัน ฉันว่าต้องมีคนรู้จักมั่งแหล่ะ”
เมื่อคิดได้ดีงนั้น หลายๆคนจึงเริ่มถ่ายรูปนี้ขึ้นไปบนอินเตอร์เน็ตทันที ในกลุ่มนี้รวมถึงเฉินฮงและเหล่าผู้คนจากวงการสวนสัตว์ที่รู้จักผู้เชี่ยวชาญผีเสื้อมากมายหลายคน
อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปสักพักแล้วก็ไม่มีใครที่พอจะรู้จักหรือคุ้นเคยผีเสื้อลักษณะนี้เลยแม้แต่น้อย แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่ารู้จักพันธุ์ผีเสื้อมากที่สุด ก็ยังไม่คุ้นเคยกับผีเสื้อสายพันธุ์นี้ทั้งๆที่มันมีคุณลักษณะที่พิเศษมาก
แม้แต่คนทั่วไปที่เข้ามาเห็น ต่างก็บอกไม่ได้ว่ามันมีชื่อว่าอะไร
ในถนนที่คับคลั่งไปด้วยรถรา บนรถแท็กซี่คันหนึ่ง เอี้ยป๋อและชายหนุ่มคนหนึ่งทำได้แต่นั่งนิ่งๆกระสับกระส่ายเพราะไปไหนไม่รอด
ชายหนุ่มฝึกงานที่อยู่ข้างๆที่กำลังส่องเรื่องราวของสวนสัตว์จองหยุนผ่านอินเตอร์เน็ตอยู่นั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นในทันทีว่า “สวนสัตว์จองหยุนเป็นประเด็นอีกแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น” เอี้ยป๋อถามออกมา
“ลองดูนี่สิครับ นี่มันผีเสื้อจุดทองคำและผีเสื้อนางไม้” ชายหนุ่มพูดออกมา
“พระเจ้า” เอี้ยป๋ออุทานออกมาหลังจากสะดุ้งเฮือกไป
“ยังมีผีเสื้อสายพันธุ์อื่นอยู่ด้วยนะครับ แต่ว่าในตอนนี้ยังไม่มีใครบอกได้เลยว่ามันคือสายพันธุ์อะไร ผมเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่านี่มันผีเสื้ออะไรกันแน่” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างพิศวง
“………ก็ไม่แปลกที่เธอจะไม่รู้จัก แม้แต่คนบนโลกนี้คนที่รู้จักส่วนใหญ่ก็ตกตายกันไปหมดแล้วล่ะ ชื่อของมันคือเซเชลพาพิเลีย” เอี้ยป๋อพูดออกมา
“เซเชลพาพิเลีย?” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างอึ้งๆ
“มันเป็นสายพันธุ์หายากยิ่งนักที่พบเฉพาะบนเกาะเซเชล หลังจากที่มนุษย์ได้รุกล้ำเข้าไปบนเกาะนั้น พวกเขาได้ตัดต้นไม้ที่มีเฉพาะที่นั่นเพื่อที่จะปลูกไม้ผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า ด้วยการที่สภาพแวดล้อมที่นั่นส่งเสริมต่อไม้ผลอย่างมากทำให้พวกมันมีราคาสูงและถูกส่งออกไปทั่วทั้งโลก ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นสวนผลไม้ไป
อย่างไรก็ตามมีแมลงศัตรูพืชสายพันธุ์หนึ่งติดไปจากโลกภายนอกทำให้พวกมันแพร่กระจายไปยังพืชพันธุ์เฉพาะบนเกาะนั้นทำให้ผีเสื้อเหล่านี้ขาดแหล่งอาหาร
นี่เป็นสาเหตุหลักที่พวกเรารู้ได้รับรู้ว่าทำไมพวกมันถึงได้สูญพันธุ์ กว่าที่มนุษย์จะรับรู้และได้ตระหนักเรื่องนี้ก็เป็นช่วงปี 1895 ในตอนนั้นพวกเขาเริ่มที่จะควบคุมแมลงศัตรูพืชนั่นได้แล้ว แต่ก็ไม่มีใครได้เห็นผีเสื้อเซเชลพาพิเลียนี้อีกเลย
พวกเขาได้ใช้เวลากว่าห้าปีในการตามหาแต่ก็ไม่มีใครพบแต่อย่างใด มีคนบันทึกไว้ว่าก่อนหน้านั้นในปี 1979 มีคนที่จัดตั้งโครงการปกป้องผีเสื้อเหล่านั้นก่อนหน้านี้แล้ว แต่นั่นก็ไม่ทันการอีกแล้วเช่นเดียวกันเพราะไม่มีใครเห็นมันมานานตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการแล้ว
จึงไม่แปลกที่จะไม่มีคนรู้จัก เพราะพวกมันนั้นสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ก่อนที่จะมีคนจัดทำบัญชีสัตว์สูญพันธุ์แบบในปัจจุบันนี้ซะอีก” เอี้ยป๋อพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อย
เอี้ยป๋อรู้จักสัตว์สูญพันธุ์เหล่านี้มากกว่าสัตว์ในสวนสัตว์และสัตว์เลี้ยงซะอีก แน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้จักผีเสื้อตัวนี้
“นี่….เป็นสัตว์สูญพันธุ์อีกแล้วเหรอ” ชายหนุ่มจ้องมองด้วยตาไม่กระพริบ
“คนขับ ช่วยลองหาวิธีเร่งหน่อยไม่ได้เหรอ หากไม่ได้ล่ะก็ผมขอลงแล้วกัน” เอี้ยป๋อในตอนนี้รับรู้แล้วว่าสวนสัตว์ของซูจิ้งนั้นน่าสนใจแบบสุดๆ
สำหรับเขานั้นการที่ได้เห็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วมากมายขนาดนี้ เป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว แต่การที่พอรู้ว่าสัตว์เหล่านี้อยู่ใกล้ๆแต่ไปไม่ถึงสักทีทำให้เขานั้นรู้สึกอึดอัดใจอบ่างบอกไม่ถูก
ความรู้สึกของเขาไม่ต่างดอนฮวนที่ได้ยินเสียงหญิงสาวว่าถอดเสื้อผ้ารออยู่ในห้องแต่เขากลับหาทางเข้าห้องไม่ได้
“ไม่มีทางล่ะ ตอนนี้เราไม่มีทางเร่งความเร็วได้มากไปกว่านี้และฉันก็จะไม่ยอมจอดรถให้นายลงไปแน่นอน ดูจากสภาพนี้แล้วฉันจะต้องจอดแหงกเฉยๆโดยไม่ได้เงินอย่างแน่นอน” คนขับพูดมาปฏิเสธแบบทันควัน
ความจริงเอี้ยป๋อนั้นอยากจะลงแล้ววิ่งไปแทนซะด้วยซ้ำ แต่เมื่อเทียบกับระยะทางที่ยังเหลือและกระดูกของคนแก่ๆแบบเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอดใจและนั่งเคาะนิ้วกับขอบรถรอแก้เก้อไปจนกว่จะถึง
ส่วนชายหนุ่มในตอนนี้กำลังรีบส่งคำตอบของผีเสื้อนี้ลงไปบนอินเตอร์เน็ตอย่างวดเร็ว
“เซเชลลพาพิเลีย?” ที่สวนสัตว์จองหยุน มีใครบางคนได้พูดออกมาในขณะที่เห็นว่ามีคนตอบคำถามนี้มาแล้ว หลังจากที่รู้ชื่อแล้ว เขาก็ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมดูในทันที และเมื่อเทียบกันแล้วก็พบว่ามันเหมือนกันอย่างมาก
“เซเชลพาพิเลีย ที่เดียวกับเต่าบกยักษ์นั่นน่ะเหรอ”
“ใช่และดูเหมือนว่ามันเองก็เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว”
“โอ้พระเจ้าช่วย ฉันนึกว่ามันเป็นผีเสื้อธรรมดาซะอีก”
ชายหนุ่มที่โวยวายออกมาก่อนหน้านี้ได้เล่นใหญ่เพื่อจะกลบเกลื่อนสิ่งที่ตัวเองได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้แบบหน้าด้านๆ
คนที่มากับหมอนี่เองก็มีท่าทีสงบเสงี่ยมและไม่กล้าทำอะไรอีก นี่ทำให้ชายสวมแว่นมาดสุขุมทำได้เพียงส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อย
ผู้คนที่เข้าชมยังพยายามหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับผีเสื้อชนิดอื่นๆที่อยู่ที่นี่ จนกระทั่งมีผีเสื้อสายพันธุ์หนึ่งที่สวยงามมากแต่ก็หาไม่เจอสักทีว่าเป็นสายพันธุ์อะไร
แม้แต่คนที่เคยตอบพวกเขาเกี่ยวกับปีเสื้อเซเชลก่อนหน้านี้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตอบแต่อย่างใด ดูเหมือนว่าผีเสื้อนี้สมควรจะเป็นสายพันธุ์ใหม่มากกว่า
เรื่องนี้เองก็ทำให้ทุกคนในที่นี้ตื่นเต้นไม่น้อยเลยเช่นเดียวกัน ความรู้สึกของพวกเขานั้นไม่ต่างจากนักบินอวกาศที่ได้ไปเกาะที่ขอบหน้าต่างของยานอวกาศที่ได้มองเห็นดวงดาวที่ยังไม่เคยมีคนเข้าไปเหยียบย่าง
“พี่เซินคะ ตอนนี้ส่วนสัตว์จงหยุนกำลังดังมากเลยล่ะ” หญิงสาวที่ตัวเล็กและดูมีเสน่ห์ได้พุ่งเข้ามาในห้องสำนักงานแห่งหนึ่งด้วยใบหน้าตื่นเต้นอย่างชัดเจน
“หืม? นี่เขาเอาสัตว์เลี้ยงของตัวเองไปไว้ที่นั่นจริงๆเหรอ” หญิงงามวัยกลางคนตัดผมสั้นที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเองได้ถามออกมา เธฮก็คือเซินหยินที่เป็นรองประธานของบริษัทชื่อดังในวงการสัตว์เลี้ยง
เธอเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความสัมพันธุ์กับซูจิ้งในหลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกัน เธอนั้นพบกับซูจิ้งครั้งแรกในงานแสดงสัตว์เลี้ยงเมืองของหยุน และเป็นครั้งนั้นที่เธอได้พบกับผีเสื้อประกายแสงนางฟ้าและนั่นก็ทำให้เธอหลงไหลมันและอยากจะได้มาครอบครอง
แต่ซูจิ้งนั้นยอมขายแค่ซากผีเสื้อให้เธอเพียงเท่านั้น พลังจากนั้นเธอก็พบว่าซากผีเสื้อที่ซูจิ้งขายให้เธอนั้นไม่ได้พิเศษแต่อย่างใดเพราะเขานั้นขายมันไปทั่ว
หากว่าไม่ใช่เพราะว่ามันสวยมากล่ะก็เธอเองคงจะเอามันไปหาซูจิ้งเพื่อของเงินคืนแล้ว หลังจากนั้นเธอก็ได้มีโอกาสเจอซูจิ้งอีกสองสามครั้งในงานที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเท่านั้นเอง
เธอเองได้ยินมาเหมือนกันว่าซูจิ้งได้ทำเรื่องใหญ่ๆมามากมายในช่วงเวลาที่เธอไม่ได้เจอเขา เรื่องราวเหล่านั้นทำให้เธอนั้นประหลาดใจมากก็จริงแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอสนใจซูจิ้งได้แต่อย่างใด เพราะยังไงซะเธอก็สนแต่เรื่องสัตว์เลี้ยงเท่านั้น
กับเลี้ยงสวนสัตว์นี้ในตอนแรกเธอเองก็คิดว่าซูจิ้งจะนำสัตว์เลี้ยงของเขาไปจัดแสดงไว้ที่นั่นเหมือนกัน หากเป็นเช่นนั้นล่ะก็เธอแน่นอนว่าย่อมไปโวยวายซูจิ้งอย่างไม่ต้องสงสัย
เหตุผลก็เพราะสัตว์เลี้ยงไม่เหมือนกับสัตว์ป่า พวกมันนั้นต้องการการดูแลอย่างดีจากเจ้าของ และพวกมันก็จะตอบแทนการดูแลนั้นด้วยความภักดีอย่างที่สุด โดยเฉพาะสุนัขที่จะมีความรู้สึกว่าเจ้านายเปรียบได้ดั่งจ่าฝูงที่อยากจะคอยทำตามอย่างว่าง่าย
“เรื่องนั้นไม่เป็นความจริงเลยค่ะ เขาได้นำสัตว์ป่าที่ถูกรู้กันดีว่าใกล้จะสูญพันธุ์และสูญพันธุ์ไปแล้วมากมายไปไว้ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นนกยูงขาว ตะพาบน้ำยักษ์ หนูป่าออสเตรเลียเท้าขาว หนูจิ้งโจ้ เต่าบกยักษ์เซเชล ผีเสื้อจุดทองคำ ผีเสื้อนางไม้
และข้อมูลที่พึ่งจะปล่อยออกมานั้นคือผีเสื้อแห่งเกาะเซเชลที่มีชื่อว่าเซเชลพาพิเลียค่ะ” หญิงสาวที่ทรงเสน่ห์ได้ร่ายยาวจนแทบหมดลมหายใจในทีเดียว
“ห้ะ” เฉินหยินได้อุทานออกมาพร้อมดวงตาที่เบิกกว้าง เธอนั้นหลงไหลในผีเสื้ออย่างบอกถึงกระทั่งเมื่อเจอผีเสื้อแล้วเธอแทบจะละทิ้งสัตว์อื่นๆที่อยู่ตรงหน้าไปโดยทันที
เธอรีบพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า “มีแม้กระทั่งผีเสื้อจุดทองคำ ผีเสื้อนางไม้ แล้วก็ผีเสื้อพาพิเลียด้วย!!!! โดยเฉพาะผีเสื้อสองสายพันธุ์นั่นที่เหลือไว้เพียงแค่เรื่องเล่าเพราะสูญพันธุ์ไปนานมากแล้วน่ะนะ”
“ฉันก็ไม่แน่ใจในเรื่องนั้นหรอกค่ะ”
“ไป พวกเราไปสวนสัตว์จงหยุนกันเดี๋ยวนี้เลย” เฉินหยินพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น แต่ทันทีที่เธอตัดสินใจที่จะไปนั้นก็ไม่มีโอกาสแล้วอย่างน้อยก็ในวันนนี้
นั่นก็เพราะตั๋วเข้าชมได้ขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการที่เธอนั้นไม่อยากจะรอไปในวันหลัง เธอเลยเลือกที่จะเสนอราคาซื้อตั๋วที่สูงกว่าราคาขายปกติหลายเท่าตัว จนในที่สุดเธอก็ได้มาใบหนึ่ง หลังจากนั้นเธอจึงรีบไปที่สวนสัตว์จองหยุนในทันที
และด้วยการที่เธอนั้นเป็นคนที่คลั่งไคล้ในผีเสื้ออย่งมาก แน่นอนว่าเธอย่อมไม่ลืมที่จะกระจายข่าวของมันไปด้วยอย่าแน่นอน