ตอนที่ 807 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลาเทพธิดาน้ำแข็ง
ด้วยเหตุนี้หญิงสาวที่มีผมสีขาวในชุดสีขาวจึงพลันกระวนกระวายยิ่ง ไม่นานหลังจากนั้นนางก็จ้องมองอย่างใจจดใจจ่ออยู่กับหยูเฟิงหยานที่ซึ่งก้าวออกมาจากฝูงชน ขณะที่น้ำตากำลังไหลออกจากดวงตาของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้
ท่านแม่ ! หญิงสาวคนนั้นตะโกนออกมาอารมณ์ความรู้สึก ก่อนที่จะกลายเป็นแสงสีขาวและมุ่งไปทางหยูเฟิงหยาน นางอ้าแขนและเข้ากอดหยูเฟิงหยานไว้แนบแน่น
ผู้หญิงคนนั้นคือเจียงหยางหมิงเยว่ คุณหนูรองที่หนีออกจากบ้านครั้งก่อน หลังจากผันผ่านไปหลายปี เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ระหว่างอดีตกับปัจจุบันของนาง แม้ว่ารูปร่างหน้าตานางจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่เดิมผมสีดำยาวตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนราวกับหิมะ
ไม่เพียงแต่ผมของนางที่ได้เปลี่ยนไป แต่แม้กระทั่งคิ้วของนางยังเป็นสีขาว ขณะที่ผิวสีดอกกุหลาบของนางก็ยังเป็นสีขาว นางแตกต่างจากคนธรรมดายิ่ง
อวี้เอ๋อ, อวี้เอ๋อ จริงหรือ? เป็นตัวเจ้าจริงหรือ ? หยูเฟิงหยานอารมณ์ตื้นตันยิ่ง เสียงของนางสั่นเครือราวกับว่านางไม่อาจเชื่อสายตาในยามนี้ของลูกสาวนางที่ซึ่งหายตัวไปโดยไม่ได้บอกกล่าวมานานหลายปี
ท่านแม่ ข้าเอง ข้าคือเยว่เอ๋อ เยว่เอ๋อมาพบท่านแล้ว เจียงหยางหมิงเยว่แทรกตัวเองลงกับอกหยูเฟิงหยาน นางร้องไห้ออกมาดัง ๆ ในช่วงหลายปีแห่งการแยกจาก นางคิดถึงแม่และครอบครัวของนางมากเหลือเกิน
เยว่เอ๋อ, เยว่เอ๋อ, เจ้าจริง ๆ เยว่เอ๋อ ลูกสาวของข้ากลับมาแล้ว ลูกสาวของข้ากลับมาแล้ว ในที่สุดลูกสาวของข้าก็ได้กลับมาแล้ว เยว่เอ๋อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าแม่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน เสียงของหยูเฟิงหยานได้เบาลงด้วยอาการสะอื้นของนาง ตอนแรกนางคิดว่าลูกสาวของนางไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้วและนางเตรียมตัวเตรียมใจไว้พร้อมสำหรับกรณีที่แย่ที่สุดแล้ว ในยามนี้การกลับมาอย่างกะทันหันของเจียงหยางหมิงเยว่ ได้ทำให้ดวงใจที่หมดหวังของนางฟื้นคืนขึ้นมา
หลายเหตุบังเอิญอันยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนถึงจุดที่หยูเฟิงหยานเริ่มสงสัยแหละว่านางฝันไปหรือว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ทั้งสองคนต่างร้องไห้ด้วยกันราวกับไม่มีใครอื่นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลดปล่อยความปรารถนาที่ถูกระงับไว้จากนานปีที่ผ่านมา
สิบตระกูลผู้พิทักษ์และสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ผู้ซึ่งยังไม่ได้ออกไปต่างลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ ทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้นได้มุ่งความสนใจไปที่กลุ่มคนจากศาลาเทพธิดาเทพธิดาน้ำแข็งและคู่แม่ลูกที่กำลังร้องไห้ แสงประกายระยิบระยับในสายตาของทุกคนเผยให้เห็นการแสดงออกที่น่าสงสัย พวกเขาต่างพยายามจะเดาว่าเจียงหยางหมิงเยว่นั้นมีความสัมพันธ์อะไรกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกถึงได้นำพาศาลาเทพธิดาน้ำแข็งมาที่นี่ได้
ถึงสิบตระกูลผู้พิทักษ์นั้นจะมีความเข้าใจในบางส่วนของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอยู่บ้าง แต่ทว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในขณะนั้นเอง ประตูมิติได้ถูกเปิดขึ้นกลางท้องฟ้า ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง, เทียนเจี้ยน เดินออกมาพร้อมกับชายชราหลายคน ทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาได้หันความสนใจไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์อันขนาดมหึมาที่ซึ่งลอยอยู่บนท้องฟ้านับพันเมตร พวกเขาประหลาดใจมากยิ่ง
นี่คือศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติก เหตุใดมันจึงถ่อมาถึงที่นี่ ? เทียนเจี้ยนถามด้วยเสียงทุ้มลึกขณะที่ใบหน้าของเขาเริ่มเคร่งขรึมขึ้น หลังจากนั้นไม่นานเขาดูเหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่ทำให้เขามองลงไป ในที่สุดสายตาของเขาก็ตกลงไปที่ลูกสาวกับมารดาที่กำลังสะอึกสะอื้นอยู่ และแสงอ่อน ๆ พลันแวบผ่านดวงตาของเขา เขารู้สึกสงสัยอย่างยิ่ง
ในเวลาเดียวกันชายขาววัยกลางคนที่ดูเหี้ยมร้ายป่าเถื่อน ปรากฏตัวออกมาจากที่ใดก็มิอาจทราบ ห่างออกไปไม่กี่สิบกิโลเมตรเหนือคฤหาสน์ เขาจ้องเขม็งไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ขนาดมหึมาด้วยท่าทางประหลาดใจและกล่าวเบา ๆ ว่า ทำไมศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอันลึกลับถึงปรากฏตัวที่นี่ ? พวกเขาไม่เคยแทรกแซงอะไรในโลกนี้นี่ ? ทุกอย่างเป็นเพราะหญิงสาวคนนั้นหรือ ? หญิงสาวคนนี้เป็นใครถึงสามารถทำให้ศาลาศักดิ์สิทธิ์นี้ออกจากอาร์กติกและถ่อลงมาที่นี่ได้ ? ชายวัยกลางคนค่อนข้างจริงจังมากขึ้น บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ค่อยปรากฏมานานครั้ง ส่อถึงความเกรงกลัวเล็ก ๆ ในส่วนลึกของดวงตาของเขา
เจียงหยาง ซู อวี้หยวนและเจียงหยาง ซู หยวนเซียวมองหน้ากันและกัน ทั้งคู่ต่างก็เห็นความสุขในสายตาของกันและกัน พวกเขาบอกได้เลยว่าหญิงสาวคนนี้เป็นสมาชิกของตระกูลเจียงหยางและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกซึ่งทำให้ทั้งสองคนมีความสุขมาก ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่ใช่ว่าตระกูลเจียงหยางของพวกเขามีความสัมพันธ์กับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอันลึกลับนั่นหรือ ?
ผู้อาวุโสสูงสุดอีก 6 คนของตระกูลเจียงหยางต่างสังเกตเห็นสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน พวกเขามองไปที่แต่ละคนและความสุขเล็ก ๆ ที่คลุมเครือปรากฏอยู่ในดวงตาของพวกเขา ไม่นับรวมถึงผู้คนจากอารามจิตพิสุทธิ์ที่ซึ่งไม่ได้ตอบโต้อะไรมากนัก อีกแปดตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งหมดต่างแสดงสีหน้าที่น่าเกลียดออกมา พวกเขาทุกคนแอบสบถด่าตระกูลที่ก่อตั้งขึ้นโดยเจียงหยาง ซู หยุนคงซึ่งถูกขับออกจากตระกูลนั้นไม่ธรรมดานัก ไม่เพียงแต่สร้างอัจฉริยะที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนอย่างเจียงหยางเซียงเทียนซึ่งได้รับการยอมรับจากพยัคฆ์ปีกเทวะขึ้นมา หนำซ้ำยังให้กำเนิดหญิงสาวที่มีความสัมพันธ์กับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกอีก
สตรีศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายอันลึกลับของท่านยังไม่ตื่นเต็มที่ ท่านต้องไม่ออกจากศาลาศักดิ์สิทธิ์นานเกินไปนะ ในขณะนั้นชายชราคนหนึ่งออกมาจากศาลาเองก็ได้กล่าวอย่างสุภาพกับเจียงหยางหมิงเยว่
สตรีศักดิ์สิทธิ์ !
เมื่อได้ยินว่าชายชราเรียกเจียงหยางหมิงเยว่เช่นไร ผู้คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งหมดต่างตกใจและมองไปที่นางอย่างเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงโดยทันที พวกเขาไม่รู้ว่าตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ดำรงอยู่ในศาลาเทพธิดาน้ำแข็งนั้นคืออะไร แต่พวกเขารู้ว่าชายชรานั้นเป็นเซียนราชาที่น่าสะพรึงกลัว นี่เป็นครั้งแรกที่เซียนราชาทำตัวเรียก สตรีศักดิ์สิทธิ์ อย่างเคารพในทวีปเทียนหยวน แม้แต่เซียนจักรพรรดิก็ยังไม่สามารถทำให้เซียนราชาต้องแสดงความเคารพเช่นนี้ได้
ผู้คนจากกลุ่มผู้พิทักษ์ทั้งหลายต่างมองหน้ากันและกันบนท้องฟ้า พวกเขาทั้งหมดอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้านล่าง แต่ที่พวกเขาสามารถบอกได้ว่าเจียงหยางหมิงเยว่นั้นเป็นนับรบที่เพิ่งกลายเป็นเซียนปฐพี สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอเช่นนี้ทำให้เซียนราชาประพฤติอย่างสุภาพเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ? พวกเขาไม่อาจเข้าใจ ไม่ว่าพวกเขาจะครุ่นคิดมากมายสักเพียงใด
หลังจากได้ระบายความถวิลหาต่อกันแล้ว มารดาและลูกสาวทั้งคู่ค่อย ๆ สงบลง เจียงหยางหมิงเยว่ถอนตัวออกจากอ้อมอกของผู้เป็นแม่และเช็ดน้ำตาของนาง นางกล่าวว่า ผู้อาวุโส มันหายากนักที่ข้าจะกลับบ้าน ปล่อยให้ข้าอยู่อีกหน่อย นอกจากนี้ ผืนดินนี้ได้กลายเป็นพื้นที่หนาวจัดแล้ว ผลกระทบไม่ควรใหญ่โตเกินไปถ้าหากข้าอยู่ที่นี่น่ะ”
ชายชราที่ชื่อว่า โจว ลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า สตรีศักดิ์สิทธิ์ ท่านสามารถอยู่ที่นี่ได้เพียงครึ่งวันเท่านั้นน่ะ หลังจากผ่านไปครึ่งวันแล้ว ชายชราคนนี้จะนำสตรีศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในศาลาศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าท่านจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม
ขอบคุณผู้เฒ่าโจว ! เจียงหยางหมิงเย่เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันของนางดีและพูดกับชายชราอย่างเคารพ
เยว่เอ๋อ เรื่องเป็นมาเช่นไรหรือ ? หยูเฟิงหยานจ้องมองที่ลูกสาวด้วยความตกตะลึง นางรู้สึกกังวลมากกับเหตุผลที่ชายชรามีมารยาทยิ่งกับลูกสาวของนาง เช่นเดียวกับเหตุผลที่นางถูกเรียกว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ด้วย
เจียงหยางหมิงเยว่กล่าวว่า ท่านแม่ เรื่องมันยาวน่ะ ทั้งยังมีหลายสิ่งที่ยังไม่ชัดเจนสำหรับตัวเยว่เอ๋อเท่าไหร่นัก ข้าจะอธิบายเรื่องศาลาเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านทราบอย่างละเอียดในภายหลังน่ะ โอ้ ท่านพ่ออยู่ที่ไหนหรือ ? ทำไมข้าถึงไม่เห็นท่านพ่อเลยล่ะ ?
เมื่อนึกถึงเจียงหยางป้า สีหน้าของหยูเฟิงหยานมืดลง ความเศร้าเล็ก ๆ ในส่วนลึกปรากฏบนใบหน้าของนางและนางได้กล่าวว่า เยว่เอ๋อ, พ่อของเจ้าตายแล้ว !
เจียงหยาง หมิงเยว่ กระตุกอย่างรุนแรง นางจ้องมองที่หยูเฟิงหยานด้วยความไม่เชื่อ และกล่าวด้วยความกระวนกระวายใจว่า ท่านแม่ ท่านพูดอะไร ? ท่านพ่อตายแล้วหรือ ?
หยูเฟิงหยานพยักหน้าอย่างเจ็บปวด ไม่ใช่แค่พ่อของเจ้า ป้าสี่ของเจ้า ไป๋หยุนเทียนตายด้วย พวกเขาถูกสังหารโดยเซียนหลายคนที่ไล่ล่าน้องเล็กของเจ้า
น้ำเสียงของเจียงหยางหมิงเยว่เริ่มสั่นเครือ นางเริ่มเศร้าสลดและกล่าวว่า ท่านแม่ แล้วน้องเล็กของข้าเป็นเช่นไรบ้าง ? เขาสบายดีหรือไม่ ?
น้องเล็กของเจ้าสบายดี เจ้าอาจยังไม่รู้ แต่น้องเล็กของเจ้าเป็นเซียนผู้คุมกฎแล้วนะ ความภาคภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยูเฟิงหยานเมื่อได้พูดถึงเจี้ยนเฉิน
อะไรนะ ! ? เป็นเซียนผู้คุมกฎ ! เจียงหยางหมิงเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและห้ามไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุข แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยความเศร้า นางหันกลับไปหาชายชราคนนั้น ผู้เฒ่าโจว ข้ารู้ว่าความสามารถของท่านนั้นทรงพลัง ข้าต้องการหาฆาตกรที่ฆ่าท่านพ่อของข้า ข้าต้องการจะแก้แค้นให้กับท่านพ่อของข้า !
ชายชราคนนั้นเริ่มกังวลว่า สตรีศักดิ์สิทธิ์ ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งของเราไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงเรื่องใด ๆ ในทวีปนี้ได้ ชายชราคนนี้จริง ๆ แล้วไม่สามารถทำอะไรสำหรับเรื่องนี้ได้ ข้าหวังว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์สามารถเข้าใจความเจ็บปวดของข้าได้
ผู้เฒ่าโจว ท่านไม่สามารถค้นหาฆาตกรของท่านพ่อข้าได้หรือไง ? ความโกรธเล็ก ๆ ที่ปรากฏบนใบหน้าของเจียงหยาง หมิงเยว่
ชายชราโจวส่ายหัวของเขา สีหน้าของเขาทั้งขมขื่นและหมดหนทาง
น้องสาว ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว ! ในขณะนั้นเสียงทุ้มลึกดังขึ้นจากด้านหลัง เป็นเจียงหยางหู่ที่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ด้วยรอยยิ้มที่จาง ๆ แขวนอยู่บนใบหน้าของเขา
ทุกคนในคฤหาสน์มองไปที่ต้นกำเนิดของเสียง เมื่อพวกเขาเห็นว่าขาที่ขาดของเจียงหยางหู่ได้เริ่มงอกออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาก็เผยความรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
อ่าฮ่ะ เจ้า – ขา ๆ ของเจ้าหายดีได้อย่างไรกัน… แม่ของเจียงหยางหู่ร่ำร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
หัวหน้าอารามของอารามจิตพิสุทธิ์ดูเหมือนจะเอะใจบางอย่าง นางมองไปทางเจียงหยางหู่ ดูเหมือนว่านางได้ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และดวงตาของนางที่ซึ่งยังคงนิ่งเฉยอยู่ตลอดเวลากลับเป็นประกายวาบขึ้นมา นางโห่ร้องออกมาว่า นี่เป็นขอบเขตของสวัสติกะอันยิ่งใหญ่!
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนของอารามจิตพิสุทธิ์หันมองไปทางเจียงหยางหู่ ในเวลาเดียวกันพวกเขาทั้งหมดโห่ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจว่า นี่เป็นขอบเขตแห่งโลกิยะของสวัสติกะอันยิ่งใหญ่ สถานะของสวัสติกะอันยิ่งใหญ่เป็นระดับสูงสุดที่บันทึกไว้ในพระสูตรจิตพิสุทธิ์ ซึ่งขอบเขตแห่งโลกิยะเป็นขอบเขตแรกของสวัสติกะอันยิ่งใหญ่
หัวหน้าอารามไม่สามารถรักษาความสงบของนางได้ ด้วยแสงประกายของนางส่อถึงเจียงหยางหู่ และถามอย่างเร่งรีบว่า เจ้ายินดีที่จะเป็นศิษย์ของอารามจิตพิสุทธิ์หรือไม่ ?
เจียงหยางหู่มองหัวหน้าอารามอย่างสงบ “ท่านต้องการจะนำข้าไปเป็นศิษย์ของท่านหรือ ? “
หัวหน้าอารามส่ายหัวและกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า ไม่ ข้าไม่ต้องการนำเจ้าไปเป็นศิษย์ของข้า ไม่มีใครในอารามจิตพิสุทธิ์มีสิทธิ์ที่จะรับคนที่อยู่ในสถานะของสวัสติกะให้เป็นศิษย์หรอก ข้าเพียงต้องการให้เจ้าเป็นศิษย์ของอารามจิตพิสุทธิ์และฝึกฝนพระสูตรจิตพิสุทธิ์ นี่คือเส้นทางที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้า ตราบเท่าที่เจ้าเป็นศิษย์ของอารามจิตพิสุทธิ์ เจ้าจะสามารถเข้าถึงขอบเขตยิ่งใหญ่ของสวัสติกะอันยิ่งใหญ่ได้
“พระสูตรจิตพิสุทธิ์ของอารามจิตพิสุทธิ์ เจียงหยางหู่กล่าวพึมพำออกมาก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลง เขาพึมพำว่า ข้าไม่เคยคิดเลยว่านิมิตของข้าจะถูกต้อง ข้าสามารถกลายเป็นศิษย์ของอารามจิตพิสุทธิ์ได้ เพียงแต่ตระกูลเจียงหยางของข้าจะต้องปลอดภัยทุกคน